Tips Trick “หมวกกันน็อคแต่ละแบบ มีจุดประสงค์, ข้อดี/ข้อเสีย ต่างกันอย่างไร ?”

0

อย่างที่เพื่อนๆหลายคนทราบกันดีว่าในโลกแห่งความเป็นจริง รถมอเตอร์ไซค์ที่พวกเราใช้ๆกันอยู่นั้น มีหลายหลากรูปแบบให้เลือกใช้ ทั้งสปอร์ต, เนคเก็ท, ทัวร์ริ่ง, ครุยเซอร์, เอนดูโร่, และอื่นๆยิบย่อยอีกมากมายตามลักษณะ และเป้าหมายที่ผู้ขี่เลือกไว้ใช้งาน ดังนั้น “หมวกกันน็อค” ซึ่งเป็นอุปกรณ์แรกสุดที่เราควรใช้ทุกครั้งเมื่อขับขี่จึงจะต้องออกแบบมาให้เข้ากับการใช้งานรถมอเตอร์ไซค์ด้วยเช่นกัน แต่มันจะมีรูปแบบไหน, เหมาะกับใคร, และดีอย่างไรบ้าง เรามาดูกันเลยครับ

tips-trick-helmet-type-difference-by-cycle-world-02
FULL-FACE หรือ เต็มใบ
– สามารถลดความเสียหายต่อผู้สวมใส่ได้มากที่สุด
– มีเสียงรบกวนน้อยที่สุดในกลุ่มหมวกกันน็อคด้วยกัน แต่ก็แลกมาซึ่งการที่ผู้ขี่จะสามารถรับรู้เสียงแวดล้อมได้น้อยลง
– มีวินชิลด์ติดมาเป็นของคู่กันซึ่งสามารถป้องกันลมปะทะ และหากพลาดล้มขึ้นมา ด้วยการออกแบบให้ชิลด์สามารถล็อคกับตัวหมวกได้ ดังนั้นตาจะได้รับอัตรายน้อยที่สุดเมื่อเทียบกับหมวกชนิดอื่นๆ
– แพงเป็นอันดับต้นๆ ถึงแพงที่สุด (ขึ้นอยู่กับวัสดุและการออกแบบ)
– มีข้อจำกัดในเรื่องมุมมองที่ไม่กว้างเท่าหมวกชนิดอื่น แต่ในทางกลับกันหากเป็นหมวกเรซซิงที่ออกแบบให้ขอบช่องมองด้านบนกว้างเป็นพิเศษ เพื่อเพิ่มวิสัยทัศตอนโหนรถเข้าโค้ง ถ้าแดดแรงๆแสงจะเข้าหน้าผากมากเป็นพิเศษ
– หมวกบางใบอาจจะมีน้ำหนักมาก ในช่วงแรก หากไม่ชินผู้สวมใส่อาจพบอาการเมื่อยคอได้เมื่อใส่นานๆ

tips-trick-helmet-type-difference-by-cycle-world-07
HYBRID หรือ หมวกลูกผสมระหว่างเต็มใบกับทรงโมโตครอส (หรือหลายคนอาจจะเรียกว่าทรงโมตาร์ด/ทัวร์ริ่งก็ได้ครับ)
– มีคุณสมบัติหรือข้อดีที่ไม่ต่างจากแบบเต็มใบมากนัก ด้วยลักษณะหมวกที่ครอบหัวผู้สวมใส่รอบทิศทาง
– สามารถใช้งานได้ทั้งบนทางดำ หรือ ทางฝุ่น (แต่ก็ไม่สุดสักทางเช่นกัน)
– มุมมองกว้าง (โดยเฉพาะด้านข้าง และด้านล่าง) และมีพื้นที่มากพอให้ใส่แว่นแยกได้หากต้องการเพิ่มความสามาระในการใช้งานบนทางฝุ่น
– คางหมวกยาว และมีไวเซอร์บังแดดด้านบนเหมือนหมวกโมโตครอส ช่วยป้องกันการกระแทกโดยตรงจากด้านหน้าได้ดี แถมยังทำให้ผู้ใส่สามารถหายใจได้สะดวกมากกว่าเมื่อเทียบกับเต็มใบ
– เสียงรบกวนเยอะ และมีแรงต้านอากาศเยอะเป็นพิเศษหากแหงน หรือหันคอซ้าย/ขวาด้วยรูปทรงหมวก

tips-trick-helmet-type-difference-by-cycle-world-05
OFF-ROAD หรือ MOTOCROSS (โมโตครอส)
– เปิดช่องมองอิสระ เพราะไม่มีวินชิลด์ ทำให้ผู้ขี่สามารถใส่แว่น หรือกอกเกิ้ล ที่ช่วยป้องกันฝุ่นได้ดีกว่าแทน
– คางหมวกยาว ช่วยป้องกันกราม ฟัน ของผู้สวมใส่ได้ดี
– มีไวเซอร์หรือปีกหมวกด้านบนช่วยบังแดดได้ดี แถมยังช่วยป้องกันกิ่งไม้กระแทกใบหน้าได้ประมาณหน่ึ่งอีกด้วย
– หากขี่เร็วๆ หมวกจะต้านอากาศเป็นพิเศษ เพราะตัวคางหมวกและไวเซอร์ด้านบนที่ยื่นออกมา

tips-trick-helmet-type-difference-by-cycle-world-04
MODULAR หรือ แบบเปิดคาง
– สามารถเปิดคางหมวกขึ้นได้เพื่อพูดคุยกับเพื่อนร่วมทาง หรือจิบน้ำโดยไม่ต้องถอดหมวก ดังนั้นจึงเหมาะกับการใช้งานประเภททัวร์ริ่งมากที่สุด
– สามารถถอดคางหมวกออกเพื่อทำเป็นหมวกเปิดหน้าได้เพื่อความสะดวกสบายในการเดินทางระยะใกล้
– ให้การปกป้องใกล้เคียงกับหมวกเต็มใบเกือบ 100% แต่หากหมวกได้รับแรงกระแทกบริเวณรอยต่อกับขาล็อค คางหมวกอาจจะเปิดขึ้นได้ ซึ่งสุดท้ายใบหน้าของผู้ใส่ก็สามารถรับความเสียหายจากผิวถนนได้อยู่ดี

tips-trick-helmet-type-difference-by-cycle-world-06
OPEN FACE หรือ เปิดหน้า
– ช่วยป้องกันส่วนหัว รอบใบหน้า ตั้งแต่หน้าผากลงมาถึงคางไปด้านหลังได้ดีไม่แพ้เต็มใบ
– หายใจสะดวก สวมใส่สบาย สามารถใส่แว่นเท่ห์ๆก็ได้ เข้ากับรถได้แทบทุกแนว ทั้งสกูตเตอร์,โมเป็ด, แม้แต่คาเฟ่ต์, หรือคลาสสิค
– ใบหน้า สามารถสัมผัสกับสายลม และบรยากาศแวดล้อมขณะเดินทางได้อย่างเต็มที่ แต่ก็สามารถสัมผัสกับผิวถนนได้อย่างเต็มใบด้วยเช่นกัน

tips-trick-helmet-type-difference-by-cycle-world-03
HALF HELMET หรือหมวกครึ่งใบ
– เย็น เพราะปิดแค่ส่วนหัวช่วงบน, เบา เพราะมันมีอยู่แค่นั้น, และถูกเพราะต้นทุนชิ้นส่วนในการผลิตหายไปมากกว่าครึ่ง
– ผิดกฏหมายในบางประเทศ (แต่ในประเทศไทยไม่ได้ว่าอะไร)
– ป้องกันความเสียหายได้น้อยที่สุด หรือแทบไม่ป้องกันอะไรเลย เพราะหากรัดคางไม่ดี ตัวหมวกก็พร้อมจะหลุดออกจากหัวผุ้สวมใส่ได้ทุกเมื่อที่เกิดแรงกระแทก (จากประสบการณ์ผู้เขียน เคยเจอเหตุการณ์หมวกสละหัว ก่อนตัวถึงพื้นมาแล้ว โชคดีที่ไม่เป็นอะไร เพราะหัวไม่ได้ลงพื้น ฮ่าๆๆๆ)

ขอบคุณสาระเพิ่มเติมจาก CycleWorld

อ่าน Tips Trick อื่นๆ เพิ่มเติมได้ที่นี่

เพื่อนๆ Bikers สามารถติดตามข่าวสารวงการล้อ ได้ทางแฟนเพจ MotoRival ของเราครับ

Share.

About Author

error: Content is protected !!