ปัญหาน้ำท่วม มักเกิดขึ้นได้เสมอ และเกิดขึ้นในทุกๆรอบปีที่บ้านเราจนแทบจะเป้นเรื่องปกติไปแล้ว แต่การต้องขี่รถมอเตอร์ไซค์ไปทำงานในวันที่น้ำท่วมบางครั้งก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ (หรือาอจจะขี่ไปโดยไม่รู้ว่าทางข้างหน้าน้ำท่วม) ซึ่งถ้าหากน้ำแค่ท่วมถนนจนยกระดับขึ้นมาบริเวณใต้ท้องรถก็คงไม่ต้องกังวลเท่าไหร่นัก แต่ถ้าเกิดขี่ๆไปแล้วเจอช่วงที่น้ำท่วมเข้ากรองอากาศ แล้วเข้าไปในเครื่องยนต์ขึ้นมาล่ะต้องทำยังไง ?
สิ่งแรกที่เพื่อนๆต้องทำก่อนเลยหากขี่ๆไปแล้วพบว่ามีน้ำเข้าเครื่องยนต์ก็คือการ “ดับเครื่องยนต์ของรถโดยทันที” หรือ “ห้ามสาตร์ทเครื่องยนต์โดยเด็ดขาด” เนื่องจากหากมีน้ำเข้าไปสู่ห้องเผาไหม้แล้ว ด้วยความหนาแน่นของน้ำสูงกว่าความหนาแน่นของอากาศหลายเท่า ทำให้มีโอกาสสูงมากที่ก้านสูบอาจจะงอหรือคดได้ง่ายๆ เพราะสู้กำลังอัดในห้องเผาไหม้ไม่ไหว
หลังจากนั้นให้รีบเข็นรถขึ้นสู่ที่แห้งโดยเร็ว เพื่อถอดกรองอากาศ และเป่ากรองให้แห้ง รวมพยายามเอาน้ำออกจากหม้อกรองให้มากที่สุด แล้วค่อยประกอบกลับเข้าไปใหม่
ในขณะเดียวกันสำหรับฝั่งท่อไอเสียหากเป็นท่อเดิมติดรถ ปกติผู้ผลิตจะมีการเจาะรูสำหรับระบายน้ำในจุดล่างสุดของคอท่อไอเสีย, หม้อพัก, หรือ ที่ปลายท่อไอเสียไว้อยู่แล้วจึงไม่ต้องกังวลเท่าไหร่นัก แต่หากเพื่อนๆไปเปลี่ยนท่อไอเสียแบบยกเส้นมา แล้วทางร้านไม่ได้เจาะรูไว้ให้ อันนี้อาจจะต้องเอียงรถเพื่อไล่น้ำออกก่อนไม่เช่นนั้น น้ำอาจจะย้อนกลับเข้าเครื่องยนต์ได้ หากระดับของน้ำที่ขังอยู่ในท่อสูงกว่าแนวระนาบของพอร์ทไอเสีย
นอกจากนี้หากรถของเพื่อนๆคนไหนยังใช้ระบบจ่ายน้ำมันแบบคาร์บูเรเตอร์อยู่ เราขอแนะนำให้ถอดฝาครอบด้านล่างคาร์บู ซึ่งก็คือห้องลูกลอยออกก่อนเพื่อถ่ายน้ำมันและน้ำที่อาจขังอยู่ออกไปก่อนด้วย (แต่อย่าลืมปิดก็อกน้ำมันก่อนถอดด้วยล่ะ)
และที่สำคัญที่สุดในการไล่น้ำออกจากเครื่องยนต์ ก็คือการถอดหัวเทียนออกจากฝาสูบ (มีกี่สูบก็ถอดออกให้หมด) เพื่อเป็นการระบายแรงอัดในเสื้อสูบ หลังจากนั้นให้ตั้งขาตั้งคู่ หรือหาแสตนด์ตั้งล้อหลัง เพื่อทำให้ล้อหลังลอยจากพื้น เข้าเกียร์ ปล่อยคลัทช์ แล้วหมุนล้อหลังเพื่อให้ลูกสูบได้ขยับแล้วดันน้ำที่อยู่ในห้องเผาไหม้ออกมาทางช่องหัวเทียน (หากหาแสตนด์ไม่ได้ แนะนำให้ใช้วิธีตั้งขาตั้งเดี่ยว ยกรถมาพิงตัวให้ล้อหลังลอย แล้วหาใครสักคนมาช่วยหมุนล้อหลังให้)
พอไล่น้ำออกจากห้องเผาไหม้ไปจนไม่สามารถไล่ออกได้แล้วจริงๆ ก็ใส่หัวเทียนกลับเข้าไปเช่นเดิม แล้วลองสตาร์ทดูพร้อมภาวนาขอให้โชคดี ซึ่งถ้าหากเครื่องยนต์ยังเดินเรียบปกติก็ถือว่าดีไป (แต่ถ้าไม่ งานนี้อาจจะได้แกะเครื่องเปลี่ยนก้านสูบใหม่ หรือเพื่อวามปลอดภัยที่สุดคือรอช่างมายกรถไปร้าน) หลังจากนั้นให้หาโอกาสเข้าอู่ซ่อมรถโดยเร็วที่สุดเพื่อถ่ายน้ำมันเครื่องเนื่องจากอาจมีน้ำหลุดรอดผ่านแหวนลูกสูบลงไปแครงก์ล่างได้ และ/หรือน้ำมันเชื้อเพลิงในถังออกไปด้วยยิ่งดี หากรถจมทั้งคันจนมิดถัง
และสุดท้าย พยายามอย่าไปจมรถทั้งคันซ้ำอีกนะครับ เพราะอาจจะไม่โชคดีเหมือนครั้งนี้แล้วก็ได้~
ภาพบางส่วนจาก : mi_max (Pantip)
อ่าน Tips Trick เพิ่มเติมที่ได้ที่นี่
