10 อันดับ รถมอไซค์แพงที่สุดปี 2020 ที่คุณสามารถซื้อได้ถ้าเงินถึง !

0

เผลอแป๊บเดียวก็ผ่านกลางปี 2020 กันไปเสียแล้ว หลังจากนี้แม้จะมีรถมอเตอร์ไซค์รุ่นใหม่เปิดตัวออกมา ส่วนใหญ่แล้วผู้ผลิตก็มักจะเรียกว่ามันเป็นโฉม MY2021 มากกว่า ดังนั้นก่อนที่จะถึงเวลานั้น เรามาดูกันสักหน่อยดีกว่าครับว่ารถมอเตอร์ไซค์ของปี 2020 นี้ จะมีคันไหนที่ได้ชื่อว่าแพงที่สุดของปีกันบ้าง

(สำหรับการเทียบตัวเลขราคาของรถมอเตอร์ไซค์แต่ละคันในครั้งนี้ จะเทียบตามตัวเลขในประเทศอังกฤษ เนื่องจากเป็นประเทศที่มีรถมอเตอร์ไซค์ลากหลายรุ่นวางจำหน่ายมากที่สุด ดังนั้นราคาตัวรถจึงเป็นราคาสำหรับวางจำหน่ายในประเทศดังกล่าว ไม่ได้เป็นตัวเลขสำหรับวางจำหน่ายในประเทศไทย)

2019-Kawasaki-ninja-h2-carbon-edt-01
10. Kawasaki Ninja H2 Carbon – 28,500 ปอนด์ หรือประมาณ 1.11 ล้านบาท
เพื่อนๆลายคนอาจจะรู้จัก Ninja H2 ในฐานะที่มันเป็นไฮเปอร์ไบค์เรือธงของ Kawasaki แต่อันที่จริงแล้วพวกเขายังมี H2 เวอร์ชันพิเศษที่เหนือกว่านั้นวางจำหน่ายด้วยในเชื่อ Ninja H2 Carbon ซึ่งจะมีความแตกต่างจาก H2 รุ่นพื้นฐานตัวชิ้นแฟริ่งหน้าของมันที่จะเป็นทำขึ้นจากวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ และมีการเสริมลายกราฟฟิกอีกเล็กน้อย แต่มันจะมีขายเพียงแค่ 120 คันบนโลกเท่านั้นในแต่ละปี

ArielAce-IronHorse-0012
9. Ariel Ace Iron Horse – 29,900 ปอนด์ หรือประมาณ 1.16 ล้านบาท
อาจจะไม่คุ้นหูเท่าไหร่นักในบ้านเรา แต่แบรนด์ Arial ถือเป็นผู้ผลิตรถมอเตอร์ไซค์ที่โดดเด่นอย่างมากในเรื่องการอกแบบครุยเซอร์ไบค์ หรือสตรีทไบค์ ไปจนถึงรถยนต์ล้อเปิดที่มาพร้อมกับจุดเด่นคือโครงถักดีไซน์สวยงามกว่าใคร ดังนั้นจึงไม่แปลกใจเท่าไหร่นักที่ราคาตั้งต้นของมันจะสูงถึงหลักล้านกว่าบาท

2020-mvagusta-rush1000-eicma2019-01
8. MV Agusta Rush 1000 – 31,000 ปอนด์ หรือประมาณ 1.20 ล้านบาท
แน่นอนว่าในเมื่อติดชื่อแบรนด์ MV Agusta ชื่อนี้ย่อมไม่มีคำว่าถูก และด้วยความที่เจ้า Rush 1000 คันนี้ ถือเป็นตัวรถไฮเปอร์เนคเก็ทที่ดัดแปลงมาจาก Brutale 1000 ให้มีความโฉบเฉี่ยวและโดดเด่นมากขึ้น นอกจากนี้ชุดบอดี้พาร์ทของมันยังทำจากวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ทุกชิ้น ประกอบกับเทคโนโลยีระดับไฮเอนด์และงานผลิตกับงานดีไซน์ขั้นเนี๊ยบจึงทำให้มันกลายเป็นรถมอเตอร์ไซค์ที่แพงที่สุดแล้วของค่ายในตอนนี้

brough-superior-ss100
7. Brough Superior SS100 – 35,000 ปอนด์ หรือประมาณ 1.36 ล้านบาท
Brough Superior ถือเป็นอีกหนึ่งแบรนด์ตำนานของประเทศอังกฤษ ที่ขึ้นชื่ออย่างมากในเรื่องดีไซน์ที่ยังคงรักษาความคลาสสิคไว้ได้อย่างดีราวกับหลุดออกมาจากยุคสงครามโลก และด้วยเอกลักษณ์ที่เห็นเมื่อไหร่ก็รู้ว่าเป็นลายเซ็นต์อันสวยงามของรถแบรนด์นี้จึงทำให้ราคาของมันสูงเป็นอันดับ 7 ของปี 2020 สำหรับตัวรถรุ่น SS100 คันนี้

Energica-ego-45-limited-01
6. Energica Ego 45 Limited Edition – 56,000 ปอนด์ หรือประมาณ 2.17 ล้านบาท
เดิมที Energica Ego ก็ถือเป็นซุปเปอร์สปอร์ตไบค์พลังงานไฟฟ้าที่ราคาแพงหูฉี่อยู่แล้ว แต่ด้วยการอัพเกรดสมรรถนะให้สูงขึ้น แถมยังผลิตด้วยจำนวนจำกัด จึงทำให้ราคาของมันสูงจนแม้แต่รถมอเตอร์ไซค์ตัวแรงคันอื่นๆยังต้องยอม

2020-vyrus-alyen-03
5. Virus Alyen 988 – 80,000 ปอนด์ หรือประมาณ 3.10 ล้านบาท
Virus Alyen คันนี้ ถือเป็นผลงานใหม่ล่าุสดจากทางค่ายที่ขึ้นชื่อในเรื่องการออกแบบรถให้มีดีไซน์หวือหวาและแปลกตากว่าใคร ไม่เพียงเท่านั้นยังสรรหาการเอาระบบกลไกที่ไม่ค่อยมีใครใช้เท่าไหร่นักอย่างระบบ Hub-Steering ด้วย นอกจากนี้ขุมกำลังของมันยังเป็นบล็อคที่ยืมมาจาก Ducati Panigale ดังนั้นในเรื่องความแรงจึงหายห่วง ส่วนความหล่อนี่ยิ่งแทบไม่ต้องพูดถึงกันเลย

ducati-superleggera-v4-first-production-01
4. Ducati Panigale V4 Superleggera – 86,000 ปอนด์ หรือประมาณ 3.34 ล้านบาท
Superleggera ในภาษาอิตาลีหมายถึง “เบาสุด” ซึ่งอันที่จริงรถมอเตอร์ไซค์ตระกูลนี้ Ducati ได้นำชื่อดังกล่าวมาใช้แล้วถึง 3 ครั้ง ซึ่งในคันล่าสุดที่พึ่งเปิดตัวออกมาเมื่อปลายปีก่อนอย่างเจ้า Superleggera V4 คันนี้ ก็ไม่ได้มีดีแค่น้ำหนักที่เบากว่าซุปเปอร์ไบค์ทั่วๆไปเท่านั้น แต่เครื่องยนต์ V4 ของมันก็ได้รับการปรับจูนเป็นพิเศษจนมีแรงม้าสูงถึง 230 ตัว แถมยังมาพร้อมกับชิ้นวิงเล็ท 2 ชั้นสุดอลังการ ไม่เพียงเท่านั้นยังผลิตแค่เพียง 500 คันบนโลกอีกด้วย ซึ่งในครั้งนี้เราเองก็ยังไม่สามารถระบุได้เช่นกันว่ามีสักกี่คันที่ถูกนำเข้ามาให้ลูกค้าชาวไทยได้จับจองบ้าง

Confederate-G2-P51-Combat-Fighter

Confederate-G2-P51-Combat-Fighter

3. Confederate P-51 Combat Fighter – 88,000 ปอนด์ หรือประมาณ 3.41 ล้านบาท
Combat Motors ถือเป็นอีกหนึ่งผู้ผลิตรถมอเตอร์ไซค์ที่โดดเด่นอย่างมากในเรื่องการออกแบบและสร้างครุยเซอร์ไบค์ที่จัดเต็มทั้งในเรื่องดีไซน์สุดแปลกตา กับการใช้วัสดุในการสร้างที่คัดสรรมาอย่างดี ทั้งชุดเฟรมอลูมิเนียมหล่อขึ้นรูปสุดซับซ้อน ไปจนถึงพาร์ทต่างๆที่ทำจากวัสดุคารฐอนไฟเบอร์ นอกจากนี้เจ้า P-51 Combat Fighter คันนี้ยังมาพร้อมกับเครื่องยนต์ V-Twin ที่ใหญ่สะใจถึง 2,163cc อีกด้วย ดังนั้นจึงหายห่วงได้เลยในเรื่องของพละกำลังในรอบต่ำที่ได้จากเจ้าครุยเซอร์ไบค์สุดแนวคันนี้

2020-arch-krgt-1-01
2. Arch KRGT-1 – 90,000 ปอนด์ หรือประมาณ 3.50 ล้านบาท
หากเพื่อนๆคือแฟนคลับของ คีอานู รีฟ นักแสดงพระเอกคนดังจากภาพยนต์ John Wick และ The Matrix ล่ะก็ เจ้า Arch KRGT-1 คันนี้คือรถมอเตอร์ไซค์ที่รีฟเป็นเจ้าของบริษัทผลิตมันขึ้นมา ซึ่งจุดเด่นที่ทางค่ายใช้ชูเป็นจุดขายนั้นหลักๆแล้วก็จะอยู่ทีี่งานดีไซน์ฉบับครุยเซอร์ไบค์ของคนอเมริกาสุดโหด มาพร้อมกับชุเฟรมอลูมิเนียมงาน CNC ทั้งชิ้น และงานประกอบด้วยมือทั้งคันสุดปราณีต

2020-confederate-wraith-01
1. Confederate Wraith – 125,000 ปอนด์ หรือประมาณ 4.85 ล้านบาท
เช่นเดียวกันกับตัวรถในอันดับ 3 เจ้า Wraith คันนี้ก็ถูกผลิตโดยบริษัท Combat Motors เช่นเคย ซึ่งจุดเด่นของมันนั้นก็จะอยู่ที่ดีไซน์ซึ่งดูดุดัน แต่ก็หรูหราขึ้นไปอีกขึ้นในเวลาเดียวกัน ไม่เพียงเท่านั้น ชุดเฟรมงานอลูมิเนียมของมันยังเป็นแบบพิเศษที่ถูกออกแบบให้กลายเป็นถังน้ำมันไปในตัวด้วย ซึ่งมีผู้ผลิตน้อยค่ายยนักที่จะออกแบบเฟรมเช่นนี้ เนื่องจากค่อนข้างยุ่งยากในการสร้าง และทำให้บำรุงรักษายาก แต่เพื่อความหล่อเกินใครเทียบทาง Combat Motors จึงไม่ลังเลที่จะทำให้ชุดเฟรมแบบนี้เป็นลายเซ็นสำคัญสำหรับรถมอเตอร์ไซค์ของตนเอง

เพื่อนๆ Bikers สามารถติดตามข่าวสารวงการล้อ ได้ทางแฟนเพจ MotoRival ของเราครับ

Share.

About Author

error: Content is protected !!