เปิดประวัติ Valentino Rossi (VR46) แชมป์โลก 9 สมัย ตำนานที่ยังมีชีวิตแห่งศึก MotoGP

0

แม้อายุจะล่วงเลยมาจนถึงเลข 4 แต่ The Doctor พ่อหมอ แห่งวงการ Motorsport 2 ล้อ ก็ยังคงโลดแล่นอยู่ในวงการ MotoGP มาจนถึงปัจจุบันโดยที่ผลงานเองก็ยังจัดว่าอยู่ในแถวหน้า กับดีกรีแชมป์โลกไป 9 สมัย จึงปฏิเสธไม่ได้จริงๆว่านี่คือนักบิดขวัญใจของใครหลายๆคน ดังนั้น เราจึงขอพาเพื่อนๆมา เปิด ประวัติ Valentino Rossi กันหน่อยว่า VR46 จะมีความเป็นมาอย่างไรกันบ้าง


Valentino Rossi เกิดเมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ ปี ค.ศ. 1979 ที่เมืองเออร์บิโน ประเทศอิตาลี โดยมี Graziano Rossi ผู้เป็นพ่อที่เปรียบเสมือนผู้ปูทางเดินสู่การเป็นนักแข่งรถมอเตอร์ไซค์มืออาชีพของเขา ซึ่งแน่นอนว่าหมายเลขประจำตัว “46” ก็เป็นอีกหนึ่งมรกดกที่ตกทอดมาถึงเขา โดยหลังจากที่ Valentino มีกิจวัตรเป็นการแข่งรถโกคาร์ทจนถึงอายุประมาณ 10 ย่าง 11 ขวบ (เคยได้แชมป์ระดับประเทศเมื่อปี 1990 ด้วย) เขาก็ได้เริ่มมาจับรถมอเตอร์ไซค์ประเภท Mino-Moto ลงแข่งเป็นครั้งแรก และคว้าชัยการแข่งระดับประเทศไปอีกหลายสนามในปี 1991


และด้วยความที่ต้นทุนในการแข่งรถโกคาร์ทค่อนข้างสูง ทำให้ในปี 1992 Valentino ได้หันมาแข่งรถมอเตอร์ไซค์ Mini Moto อย่างจริงจัง จนในที่สุดผลงานของเขาก็ทำให้เจ้าตัวไปขึ้นมาแข่งในเวทียุโรปกับทาง Aprilia ในรุ่น 125cc บนเวทีอิตาลีช่วงปี 1994 แล้วในปี 1995 ก็ขยับขึ้นไปแข่งต่อในเวทีระดับยุโรป และคว้าแชมป์ในปีในนั้นได้สำเร็จอีกตามเคย

จากความโดดเด่นในครั้งนั้น ทำให้เมื่อถึงปี 1996 ทาง Aprilia ก็ได้ทำให้ Valentino ได้ย้ายมาแข่งในศึกระดับโลกอย่าง World GrandPrix หรือชื่อเดิมก่อนเป็น MotoGP ได้สำเร็จ ซึ่งในปีแรกนั้นผลงานของเขายังไม่ค่อยดีเท่าไหร่นัก เพราะจากการแข่ง 15 สนาม เจ้าตัวชนะไปเพียง 1 สนาม นอกนั้นก็ไม่จบการแข่งขัน หรือรั้งกลุ่มกลางซะเป็นส่วนใหญ่ และจบอันดับในช่วงสิ้นปีด้วยคะแนนสะสมเป็นอันดับที่ 9


พอเข้าสู่ปี 1997 เป็นต้นมา ดูเหมือน Valentino Rossi เริ่มจะจับทางการแข่งระดับโลกได้ดีขึ้นเรื่อยๆจนคว้าแชมป์โลก ถึง 9 สมัย จนถึงปี 2010 โดยแบ่งเป็น
– แชมป์โลก World GrandPrix รุ่น 125cc 1 สมัย กับ Aprilia RS125 เมื่อปี 1997
– แชมป์โลก World GrandPrix รุ่น 250cc 1 สมัย กับ Aprilia RS125 เมื่อปี 1999
*ปี 1998 ได้อันดับ 2

rossi-gp500
– แชมป์โลก World GrandPrix รุ่น 500cc 1 สมัย กับ Honda NSR500 เมื่อปี 2001
*โดยนี่ถือเป็นอีกปีที่โดดเด่นอย่างมากสำหรับ Valentino เพราะตอนนั้นเจ้าตัวคว้าชัยชนะได้ทั้งๆที่แข่งอยู่ในทีมรอง ซึ่งอันที่จริงเขาก็ฉายแว่วรุ่งมาตั้งแต่ปี 2000 ที่ได้อันดับ 2 อยู่แล้ว


– แชมป์โลก MotoGP 2 สมัย กับ Honda RC213V เมื่อปี 2002-2003
*เป็นการคว้าชัยภายใต้สังกัดทีม Repsol Honda ซึ่งถือว่าเป็นทีมโรงงานใหญ่สุดของค่ายปีกนก


– แชมป์โลก MotoGP 4 สมัย กับ Yamaha YZR-M1 เมื่อปี 2004-2005 และ 2008-2009
*ถือเป็นสังกัดที่ทำให้ผู้ติดตามการแข่งขัน MotoGP หลายคน ติดตาภาพของ Valentino Rossi มากที่สุด เพราะก่อนจะย้ายมา ตัวแข่ง YZR-M1 ทำผลงานได้ไม่ดีเท่าไหร่นัก แต่พอมันได้จับคู่กับนักบิดรายนี้ในปี 2004 มันก็วิ่งฉิวทันที และกลายเป็นตัวแข่งที่น่ากลัวนับแต่นั้น (หมายถึงน่ากลัวในการไล่ล่าโพเดี้ยมนะครับ ไม่ใช่น่ากลัวในการขี่)


อย่างไรก็ดี พอเข้าสู่การแข่งขัน MotoGP ปี 2010 ก็ถือว่าเป็นปีที่เหล่าสาวกทั่วโลกอึ้งเป็นอย่างมาก เพราะจู่ๆ Valentino Rossi ก็ประกาศว่าเจ้าตัวจะขอย้ายไปอยู่ภายใต้สังกัด Ducati แทนที่จะอยู่กับ Yamaha ต่อ เนื่องจากความอิ่มตัว และอยากหาประสบการณ์ความท้าทายใหม่ๆในวัย 32 ปีไปกับ “All Italian Project” ของค่ายแดงดังกล่าว ซึ่งใช่ครับ หลังจากนั้นมากลับกลายเป็นว่า พ่อหมอ ฟอร์มหลุดทะเลไปเรื่อยๆจนไม่มีสนามใดเลยระหว่างปี 2011 กับ 2012 ที่เขาขึ้นคว้าชัยชนะได้

Rossi-DutchGP-2015
จนในที่สุดเขาต้องย้ายกลับมาอยู่กับ Yamaha ตามเดิมเมื่อเข้าสู่ปี 2013 จนถึงปัจจุบัน แต่นั่นก็ดูเหมือนจะไม่ทันเสียแล้ว เพราะผลงานที่ดีที่สุดของเจ้าตัว ก็คือการความรองแชมป์ในตารางคะแนช่วงปิดฤดูกาลเป็นพระรอง 3 สมัยติดระหว่างปี 2014-2016 แล้วพอปี 2017 ก็คว้าแชมป์สนามได้เพียง 1 ครั้งเท่านั้น ในการแข่งขัน Dutch TT 2017 และก็ไม่ได้ขึ้นไปเหยียบบนโพเดี้ยมอันดับ 1 อีกเลยจนตลอดการแข่งขันปี 2019

2019-rossi-agv-pista-gp-r-winter-test-06
และท่ามกลางกระแสที่ว่านี่อาจเป็นช่วงที่ Valentino Rossi ควรรีไทร์แล้วหรือไม่ จู่ๆในช่วงสิ้นปี 2019 พ่อหมอก็ได้ประกาศเปลี่ยนหัวหน้าทีมช่างคนใหม่ เพื่อบ่งบอกว่าเขายังอยากพิสูจน์เฮือกสุดท้ายอยู่ตนเองจะแกร่งพอไปต่อหรือไม่ในปี 2020 แต่ด้วยวิกฤต COVID-19 จึงทำให้เขาต้องไปพิสูจน์ตนเองกับทีมรองของ Yamaha อย่าง Petronas SRT ในที่สุด

VR46 Racing Team
ทว่าด้วยฟอร์มการขี่ที่ยังไม่ดีขึ้นสักที จนอยู่ในกลุ่มท้ายตารางคะแนนสะสมในช่วงครึ่งแรกของการแข่งขันปี 2021 แล้วใช้เวลาการตัดสินอีกหลายสัปดาห์ในช่วงหยุดครึ่งฤดูกาล เขาก็ประกาศในงานแถลงข่าวก่อนเริ่มศึก AustrianGP 2021 ออกมาแล้วว่าตนเลือกที่จะรีไทร์แน่นอนแล้วหลังจบการแข่งขัน MotoGP ปี 2021


*เพิ่มเติม 1 การย้ายจาก Repsol Honda มาสู่ Yamaha Factory เมื่อปี 2004 ส่วนหนึ่งเกิดจากความอึดอัดของเจ้าตัวที่มีต่อต้นสังกัดเดิม จึงทำให้ในปี 2003 เขามีการล้อเลียนต้นสังกัดบ่อยครั้งมากหลังแข่งขันเสร็จ

agv-pista-gpr-2019-mugello-rossi-edt-01
*เพิ่มเติม 2 ฉายา “The Doctor” หรือ “พ่อหมอ” เริ่มแรกมาจากการที่ Valentino Rossi มองว่าการแข่งขันในศึก MotoGP แต่ละระดับนั้นเหมือนกับการศึกษาระดับอุดมศึกษา นั่นก็คือ GP125/Moto3 = ปริญญาตรี ตามด้วย GP250/Moto2 = ปริญญาโท และ GP500/MotoGP = ปริญญาเอก ซึ่งก็คือวุฒิการศึกษาระดับ Doctor จึงทำให้เมื่อเขาได้ขึ้นมาแข่งในรุ่นใหญ่เป็นครั้งแรกตอนปี ค.ศ. 2000 เขาก็ใช้ชื่อ The Doctor เป็นชื่อเล่นหรือฉายาให้กับตนเองในทันที ไม่เพียงเท่านั้นด้วยความที่ชื่อ “Rossi” เป็นชื่อของแพทย์หลายๆคนในประเทศอิตาลี ทำให้ฉายานี้ของ Rossi เป็นที่ยอมรับในเหล่าสาวกของเขาที่ประเทศบ้านเกิดจากความเชี่ยวชาญในการขี่รถมอเตอร์ไซค์ไม่แพ้หมอที่เชี่ยวชาญในการรักษาผู้ป่วย ส่วนทั่วโลกก็ให้การยอมรับเขากับฉายานี้จากความอัจฉริยะและฝีมือในการแข่งขันที่สามารถคว้าแชมป์โลกได้หลายคราจนบันทึกสถติไว้ถึง 9 สมัย

rossi-at-2018-sepang-winter-test-02
*เพิ่มเติม 3 Valentino Rossi มีสัญลักษณ์ประจำตัวหลายอย่างด้วยกันที่นอกเหนือจาก หมายเลข 46 หนึ่งในนั้นก็คือ สัญลักษณ์ “ตะวัน และ จันทรา” หรือ “Lunar and Moon” ที่ว่ากันว่า Rossi ต้องการสื่อถึงความเป็นด้านมืด และด้านสว่างของตนเอง ซึ่งเราจะเห็นได้ว่าเข้าตัวพยายามใส่สัญลักษณ์นี้ลงไปบนหมวกกันน็อคทุกใบที่ตนใช้

Valentino-Rossi-AGV-Pista-2015-Misano_6
*เพิ่มเติม 4 นอกจากนี้ยังมีสัญลักษณ์ “สุนัขโกลเด้นฯ 2 ตัว กับ แมวส้มอีก 1 ตัว” ที่มักเห็นเป็นสติ๊กเกอร์ติดอยู่ท้ายรถ หรือบนหมวกกันน็อคของเขา ซึ่งหมายถึง สัตว์เลี้ยงสุดรักชื่อ Ulisse, Penelope, และ Rossano นั่นเอง ไม่เพียงเท่านั้นยังมีสัญลักษณ์ “สุนัขบูลด็อก 2 ตัว” ซึ่งหมายถึงเจ้า Cesare และ Cecilia ที่จะติดสลับกันไปกับสติ๊กเกอร์สัตว์เลี้ยงทั้ง 3 ตัวก่อนหน้านี้ด้วย

2008-ferrari-f1-test-rossi-01
*เพิ่มเติม 5 ครั้งหนึ่งเมื่อปี 2004 Valentino Rossi เคยได้รับเชิญจาก Ferrari ให้ไปทดสอบตัวแข่ง Formula 1 ซึ่งด้วยพรสววรค์ที่ติดตัวมาแต่เกิด (ดังที่เห็นได้จากดั้งเดิมก่อนมาแข่ง Mino-Moto เจ้าตัวเป็นนักแข่งโกคาร์ทระดับแชมป์ประเทศ) จึงทำให้ทางค่ายม้าลำพองทาบทามเขาอยู่หลายครั้งจนถึงปี 2010 แต่ก็ไม่สำเร็จ

rossi-gulf-12hrs-gt-world-ferrari-01
*เพิ่มเติม 6 ขณะที่การแข่งขัน MotoGP ดำเนินไปในแต่ละปี ระหว่างช่วงพักฤดูกาล Valentino Rossi มีงานอดิเรกคือการลงแข่งขัน Rally ไม่ก็ Super GT ซึ่งลีลาและฝีมือของเขาเองก็ดีไม่แพ้ตอนหวดยานพาหนะ 2 ล้อเช่นกัน จนคว้าแชมป์มาแล้วหลายครั้ง

rossi-million-cheering-2019-01
*เพิ่มเติม 7 จบแล้วกับ ประวัติ Valentino Rossi หากเพื่อนๆมีอะไรจะเพิ่มเติมเกี่ยวกับนักบิดรายนี้อีกล่ะก็ เชิญคอมเม้นต์ กันเข้ามาได้เลยครับผม แฮร่ๆ

อ่านข่าว MotoGP เพิ่มเติมได้ที่นี่
อ่านข่าว Valentino Rossi เพิ่มเติมได้ที่นี่

เพื่อนๆ Bikers สามารถติดตามข่าวสารวงการล้อ ได้ทางแฟนเพจ MotoRival ของเราครับ

Share.

About Author

error: Content is protected !!