กรรมการ WSBK อนุมัติ Honda CBR1000RR SP2 ได้เพิ่มรอบอีก 500 รอบ/นาที จากผลงานออกทะเล ไม่สามารถเกาะหัวตารางได้แม้แต่เรซเดียว

ขณะที่ Ducati Panigale V4 R ต้องถูกปรับลดรอบเครื่องยนต์ลง 250 รอบ/นาที เพราะทำผลงานการแข่งขันได้ดีเกินไป (ชนะการแข่งขันแบบ 100% ในศึก WSBK ทั้ง 3 สนาม 9 เรซ) ช่วงเวลาเดียวนั้นเองทางฝั่งตัวแข่ง Honda CBR1000RR SP2 กลับต้องถูกปรับรอบเครื่องยนต์เพิ่มขึ้นแทน เนื่องจากพวกเขาไม่สามารถคว้าชัยหรือขึ้นโพเดี้ยมได้เลยแม้แต่สนามเดียว

แต่ทว่า อันที่จริงแล้ว ผลงานการแข่งขันของพวกเขา ไม่ได้แต่หลุดโพเดี้ยมในทุกเรซเฉยๆเท่านั้น เพราะหากเจาะลงไปที่ลำดับการเข้าเส้นดีๆ จะเห็นได้ว่าตัวแข่ง Honda CBR1000RR SP2 นั้นไม่สามารถเกาะกลุ่มหัวแถวได้เลย จนหลายครั้งแทบจะอยู่ในกลุ่มท้ายๆของการแข่งขันเสียด้วยซ้ำ และจบอันดับการแข่งขันด้วยเลข 2 หลักตลอด จนสุดท้ายทางคณะกรรมการต้องอนุมัติให้ตัวแข่งรุ่นนี้สามารถเพิ่มรอบได้มากเป็นพิเศษ

หรือว่าง่ายๆก็คือ ทาง Honda สามารถเพิ่มรอบบเครื่องยนต์ของ CBR1000RR SP2 ได้อีก 500 รอบ/นาที เป็น 15,050 รอบ/นาที จากค่าแรกก่อนเริ่ม WSBK ปี 2019 คือ 14,550 รอบ/นาที ทั้งๆที่กติกาตอนต้นปีระบุไว้ชัดเจนว่า การเพิ่ม/ลดรอบเครื่องยนต์จะขยับขึ้น/ลงจากค่าแรกที่ระบุไว้ก่อนแข่งไม่เกิน 250 รอบ/นาที เท่านั้น

โดยสำหรับรอบเครื่องยนต์ของตัวแข่งแต่ละแบรนด์ ที่สามารถใช้ได้นับตั้งแต่การแข่งขันสนามที่ 4 ของศึก WSBK ปี 2019 เป็นต้นไป มีรายละเอียดดังนี้
Aprilia 14,700 รอบ/นาที
BMW 2018 14,950 รอบ/นาที
BMW 2019 14,900 รอบ/นาที
Ducati V2 12,400 รอบ/นาที
Ducati V4 16,100 รอบ/นาที (ก่อนหน้า 16,350 รอบ/นาที)
Honda 15,050 รอบ/นาที (ก่อนหน้า 14,550 รอบ/นาที)
Kawasaki 2018 14,100 รอบ/นาที
Kawasaki 2019 14,600 รอบ/นาที
MV Agusta 14,950 รอบ/นาที
Suzuki 14,900 รอบ/นาที
Yamaha 14,700 รอบ/นาที