อาจจะจริงอยู่ว่า Yamaha Nmax 155 โฉมล่าสุดนั้น พึ่งมีการปรับรุ่นครั้งใหญ่ไปเมื่อกลางปี 2020 ที่ผ่านมา แต่ในงาน Motor Show 2021 ครั้งล่าสุด ทาง Yamaha ก็ได้มีการเผยโฉม Yamaha Nmax 155 – Connected รุ่นย่อยใหม่ที่ใส่ออพชันเต็มขึ้นเพิ่มเข้ามาอีก และไม่นานเท่าไหร่นัก ทางทีมงาน MotoRival เองก็ได้รับเชิญจากทางผู้บริหารให้เป็นส่วนหนึ่งในการร่วมทดสอบเจ้านี่ด้วย ดังนัน้เราจึงขอพาเพื่อนๆมาดูกันหน่อยดีกว่าครับว่าเจ้า Nmax รุ่นนี้ มีอะไรที่ปรับไปจากเดิมบ้าง
ก่อนอื่น หากมองโดยผิวเผิน เราก็จะพบว่า Nmax 155 – Connected รุ่นนี้ มีหน้าตาที่แทบไม่ต่างจาก Nmax 155 รุ่นปกติ หรือโฉมปีก่อนเท่าไหร่นัก มีเพียงชุดสีที่เปลี่ยนไปจากโฉมปี 2020 เท่านัน้ จนทำให้หากใครไม่ทันสังเกต ก็อาจจะมองว่ามันเป็นเพียงรุ่นปรับสีปีใหม่แค่นั้น
แต่ในความเป็นจริงแล้ว เจ้า Nmax 155 – Connected รุ่นนี้ มีจุดเปลี่ยนหลักๆนอกจากชุดสีของมันอยู่ 3 จุดด้วยกัน ได้แก่
1. ระบบ Y-Connected เพื่อเชื่อมต่อตัวรถเข้ากับโทรศัทพ์มือถือสมาร์ทโฟนด้วยสัญญาณบลูทูธผ่านกล่องสัญญาณ CCU สำหรับการเข้าถึงการแจ้งเตือนข้อความ, แจ้งเตือนแอพพลิเคชัน, และแจ้งเตือนสายโทรเข้าจากโทรศัพท์มือถือ ในขณะเดียวกัน ผู้ขี่ก็สามารถดึงข้อมูลตัวรถ เช่น แรงดันไฟในแบตเตอรี่, ระยะเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง, ระยะเปลี่ยนสายพาน, ระยะการตรวจเช็คสภาพรถ, อัตราสิ้นเปลือง, รอบเครื่องยนต์และความเร็วแบบ Real-Time รวมถึงการบันทึกตำแหน่งจอดรถล่าสุดด้วย ซึ่งอันที่จริงมันก็เหมือนกันกับ ที่ทาง Yamaha ประเทศไทยได้เคยนำไปใช้กับ Yamaha Aerox 155 รุ่นปี 2021 ซึ่งเราได้เคยรีวิวไปแล้วก่อนหน้านี้ทุกอย่าง
2. ระบบกันสะเทือนด้านหลัง แม้จะยังคงไม่ได้เป็นโช้กคู่แบบมีซับแทงค์แก๊ส เหมือนในประเทศอินโดนีเซีย แต่ตัว Nmax 155 – Connected ก็ได้รับการติดตั้งโช้กคู่ที่สามารถปรับพรีโหลดได้ 2 ระดับ ซึ่งผู้ใช้สามารถปรับได้ง่ายมากๆ ด้วยการใช้มือเปล่าทั้ง 2 ข้างหมุนขั้วปรับสปริงด้านบนแค่นั้น โดยจากการทดสอบเราก็พบว่าการปรับพรีโหลดจากเดิมๆโรงงานขั้นที่ 1 เป็นขั้นที่ 2 ซึ่งแข็งขึ้นนั้น มันก็ทำให้โช้กหลังแข็งขึ้นจริงชนิดที่รู้สึกได้ค่อนข้างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นทั้งในเรื่องของความสูงช่วงท้ายรถที่เพิ่มขึ้น (แม้ว่าผู้ทดสอบจะหนักถึง 90 กิโลกรัม) และการซับแรงที่แน่น กระทั้นกระเทือนมากขึ้น จนทำให้รู้สึกว่าโช้กหน้ารถนิ่มไปเลยทันที จากเดิมที่มันสามารถทำงานได้ค่อนข้างสัมพันธ์กับโช้กหลังระดับ 1
แต่ทั้งนี้ถ้าหากมีผู้ซ้อนมานั่ง หรือมีสัมภาระหนักๆมากดทางด้านหลังตัวรถไว้ ผู้ทดสอบมองว่าด้วยความแข็งของสปริงโช้กหลังระดับ 2 นั้น น่าจะทำให้อาการของมันออกมาในระดับที่พอดิบพอดี ไม่ห้อยหรือย้วยเหมือนกับ Nmax 155 รุ่นปี 2020 ที่มักเจออาการนี้เมื่อมีผู้ซ้อนท้าย เนื่องจากโช้กหลังของมันยังไม่สามารถปรับเซ็ทความแข็งสปริงได้นั่นเอง ดังนั้นกับโช้กที่สามารถปรับความแข็งสปริงได้ใน Nmax รุ่นใหม่ปี 2021 จึงน่าจะตอบโจทย์การใช้งานที่หลากหลายมากขึ้น
3. ระบบ Traction Control ที่ทาง Yamaha พึ่งนำมาใช้กับรถมอเตอร์ไซค์คลาสนี้เป็นครั้งแรก และจากการที่ผู้ทดสอบได้แอบนำเจ้า Nmax รุ่นใหม่นี้ไปลองวิ่งบนทางกรวดข้างๆสนามทดสอบดูก็พบว่าระบบ TC ที่ทางค่ายให้มานั้นทำงานได้ค่อนข้างดีเลยทีเดียว เพราะมันสามารถตัดกำลังเครื่องยนต์เมื้อล้อหลังเกิดลื่นไถลได้ค่อนข้างเนียน ไม่มีอาการกระตุกจนน่ารำคาญ และที่สำคัญคือไม่ขี้ระแวง หรือทำงานเร็วจนเกินไปด้วย เรียกได้ว่าน่าพอใจเป็นอย่างมากในจุดนี้
โดยสำหรับราคาของ Yamaha Nmax 155 – Connected ก็จะสนนตัวเลขอยู่ที่ 91,900 บาท ซึ่งแพงกว่า Nmax 155 รุ่นพื้นฐานขึ้นมาอีก 4,500 บาทเท่านั้น ถือว่าค่อนข้างคุ้มเลยทีเดียว ส่วนเพื่อนๆคนไหนที่อยากลองอ่านฟูลรีวิวของ Yamaha Nmax 155 รุ่นปี 2020 ซึ่งมีสเปคที่ไม่ได้แตกต่างจาก Nmax 155 – Connected เท่าไหร่นัก นอกจาก 3 ฟีเจอร์ที่เราได้รีวิวไปในข้างต้น ก็สามารถกดอ่านเบาๆตรงนี้ได้เลยครับผม
อ่านข่าว Yamaha เพิ่มเติมได้ที่นี่
อ่านรีวิว อื่นๆ เพิ่มเติมได้ที่นี่
