ลองเรียนขี่ Yamaha SuperJet เจ็ทสกี แบบยืน ที่ถือเป็นอีกกิจกรรมที่ท้าทาย สาย 2 ล้อ น่าไปลองขี่เป็นอย่างยิ่ง
ย้อนกลับไปเมื่อประมาณ 2 ปีก่อนทางผมได้เคยมีโอกาสมาลองขี่ Yamaha Waverunner เจ็ทสกี แบบนั่งขอ ยามาฮ่า ณ บึงชลบุรีเมาท์เท่น ไปเมื่อสองปีก่อนแล้ว และในครั้งนั้น ผมได้แอบลอง SuperJet ก่อนด้วย ซึ่งปรากฎว่าไม่รอด เลยเล่นเพียงแค่เจ็ทสกีนั่งเท่านั้น
และในช่วงก่อนหยุดเทศกาลปีใหม่ไทย 2022 ในวันที่ 12 เม.ย. ที่ผ่านมา ทางพี่ๆ Thai Yamaha Motors ก็ได้ชวนทางผมในนามของทีมงาน MotoRival เราไป ทดลองเรียนขี่ Yamaha SuperJet (Jetski แบบยืน) โดยได้ทาง วัชระมารีน เป็นผู้ดูแล และจัดสอนบรรดาสื่อมวลชนในครั้งนี้ ให้เราได้เปียกแฉะกันก่อนเทศกาลสงกรานต์จริง
ซึ่งผมจะเรียนรอดไม่รอด เราจะมาอัพเดทกันในคอนเท้นต์นี้
สำหรับ SuperJet ที่เราได้ใช้เรียนขี่ในครั้งนี้ จะเป็นตัวรุ่นเก่าที่ทางวัชระมารีน ใช้ในการฝึกสอน เป็นเครื่องยนต์ 2 จังหวะ พิกัดช่วง 700cc
ก่อนไปเริ่มจริงก็ต้องมาฟังทฤษฏีกันก่อน ซึ่งหลักสำคัญ คือ เรื่องของการขึ้น SuperJet ให้ได้ก่อน
โดยปกติ การขึ้น SuperJet จะมี 2 วิธี โดยวิธีแรก จะขึ้นจากที่น้ำตื้น ให้เราคร่อมขาไว้ข้างนึง (เอาขาขึ้นไปวางไว้บนเจ็ท หนึ่งข้าง และบิดออกไปค่อยยกขึ้นอีกข้าง) ซึ่งใน บึงชลบุรีเมาท์เท่น จะไม่ได้ใช้วิธีนี้ เนื่องจากเป็นบึงที่เราต้องโดดลงน้ำไปทั้งตัวเลย คือ ต้องเริ่มสตาร์ทจากน้ำลึก
เราจึงต้องมาเริ่มออกตัวด้วยวิธีที่สอง คือ ให้เราลงไปในน้ำทั้งตัว แล้วใช้ศอกหนีบบอดี้เจ็ท หลังจากนั้นค่อยๆ กดคันเร่งโดยต้องเลี้ยงคันเร่งคาไว้ให้สมูท และค่อยๆ ใช้ศอกท้าวตัวบอดี้ทั้งสองฝั่ง และค่อยๆ ดันพยุงตัวขึ้นมา เพื่อที่จะเอาเข่ามาวางให้ได้ทีละข้าง จนครบ 2 ข้าง ซึ่งในจังหวะขึ้นนี้เองแหละที่ผมร่วงหล่นตกน้ำ หลายรอบด้วยกัน ประมาณ 2-3 รอบได้ โดยคีย์สำคัญ คือ การต้องเดินคันเร่งคาไว้ ให้ตัวเจ็ทมีแรงพุ่งไปข้างหน้าระดับหนึ่ง เพราะถ้าเดินคันเร่งเบาไป โอกาสที่จะเซ ซ้ายขวา และล้มจะสูงมาก
หลังจากที่ผมสามารถคุกเข่าขี่ได้ อันดับแรก ผมก็ขี่โดยนักคุกเข่าให้ชินก่อนประมาณ 2 รอบ หลังจากนั้น ก็ค่อยๆ ยืน โดยหลักสำคัญ คือ ต้องเดินคันเร่งให้เจ็ทพุ่งไปข้างหน้าตลอด และต้องกลั้นใจลุกขึ้นยืนเลย โดยในครั้งนี้ผมยืนครั้งเดียวได้เลย
แต่ขอขี่ช้าๆ ก่อน ซึ่งทางครูฝึกบอกให้ เอาเท้าซ้ายนำหน้า และเท้าขวาไว้หลัง เพราะจะให้ขี่แค่รอบนอก ซึ่งจะเป็นการวนซ้าย เพียงอย่างเดียวไม่มีโค้งขวา เพราะถ้าเกิดจะเข้าทุ่นด้านในที่ต้องเข้าโค้งขวาด้วย จะต้องสลับเท้าขวา มาไว้หน้า ซึ่งจุดนี้ ถ้ายังไม่ชำนาญก็จะร่วงล้มได้ง่าย และอาจเกิดอันตรายถ้ามีคนอื่นขี่ตามมาเร็วๆ
นอกจากนั้นตัวแฮนด์ของ SuperJet จะสามารถยกขึ้นสูง หรือ ลงต่ำได้ ซึ่งถ้าขี่ไม่เร็ว ช้าๆ ยืนขี่ ก็สามารถยืนหลังตรง ยกแฮนด์ขึ้นสูงได้เลยก็จะขี่ได้สบายๆ
แต่ถ้าจะเข้าโค้งก็ควรจะต้องก้มตัวกดแฮนด์ลงหน่อย และเทน้ำหนักไปทางด้านซ้าย เหมือนเวลาที่เราจะเทโค้งมอเตอร์ไซค์ประมาณนั้น
ผมต้องเรียนตามตรงว่าสำหรับ Goal ในวันนี้ ผม Achieve เรียบร้อย คือ อยากแค่ยืนขี่ได้ ก็ ok แล้ว ไม่ต้องเร็วมาก พอเข้าโค้งวนเลี้ยวแบบช้าๆ ได้โดยไม่ล้ม แต่ในรอบหลัง พอผมขี่เร็วขึ้น ผมจะต้องพยายามเกร็งแฮนด์สู้ กับอาการของคลื่น อารมณ์เหมือนขี่ Enduro Bike ที่แฮนด์จะส่ายตลอดเวลา ซึ่งส่วนตัวแล้วผมไม่ชำนาญสาย Enduro อยู่แล้ว เลยอาจจะกลายเป็นขี่เกร็งเกินไป ประกอบกับใน Session ท้ายๆที่ลง คนลงขี่เยอะทำให้มีคลื่นน้ำเยอะมาก และพอผมล้มบ่อยๆ ร่างกายที่ขี่มาหลาย Session บวกกับคลื่นน้ำ และการที่เราต้องพยายามท้าวตัวขึ้นมาก็ยิ่งทำให้กินแรงขึ้นมาก จนผมเลย ไม่อยากขี่เร็วแล้ว เพราะกลัวล้มหมดแรงอีก
จึงต้องถือเอาเป็นว่า ในวันนี้ ลองขี่วันเดียวได้ก็ ถือว่า OK แล้ว ถ้ามีโอกาสอยากมาลองซ้ำอีกครั้ง เพื่อให้สามารถเข้าโค้งขวา ได้บ้าง และสามารถขี่ได้เร็วขึ้นเผื่อจะได้เก็บภาพเท่ๆ แบบคนอื่นบ้าง
ถ้าเพื่อนๆ ชื่นชอบการขี่รถ Enduro หรือชอบกีฬาแนว Extreme เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ผมอยากให้ลองขี่ SuperJet หรือ เจ็ทสกียืนดูครับ น่าจะเป็นอะไรที่สนุกท้าทาย และใช้พลังร่างกายค่อนข้างเยอะ เนื่องจาก ณ วันที่ผมเขียนคอนเท้นต์ ก็ผ่านมา 5 วันแล้ว ผมยังเจ็บแถวๆ ชายโครงฝั่งซ้าย และศอกทั้ง 2 ข้างอยู่เลย เนื่องจากเป็นจุดที่ผมใช้ท้าวค้ำตัวขึ้นบนเจ็ทนั่นเอง
ขอขอบคุณทางพี่ๆ Thai Yamaha Motors สำหรับกิจกรรมสนุกๆ ก่อนวันสงกรานต์ในครั้งนี้ครับ
และขอบคุณทางทีมครูฝึก วัชระมารีน ที่คอยช่วยสอนและดูแลพวกเราในครั้งนี้ด้วยครับ
อ่านข่าว Yamaha เพิ่มเติมได้ที่นี่
