ยังคงมีประเด็นให้พูดถึงออกมาเรื่อยๆสำหรับกรณี เด็ก 13 ปี ขี่ Kawasaki ZX-10R ด้วยความเร็วสูงบนถนนเปิด จนไม่สามารถหลบหลีกรถมอเตอร์ไซค์ของตายายที่ขี่รถออกมาปาดหน้าได้นั้น ล่าสุดเรามีความคืบหน้าของเหตุการณ์นี้มาอัพเดทให้เพื่อนๆได้ตามกันเพิ่ม นั่นก็คือการที่ทางเจ้าหน้าที่ได้เรียกพบผู้เสียหาย และผู้ปกครองของเด็กคนดังกล่าวเพื่อเตรียมแจ้งข้อหาและดำเนินคดีแล้วเป็นที่เรียบร้อย “ฐานยุยงส่งเสริมให้เด็กกระทำผิด”
โดยจากข้อมูลระบุไว้ว่า เมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม ที่ผ่านมา พันตำรวจโทอนุชิต พนักงานสอบสวน สภ.สันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่ ได้เรียกนายศุภลักษณ์ สุยะนนท์ อายุ 60 ปี และ นางจันทร์สม แก้วพื้น อายุ 63 ปี เข้าให้ปากคำเพิ่มเติม หลังถูกเด็กชายซิ่งรถบิ๊กไบค์พุ่งชนบาดเจ็บ ขณะที่คู่กรณี (เด็ก 13) มีอาการพกช้ำและบาดเจ็บกระดูกข้อเท้าแตก ยังต้องพักรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล จึงไม่สามารถเดินทางมาให้ปากคำได้
แต่หากสอบปากคำทุกฝ่ายเสร็จสิ้น ทางเจ้าหน้าที่ก็เตรียมแจ้ง 4 ข้อหากับเด็กชายที่ขี่บิ๊กไบค์ อันได้แก่
– ฐานขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บ-ทรัพย์สินเสียหาย
– ขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัย
– ขับขี่รถเร็วเกินกว่า 90 กิโลเมตร เกินกว่ากฎหมายกำหนด
– และข้อหาขับขี่รถโดยไม่มีใบอนุญาตขับขี่
ทว่าด้วยความที่ เด็กชายที่ขี่บิ๊กไบค์ มีอายุ 12 ปีเศษ และย่าง 13 ปีบริบูรณ์ในเดือนตุลาคมนี้ จึงทำให้เขายังอยู่ในความคุ้มครองของกฎหมายตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก
ไม่เพียงเท่านั้น หลังจากนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจยังเตรียมเรียกตัว นายสุวิทย์ เทพาขันธ์ อายุ 55 ปี พ่อของเด็กมาสอบปากคำ เพื่อพิจารณาว่า มีส่วนในการสนับสนุน หรือส่งเสริมให้เด็กขี่รถบิ๊กไบค์ จนเกิดอุบัติเหตุ ทำให้ผู้อื่นบาดเจ็บและทรัพย์สินเสียหายหรือไม่ หากเข้าข่าย จะแจ้งข้อหากับผู้ปกครองตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก ทันที ซึ่งเราจะมาอัพเดทให้เพื่อนๆทราบกันอีกครั้งในภายหลังครับ
ขอบคุณข้อมูลจาก Mthai
ขอบคุณภาพจาก Tnews
เพื่อนๆ Bikers สามารถติดตามข่าวสารวงการล้อ ได้ทางแฟนเพจ MotoRival ของเราครับ
