2017 KTM 1290 Super Adventure R, S, T เปลี่ยนหน้าใหม่ เปิดทีเดียว 3 รุ่น :[Intermot2016]

KTM ยักษ์ใหญ่สีส้มผู้มีชื่อเสียงในเรื่องของการสร้างรถมอเตอร์ไซค์แนว Adventure ได้ทำการเปิดตัว 2017 1290-super-adventure รุ่นใหม่พร้อมกันถึง 3 รุ่นด้วยกัน R, S, T ในงาน INTERMOT 2016 ประเทศเยอรมัน

แต่เดิมในช่วงปีที่ผ่านมา สำหรับเจ้า KTM 1290 Adventure นั้นจะมีอยู่เพียงรุ่นเดียวให้เลือกซื้อกัน แต่สำหรับโมเดล 2017 1290-super-adventure นั้นจะมีเพิ่มเข้ามาอีก 2 รุ่นด้วยกันเพื่อแบ่งตามลักษณะความต้องการในการใช้งานของผู้ขับขี่ นั่นก็คือรุ่น R และ S ในขณะที่ตัวมาตรฐานจะต่อท้ายชื่อรุ่นด้วย T แทนรวมเป็น 3 รุ่น

2017 Super Adventure พร้อมการปรับเปลี่ยนรูปแบบหน้าใหม่ ซึ่งดูจะเป็นสไตล์เดียวกับ ภาพ Spyshot 2017 Duke 390 ใหม่ เช่นเดียวกัน

เครื่องยนต์ LC8 1,301cc V-Twin พละกำลังสูงสุด 160 แรงม้า และมีแรงบิดสูงสุด 140 นิวตันเมตรลูกเดิมยังประจำการอยู่เช่นเคย แต่ถูกปรับปรุงระบบไหลเวียนอากาศขาเข้าใหม่ และมีการเคลือบสาร DLC เพื่อให้การตอบสนองต่อคันเร่งแต่ละครั้งมีความนิ่มนวลยิ่งขึ้น

หน้าจอแบบ TFT ขนาด 6.5 นิ้ว ซึ่งสามารถแสดงผลแรงดันลมยางหน้าหลังได้ถูกติดตั้งเข้ามา และมีชุดโคมไฟหน้า LED แบบใหม่ ที่มีจุดเด่นในเรื่องของระบบ Cornering Lights ซึ่งคอยจัดการในเรื่องของแสงให้ส่องไปในทิศทางที่ผู้ขับขี่ต้องการจะเลี้ยวไป โดยอาศัยการทำงานร่วมกับเซนเซอร์วัดองศาการเอียงตัวรถ

ระบบล็อคความเร็ว Cruise Control และระบบ Keyless Ignition ถูกติดตั้งเป็นออพชั่นพื้นฐานในทุกรุ่น ตามด้วยช่องเก็บมือถือกันน้ำพร้อมพอร์ทชาร์จ USB ในตัว
เบาะนั่งถูกออกแบบใหม่ด้วยระบบ 3D ซึ่งช่วยเพิ่มความสะดวกสะบายในการเดินทางไกลที่ดียิ่งขึ้นสำหรับรุ่น T และ S ส่วนรุ่น R เป็นเบาะตอนเดียวที่ออกแบบโดยเทคโนโลยีเดียวกัน แต่เอื้อต่อการยืนขับมากกว่า 2 รุ่นก่อนหน้า และสามารถปรับความสูงเบาะได้ 10 มิลลิเมตรทั้ง 3 รุ่น

คาลิปเปอร์เบรกล่างคู่แบบ Radial Mount 4 ลูกสูบจาก Brembo ทำงานร่วมกับจานเบรกขนาด 320 มิลลิเมตรที่ด้านหน้า ส่วนด้านหลังเป็นแบบจานเดียวขนาด 267 มิลลิเมตร มีระบบ ABS, Combine ABS, Cornering ABS, ระบบรักษาเสถียรภาพ และระบบ Traction Control จาก Bosch คอยช่วยเหลือผู้ขับขี่ในยามคับขัน

ลูกเล่นสำคัญอีกอย่างที่เพิ่มเข้ามานั่นก็คือ โหมดการขับขี่ที่มีอยู่ 4 แบบด้วยกัน ได้แก่ Sport, Street, Rain และอันสุดท้ายคือ Off Rode ที่อณุญาติให้ผู้ขับขี่ปิดระบบ ABS ด้านหลัง และยอมให้ล้อหลังปัดได้อย่างเต็มที่ ในขณะที่ระบบ ABS ที่ล้อหน้าก็จะเอื้อต่อการใช้งานทางฝุ่นมากขึ้น

สำหรับจุดเด่นทั้ง 3 รุ่นนั้นแบ่งออกได้หลักๆดังนี้

2017 1290 Super Adventure T และ S
– วินชิลด์ขนาดใหญ่ปรับระดับได้ และมีแครชบาร์ด้านข้างขนาดกลาง (ในขณะที่รุ่น S เป็นแผ่นการ์ดหม้อน้ำ)
– ระบบกันสะเทือนหน้า USD ขนาดแกน 48 มิลลิเมตร และระบบกันสะเทือนหลังแบบ Monoshock จาก WP พร้อมฟังชั่นก์ Semi-Active Damping หน้า/หลัง
– ระยะยุบ 200 มิลลิเมตร ทั้งโช๊คหน้าและโช๊คหลัง
– ขนาดรอบวงล้อ 19 นิ้ว ที่ด้านหน้าและ 17 นิ้วที่ด้านหลัง รุ่น T เป็นแบบซี่ลวดในขณะที่รุ่น S เป็นแบบอัลลอยด์
– ความจุถังน้ำมัน 30 ลิตร (รุ่น S 23 ลิตร)
– น้ำหนักตัวรถไม่รวมของเหลว 222 กิโลกรัม (รุ่น S หนัก 215 กิโลกรัม)
– ความสูงใต้ท้องรถ 220 มิลลิเมตร

2017 1290 Super Adventure R
– วินชิลด์ขนาดเล็กปรับระดับได้ และมีแครชบาร์ขนาดใหญ่
– เบาะตอนเดียว
– ระบบกันสะเทือนหน้า USD ขนาดแกน 48 มิลลิเมตร และระบบกันสะเทือนหลังมีซับแท๊งค์แยกจาก WP ปรับเซ็ตด้วยตัวเอง
– ระยะยุบ 220 มิลลิเมตร ทั้งโช๊คหน้าและโช๊คหลัง
– ล้อซี่ลวดรัดด้วยยางหนาม ขนาดรอบวงล้อ 21 นิ้ว หน้ากว้าง 90/90 ที่ล้อหน้า และ 18 นิ้ว หน้ากว้าง 150/70 ที่ล้อหลัง
– ความจุถังน้ำมัน 23 ลิตร
– น้ำหนักตัวรถไม่รวมของเหลว 217 กิโลกรัม
– ความสูงใต้ท้องรถ 250 มิลลิเมตร