ในที่สุดก็เข้าสู่ช่วงเวลาสุดท้ายของการทำตลาดซักทีสำหรับ Ducati Panigale ว่าที่ซุปเปอร์ไบค์สองสูบรุ่นสุดท้ายของค่ายแดงอิตาลีที่ล่าสุดพวกเค้าได้ทำการเปิดตัวเวอร์ชั่นพิเศษ “Final Edition” เป็นที่เรียบร้อย
อย่างไรก็ตามด้วยความที่มันเป็นเวอร์ชั่นสั่งลาของรุ่น ทำให้หลายคนต่างสงสัยว่าแล้วเจ้า 1299 Panigale R “Final Edition” จะมีความแตกต่างจาก 1299 (Panigale) “Superleggera” ที่ได้ชื่อว่าเป็นที่สุดของตระกูลมากแค่ไหน
ดังนั้น เราจึงขอจัดแบ่งข้อแตกต่างหลักๆทั้งหมด 5 ข้อด้วยกัน เพื่อให้เพื่อนๆสามารถเห็นภาพและทำความเข้าใจได้แจ่มแจ้งยิ่งขึ้น แต่จะมีอะไรบ้างนั้นมาเริ่มกันเลยครับ
– เครื่องยนต์
ในส่วนของเครื่องยนต์แม้ว่าในรุ่น Final Edition จะได้ชื่อขั้นต้นว่ามีพื้นฐานตัวรถจาก 1199 Panigale R แต่มันก็ได้รับการปรับปรุงใส้ในแทบทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นแครงก์ชาฟท์น้ำหนักเบา, บาลานเซอร์ทังสเตน, คลัชท์, วาล์วไอดี/ไอเสีย, และท่อไอเสียไทเทเนียมจาก Akraprovic แบบเดียวกับที่ใช้ในตัวแข่งของ Chaz Davies จากรายการ WSBK แบบเดียวกับที่ติดตั้งใน 1299 Supperleggera (แต่แน่นอว่ามันถูกปรับปรุงใส้ในนิดหน่อยให้ผ่านมาตรฐานไอเสีย Euro4)
นอกจากนี้ตัวน็อตที่ใช้ยึดส่วนประกอบต่างๆของตัวเครื่องก็จะกลับไปใช้วัสดุเดียวกับ Panigale R แม้กระทั่งปลอกสูบก็เช่นกัน พร้อมดรอปพละกำลังลงให้เหลือเพียง 209 แรงม้า และแรงบิด 142.1 นิวตันเมตร ซึ่งในรุ่น Superleggera จะใช้น็อตไทเทเนียมและปลอกสูบอลูมิเนียมน้ำหนักเบา และมีพละกำลัง 215 แรงม้า กับ แรงบิด 146.4 นิวตันเมตร
– แชสซีส์หรือโครงสร้างตัวรถ
ด้วยความที่แต่เดิมในรุ่น Superlegera จะเน้นไปที่การรีดน้ำหนักอยู่แล้วทำให้ โครงรถ, สวิงอาร์ม, ชุดล้อหน้า/หลัง ทำจากวัสดุคาร์บอนทั้งหมด จนส่งผลให้มีน้ำหนักรวมของเหลวอยู่ที่ 178 กิโลกรัมเท่านั้น แต่ในส่วนของ Final Edition จะยังคงใช้เฟรมและล้ออลูมิเนียมฟอร์จแบบเดียวกับ Panigale R ส่งผลให้มันมีน้ำหนักรวมที่ 190 กิโลกรัม
– ระบบกันสะเทือน
แม้จะใช้แบรนด์ Ohlins เหมือนกันทั้งสองคัน แต่มันก็ได้รับการติดตั้งกระบอกโช้กหน้าต่างรุ่น โดยในส่วนของ Final Edition จะได้รับโช้กหน้ารุ่น NIX30 ขนาดแกน 43 มิลลิเมตร (แบบเดียวกับ Panigale R) แต่ทางด้านของ Superleggera เลือกใช้รุ่น FL936 ขนาดแกน 43 มิลลิเมตรเช่นกัน แต่มีจุดเด่นที่ความเบาทั้งชุดและระบบภายในที่ดีกว่านั่นเอง
– จำนวนการผลิต
อย่างที่ทราบกันดีว่าทาง Ducati เลือกที่จะจำกัดจำนวนการผลิตของ 1299 Superleggera ไว้ที่ 500 คันเท่านั้น (แถมในตอนนี้โควต้าก็เต็มแล้วด้วย) แต่ในรุ่นของ 1299 Panigale R “Final Edition” ที่แม้ว่ามันจะมีการรันลำดับในการผลิตเพื่อประทับตัวเลขลงบนแผงคอก็ตาม แต่มันก็ไม่ได้ถูกจำกัดจำนวนการผลิตแต่อย่างใด นั่นจึงหมายความว่าลูกค้าไม่จำเป็นต้องรีบแย่งคิวกันแต่อย่างใด เพราะยังไงทาง Ducati ก็ผลิตให้ทุกคนจนกว่าจะถึงเวลายกเลิกสายการผลิต
– ราคา
สำหรับตัวเลขราคาที่เปิดตัวเราขอเลือกเปรียบเทียบราคาแบบไม่รวมภาษีเนื่องจากเราไม่มีตัวเลขราคาสำหรับจำหน่ายในไทยของ 1299 Panigale R “Final Edition” โดยตัวเลขที่ราคาสำหรับรุ่นนี้ก็คือ 34,995 ยูโร หรือราวๆ 1,540,000 บาท ส่วนในรุ่น 1299 Superleggera ทาง Ducati ได้ตั้งไว้สูงถึง 72,000 ยูโร หรือราวๆ 3,166,000 บาท ซึ่งถือเป็น 2 เท่าของรุ่นพิเศษคันล่าสุดเลยทีเดียว
อ่านข่าว Ducati เพิ่มเติมได้ที่นี่
เพื่อนๆ Bikers สามารถติดตามข่าวสารวงการล้อ ได้ทางแฟนเพจ MotoRival ของเราครับ