“ก้อง” สมเกียรติ จันทรา ไม่เพียงแค่เป็นนักแข่งที่สร้างประวัติศาสตร์ แต่เขายังเป็นแรงบันดาลใจให้กับเด็กรุ่นใหม่ที่ฝันอยากจะเป็นนักแข่งรถมืออาชีพ
“หากคุณมีความฝัน จงอย่าหวั่นไหวและอย่ายอมแพ้ ผมเองก็เริ่มจากศูนย์เหมือนทุกคน สิ่งสำคัญคือคุณต้องมุ่งมั่น ฝึกซ้อม และเชื่อมั่นในตัวเอง” สมเกียรติ กล่าวถึงแนวคิดการเป็นนักกีฬาระดับโลก

นักแข่งสายเลือดไทยเจ้าของฉายา “คิงคองก้อง” คนไทยคนแรกที่ได้ลงทำการแข่งขันมอเตอร์ไซค์ทางเรียบชิงแชมป์โลก ในคลาสสูงสุดอย่างศึกโมโตจีพี ภายใต้สังกัด Idemitsu Honda LCR ผู้กลายเป็น “ฮีโร่” ตัวอย่างส่งต่อแรงบันดาลใจของการทำความฝันให้เป็นจริงได้ ให้แก่เยาวชนหลายคนที่มีความฝันจะเป็นนักแข่งรถจักรยานยนต์อาชีพในเส้นทางระดับโลก

แต่กว่าจะมีวันนี้ได้ต้องมีองค์ประกอบต่างๆ มากมาย ความสำเร็จของนักกีฬาคนๆ หนึ่ง เบื้องหลังยังมีหลายภาคส่วนรวมกันสนับสนุนผลักดัน ซึ่งวันนี้เราจะมาอธิบายให้ทุกคนฟังกันว่า การที่จะมีคนไทยสักคนไปอยู่ใน MotoGP ได้นั้นไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะนอกจากความสามารถส่วนบุคคลของนักแข่งคนนึงต้องโดดเด่นเป็นที่ประจักษ์แล้ว ยังต้องใช้การสนับสนุนในระดับประเทศอย่างต่อเนื่องนานหลายปี เรื่องนี้จึงจะเกิดขึ้นได้

“สมเกียรติ จันทรา” หรือ “ก้อง” เกิดเมื่อวันที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2541 ที่เมืองพัทยา มีความหลงไหลในความเร็วตั้งแต่เด็กๆ โดยเฉพาะกับการแข่งรถจักรยานยนต์ เดินหน้าพัฒนาทักษะการเป็นนักแข่งกับทาง Honda Racing School หรือปัจจุบันก็คือ Honda Academy Thailand และมุ่งมั่นพัฒนาเก็บผลงานในระดับประเทศได้มากมาย

ถ้าเราย้อนกลับไปในช่วงปี 2013 “ก้อง” ได้เข้าร่วมการคัดเลือกในรายการ Asia Talent Cup ที่ประเทศมาเลเซีย และสามารถผ่านการคัดเลือกมาได้ จากนักแข่งทั้งหมดกว่า 600 คน จากทั่วทวีปเอเชีย และทำให้ในปี 2014 เขาได้เป็นนักแข่งในรายการแข่งขันระดับเอเชียอย่าง Asia Talent Cup พร้อมทำผลงานพัฒนาการได้อย่างต่อเนื่อง จนสามารถคว้าแชมป์รายการนี้ได้สำเร็จในฤดูกาล 2016 ก่อนที่จะข้ามทวีปไปลุยต่อในรายการ CEV Moto3 Junior World Championship ซึ่งเป็นรายการที่นักแข่งระดับโลกหลายคนล้วนเคยผ่านมาแล้ว

และแล้วโอกาสทองก็มาถึงในปี 2018 เมื่อได้มีโอกาสไปแข่งขันในรายการระดับโลกเป็นครั้งแรกในรุ่น Moto3 ในฐานะนักแข่ง Wildcard ที่สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต พร้อมกับทำผลงานอันน่าทึ่งได้ในโฮมเรซ ด้วยการจบการแข่งขันในอันดับที่ 9 ทั้งที่เป็นการแข่งขันครั้งแรกของเจ้าตัว

ขณะเดียวกันในตอนนั้นก็มีนักแข่งชาวไทยอีกคนจากสังกัดปีกนกอย่าง “ชิพ” นครินทร์ อธิรัฐภูวภัทร์ ลงแข่งใน Moto3 แบบเต็มฤดูกาลอยู่ด้วยเช่นกัน ซึ่งในเวลาต่อมาชิพก็ได้เติบโตไปในรายการรถสายโปรดักชั่นอย่าง Asia Road Racing Championship ผลงานจบฤดูกาล 2023 ด้วยอันดับ 3 ในรุ่นกลาง (SS600) และอันดับ 4 ในรุ่นใหญ่ (ASB1000) ในฤดูกาล 2024 รวมผลงาน 6 Wins 13 Podium และเป็นคนไทยคนแรกที่ครองแชมป์ MSBK 1000 cc และล่าสุดในฤดูกาล 2025 ครองดับเบิ้ลแชมป์ Asia Road Racing Championship ในรุ่นใหญ่สุด (ASB1000) ในสนามเปิดฤดูกาลโฮมเรซ ที่ จ.บุรีรัมย์

โดย ”ก้อง” ที่ทำผลงานโดดเด่นด้วยสิทธิ์ Wildcard ก็ถูกดึงตัวขึ้นไปแข่งในรุ่น Moto2 ร่วมกับทีม Idemitsu Honda Team Asia ซึ่งในรายการนี้เองที่ “ก้อง” ได้เฉิดฉายแสดงให้เราได้เห็นอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการเก็บคะแนนได้ตั้งแต่ฤดูกาลแรก และสามารถจารึกประวัติศาสตร์ให้วงการกีฬามอเตอร์สปอร์ตไทยบนโพเดียมแชมป์ด้วยการคว้าชัยชนะแรกของชาวไทยในการแข่งขันรายการ IndonesianGP 2022 และตามมาด้วย JapaneseGP 2023 ที่ โชว์ฟอร์มระดับโลกคว้าโพลโพซิชั่น โดยทำเวลาต่อรอบบันทึกสถิติสนามใหม่ที่สนามโมเตกิ ประเทศญี่ปุ่น ด้วยเวลา 1.49.898 นาที สร้างผลงานนักแข่งไทยให้เป็นที่ประจักษ์แก่สายตาชาวโลก

และก้าวครั้งใหญ่ของนักแข่งไทยและคนไทยก็มาถึง เมื่อความฝันเป็นจริงด้วยความสำเร็จของโครงการ Honda Race to The Dream “ก้อง” ถูกเลือกให้ขึ้นมาแข่งขันในรุ่น MotoGP ร่วมกับทีม Idemitsu Honda LCR แทนที่ตำแหน่งของรุ่นพี่ผู้มากประสบการณ์ Takaaki Nakagami ที่ผันตัวไปเป็นนักทดสอบแบบเต็มตัว ซึ่งตรงนี้อาจจจะทำให้หลายคนตั้งคำถามกับความสามารถของ “ก้อง” แต่เราบอกได้เลยว่าผลงานของ “ก้อง” นั้นอยู่ในระดับที่เหมาะสมที่จะขึ้นมารุ่นใหญ่แล้ว เนื่องจากสามารถทำผลงานภาพรวมประจำฤดูกาลใน Moto2 ดีที่สุดในอันดับที่ 6 ซึ่งเทียบเท่ากับผลงานที่ดีที่สุดของพี่นาค แถมยังคว้าแชมป์สนามมาได้ 2 ครั้ง เทียบเท่ากันอีกต่างหาก

เป็นความภูมิใจที่เราได้เห็นนักกีฬาไทยเป็น 1 ใน 22 คนบนเวทีของนักกีฬาระดับโลกแล้ว “ก้อง” จึงเป็น “ฮีโร่” ที่จับต้องได้จริง นอกจากการสร้างประวัติศาสตร์และชื่อเสียงให้แก่ประเทศ ยังคงเป็นตัวอย่างของคนที่มีความฝันและทำความฝันนั้นได้สำเร็จ ที่เกิดขึ้นมาจากการมีวินัย ความมุ่งมั่น การฝึกซ้อม และการได้รับการผลักดันพร้อมกำลังสนับสนุนอย่างเต็มที่ เพื่อเป้าหมายที่ฝันไว้ และยังช่วยส่งต่อแรงบันดาลใจพร้อมการบุกเบิกเส้นทางความฝันให้แก่น้องๆ ที่มีความฝันจะเป็นนักแข่งรถจักรยานยนต์อาชีพในเส้นทางระดับโลก เหมือนกับที่เราเห็นนักแข่งจากสเปนหรืออิตาลี ที่กว่าจะสามารถครองกริดสตาร์ตได้เต็มทุกรุ่นในทุกวันนี้ ก็เกิดจากการดันนักแข่งรุ่นใหม่เพื่อมาบุกเบิกเส้นทางก่อนนั่นเอง

ถึงแม้ว่า “ก้อง” สมเกียรติ จันทรา จะเป็นจุดสูงสุดในประวัติศาสตร์มอเตอร์สปอร์ตชาวไทยในตอนนี้ แต่การมาถึงตรงนี้จะยังไม่ใช่ปลายทางแต่อย่างใด สิ่งที่พวกเราต้องรอและติดตาม คือ การส่งกำลังใจให้นักแข่งไทยสู้ได้บนเวทีระดับโลก และร่วมกันที่จะมีความฝันที่จะได้เห็นนักบิดล่าฝันคนต่อไป The Next Successor To Become The World-Class Rider ให้สำเร็จในอนาคต
อ่านข่าวสาร MotoGP เพิ่มเติมได้ที่นี่
อ่านข่าวสาร Honda เพิ่มเติมได้ที่นี่