
รัฐบาลประกาศปรับขึ้น ภาษีน้ำมัน หลายรายการ โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 6 พฤษภาคม 2568 เป็นต้นไป ซึ่งเป็นมาตรการเพื่อเพิ่มรายได้ของรัฐให้สอดคล้องกับนโยบายสนับสนุนรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ที่ส่งผลให้รายได้จากภาษีรถยนต์ลดลง
ขึ้นภาษีน้ำมัน เพิ่มรายได้รัฐเดือนละ 2,900 ล้านบาท
กรมสรรพสามิตเผยว่า การขึ้นภาษีน้ำมันครั้งนี้จะช่วยเพิ่มรายได้รัฐราว 2,900 ล้านบาทต่อเดือน โดยยังคงยืนยันว่าประชาชนจะไม่ได้รับผลกระทบในด้านราคาขายปลีก เพราะมีการปรับลดเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเพื่อชดเชยภาษีที่เพิ่มขึ้น
รายละเอียดอัตราภาษีน้ำมันใหม่ (บาท/ลิตร):
- เบนซิน 95: จาก 6.50 → 7.50 (+1.00)
- แก๊สโซฮอล์ 95 (E10): จาก 5.85 → 6.75 (+0.90)
- แก๊สโซฮอล์ 91 (E10): จาก 5.85 → 6.75 (+0.90)
- E20: จาก 5.20 → 6.00 (+0.80)
- E85: จาก 0.975 → 1.125 (+0.15)
- ดีเซล: จาก 5.99 → 6.92 (+0.93)
ขึ้นภาษีน้ำมัน แต่ไม่ขึ้นราคาขายปลีก
แม้มีการปรับอัตราภาษีน้ำมันเพิ่มขึ้น แต่ภาครัฐได้ออกมาตรการควบคุมราคาขายปลีกไม่ให้ปรับขึ้นตาม เพื่อบรรเทาผลกระทบต่อประชาชนในระยะสั้น ซึ่งสะท้อนถึงความพยายามในการรักษาสมดุลระหว่างรายได้ภาครัฐกับภาระค่าครองชีพของประชาชน
สรุป:
การปรับขึ้น ภาษีน้ำมัน 2568 นี้ เป็นส่วนหนึ่งของการจัดโครงสร้างรายได้ใหม่ของรัฐ รองรับการเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานสะอาด โดยยังคงตรึงราคาน้ำมันหน้าปั๊มให้ใกล้เคียงเดิม เพื่อไม่ให้กระทบค่าครองชีพของประชาชนในช่วงนี้