หลังจากการกลับมาอีกครั้งของซุปเปอร์ไบค์ค่ายคนบ้าอย่าง Suzuki GSX-R1000R เราก็นึกขึ้นได้ว่าตอนนี้รถมอเตอร์ไซค์ Superbike ที่เป็นจุดสูงสุดของเทคโนโลยีสองล้อ จากค่ายญี่ปุุ่น กลับมาวางจำหน่ายแบบพร้อมหน้ากันอีกครั้ง หลังจากขาดช่วงไปหลายปี และถึงแม้ว่าค่ายรถญี่ปุ่นจะมีอยู่แค่ 4 ค่าย แต่เรามีรถมาให้ทุกคนดูถึง 5 รุ่นเลย!

Honda CBR1000RR-R SP ถ้าเราต้องนึกถึงรถซุปเปอร์ไบค์จากญี่ปุ่น พวกเราส่วนใหญ่ก็น่าจะนึกถึงรถคันนี้กันก่อนเป็นอันดับแรก ๆ มันถือเป็นตัวแทนของจิตวิญญาณสายสนาม สำหรับคนธรรมดาบนท้องถนน มาพร้อมกับฉายาที่เป็นตำนานอย่าง Fireblade และถือเป็นรถไม่กี่คันในลิสต์นี้ ที่ยังคงจำหน่ายในวงกว้าง ครอบคลุมหลายตลาดทั่วโลก
มาพร้อมเครื่องยนต์แบบ 4 สูบเรียง 999.9 ซีซี ให้พละกำลังสูงสุด 217.5 Hp ที่ 14,000 รอบต่อนาที และแรงบิดสูงสุด 113 Nm ที่ 12,000 รอบต่อนาที น้ำหนักตัวรถแบบรวมของเหลว 201 กิโลกรัม มาพร้อมเทคโนโลยีสูงสุดของยุคสมัย และปีกวิงเล็ทชุดใหม่ ตัวรุ่นโฉมนี้จะมีแค่รุ่นท็อปรหัส SP ที่มาพร้อมเบรก Brembo และโช้ค Ohlins เท่านั้น ไม่มีรุ่นมาตรฐาน

Yamaha YZF-R1 และ YZF-R1M รถมอเตอร์ไซค์ซุปเปอร์ไบค์เพียงรุ่นเดียวของญี่ปุ่น และของโลก ที่มาพร้อมเพลาข้อเหวี่ยงแบบ Crossplane Crankshaft ทำให้แม้จะมีเครื่องยนต์แบบ 4 สูบเรียง แต่ก็มีเอกลักษณ์การให้กำลัง และซุ่มเสียงคล้ายเครื่องสูบวี ปริมาตรกระบอกสูบ 998 ซีซี พละกำลังสูงสุด 200 Hp ที่ 13,500 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 113 Nm ที่ 11,500 รอบต่อนาที
ตัวรถรุ่นใหม่ล่าสุดนั้นจะทำการติดตั้งชุดปีกวิงเล็ทใหม่มาให้ แต่หน้าตาภายนอกส่วนอื่นไม่ต่างจากเดิม พร้อมรุ่นย่อยอย่าง R1M ที่จะติดตั้งโช้คไฟฟ้าจาก Ohlins และแฟริ่งคาร์บอนไฟเบอร์รอบคัน แต่น่าเสียดายที่รถสำหรับใช้งานบนถนนสารธารณะ จะถูกวางจำหน่ายแค่ในอเมริกาเหนือ เนื่องจากมันไม่ผ่านมาตรฐานไอเสียในส่วนอื่นของโลก

Suzuki GSX-R1000R ถือเป็นการกลับมาอีกครั้งของพี่ใหญ่สายสนามจากค่ายคนบ้า หลังจากที่พวกเขาเคยหยุดสายการผลิตรถรุ่นนี้ไปช่วงหนึ่ง เครื่องยนต์ 4 สูบเรียง 999 ซีซี พร้อมวาล์วแปรผัน ลูกเดิมที่ได้รับการอัพเกรดใหม่ชุดใหญ่ เพื่อให้ผ่านมาตรฐานไอเสีย EURO5+ แต่นั่นก็ทำให้พละกำลังของมันลดลงเหลือ 192 Hp ที่ 13,200 รอบต่อนาที และแรงบิด 110 Nm ที่ 11,000 รอบต่อนาที
แต่ด้วยความที่ตลาดของรถซุปเปอร์ไบค์ยุคใหม่มีขนาดไม่ใหญ่นัก ทำให้การกลับมาในครั้งนี้ มันยังคงมีรายละเอียดส่วนใหญ่ เหมือนกับรถรุ่นเดิม ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของหน้าตา ระบบอิเล็กทรอนิกส์ หน้าจอแบบดิจิตอล LCD และไม่มีล้ำสมัยอย่าง IMU เหมือนคู่แข่ง ความเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนที่สุดจึงอยู่ที่ท่อไอเสีย และ Winglet ชุดใหม่ ค่ายคนบ้าจึงเลือกที่จะชูจุดเด่นเรื่องความทนทาน และความเรียบง่ายในการปรับแต่งแทน

Kawasaki ZX-10R และ ZX-10RR มาถึงตาของค่ายเขียวกันบ้าง นี่ก็เป็นซุปเปอร์ไบค์อีกคันจากญี่ปุ่นที่วางจำหน่ายครอบคลุมทั่วโลก แบบต่อเนื่องมาตลอดไม่ขาดช่วง แต่อาจจะถูกลากขายโฉมเดิมมานานกว่าคู่แข่ง และถูกปรับปรุงสเปคไม่บ่อยนัก จะเห็นได้ว่ามันเป็นรุ่นเดียวในนี้ที่ยังไม่มี Winglet ขนาดใหญ่กับเขา แต่เรื่องเทคโนโลยีภายในก็ถือว่าไม่แพ้ใคร
มาพร้อมเครื่องยนต์แบบ 4 สูบเรียง ปริมาตรกระบอกสูบ 998 ซีซี พละกำลังสูงสุด 203 Hp ที่ 13,200 รอบต่อนาที และแรงขึ้นเป็น 213 Hp เมื่อใช้แรมแอร์ แรงบิดสูงสุด 114.9 Nm ที่ 11,400 รอบต่อนาที ถือเป็นเครื่องยนต์ที่มีแรงบิดสูงที่สุด และมาเร็วที่สุดในลิสต์นี้ โดยในรุ่นท็อปอย่าง ZX-10RR จะมาพร้อมปากแตรแปรผัน, ก้านสูบไทเทเนียม, ล้ออลูมิเนียมฟอร์จ

Bimota KB998 Rimini และแล้วก็มาถึงรถตัวแถมของเรา ซึ่งถึงแม่ว่า Bimota จะเป็นค่ายรถสุดนีชจากอิตาลี แต่ด้วยความที่มันถูกควบคุมกิจการโดย Kawasaki นั่นก็ทำให้มันเลือกใช้เครื่องยนต์ที่ยกมาจาก ZX-10RR แต่ถูกจูนใหม่จนมีพละกำลังลดลงเล็กน้อยเหลือ 200 Hp ที่ 13,600 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 111 Nm ที่ 11,700 รอบต่อนาที
แต่นอกจากเครื่องยนต์ ระบบไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ ทุกอย่างในรถคันนี้ก็ถือว่าเป็นของใหม่ที่พัฒนาขึ้นในอิตาลีทั้งหมด ชุดเฟรมเปลี่ยนเป็นแบบเหล็กท่อวงรี ผสมกับอลูมิเนียม CNC เช่นเดียวกับสวิงอาร์มและเฟรมท้ายที่เปลี่ยนใหม่ แฟริ่งรอบคันเปลี่ยนเป็นคาร์บอนไฟเบอร์ มีการติดตั้งชุดปีก Winglet ที่ปรับองศาเองได้ด้วยไฟฟ้า ผลิตในจำนวนจำกัดแค่ 500 คัน แบบเอาแค่พอผ่านกติกา WSBK
อ่านข่าวสาร Honda เพิ่มเติมได้ที่นี่
อ่านข่าวสาร Yamaha เพิ่มเติมได้ที่นี่
อ่านข่าวสาร Suzuki เพิ่มเติมได้ที่นี่
อ่านข่าวสาร Kawasaki เพิ่มเติมได้ที่นี่
อ่านข่าวสาร Bimota เพิ่มเติมได้ที่นี่