“Counter Steering” ถือเป็นเทคนิคการควบคุมรถมอตเตอร์ไซค์อีกรูปแบบหนึ่งซึ่งถือเป็นเรื่องพื้นฐาน ที่ผู้ใช้รถมอเตอร์ไซค์ควรรู้อย่างมาก เพราะมันช่วยให้การขับขี่ยานพาหนะคู่ใจมีความคล่องตัวขึ้นมากโดยเฉพาะอย่างยิ่งในจังหวะที่ต้องพลิกเลี้ยว หรือซอกแซกด้วยความฉับไว แต่มันช่วยได้ยังไง ? เรามาไขข้อสงสัยกันเลยครับ “Counter Steering” หรือแปลแบบไทยๆ คือ “การหักเลี้ยวแบบสวนทิศทางที่ต้องการไปก่อนเข้าโค้ง” เทคนิคนี้เกิดขึ้นโดยอาศัยหลักการของ ไจโร และ โมเมนตัม ที่ว่าด้วย “วัตถุวงกลม จะพยายามรักษาสภาพการเคลื่อนที่ไว้เสมอตราบใดที่ยังมีแรงเคลื่อนที่อยู่” เช่น ล้อรถ ที่หมุนไปทางด้านหน้าในแนวตรงตั้งฉากกับพื้นโลก หากเรายังคงเติมคันเร่งให้มันหมุนต่อไปเรื่อยๆ มันก็จะยังคงรักษาสภาพการเคลื่อนที่เช่นนี้ของมันไว้เสมอ แน่นอนว่า เมื่อถึงเวลาที่ต้องเอียงรถเลี้ยว หากเรายังคงเติมคันเร่งต่อไป หรือพยายามกดล้อให้เอียงลงเร็วเกินไป ตัวล้อก็จะพยายามขืนกลับมาตั้งตรงให้ได้เช่นกัน เราจึงพบว่าในการพยายามหักแฮนด์เพื่อเลี้ยวในจังหวะแรกๆ ผู้ขี่ก็จะรู้สึกว่าล้อหน้ามันมีอาการดื้อหรือดึงขืนไม่ยอมเลี้ยวลงไปเสมอ ซึ่งในรถมอเตอร์ไซค์ขนาดเล็กที่มีน้ำหนักไม่มาก และล้อก็เป็นขนาดเล็กรัดด้วยยางไซส์เล็ก ผู้ขี่อาจจะไม่รู้สึกถึงแรงต้านตรงนี้เท่าไหร่ แต่ถ้าเป็นรถใหญ่เมื่อไหร่ ก็จะรู้สึกถึงแรงตรงนี้มากกว่าอย่างชัดเจน (แต่จริงๆแรงไจโรที่ว่านี้ จะเกิดขึ้นมากน้อย ก็ขึ้นอยู่กับการเซ็ทอัพช่วงล่าง หรือการออกแบบของตัวรถด้วยว่าจัดสมดุลมาแบบไหน) เพราะฉะนั้น เพื่อแก้ทางหรืออาการดื้อของล้อหน้าตรงนี้ การหักแฮนด์เลี้ยวสวนทางก่อนจะพลิกแฮนด์กลับเข้าไปในทิศทางปกติจึงช่วยให้รถสามารถพลิกเลี้ยวขึ้นแทนในทันที เนื่องจากเราจะอาศัยแรงขืนของล้อให้เป็นประโยชน์แทน เช่น ในเมื่อถ้าหากเราต้องการเลี้ยวซ้ายแบบปกติ แต่ล้อก็จะพยายามดึงกลับมาขวา งั้น…
Author: admin
ด้วยกระแสการพัฒนารถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าให้ตอบโจทย์กับนโยบายของภาครัฐที่ให้ความสำคัญเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมของโลกมากขึ้น MV Agusta เองก็เริ่มออกมาแสดงความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับการผลิตภัณฑ์พลังงานทางเลือก(ที่กำลังจะเป็นพลังงานหลัก)ด้วยเช่นกัน หลังจากที่ปล่อยให้ผู้ผลิตค่ายอื่นๆเดินหน้าโปรเจ้กท์นี้มานานนับสิบปี เกี่ยวกับเรื่องนี้ ก็ยังคงเป็นข้อมูลจาก CEO คนล่าสุดของ MV Agusta อย่าง Timur Sadarov เช่นเคย ที่ได้ออกมาให้สัมภาษณ์กับสื่อ MCN เอาไว้ว่า “เราจะเริ่มการพัฒนาเกี่ยวกับผลิตภันฑ์ไฟฟ้าในปีหน้าเป้นต้นไป, แต่มันยังมีอีกหลายสิ่งที่เราต้องเรียนรู้ถึงจะไปสู่จุดนั้นได้”, “จากงานวิจัยของเรา, รถมอเตอร์ไซค์สมรรถนะสูงยังคงเป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่เราต้องทำต่อไปอย่างน้อยก็ห้าถึงเจ็ดปีก่อนที่จะเปิดตัวบางสิ่งที่เข้ากับ DNA ของแบรนด์เรา, สมรรถนะ, น้ำหนัก, และพละกำลัง” และแม้ว่าจะยังไม่ได้เริ่มขั้นตอนการสร้างและเริ่มงานออกแบบรวมถึงกำหนดประเภทของโปรเจ็กท์(มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า)ที่จะเปิดตัวในอนาคต แต่ Sadarov ก็ยืนยันว่าเราจะได้เห็นรถมอเตอร์ไซค์คันแรกจากโรปเจ็กท์นี้ในอีกห้าถึงหกปีนับจากนี้ แต่มันจะเกิดขึ้นได้เร็วขนาดนั้นเชียวหรือ สำหรับบริษัทที่ไม่เคยพัฒนาหรือสร้างรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้ามาก่อน ? “เรามีความรู้ทางด้านวิศวกรรมมากมาย และ MV Agusta ก็มีวิศวกรที่เก่งที่สุดของสายงานนี้มากที่สุด”, “กว่า 25% ของบุคลากรที่เรามีจะเป็นส่วนหนึ่งของการวิจัยและพัฒนา(โปรเจ็กท์มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า), ซึ่งไม่มีบริษัทไหนทำแบบนี้” อ่านข่าว MV Agusta เพิ่มเติมได้ที่นี่
ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ ตอกย้ำแนวทางผลักดันนักบิดไทยสู่เวทีระดับโลก พร้อมส่ง “เคเค” เขมินท์ คูโบะ #9 ดาวบิดสายเลือดไทย ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของศึกโมโตทู ในเกมสนาม 7 ของฤดูกาล ที่ เซอร์กิต เดอ บาร์เซโลน่า-คาตาลุนญ่า ประเทศสเปน ในช่วงต้นเดือนมิถุนายน มร.ทัตสึยะ โนซากิ ประธานกรรมการบริหาร พร้อมด้วยผู้บริหารระดับสูง บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด ถ่ายภาพร่วมกับ “เคเค” เขมินท์ คูโบะ #9 (คนซ้าย) นักแข่งดาวรุ่งสังกัด ยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่งทีม ที่บินไปเตรียมความพร้อมก่อนลงทำการแข่งขันในศึกซีอีวี โมโตทู ยูโรเปี้ยน แชมเปี้ยนชิพ ภายใต้สังกัด THE MASTER CAMP ของแชมป์โลก 9 สมัย วาเลนติโน รอสซี่ โดยในปีนี้ ไทยยามาฮ่ามอเตอร์…
โทนี โบ ยอดนักบิดสแปนิช แชมป์โลกรถจักรยานยนต์ เอ็กซ์-ไทรอัล คนล่าสุด สังกัดทีมแข่งเรปโซล ฮอนด้า ขับขี่ All New Honda Africa Twin CRF1100L ทดสอบเพอร์ฟอร์แมนซ์ความแข็งแกร่งในสไตล์สองล้อผาดโผน โชว์สมรรถนะและเทคโนโลยีอันยอดเยี่ยมของสุดยอดแอดเวนเจอร์ไบค์สายพันธุ์แชมป์ เจ้าของฉายา “ราชันย์แห่งทะเลทราย” ที่ไม่มีใครคาดคิดว่าจะทำได้ พร้อมโพสภาพและวีดีโอบนโลกออนไลน์ สร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับสาวกสายลุย ในช่วงเตรียมความพร้อมก่อนเปิดศึกการแข่งขันฤดูกาล 2021 ทั้งนี้ แฟนคลับทีมแข่งฮอนด้าสามารถชมคลิปดังกล่าวได้ที่ https://fb.watch/5i34iNxbCe/ รวมถึงติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมของ All New Honda Africa Twin CRF1100L ได้ที่เว็บไซต์ : www.hondabigbike.com เฟซบุ๊กแฟนเพจฮอนด้าบิ๊กไบค์ : fb.com/hondabigbikeTH และอินสตราแกรม : hondabigbike อ่านรีวิว Honda Africa Twin CRF1100L เพิ่มเติมได้ที่นี่ อ่านข่าว…
ขณะที่ข่าวลือเกี่ยวกับ Yamaha YZF-R7 ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ถูกใครหลายคนตราหน้าว่ามันเป็นเพียงข่าวลวง แต่ล่าสุดทาง Yamaha EU กลับมาการปล่อยทีเซอร์รถมอเตอร์ไซค์รุ่นใหม่ของพวกเขาออกมา ซึ่งคลับคล้ายคลับคลาว่านี่อาจเป็นสัญญาณการมาของเจ้า “R7” ที่ว่าจริง เกี่ยวกับเรื่องนี้ เป็นข้อมูลจากแหล่งต้นทางที่ไม่ได้มีความซับซ้อนเท่าไหร่นัก เพราะมันคือข้อมูลที่อิงจากคลิปทีเซอร์รถมอเตอร์ไซค์รุ่นใหม่ของทาง Yamaha EU ชื่อว่า “T ที่พึ่งมีการปล่อยคลิปดังกล่าวบนช่องทางยูทูปเมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ซึ่งแม้ในคลิปดังกล่าวจะไม่ได้มีการบรรยายข้อมูลเกี่ยวกับตัวรถใดๆเท่าไหร่นัก แต่เราจะเห็นได้ค่อนข้างชัดเจนว่านี่คือรถมอเตอร์ไซค์รุ่นใหม่ของค่ายส้อมเสียงที่ออกแบบมาให้ตอบโจทย์การใช้งานทั้งในสนามแข่ง และบนถนนสาธารณะ ตามชื่อคลิป “Track. Street. R/World.” ก่อนที่จะปิดท้ายคลิปด้วยการเฉลยว่านี่คือคลิปทีเซอร์ของรถมอเตอร์ไซค์ตระกูล R-Series รุ่นใหม่ที่พวกเขาจะเปิดตัวในเร็วๆนี้ แต่จุดสำคัญของคลิป ไม่ได้มีแค่ว่านี่คือรถมอเตอร์ไซค์ตระกูล R-Series รุ่นใหม่ที่ Yamaha จะเปิดตัวในเร็วๆนี้เท่านั้น เพราะประเด็นหลักคือเสียงเครื่องยนต์ที่ดังออกมาในช่วงท้ายคลิป ดันฟังเหมือนเป็นเสียงขุมกำลัง Crossplane 2 เสียอย่างนั้น และในตอนนี้มีรถมอเตอร์ไซค์ของค่ายส้อมเสียงเพียงรุ่นเดียวที่ใช้ขุมกำลังแบบนี้ นั่นคือเจ้า Yamaha-MT-07 ซึ่งถ้าหากนี่คือเสียงของเครื่องยนต์บล็อคเดียวกับเจ้าเนคเก็ทไบค์ที่ว่าจริง นั่นคือหมายความว่า R-Series…
หลังการเปิดตัวอย่างเป็นทางการของ Honda CB150R Streetfire 2021 ในประเทศอินโดนีเซียเมือ่วันก่อน เชื่อว่าต้องมีเพื่อนๆหลายคนสงสัยกันบ้างว่าแล้วมันมีความแตกต่างจาก Honda CB150R (The) Streetster 2021 ในบ้านเราที่พึ่งเผยโฉมช่วงปลายเดือนมีนาคมที่ผ่านมา อย่างไรบ้าง ? ซึ่งในวันนี้เราก็จะขอพาเพื่อนๆมาไล่เรียงความต่างในเชิงตัวเลขทางเทคนิคของมันกันครับ เครื่องยนต์ Honda CB150R 2021 “Streetster” สเปคไทย : 1 ลูกสูบ / DOHC / 4 วาล์ว / ระบายความร้อนด้วยน้ำ / 149.16cc Honda CB150R 2021 “Streetfire” สเปคอินโดฯ : 1 ลูกสูบ / DOHC / 4 วาล์ว / ระบายความร้อนด้วยน้ำ /…
vHonda CB150R Streetfighter 2021 ถูกเผยโฉมอย่างเป้นทางการเรียบร้อยแล้วในวันที่ 5 พฤษภาคมที่ผ่านมา โดยทาง Astra Honda Motor หรือ Honda ประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งการเปิดตัว CB150R 2021 ของพวกเขาในครั้งนี้ไม่ใช่แค่การปรับสีใหม่ธรรมดาๆเท่านั้น แต่ยังเป็นการปรับโฉมในแบบ Facelift หรือก็คือการได้รับการแต่งหน้าทาปากใหม่อีกด้วย CB150R Streetfire 2021 คือรถมอเตอร์ไซคฺ์โมเดลกับ CB150R The Streetster ในบ้านเรา แต่มาพร้อมกับรูปโฉมที่เน้นความสปอร์ตโฉบเฉี่ยวมากกว่า ซึ่งในตัวรถ CB150R รุ่นล่าสุดของประเทศอินโดนีเซียที่พึ่งเผยโฉมออกมานั้น ก็จะมีจุดแต่งต่างจากโฉมก่อนของมันในหลายจุดด้วยกัน โดยหลักๆแล้วก็จะไปอยู่กับชุดแฟริ่งที่ถูกออกแบบให้ดูบึกบึนขึ้นแทบทั้งหมด ตั้งแต่กรอบรอบโคมไฟหน้า, แฟริ่งกาบข้าง, แฟริ่งครอบถังน้ำมันที่ใหญ่ขึ้น, แฟริ่งใต้เบาะนั่ง, และแฟริ่งท้าย เสริมด้วย ชุดหน้าจอมาตรวัดมีการเปลี่ยนใหม่มาใช้แบบเดียวกับของ CBR150R รุ่นล่าสุด และแฮนด์บาร์แบบใหม่ กับลายล้อหน้า-หลังใหม่ ส่วนระบบไฟส่องสว่างรอบคันยังคงเหมือนเดิมไม่ได้มีการปรับเปลี่ยนใดๆ นอกนั้นในด้านชุดเฟรม ก็จะยังคงเป็นเฟรมแบบโครงเหล็กถักเช่นเดิมกับตัวรถ CB150R…
ขณะที่เหล่าผู้ผลิตยานพาหนะไม่ว่าจะรถมอเตอร์ไซค์หรือรถยนต์ ต่างพากันโหมพัฒนาผลิตภันฑ์ที่ใช้ขุมกำลังไฟฟ้ากันอย่างหนักหน่วง ตามนโยบายของภาครัฐทั่วโลก แต่ทางฝั่ง Ducati เองกลับดูเหมือนว่าจะยังไม่เห็นด้วยกับทางเดินนี้เท่าไหร่นัก เพราะแม้พวกเขาจะมีการพัฒนามอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าเช่นกัน แต่พวกเขาก็ยังหาทางที่จะต่ออายุผลิตภัณฑ์ที่ยังคงใช้ขุมกำลังเครื่องยนต์สันดาปภายในของพวกเขาให้ยาวนานขึ้นจากการใช้ “น้ำมันเชื้อเพลิงสังเคราะห์” ไปด้วย เกี่ยวกับเรื่องนี้ เป็นข้อมูลจากทาง Mr. Francesco Milicia ผู้ดำรงตำแหน่งรองประธานของ Ducati Motor Holding S.p.A. ที่ได้ออกมาให้สัมภาษณ์กับสื่อยุโรป MCN ถึงทิศทางการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆของทางค่ายเช่นรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า ซึ่งเจ้าตัวก็ระบุว่า “เราเป็นส่วนหนึ่งขององค์กร (Volkswagen Group) ที่ให้ความสนใจเกี่ยวกับการพัฒนาเทคโนโลยีไฟฟ้า และมันก็เป็นเป้าหมายที่ดีสำหรับ Ducati” “(แต่) เราจะทำรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าจาก Ducati ในเร็วๆนี้ไม่ ?, ไม่, เรามองว่ายานพาหนะประเภทนั้นที่เราทำได้ในตอนนี้ นั่นคือรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้ามันไม่สามารถการันตีความสุขของลูกค้า, ระยะทางในการใช้งาน, น้ำหนัก, แล้วก็เรื่องอื่นๆที่นักบิด Ducati คาดหวังได้เลย”, “เราจึงพยายามมองหาทางแก้ปัญหาอื่นอย่างระมัดระวังเพื่อการปล่อยมลพิษที่เป็นศูนย์ หรือให้ปล่อยมลพิษน้อยที่สุดได้เหมือนกัน เช่นน้ำมันเชื้อเพลิงสังเคราะห์, ผู้ผลิตรายอื่นในเครือเดียวกันอย่างเช่น Porsche ก็มองแบบนั้นและมันก็เป็นสิ่งเดียวที่เรามองในแผนงานระยะกลาง” อย่างไรก็ดี…
Aprilia RS125 2021 ถูกเผยโฉมอย่างเป็นทางการในทวีปยุโรปแล้ววันนี้ หลังจากที่ทาง Aprilia ได้เคยเผยโฉม Aprilia RS660 2021 และ Aprilia RSV4 2021 เมื่อไม่กี่เดือนก่อน จึงเท่ากับว่าในปีนี้ทางค่ายได้เปิดตัวและปรับโฉมสปอร์ตไบค์รุ่นใหม่ของพวกเขาตั้งแต่เล็ก กลาง ใหญ่ ครบทุกไลน์อัพแล้วจริงๆ Aprilia RS125 2021 มาพร้อมกับรูปโฉมใหม่ ที่เป็นดีไซน์ประจำตัวของรถมอเตอร์ไซค์ของ Aprilia ปีปัจจุบัน นั่นคือชุดหัวแบบเดียวกับของ Aprilia RS660 ซุปเปอร์สปอร์ตไบค์พิกัดกลางของทางค่ายที่ถูกเผยโฉมออกมาครั้งแรกในฐานะคอนเซปท์ไบค์เมื่อปี 2019 นั่นคือชุดไฟหน้าที่อาจจะมีหน้าตาคล้าย RSV4 รุ่นปี 2009-2020 แต่ก็มีการปรับรูปทรงใหม่ให้ดูเพรียวบางลง ไม่เพียงเท่านั้นหลอดไฟด้านในยังเป็นแบบ LED ที่ดูทันยุคทันสมัยมากขึ้น และที่ขาดไม่ได้ก็คือดวงไฟหรี่ตรงกลางที่ยังคงไม่หายไปไหน ขณะที่เส้นสายอื่นๆบนแฟริ่งรอบคันก็ล้วนแล้วแต่เหมือนกับการนำเอาหน้าตาของ RS660 มาย่อส่วนให้เล็กลงทั้งสิ้น ชนิดที่ไม่ต้องเดาให้เสียเวลาเลยว่ามันคือพี่-น้องสายเลือดเดียวกันหรือเปล่า ด้านรายละเอียดทางเทคนิคที่น่าสนใจก็มีทั้ง เบาะนั่งสูง 820 มิลลิเมตร, ถังน้ำมันความจุ 14.5…
การแข่งขันรถมอเตอร์ไซค์ชิงแชมป์โลก MotoGP ชื่อนี้อาจจะพึ่งมีการนำมาใช้อย่างเป็นทางการเมื่อปี 2002 แต่ในความเป้นจริงแล้ว การแข่งขันนี้ถูกจัดขึ้นอย่างเป็นทางการตั้งแต่ปี ค.ศ. 1949 โดยใช้ชื่อดั้งเดิมว่า “FIM Road Racing World Championship Grand Prix” หรือที่เรียกสั้นๆว่า “World Grand Prix” และด้วยระยะเวลากว่า 7 ทศวรรษ กับตัวแข่งที่ถูกพัฒนามากขึ้นเรื่อยๆและเปลี่ยนไปในทุกๆวัน ท่าทางการขี่ของนักบิดที่ควบคุมมันจึงเปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัยด้วยดังคลิปที่เพื่อนๆจะได้เห็นกันต่อไปนี้ โดยหากแบ่งตามช่วงปีของการแข่งขัน ท่านั่งของนักบิดในแต่ละยุคจะมีการปรับเปลี่ยนท่าทางในการทิ้งโค้ง ดังนี้ ยุคแรก – นั่งตรงแล้วเอียงไปกับรถ (Lean With) – เอียงเท่าที่จำเป็นเพื่อเลี้ยวเท่านั้น เนื่องจากแรงยึดเกาะของยาง และระบบกันสะเทือนของรถมอเตอร์ไซค์ในยุคดังกล่าวยังไม่มีประสิทธิภาพมากเท่าไหร่นัก – ตัวแข่งมีแรงม้าเพียงแค่ราวๆ 80 Bhp ดังนั้นการหมอบแล้วเกาะรถไว้ให้มากที่สุดเพื่อการลู่ลมจึงสำคัญกว่าการเอาตัวออกมาเพื่อทิ้งโค้ง ยุค 70’s (หรือยุคต้น-กลางของตัวแข่งครื่องยนต์ 2 จังหวะ) – เนื่องจากตัวแข่งและยางได้รับการพัฒนาจนมีประสิทธิภาพในการยึดเกาะที่ดียิ่งขึ้น เหล่านักบิดจึงเริ่มสามารถเอียงรถเข้าโค้งได้มากขึ้นเรื่อยๆ…