เซอร์ไพรส์กันอย่างต่อเนื่องกับค่ายที่ไม่เคยหยุดพัฒนา อย่าง GPX เพราะหลังจากที่ได้เปิดตัวรถใหม่ในแนวคลาสสิกกันไปเมื่อไม่นานมานี้ ล่าสุดก็มีข่าวดีมาให้เหล่าสาวกตื่นเต้นกันอีกแล้ว กับรถรุ่นใหม่เอี่ยมอ่อง ที่ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการกันไปเป็นที่เรียบร้อย ผ่านช่องทางของ Stream Live บนแฟนเพจ GPX Thailand ในชื่อรุ่น GPX ROCK รถครอบครัวที่ให้มากกว่าแค่รถใช้งาน ด้วยดีไซน์ที่โดดเด่น สมกับเป็น Item ใหม่ของคนร็อค ร็อค! GPX ROCK รถครอบครัวรุ่นใหม่จากค่าย GPX ในดีไซน์สุดคูล ที่โดดเด่นด้วยเส้นสายเฉียบคม และสีสันสุดโดนใจ มาพร้อมกับเครื่องยนต์พิกัด 110 ซีซี 4 จังหวะ เทคโนโลยีหัวฉีด GPX-Fi (จากแบรนด์ Delphi อเมริกา) เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมด้วยมาตรฐานไอเสีย EURO 4 พร้อมไฮไลท์เด็ดสุดล้ำก่อนใครกับเรือนไมล์แบบ FULL DIGITAL LED METER ครั้งแรกของการนำเทคโนโลยีนี้มาไว้ในรถครอบครัว แถมยังเพิ่มความพิเศษกับการปรับตั้งค่าหน้าจอด้วยระบบ Soft Touch…
Author: admin
MT-09 2021 ที่แม้จะมีกำหนดการเปิดตัวใน พ.ย. ปีนี้ แต่ทว่า มันกลับมีภาพหลุดออกมาก่อนบนโลกออนไลน์เสียอย่างนั้น จนทำให้ทางค่ายส้อมเสียงต้องตัดสินใจเปิดตัวมันออกมาในวันถัดมาทันที หลังจากที่มีภาพหลุด MT-09 2021 จากที่เราได้เห็นในภาพ นั่นก็ทำให้ทีมงานเราสังเกตในเบื้องต้น ได้ว่ามันถือเป็นการปรับปรุงตัวรถแบบ “All-New” อย่างแท้จริง เนื่องจากแทบไม่มีชิ้นส่วนใดที่มีหน้าตาเหมือนกับตัวรถโฉมปัจจุบัน(เตรียมเก่า)เลยสักนิด โดยเฉพาะกับชุดเฟรมอลูมิเนียม ที่เปลี่ยนจากทรงเฟรมกลางซ่อนระหว่างสวิงอาร์มที่ Yamaha เคยเคลมว่าช่วยลดมิติตัวรถตรงหว่างขาให้บางลง ก็กลับมาเป็นแบบเฟรมกลางอ้อมนอกสวิงอาร์มแบบรถมอเตอร์ไซค์ปกติทั่วๆไป ด้านเครื่องยนต์เองก็มีหน้าตาภายนอกที่เปลี่ยนไปพอสมควรเช่นกัน แต่ทั้งนี้ก็ไม่แปลกใจเท่าไหร่อยู่แล้ว เพราะก่อนหน้านี้ก็มีข้อมูลที่ระบุไว้อย่างชัดเจนว่าขุมกำลัง 3 สูบเรียงของมัน จะถูกอัพไซส์จาก 847cc เป็น 890cc และคาดว่าจะทำแรงม้าได้มากขึ้นอีกเป็น 120 แรงม้าโดยประมาณ กับแรงบิดเพิ่มขึ้นเป็นประมาณ 100-105 นิวตันเมตร นอกจากนี้ยังดูเหมือนว่าควิกชิฟท์เตอร์ที่ให้มา อาจจะปรับเป็นแบบ 2 ทางขึ้น/ลงแล้ว เพราะคันเร่งปรับเป็นแบบไฟฟ้าเรียบร้อย ฝั่งชุดบอดี้พาร์ทอื่นๆรอบคันก็ถือว่ามีการเปลี่ยนใหม่ทั้งหมด โดยเฉพาะกับโคมไฟหน้าที่เปลี่ยนจากแบบ LED โคมคู่ เป็นไฟโปรเจ็กท์เตอร์ดวงโตเดี่ยวๆตรงกลาง ขนาบข้างด้วยแถบไฟ DRL, กาบแฟริ่งด้านข้างปรับเส้นสายใหม่ให้โค้งมนกว่าเดิม, ทั้งน้ำมันดูมีมิติมากกว่า,…
หลังเงียบหายไปพักใหญ่ และมีข้อมูลให้หวั่นใจเล็กน้อยตอนทางผู้บริหารมีการประกาศปรับแผนวิธีเดินธุรกิจใหม่เพื่อสอดรับกับสภาวะขององค์กร แต่ในที่สุด All-New Harley-Davidson Pan America 1250 ก็ดูเหมือนจะยังอยู่รอดปลอดภัยดี และจะต้องได้เผยโฉมขายจริงในเร็วๆนี้แน่นอน โดยสำหรับข้อมูลในครั้งนี้ ก็จะว่าด้วยเรื่องของชุดภาพตัวรถ Pan America 1250 ร่างขายจริงที่ถูกถ่ายเอาไว้ได้ขณะจอดอยู่ในลานจอดรถของดีลเลอร์แห่งหนึ่งในประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งจะเห็นได้ว่าตัวรถนั้นมาพร้อมกับดีไซน์ที่บึกบึนเป็นอย่างมากตั้งแต่บนจรดล่าง หน้าจรดท้าย แม้แต่ชุดล้อซี่ลวดแบบรองรับการใช้งานกับยางทูบเลสเอง ยังรัดด้วยยางดอกหนามไซส์ใหญ่ยักษ์ที่ไม่ค่อยมีให้เห็นเท่าไหร่นักในแอดเวนเจอร์ไบค์รุ่นอื่นๆ นอกนั้นในด้านฟีเจอร์ต่างๆที่น่าสนใจ ของตัวรถแอดเวนเจอร์-ทัวร์ริ่งไบค์คันแรกของทางค่าย Harley-Davidson ก็จะมีชุดเฟรมแบบโครงเหล็กถักซึ่งถูกทำขึ้นมาเพื่อมันโดยเฉพาะและเอาไว้รองรับกับเครื่องยนต์ V-Twin พิกัด 1,250cc DOHC ระบายความร้อนด้วยน้ำ ซึ่งคาดว่าจะสามารถทำกำลังสูงสุดได้ราวๆ 145 แรงม้า, ระบบกันสะเทือนด้านหน้าตะเกียบคู่หัวกลับแกนขนาดใหญ่, สวิงอาร์มอลูมิเนียมชิ้นโต และระบบเบรกหน้า/หลังที่ยกชุดรับผิดชอบโดย Brembo, รวมถึงหน้าจอมาตรวัด TFT ที่เมื่อดูจากปุ่มต่างๆบนประกับแฮนด์ทั้งด้านซ้ายและด้านขวาแล้ว มันก็จะต้องรองรับการเชื่อมต่อกับโทรศัพท์มือถือด้วยสัญญาณบลูทูธเพื่อเข้าถึงฟังก์ชันการนำทาง GPS, การเล่นเพลง, การรับสายโทรเข้า เป็นอย่างน้อยแน่นอน ส่วนกำหนดการเปิดตัว All-New Harley-Davidson Pan America 1250…
อาจจะจริงอยู่ว่าในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา ทาง Ducati มีการยืนยันแค่เฉพาะ All-New Ducati Multistrada V4 เท่านั้น ที่จะถูกเผยโฉมใหม่ในเดือนหน้า แต่ล่าสุดเมื่อคืนที่ผ่านมา พวกเขากลับมีการให้ข้อมูลบางอย่างที่บ่งบอกว่า 2021 All-New Model ที่พวกเขาจะเปิดตัวในเร็วๆนี้ อาจมีให้ติดตามถึง 4 รุ่น โดยสำหรับข้อมูลที่ว่า ก็จะเป็นการประกาศเคาท์ดาวน์วันเปิดตัวรถมอเตอร์ไซค์รุ่นใหม่แบบ 5 Episode หรือ 5 ตอน ซึ่งจะทยอยเปิดตัวทุกวันพุธของเดือนพฤศจิกายน ทั้ง 4 สัปดาห์ ส่วนวันพุธที่ 2 ธันวาคม คาดว่าจะเป็นการสรุปสเปครถมอเตอร์ไซค์โมเดลต่างๆ แต่จุดที่น่าสนใจจริงๆก็คือเนื้อหาของคลิปที่ใช้ในการประกาศนับถอยหลังในครั้งนี้ กลับมีการเผยให้เห็นเส้นทาง 4 รูปแบบ ตามโจทย์การใช้งานของรถแต่ละรุ่นด้วย และเส้นทาง 4 รูปแบบดังกล่าว ก็จะประกอบไปด้วย เซอร์กิตแทร็ค ซึ่งมีความเป็นไปได้สูงว่านี่คือธีมของ All-New Ducati Panigale…
ขณะที่ค่ายใหญ่ในยุโรป เริ่มนำเทคโนโลยี Adaptive Cruise Control หรือระบบล็อคความเร็วแบบมีเรดาร์ตรวจจับวัตถุเพื่อปรับความเร็วรถให้เหมาะสมกับสภาพการจราจร แต่ทางฝั่ง Honda ดูจะวางแผนที่ล้ำหน้าไปอีกขั้น นั่นก็คือการเดินโปรเจ็กท์พัฒนาระบบ Auto-Pilot หรือระบบควบคุมตัวรถอัตโนมัติเหมือนที่นักบินใช้ขับเครื่องบินเลยทีเดียว เกี่ยวกับเรื่องนี้ เป็นข้อมูลที่อ้างอิงจากไฟล์เอกสารสิทธิบัตรล่าสุดของทาง Honda ที่ว่าด้วยเรื่องของเทคโนโลยีระบบช่วยเหลือการขับขี่ ซึ่งจะหลักๆก็จะประกอบไปด้วยระบบ Adaptive Cruise Control โดยใช้เรดาร์เป็นเซนเซอร์ตรวจจับวัตถุเหมือนกับที่ค่ายอื่นทำกัน แต่นอกจากการใช้เซนเซอร์ดังกล่าวเพืื่อเก็บข้อมูลในการปรับความเร็วตัวรถให้เหมาะกับสภาพจราจรแล้ว พวกเขายังมีการเพิ่มกลไกที่ใช้ในการควบคุมแผงคอให้หักเลี้ยวไปในทิศทางที่ปลอดภัยด้วย สำหรับลักษณะกลไกที่ว่า ก็จะเป็นการติดตั้งชุดเซอร์โวมอเตอร์เอาไว้บริเวณหลังแกนคอ เพื่อหมุนเฟืองต้นที่เชื่อมต่อกับเฟืองตามอีกตัวซึ่งยึดกับแกนคอด้วยโซ่ขับอีกเส้น และแน่นอนว่ามันคือชิ้นส่วนหลักที่ใช้สำหรับช่วยหักเลี้ยวตัวรถหลบอุปสรรคในยามคับขัน หรือช่วยหักรถกลับเข้าเลน เหมือนระบบ Lane-Keeping ในรถยนต์ตัวท็อปทั้งหลาย รวมถึงมันยังสามารถทำงานร่วมกับระบบ Adaptive Steering Damper เพื่อช่วยลดการสะบัดของล้อหน้า ไปจนถึงการช่วยเลี้ยวสวนในกรณีที่รถเจอลมดูดกระทันหันจากรถสวนเลนได้อีก อย่างไรก็ดีแม้กลไลระบบ Auto-Pilot ที่ว่า จะมีสรรพคุณมากมายแค่ไหนแต่เพื่อให้มันทำงานได้อย่างเหมาะสมกับลักษณะการใช้งานของรถมอเตอร์ไซค์ จึงทำให้มันอาจเป็นแค่เพียงระบบที่ทำขึ้นมาเพื่อช่วยเหลือในยามจำเป็นเท่านั้น ไม่ได้ถูกออกแบบขึ้นมาเพื่อควบคุมรถแทนผู้ขี่อย่างเต็มระบบเหมือนกับที่ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าเจ้าใหญ่รายหนึ่งทำได้ แต่คำถามถัดมาก็คือ แล้วทาง Honda จะนำมันมาใช้จริงเมื่อไหร่กันแน่ ? ซึ่งเราต้องมารอดูกันต่อไปในอนาคตครับ อ่านข่าว…
เรียกได้ว่าผิดฟอร์มรองแชมป์หลายสมัยไปพอสมควรเลยทีเดียวสำหรับ Andrea Dovizioso ที่ในปีนี้เราแทบไม่ค่อยได้เห็นเขาได้ขึ้นมาวิ่งในแถวหน้าขณะแข่งขันเท่าไหร่นัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรซหลังๆ ซึ่งล่าสุดก่อนที่การแข่ง AlcanizGP จะเริ่มขึ้น เขาก็ได้ออกมายอมรับแล้วว่า โอกาสเป็นแชมป์โลกปี 2020 ของเขาได้หลุดลอยจากมือไปแล้วเรียบร้อย “พอคุณทำความเร็วได้แค่นั้นคุณก็จะไม่สามารถวางแผนอะไรได้ และคุณก็ไม่ต้องหวังเรื่องแชมเปี้ยนชิพเลย” Dovizioso กล่าวในบทสัมภาษณ์กับ Motorsport.com หลังไม่ผ่านเข้ารอบ Q2 เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา “แน่นอน ผมพยายามที่จะแข่งเพื่อให้ได้คะแนนที่ดีที่สุดอยู่แล้ว” “แต่ในตอนสุดท้าย, ถ้าคุณไม่มีความเร็ว คุณก็ไม่สามารถจะคิดถึงเรื่องอื่นได้และคุณก็ไม่มีพลังงานที่จะไปคิดเรื่องการวางแผน เพราะคุณไม่มีพลังที่จะตัดสินใจอะไรสักอย่าง”, “ถ้าเป็นแบบนี้, มันเป็นสิ่งที่ยากมาก, ในตอนนี้ผมไม่คิดถึงแชมเปี้ยนชิพเลย เพราะผมคิดว่ามันไม่ได้อยู่ในหัวผมแล้ว, มันไม่ได้อยู่ในมือผมอีกต่อไปแล้ว” อ่านข่าวสาร MotoGP เพิ่มเติมที่ได้ที่นี่
บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด ตอกย้ำความเป็นผู้นำรถสปอร์ตในเมืองไทยครั้งใหม่ พร้อมถ่ายทอดจิตวิญญาณแห่งความเป็นผู้นำ ส่งรถจักรยานยนต์สายพันธุ์สปอร์ต R-SERIES รุ่นใหม่ NEW 2021 YAMAHA YZF-R15…RACING SPIRIT ที่ได้รับการถ่ายทอด DNA ซูเปอร์สปอร์ตระดับโลก สู่ปฐมบทใหม่แห่งสายพันธุ์เรซซิ่งสปอร์ต ที่จะพาคุณก้าวข้ามไปอีกขั้นกับความเร้าใจแบบ YAMAHA NEW YAMAHA R15 จัดเต็มสมรรถนะความสปอร์ตที่สุดแห่งความเร้าใจ ด้วยเครื่องยนต์ขนาด 155 ซีซี สูบเดี่ยว 4 วาล์ว พร้อมระบบวาล์วแปรผันอัจฉริยะ VVA เกียร์สปอร์ต 6 สปีด ระบบหัวฉีดอัจฉริยะ ระบายความร้อนด้วยน้ำ และกระบอกสูบไดอะซิล ที่ให้ความแรงใหม่เร้าใจเพิ่มขึ้น NEW YAMAHA R15 โฉบเฉี่ยวด้วยไฟหน้า LED HEADLIGHT ถอดแบบจากซูเปอร์สปอร์ต YZF-R1 สายพันธุ์เรซซิ่งสปอร์ตระดับโลก ดีไซน์ใหม่ สปอร์ตดุดันในทุกมุมมอง สว่างชัดในทุกระยะการขับขี่…
หลังจากที่ครั้งหนึ่ง เราได้เคยนำเสนอข้อมูลของ 10 อันดับซุปเปอร์ไบค์ ที่สามารถทำความเร็วสูงสุดในระยะ 1,000 เมตร โดยทาง Young-Machine ไปแล้วครั้งหนึ่ง ในวันนี้ เราก็จะมานำเสนอข้อมูลของ 10 อันดับซุปเปอร์ไบค์ ที่สามารถวิ่งเข้าเส้นระยะ 1,000 เมตร ได้เร็วที่สุดจากสื่อสำนักเดิมกันบ้าง 10. 2018 Kawasaki Ninja H2SX : 19.478 วินาที 9. 2018 Ducati Panigare V4S : 19.101 วินาที 8. 2017 Kawasaki Ninja ZX-10RR : 18.674 วินาที 7. 2017 Honda CBR1000RR SP : 18.619 วินาที…
ยังคงเจอวิกฤตซ้ำเติมอยู่เช่นเดิมสำหรับ Fabio Quartararo ที่ในการแข่งขันล่าสุด ศึก AlcanizGP เขากลับทำผลงานได้ไม่ดีเท่าไหร่นักอีกเช่นเคยเหมือนเรซก่อนหน้า แถมในคราวนี้ยังมีปัญหาเดิมกับแรงยึดเกาะของยางเหมือนคราวที่แล้ว และที่หนักกว่านั้นก็คือเจ้าตัวไม่สามารถระบุได้เลยว่าสาเหตุของวิกฤตในครั้งนี้ เกิดจากอะไรกันแน่ ? “ยางมันก็ปกติดี” Quartararo กล่าว “Franco ชนะและมีการแข่งขันที่ยอดเยี่ยมกับยางมีเดียมหน้า หลัง บนรถ Yamaha, ดังนั้นการเลือกยาง(ของเรา)ก็ดีแล้ว”, “(แต่) ที่ผมไม่มีความสุขเพราะเมื่อเช้าเรายังเจอเรื่องดีๆคือเราขี่ได้เร็ว, แต่ในการแข่งจริงผมกลับแพ้จนหมดรูป, ความรู้สึกมันมาจากด้านหน้า” “ตอนที่ผมอยู่ด้านหลัง, ผมอยากจะทำให้เหมือนกับที่เคยทำได้ใน FP4, แต่ในทันทีที่ผมเริ่มเปิดคันเร่ง ผมก็เสียกริปอย่างรวดเร็ว และนี่คือสิ่งที่ทำให้ผมไม่ค่อยปลื้ม เพราะเมื่อเช้าเรายังมีความสุขกับสิ่งที่เราทำได้อยู่เลย, แต่ในทันทีที่ผมได้ลงวิ่งแข่งจริงในรอบแรกผมกลับไม่รู้สึกอะไรเลย, ไม่มีกริป, ไม่มีแรงยึดเกาะใดๆ” “มันแปลก, แปลกมาจริงๆ, ผมไม่รู้เลยว่าอะไรทำให้มันเกิดความรู้สึกแปลกๆนี้ขึ้น” อ่านข่าว MotoGP เพิ่มเติมได้ที่นี่
จบลงไปแล้วสำหรับการแข่งขัน MotoGP 2020 เรซที่ 12 ของฤดูกาล ณ สนามแข่งขัน อารากอน ประเทศสเปน ซึ่งในคราวนี้ก็ถือเป็นอีกเรซที่มีผลพลิกโผไปจากการฝึกซ้อมใน 2 วันที่ผ่านมาพอสมควร โดยหากเพื่อนๆคนไหนพลาดชมไป เรามีคลิปย้อนหลังมาให้ได้ชมกันแล้วครับ อ่านข่าว MotoGP เพิ่มเติมได้ที่นี่