ปิดจ็อบจบลงไปแล้วเรียบร้อยสำหรับการเทสรอบก่อนเปิดฤดูกาล MotoGP 2020 ที่สนามเซปัง เซอร์กิต ประเทศมาเลเซีย ซึ่งผลปรากฏว่ายังคงเป็น Fabio Quartararo นักบิดจากทีมเจ้าถิ่น Petronas Yamaha SRT เช่นเดิมที่หวด Yamaha YZR-M1 ทำเวลาเร็วสุดในการเทสวันนี้ได้ ด้วยตัวเลข 1’58.349 นาที ซึ่งถือว่าเร้วกว่าเมื่อวันก่อนไปอีก -0.223 วินาที ส่วนอันดับที่ 2 ของการเทสในวันนี้ ก็เป็น Cal Crutchlow ที่แม้จะบ่นว่าตัวแข่งมีอาการช่วงหน้ารถแย่ลงกว่าเดิม แต่ด้วยพละกำลังของตัวแข่ง Honda RC213V ที่จัดจ้านมากขึ้น จึงทำให้เขาพลิกขึ้นมาหวดเวลาที่ดีในวันนี้ได้ โดยเขากดเวลาช้ากว่าผู้นำไปเพียง +0.082 วินาทีเท่านั้น ขณะที่อันดับ 3 ก็เป็น Alex Rins ที่หวดตัวแข่ง Suzuki GSX-RR คันใหม่หมดจดช้ากว่าผู้นำไปเพียง +0.101 วินาที สำหรับผลอันดับเวลาของการเทสรอบก่อนเปิดฤดูกาลที่สนามเซปังฯ…
Author: admin
ขณะที่ค่ายผู้ผลิตต่างๆทยอยเปิดตัวซุปเปอร์ไบค์เรือธงรุ่นใหม่ของตนออกมาเรื่อยๆ ทั้งเพื่อแย่งชิงส่วนแบ่งในตลาด และแย่งชิงความเป็นใหญ่ในเวที WSBK แต่ทาง Suzuki GSX-R1000 ของค่ายคนบ้า กลับยังคงอินดี้ และแทบไม่มีความเคลื่อนไหวใดๆทั้งสิ้น นอกจากนี้ยังมีข้อมูลอีกว่า ทางค่ายไม่ได้มีแผนที่จะปรับปรุงมันในเร็วๆนี้แต่อย่างใด โดยจากข้อมูลที่เราได้รับมานั้น ทางผู้ใหญ่ของ Suzuki ประเทศฝรั่งเศสได้ระบุไว้ว่าแม้ตอนนี้ GSX-R1000 โฉมปัจุบัน จะมีอายุการตลาดเข้าสู่ปีที่ 4 ทว่าค่ายกลับยังไม่มีแผนที่จะปรับปรุงมันเพิ่มเติมเพื่อเพิ่มความสดใหม่ใดๆทั้งสิ้น รวมถึงไม่มีแผนที่จะปรับปรุงเครื่องยนต์ของมันให้ผ่านมาตรฐานไอเสียระดับ Euro5 ภายในปี 2020 ดังนั้นจึงเท่ากับว่ามันอาจจะไม่ได้วางจำหน่ายในทวีปยุโรปอีกต่อไปหลังสิ้นปีนี้ ตามข้อบังคับของภาครัฐ นอกจากนี้ทางสื่อต้นทางได้ระบุเพิ่มเติมอีกว่า หากทาง Suzuki เลือกเดินแผนเช่นนี้จริง อย่างเร็วที่สุดกว่าเราจะได้เห็นเจ้า GSX-R1000 และ GSX-R1000R โฉมปัจจุบันปรับโฉมอีกครั้งก็คือภายในช่วงปี 2023 ส่วนการวางจำหน่ายในไทย เชื่อว่าเราจะยังคงเห็นซุปเปอร์ไบค์คันนี้วางจำหน่ายต่อไป เนื่องจากเจ้าเหยี่วอ้วน GSX-R1300 หรือ Hayabusa ที่โดนแบนจากยุโรปไปตั้งแต่ปี 2017 เพราะไม่ผ่านมาตรฐานไอเสียระดับ Euro4 เอง ก็ยังทำขายอยู่ในบ้านเราจนถึงทุกวันนี้เช่นกัน ดังนั้นหากเพื่อนๆคนไหนกำลังสนใจเจ้า…
จากการให้สัมภาษณ์ในวันแรก ที่ Marc Marquez ได้ระบุไว้ว่าอาการบาดเจ็บที่เกิดขึนหลังการผ่าตัดตั้งแต่ปลายปีก่อน ยังไม่ได้ดีขึ้นเท่าไหร่นัก จนทำให้ไม่สามารถกดเวลาได้เร็วดังที่ตั้งใจไว้ ล่าสุดเมื่อคืนที่ผ่านมา ก็ได้มีสื่อเข้าไปขอสัมภาษณ์กับนักบิดรายนี้เพิ่มเติมเกี่ยวกับอาการของเขาในวันที่สองของการทดสอบก่อนเปิด MotoGP 2020 ที่เซปัง ซึ่งเจ้าตัวก็ได้ระบุไว้ว่า “ในวันนี้ผมรู้สึกดีมาก, โดยเฉพาะกับความรู้สึกตรงหัวไหล่ที่ดีขึ้นและนี่มันสำคัญมาก, มันเหมือนกับว่าจะมีการล้มที่แรง แต่จริงๆมันเบามากๆ, ผมแค่หลุดไลน์ ไม่ได้พยายามจะหวดอะไร, แต่ด้วยเหตุผลบางอย่าง ผมไปเหยียบอะไรเข้าก็เลยเสียอาการช่วงหน้า, บางทีอาจจะเป็นเพราะผมไม่มีแรงแล้วก็ทุกๆอย่าง, แต่มันเป้นการล้มที่เบาจริงๆ” “เอาจริงๆมันไม่ได้มีความเสียหายที่รุนแรง แต่แน่นอน, มันหมายความว่าเราต้องตั้งใจกับเรื่องสภาพร่างกาย, อีกนัยหนึ่ง มันก็เป็นวันที่ดี, ในรอบสุดท้าย ผมได้ขี่กลับไปที่พิทแล้วการเทสวันนี้ก็จบพอดี, เราทำงานได้ดี, และในวันพรุ่งนี้จะพยายามวิ่งให้มากขึ้น” อ่านข่าวสาร MotoGP เพิ่มเติมที่ได้ที่นี่ เพื่อนๆ Bikers สามารถติดตามข่าวสารวงการล้อ ได้ทางแฟนเพจ MotoRival ของเราครับ Motorival
แม้ว่าจะมีการประกาศออกมาแล้วพักใหญ่ว่าใน MotoGP ปี 2021 Fabio Quartararo จะได้เข้ามานั่งในเก้าอี้ของ Monster Yamaha Factory แทน Valentino Rossi แต่กลับพึ่งมีการสัมภาษณ์พ่อหมอ ถึงความเห็นเกี่ยวกับความคิดเห็นเรื่องอนาคต ว่าเจ้าตัวคิดอย่างไร ? ซึ่งเจ้าตัวก็บอกว่า “ไม่เป็นไร ถ้าจะแข่งต่อ มันก็แค่การเปลี่ยนสีรถ” “ผมไม่ได้รู้สึกเซอร์ไพรซ์เลยจริงๆ, ผมเริ่มคิดถึงเรื่องนี้ตั้งแต่เดือนตุลาคมปีที่แล้ว, ผมจำได้ที่ประเทศไทย สิ่งที่เขาทำได้มันเปลี่ยนสถานการณ์, บางทีถ้า Yamaha ไม่ต้องการ Quartararo ผมอาจจะมีเวลาให้ตัดสินใจมากกว่านี้ก็ได้” “ผมคิดเกี่ยวกับมันค่อนข้างจริงจัง แต่ไม่ได้หมายความว่าต้องการจะขอแค่ได้อยู่ในทีมโรงงาน แล้วหลังจากนั้นผมก็ยังไม่แกร่งขึ้น, ถ้าแบบนั้นมันจะยิ่งแย่ลง โดยเฉพาะกับผม, ดังนั้นผมรู้ว่าเรื่องนี้มันเกิดขึ้นได้, ผมเตรียมใจรอไว้แล้ว และมันเป็นเรื่องปกติที่ต้องเจอ, ตอนนี้ทุกคนคิดว่ามันคือปีสุดท้ายของผมในทีมโรงงาน, แต่ผมคิดว่าถ้าผมยังแกร่งพอและเลือกที่จะแข่งต่อ, มันก็แค่การเปลี่ยนสีของตัวแข่งส่วนที่เหลือก็ต่างกันแค่นิดเดียว” (เพราะยังไง Yamaha ก็ยังสนับสนุน Rossi เต็มที่อยู่ดี อย่างที่ Lin Jarvis เคยให้สัมภาษณ์ไว้ก่อนหน้านี้)…
เรียกได้ว่าเข้าฝักกอสมควรเลยทีเดียวสำหรับเจ้าหนู Fabio Quartararo ที่ยังคงกดเวลาดีที่สุดในการเทสที่เซปัง รอบก่อนเปิดศึก MotoGP 2020 ไว้ได้อีกครั้งในวันที่ 2 ซึ่งในครั้งนี้เจ้าตัวก็สามารถพาตัวแข่ง Yamaha YZR-M1 สเปคโรงงานปี 2020 ทำเวลาเร็วกว่าวันก่อนถึงเกือบครึ่งวินาทีด้วยสถิติเวลาใหม่ 1’58.572 นาที ส่วนอันดับที่ 2 ของการเทสในวันนี้ ก็คือ Jack Miller กับตัวแข่ง Ducati Desmosedici GP20 สเปคโรงงานเช่นกัน โดยเขากดเวลาช้ากว่าจ่าฝูงไปเพียงเล็กน้อยคือ +0.069 วินาที และอันดับที่ 3 ถือว่าเหนือความคาดหมาย เพราะเป็น Dani Pedrosa นักบิดทดสอบฝีมือเก๋าที่พาตัวแข่ง KTM RC16 (2020) กดเวลาช้ากว่าผู้น้ำนิดเดียวเช่นกัน ด้วยตัวเลข +0.090 วินาที สำหรับผลอันดับเวลาของการเทสรอบก่อนเปิดฤดูกาลที่สนามเซปังฯ วันที่ 2 มีลำดับดังนี้ 1.…
ขณะที่ตอนนี้ค่อนข้างชัดเจนแล้วว่า Royal Enfield 500-Series อาจจะไม่ได้ไปต่อหลังจากที่พวกเขาได้มีการเผยโฉม “Tribute 500 – The Last of The 500” ออกมาเพื่อบ่งบอกว่านี่คือโฉมสุดท้ายของมันในประเทศอินเดียก่อนปิดสายการผลิตในช่วงปลายเดือนมีนาคมนั้น ล่าสุดทางสื่อยุโรปเจ้าหนึ่งก็ได้ออกมารายงานว่า มันจะไม่ได้เกิดขึ้นแค่ในอินเดียแห่งเดียว ส่วนสาเหตุที่ Royal Enfield จะไม่ได้ไปต่อ ไม่ใช่แค่เฉพาะในอินเดีย แต่ยังรวมถึงทั่วโลก ก็เป็นเพราะเครื่องยนต์สูบเดียว 499cc ของมัน ที่ไม่สามารถปรับจูนให้ผ่านมาตรฐานไอเสียทั้งระดับ BS6 และ Euro5 ได้อีกต่อไป (ถ้าจะให้ผ่านก็ต้องใช้งบวิจัยสูงขึ้นพอสมควร) ดังนั้นเพื่อไม่ให้ตนเสียพื้นที่ตลาดของรถมอเตอร์ไซค์แนวนี้ไป จึงมีความเป็นไปได้สูงมากที่พวกเขาจะทำการวางจำหน่ายน้องเล็กตระกูล 350-Series ในตลาดโลกแทน ด้านสมรรถนะของเครื่องยนต์สูบเดียว 346cc ที่อยู่ในทั้ง Classic 350 และ Bullet 350 ก็จะมีการระบุตัวเลขสเปคเอาไว้ว่า มันสามารถทำแรงม้าสูงสุดได้ 19.8 HP ที่ 5,250 รอบ/นาที…
ด้วยปัจจัยหลายๆอย่างโดยเฉพาะเรื่องของมลภาวะที่ทำให้เหล่าผู้ผลิตยานพาหนะต้องวิจัยขุมกำลังไฟฟ้า ซึ่งในช่วงหลายปีที่ผ่านมาเราก็มักจะเห็นได้ว่าหลายค่ายเริ่มเปิดตัวรถโปรโตไทป์ หรือโปรเจ็กท์ใหม่ๆที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ออกมากันอยู่เรื่อยๆ และรายล่าสุดที่พึ่งเปิดตัวโปรเจ็คท์ใหม่ของพวกเขาก็คือ Yamaha Motor โดยสำหรับโปรเจ็กท์ใหม่ของ Yamaha ที่ว่านี้ ก็คือชุดมอเตอร์ไฟฟ้าแบบ “Interior Permanent Magnet Synchronous Motors (IPMSM)” หรือมอเตอร์ซิงโครนัสชนิดแม่เหล็กถาวรภายใน ซึ่งนิยมใช้ในยานพาหนะประเภท EV หรือ Hybrid อยู่หลายรุ่น เนื่องจากมันมีจุดเด่นคือสามารถสร้างแรงบิดสูงสุดได้ตั้งแต่ความเร็วการหมุนเป็นศูนย์ ดังนั้นประสิทธิภาพในเรื่องการทำอัตราเร่งจึงถือว่าหายห่วงแน่นอน แต่ทาง Yamaha ระบุไว้ว่า ในเบื้องต้นพวกเขาตั้งใจจะนำมันไปใช้กับยานพานะ 4 ล้อ(รถยนต์)ก่อน ส่วนฝั่งรถมอเตอร์ไซค์ยังต้องใช้เวลาในการพัฒนามอเตอร์ไฟฟ้าชนิดนี้อีกสักพักถึงจะสามารถนำไปใช้จริงได้ ซึ่งอันที่จริงพวกเขาก็ออกแบบให้รูปแบบมอเตอร์ที่พวกเขาสร้างขึ้น รองรับการใช้งานกับยานพาหนะเกือบทุกขนาดอยู่แล้ว เพราะมีทั้งขนาดใหญ่สุดที่สามารถปั่นกำลังได้สูงถึง 200 กิโลวัตต์ (268 แรงม้า) กับขนาดเล็กสุด หรือขนาดเริ่มต้น 35 กิโลวัตต์ (47 แรงม้า เทียบเท่ามอเตอร์ไซค์พิกัดไม่เกิน 500cc ในปัจจุบัน) และแน่นอนว่าพวกเขาก็จะต้องมีการนำเสนอมอเตอร์ขนาดอื่นๆเพิ่มเติมอีกในอนาคต อแต่มันจะเป็นเมื่อไหร่นั้น ยังไม่มีการกำหนดเวลาที่ชัดเจนเอาไว้ครับ…
อย่างที่เราทราบกันดีว่าก่อนหน้านี้ เมื่อช่วงปลายปีที่แล้ว Marc Marquez จำเป็นต้องเข้ารับการผ่าตัดหัวไหล่ทันทีหลังจบการเทสรอบปิดฤดูกาล MotoGP 2019 ซึ่งในตอนนั้นดูเหมือนว่าอาการของนักบิดรายนี้คงไม่มีอะไรต้องห่วงมากมายนัก และน่าจะหายเร็วกว่าการผ่าตัดครั้งก่อน แต่สุดท้ายผลมันกลับกัน และกลายเป็นว่าในการเทสที่เซปัง ณ ตอนนี้ เขาก็ยังคงมีอาการบาดเจ็บจากการผ่าตัดที่ว่าอยู่ “ผมหวังไว้พอสมควรก่อนจะได้ขี่รถ, แต่พอผมขี่จริงครั้งแรก ในรอบแรก, ผมรู้สึกว่ามันแย่กว่าที่คาดหวังไว้, โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการจัดตำแหน่งร่างกายบนรถ, มันยากมากที่จะเอาศอกลงไปแตะพื้น” “จากนั้นผมเลยต้องทำทีละขั้นเพื่อจะใช้มัน (ข้อศอก), แต่พอผมเริ่มวิ่งในรันแรกด้วยพลังที่ดี, แต่หลังจากนั้นในทันทีที่ผมกลับเข้าพิท, ผมได้เวลา 1 (นาที ) 59 (วินาที), ผมรู้สึกว่าผมต้องช้าลง, ทีละขั้นๆ, ต้องอดทนเข้าไว้” “ผมยังไม่พร้อมที่จะไปได้เร็ว, ตอนนี้ถ้าต้องวิ่งแบบเต็มเรซ, ผมมั่นใจว่าคงไม่จบการแข่งแน่ๆ, แต่พรุ่งนี้เราคงต้องมาดูกัน ว่าผมรู้สึกจะรู้สึกดีขึ้นมั้ย และในวันที่สามจะยังดีขึ้นด้วยรึเปล่า, นั่นแหล่ะเป้าหมายในครั้งนี้” ขอบคุณข้อมูลจาก Motorsport.com อ่านข่าว MotoGP เพิ่มเติมได้ที่นี่ เพื่อนๆ Bikers สามารถติดตามข่าวสารวงการล้อ ได้ทางแฟนเพจ MotoRival…
Fabio Quartararo ยังคงแสดงร้อนแรงข้ามปีเช่นเดิม ในการเทสรอบก่อนเปิดศึก MotoGP 2020 ณ สนาม เซปัง เซอร์กิต ประเทศมาเลเซีย ครั้งนี้ หลังจากที่เจ้าตัวสามารถกดเวลาดีที่สุดเหนือนักบิดอีก 25 คนที่เหลือด้วยตัวเลข 1’58.945 นาที ขณะที่อันดับสองก็เป็นทีมเมทจากซุ้มเดียวกัน Franco Morbidelli ที่กดเวลาช้ากว่าเล็กน้อยคือ +0.051 วินาที และอันดับสรามถือว่าเป็นการแสดงศักยภาพที่ดีเช่นกันสำหรับ Alex Rins ที่มาพร้อมกับตัวแข่ง GSX-RR วางเครื่องยนต์ลูกใหม่โดยเขากดเวลาช้ากว่าผู้นำไปเพียง +0.250 วินาทีเท่านั้น สำหรับผลอันดับเวลาของการเทสรอบก่อนเปิดฤดูกาลที่สนามเซปังฯ วันแรก มีลำดับดังนี้ 1. Fabio Quartararo : Petronas Yamaha (YZR-M1) : 1’58.945 2. Franco Morbidelli : Petronas Yamaha (YZR-M1)…
นอกจากการเปิดตัวทีมแข่ง อีกความเคลื่อนไหวล่าสุดที่เกิดขึ้นเมื่อคืนที่ผ่านมาก็คือการเปิดตัวหมวกกันน็อค Shoei X-Fourteen ของทั้ง Marc Marquez และ Alex Marquez ที่พวกเขาเตรียมใช้ใส่ลงแข่งขันในศึก MotoGP 2020 โดยสำหรับธีมการตกแต่งหมวกกันน็อค X-Fourteen ของ “สองพี่น้อง Marquez” ในปี 2020 นี้ ทาง Dave Design สำนักออกแบบก็เลือกที่จะดีไซน์ให้มันไม่หนีไปจากหมวกใบปีที่แล้วของทั้ง 2 คนมากนัก เพราะในฝั่งของ Alex เองก็ยังคงจุดเด่นคือลายแถบตรงสีฟ้า/เทา ส่วนของ Marc ก็จะมาพร้อมกับจุดเด่นคือลายมดแดงที่อยู่ด้านบนหมวก ส่วนจุดเด่นที่ทำให้หมวกประจำปี 2020 นี้ก็คือการที่มันถูกทำให้เป็นสีด้าน และเน้นโทนสีเทาเป็นหลัก ซึ่งทำให้หมวกดูมีอารมณ์สุขุมมากขึ้น แต่กว่าเราจะได้ยลโฉมหมวกทั้ง 2 ใบนี้กันจริงๆคงต้องรอกันอย่างน้อยครึ่งปีกว่าที่ Shoei X-Fourteen – MotoGP 2020 Collection จะถูกผลิตเพื่อวางจำหน่ายให้ลูกค้าที่สนใจได้ซื้อหากัน ดังนั้นถ้าใครอยากได้ ก็รอกันไปก่อนนะครับ…