จบลงไปแล้วสำหรับเซสชันฝึกซ้อมรอบ FP2 ของรุ่นใหญ่ MotoGP ประจำศึก JapaneseGP 2019 ซึ่งผลปรากฏว่ายังเป็น Fabio Quartararo ที่สามารถทำเวลาได้ดีจนขึ้นมาเป็นอันดับหนึ่งของตารางด้วยเวลา 1’44.764 นาที สลับกับ Marverick Vinales ผู้นำในรอบ FP1 ช่วงเช้า ที่กดเวลาช้ากว่ารุ้นน้องในรอบนี้ไป +0.321 วินาที ขณะที่ Marc Marquez นั้นดูเหมือจะพึ่งเริ่มเครื่องร้อน จึงกดเวลาเข้ามาเป็นลำดับที่ 3 ด้วยเวลาช้ากว่าผู้นำอยู่ +0.336 วินาที สำหรับผลเวลาการฝึกซ้อมรอบ FP2 ประจำศึก JapaneseGP 10 อันดับแรกมีรายละเอียดดังนี้ 1 : F. QUARTARARO : 1’44.764 2 : M. VIÑALES : +0.321 3…
Author: admin
เริ่มขึ้นแล้วนะครับ สำหรับสัปดาห์การแข่งขัน MotoGP สนามที่ 16 ประจำปี 2019 ที่จัดขึ้น ณ แทร็ค Twin Ring Motegi ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งผลเวลาการฝึกซ้อมของรอบแรก หรือ FP1 นั้น ปรากฏว่าเป็นเหล่านักบิดดาวรุ่งจาก Yamaha ที่สามารถเกาะตัวเลขกันได้ดีขึ้นขึ้น 3 อันดับแรก ได้แก่ Marverick Vinales ที่กดเวลาต่ำที่สุดคือ 1’45.572 นาที ตามด้วย Fabio Quartararo ที่ช้ากว่าไปอีกนิดคือ +0.258 วินาที และ Franco Morbidelli ที่กดเวลาช้ากว่าผู้นำมาอีกนิดด้วยตัวเลข +0.411 วินาที สำหรับผลเวลาการฝึกซ้อมรอบ FP1 ประจำศึก JapaneseGP 10 อันดับแรกมีรายละเอียดดังนี้ 1 : Maverick…
แม้ว่าในช่วงกลางปีที่ผ่านมา เพื่อนๆอาจจะเคยได้ยินข้อมูลเกี่ยวกับ Honda CBR600RR กันมาบ้างว่ามันอาจจะได้รับการปรับโฉมใหม่แล้วเปิดตัวภายในสิ้นปีนี้เพื่อลงสู้ศึกซุปเปอร์สปอร์ตไบค์กับ Kawasaki ZX-6R และ Yamaha YZF-R6 ที่เริ่มกลับมาเป็นกระแสอีกรอบ แต่จากข้อมูลล่าสุดที่เราได้รับมาดูเหมือนมันจะไม่เป็นเช่นนั้นเสียแล้ว โดยสำหรับข้อมูลที่ว่านั้นก็คือ เอกสารค่ามลพิษฉบับล่าสุดของเจ้า CBR600RR เวอร์ชันปี 2020 ที่ทาง Honda USA ได้ยื่นเอาไว้กับกรมมลพิษรัฐแคลิฟอร์เนีย ซึ่งจากการเทียบค่ามลพิษแต่ละข้อของมัน กับ CBR600RR เวอร์ชันปี 2019 นั้น ผลปรากฏว่ามันไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงเลขค่ามลพิษที่วัดได้ใดๆเลยทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็น HC (ไฮโดรคาร์บอน),HC+NOx (ไฮโดรคาร์บอน+ไนโตรเจนออกไซด์), และ CO (คาร์บอน มอนอกไซด์) นั่นจึงหมายความว่า แม้ Honda CBR600RR จะมีการวางจำหน่ายในประเทศสหรัฐอเมริกาปี 2020 จริง แต่มันก็จะยังไม่ได้รับการปรับโฉมใดๆทั้งสิ้น ถึงมันจะอิงโฉมนี้มาแล้วถึงเกือบ 8 ปี ด้วยกัน ส่วนรหัสเครื่องยนต์ (Engine…
แม้ว่า Harley-Davidson จะมีชื่อว่าพวกเขาคือแบรนด์ที่สร้างตำนานและอยู่ได้ในทุกวันนี้จากการขายรถมอเตอร์ไซค์แนวครุยเซอร์ แต่จากควมเคลื่อนไหวในช่วง 10 ปีมานี้ โดยเฉพาะกับในช่วง 2 ปีล่าสุด เราจะเห็นได้ว่าพวกเขาเริ่มเผยโฉมรถโปรโตไทป์ที่ดูจับตลาดนิยมกลุ่ใหญ่มากยิ่งขึ้น ทั้ง “แอดเวนเจอร์-ทัวร์ริ่ง (Pan America) กับสปอร์ต-เนคเก็ท (Streetfighter 975) และล่าสุดคือรถมอเตอร์ไซค์แนว “สปอร์ตไบค์” ที่เรากำลังจะพาเพื่อนๆไปชมข้อมูลของมันต่อจากนี้ โดยจากข้อมูลล่าสุดที่เราได้รับมานั้น จะเกี่ยวข้องกับสิทธิบัตรชิ้นแฟริ่งช่วงหน้าตัวรถมอเตอร์ไซค์รุ่นใหม่ทรงหัวกระสุน ของ Harley-Davidson ที่ดูทรงแล้วก็มีความคล้ายกับตัวแข่ง VR1000 ที่พวกเขาเคยสร้างเอาไว้เมื่ 25 ปีก่อน จะต่างก็แค่เพียงตรงที่ชุดไฟหน้าของมันที่เปลี่ยนจากแบบโคมจานฉายขนาดใหญ่เป็นแบบฝั่งกรอบ LED ตามยุคสมัยแทน นอกจากนี้ หากย้อนไปในคลิป “More Roads to Harley-Davidson” ที่พวกเขาเคยปล่อยออกมาเมื่อปี 2018 เราจะเห็นได้ว่าแท้จริงแล้ว เจ้าสปอร์ต-ไบค์คันนี้ได้อยู่ในโปรเจกท์การสร้างมาแล้วตั้งแต่นั้น โดยสังเกตได้จาการที่มันถูกวาดเป็นภาพสเก็ทช์ไว้คู่กับภาพร่างของเจ้า Streetfighter 975 ที่กำลังจะเปิดตัวในเร็วๆนี้ (ปรากฏขึ้นในช่วง 1.37 นาที ของคลิป)…
ขณที่นักบิดคนอื่นๆที่ใช้ตัวแข่ง Honda RC213V สเปคปี 2019 อย่าง Jorge Lorenzo และ Cal Crutchlow ต่างคอมเมนท์เป็ฯเสียงเดียวกันว่ามันขี่ยากเกินไปเมื่อเทียบกับตัวแข่งสเปคปี 2018 ซึ่งทาง Marc Marquez นักบิดหมายเลขหนึ่งของทีม HRC ในขณะนี้ ก็ยอมรับแบบนั้นเช่นกัน ทว่าเจ้าตัวกลับบอกว่าหาได้แคร์ไม่ เพราะมันมีประโยชน์อย่างมากสำหรับการคว้าแชมป์ใน MotoGP ปีนี้ “ในบางมุม, เครื่องยนต์ของรถสเปคปี 2018 ก็เป็ฯอะไรที่ควบคุมได้ง่ายกว่า, แต่มันก็ทำให้การกดเวลาช้ากว่า 0.2-0.3 วินาที ต่อ 1 รอบสนาม” “คุณควรจะรู้ว่าคุณต้องการอะไรระหว่างรถที่ขี่ง่ายกว่า กับรถไปขี่เร็วกว่า, (แต่สำหรับผม) ผมไม่สนเลยว่ารถมันจะขี่ยากแค่ไหน ตราบใดที่มันทำให้ผมไปได้เร็วกว่า” “ผมคือคนแรกที่ต้องการ(ให้ HRC) เก็บพละกำลังของเครื่องยนต์ลูกนี้ไว้ ในขณะที่นักบิดคนอื่นๆอย่างให้รถมันมีแทร็คชันที่ดีกว่า และมีเครื่องยนต์ที่นุ่มนวลกว่านี้, แต่เครื่องยนต์ของ Honda มันไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนแปลงเลยมาตั้งแต่ผมเข้ามาในปี 2013, และก็ยังไม่เปลี่ยนไปเลยในตอนนี้” ดังนั้นถ้าดูจากประโยคสุดท้ายที่แกว่าเอาไว้คือแกคงอยากจะให้เครื่องมันแรงกว่านี้ขึ้นไปอีกนั่นแหล่ะครับ…
ย้อนไปเมื่อปี 2016 ทาง Honda ได้เปิดตัว Monkey รุ่นพิเศษที่ออกแบบโดยได้รับแรงบันดาลใจจาก “หมีดำ – คุมะมง” มาสค็อตชื่อดังประจำจังหวัดคูมาโมโตะ บนเกาะคีวชูทางภาคใต้ของญี่ปุ่น ซึ่งมาสคอตตัวนี้เป็นที่ชื่นชอบอย่างมากทั้งในหมู่สาวๆและเด็กๆหรือไม่ว่าใครก็ตามที่ได้พบเห็นเพราะความกวนที่ไม่เหมือนใคร มาปีนี้ 2019 ทาง Honda ได้นำแนวคิดดังกล่าวกับมาอีกครั้ง แต่เอาไปใช้กับ Honda Cross Cub 110 ซึ่งเป็นฝาแฝดร่างกึ่งลุยขอของรถมอเตอร์ไซค์แม่บ้านยอดนิยมิย่าง Super Cub 110 ที่เรารู้จักกันดี ดังนั้นเราจึงจะเห็นได้ว่ามันถูกตกแต่งภายนอกใหม่เพื่อความสมบุกสมบันมากขึ้น ตั้งแต่ชุดไฟหน้าที่ถูกถอดแยกโคมออกมาเพื่อติดตั้งไว้ด้านหน้าแล้วล้อมโครงเหล็กไว้, ใช้ล้อซี่ลวดรัดด้วยยางกึ่งหนาม, และติดตั้งชุดยางกันฝุ่นไว้ที่แกนโช้ก เป็นต้น แค่สำหรับความพิเศษของ Cross Cub 110 – Kumamon ที่แตกต่างจากโฉมธรรมดาก็คือ มันจะมาพร้อมกับชุดสีดำตัดแดง (โคมไฟหน้า, ไฟท้าย, ตะเข็บเบาะนั่ง, กับฝาครอบแบตฯเป็นสีแดง นอกนั้นลงสีดำทั้งหมด) อันเป็นสีเอกลักษณ์ของ “เจ้าหมีคุมะมง” และมีการแปะเอมเบลมสัญลักษณ์รูป “หมีคุมะฯยิ้ม”…
ขณะที่ CFmoto 650NK และ 400NK พึ่งทำตลาดในบ้านเราได้เพียงปีนิดๆ แต่ทว่าในฝั่งตลาดโลกนั้น กลับดูเหมือนว่ามันจะได้ปรับการปรับโฉมใหม่เสียแล้วในเร็วๆนี้ โดยจากข้อมูลล่าสุดที่เราได้รับมา นั่นก็คือภาพของว่าที่ CFmoto 650NK โฉมใหม่ที่อยู่ด้านบนย่อหน้านี้เทียบกับ 650NK โฉมปัจจุบัน ก็จะเห็นได้ว่ามันมีการเปลี่ยนแปลงในส่วนของชิ้นแฟริ่งเป็นหลัก โดยเฉพาะกับชิ้นแฟริ่งข้างที่ดูมีมิติพุ่งไปข้างหน้ามากขึ้น แม้แต่ตัวบังโคลนหน้าเองก็ถูกออกแบบให้ดูมีเส้นสายที่แข็งกร้าวขึ้นเช่นกัน นอกนั้นหากมองไปที่ตำแหน่งมาตรวัด เราก็จะเห็นได้อย่างชัดเจนอีกว่าใน 650NK รุ่นใหม่นั้น จะต้องได้รับการติดตั้งชุดมาตรวัดแบบ TFT-Full Digital แน่นอนเหมือนอย่างที่ทางค่ายใช้ในน้องเล็กสุด 250NK ABS ทว่าในส่วนของเครื่องยนต์และส่วนควบอื่นๆของตัวรถดูเหมือนจะยังคงเดิมทั้งหมด เนื่องจากทางสื่อต้นทางได้ระบุไว้ว่าตัวเลขที่เกี่ยวข้องกับเรื่องเหล่านี้ใน New 650NK ไม่ได้มีการปรับเปลี่ยนได้ๆทั้งสิ้นเมื่อเทียบกับโฉมปัจจุบัน ด้านฝั่ง 400NK เองก็จะได้รับการแต่งหน้าทาปากใหม่เช่นกัน ด้วยแนวทางที่ไม่ต่างจาก 650NK มากนัก นั่นก็คือการเปลี่ยนชิ้นแฟริ่งข้างกับบังโคลนหน้าที่ดูโฉบเฉี่ยว แข็งกร้าวมากขึ้น และไม่ได้มีการปรับเปลี่ยนในเรื่องของเครื่องยนต์กับส่วนควบอื่นๆที่ส่งผลถึงการขับขี่ แต่แทนที่เจ้า 400 คันนี้จะได้ใช้ชุดหน้าจอมาตรวัด TFT มันกลับถูกเปลี่ยนชุดไฟหน้าใหม่ไปใช้แบบเดียวกับ 250NK แทน ส่วนช่วงเวลาการเปิดตัวทั้ง…
ขณะที่ใครหลายคนกำลังให้ความสนใจกับ All-New BMW F850RS ว่าที่สปอร์ต-ทัวร์ริ่งคันใหม่ของค่ายใบพัดสีฟ้ากันอย่างล้นหลาม แต่ล่าสุดราก็มีข้อมูลเกี่ยวกับอีกหนึ่งร่างคู่ขนานของมันในฉบับสปอร์ต-เนคเก็ทอย่าง All-New BMW F850R ที่พึ่งมีภาพเอกสารสิทธิบัตรของมันหลุดออกมาบนโลกโซเชียลเมื่อวันก่อน โดยหากให้วิเคราะห์ลักษณะตัวรถขั้นต้นของ F850R ในสิทธิบัตรนี้ ก็เห็นได้ชัดเจนว่ามันจะต้องถูกพัฒนาขึ้นด้วยการต่อยอดจากพื้นฐานตัวรถของ F850GS ที่เปิดตัวไปก่อนหน้านี้ตั้งแต่ปลายปีก่อน เพราะทั้งเครื่องยนต์, ชุดเฟรม, และสวิงอาร์ม ของตัว R รุ่นใหม่นี้ มีหน้าตาที่แทบไม่หนีจากระหัส GS เลย แม้กระทั่งตัวรถ F850RS ที่กำลังจะเปิดตัวในเร็วๆนี้เองก็ด้วย ดังนั้นหากเรานำเอาเจ้า F850R คันนี้ไปเทียบกับ F800R โฉมปัจจุบันที่กำลังจะกลายเป็นอดีต ก็จะยิ่งเห็นได้ชัดเจนขึ้นอีกว่ามันถูกปรับโฉมแบบใหม่หมดจด ตั้งแต่ภายในสู่ภายนอก โดยเฉพาะกับรูปลักษณะที่มีการปรับเส้นสายรอบคันให้ดูแหลมคม และกระทัดรัดมากขึ้น ผิดกับ F800R ที่ดูมีเหลี่ยมมุมเยอะเกินไปจนรถดูแข็งทื่อไปหมด ด้านช่วงเวลาเปิดตัวของ All-New BMW F850R นั้น ก็คาดว่าจะเกิดขึ้นในอีกเพียงไม่กี่อึดใจข้างหน้า หรือก็คือภายในวันที่ 5 พฤศจิกายน ที่งาน…
แม้ว่าในปัจจุบัน Triumph Thruxton 1200 จะมีทั้งเวอร์ชันสแตนดาร์ด และเวอร์ชัน R ที่จะสเปคจัดเต็มจนเกินพอแล้วสำหรับรถมอเตอร์ไซค์ประเภทนี้ ทว่าดูเหมือนแค่นั้นมันจะยังคง “เต็มหน่วย” ไม่พอสำหรับทางค่าย จึงทำให้พวกเขาเลือกที่จะเปิดไลน์อัพใหม่ของรถมอเตอร์ไซค์แนวเฮอร์ริเทจ-คาเฟ่ต์คันนี้ใหม่เพิมอีกโดยใช้ชื่อรหัสว่า “Thruxton RS” The all-new Thruxton RS – Launching 8.30am, 5th November 2019 pic.twitter.com/1FILKlgnN3— Triumph Motorcycles (@UKTriumph) October 15, 2019 โดยหากถามถึงข้อมูลในเบื้องต้นของเจ้า Thruxton RS ในขณะนี้ล่ะก็ ต้องบอกเลยครับว่ามันมีน้อยมากๆ เนื่องจากมีข้อมูลแค่เพียงคลิปทีเซอร์ของมันที่ถูกปล่อยโดยทางค่ายเมื่อคืนวันที่ 15 ตุลาคม ที่ผ่านมาเท่านั้น ซึ่งในคลิปก็มีการแสดงแค่ฉากถ่ายแผงฝาครอบแบตเตอรี่ที่มีการระบุชื่อรุ่นรถไว้ชัดเจนว่า “Thruxton RS” และช่วงเวลาเปิดตัวที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 5 พฤศจิกายน ตอน 8.30น. ของทวีปยุโรป หรือก็คือราวๆ…
แม้ว่าทาง Yamaha Motor Thailand จะมีการวางจำหน่ายเจ้า MT-15 ในประเทศไทยมาแล้วเกือบปี แต่ในทางฝั่ง EU เองกลับพึ่งมีการเผยโฉมเจ้า MT-125 โฉมใหม่ ที่ถูกปรับหน้าตาให้คล้ายกับโมเดลคู่ขนานในบ้านเราเมื่อวันที่ 16 ตุลาคมที่ผ่านมา โดยสำหรับรายละเอียดเบื้องต้นของ MT-125 โฉมปี 2020 นั้นก็มีอยู่ว่ามันจะยังคงใช้ชุดเฟรม Deltabox ที่เหมือนกับ MT-15 ในบ้านเราเป็นโครงสร้างหลักของตัวรถเช่นเดิม แต่จุดเปลี่ยนในการปรับโฉมนอกจากหน้าตาภายนอกที่ดูทันสมัยมากขึ้นก็คือ เครื่องยนต์สูบเดียว 125cc ของมันที่ได้รับการอัพเกรดติดตั้งระบบวาล์วแปรผัน VVA แล้วเป็นที่เรียบร้อย ซึ่งนอกจากมันจะช่วยขยายย่านแรงบิดให้กว้างขึ้นแล้ว ยังช่วยเพิ่มความจัดจ้านในช่วงรอบปลายๆของเครื่องยนต์ได้เป็นอย่างดีอีกด้วย จนส่งผลให้กำลังแรงม้าสุทธิของมันถูกเคลมไว้ที่ 15 PS @ 9,000 รอบ/นาที กับแรงบิดสูงสุดอีก 11.5 นิวตันเมตร ที่ 8,000 รอบ/นาที นอกจากนี้ แม้ระบบกันสะเทือนด้านหน้าของมันจะเป็นแบบตะเกียบคู่หัวกลับ คล้ายกับ MT-15 ในบ้านเรา แต่…