อาจจะด้วยความที่นี่คือช่วงที่ Honda CBR250RR โฉมใหม่ใกล้จะได้ฤกษ์เปิดตัว จึงทำให้ในช่วงนี้ เราได้เห็นข่าวคราวของมัน มีการอัพเดทบนโลกโซเชียลโดยเฉพาะจากทางสื่อฝั่งประเทศอินโดนีเซียอยู่เสมอๆ ซึ่งในข้อมูลล่าสุดพวกเขาก็ได้ระบุไล่เรียงฟีเจอร์ต่างๆที่มีโอกาสสูงมากว่า Honda จะติดตั้งให้เจ้าสปอร์ตเรพลืก้าไบค์รุ่นนี้ตั้งแต่ออกโรงงานอยู่หลายรายการด้วยกัน โดยสำหรับฟีเจอร์ต่างๆที่ทางสื่ออินโดนีเซียได้มีการ “คาดคะเน” เพิ่มเติมนั้น ส่วนใหญ่แล้วจะเห้นได้ว่าล้วนเป็นฟีเจอร์ที่ค่อนข้างเน้นหนักไปในเรื่องของการเพิ่มความสะดวกสบายของผู้ขี่ทั้งสิ้น ทั้ง เพิ่มไรด์ดิ้งโหมดใหม่, ระบบกุญแจคีย์เลส เหมือนอย่างที่มีอยู่แล้วใน PCX150, Click 150, และ Forza 300 รวมถึง ระบบครูซคอนโทรล หรือระบบล็อคความเร็วสำหรับการเดินทางไกล ที่บางทีเราก็รู้สึกว่ามันออกจะนอกหน้าหรือเหนือกว่ารถมอเตอร์ไซค์แนวทัวร์ริ่งระดับกลางบางรุ่นด้วยซ้ำ ส่วนการอัพเดทตัวรถ CBR250RR MY2020 อื่นๆที่สื่ออินโดนีเซียระบุไว้ ก็ถือว่าไม่ได้มีความแตกต่างจากที่เราได้เคยนำเสนอไปก่อนหน้านี้เท่าไหร่นัก ทั้งการปรับจูนเครื่องยนต์ 2 สูบเรียง 249cc ใหม่ ให้สามารถทำกำลังได้มากขึ้นเป็น 40-42 แรงม้า, เปลี่ยนทรงท่อไอเสียใหม่ให้เล็กลงกว่าเดิม เพื่อลดน้ำหนักตัวรถลงไปในตัว ช่วยเสริมสมรรถนะในเรื่องของอัตราเร่งและความคล่องตัวที่ดียิ่งขึ้น, เสริมระบบสลิปเปอร์คลัทช์ ที่ไม่ใช่แค่ช่วยในเรื่องของการลดแรงกระชากล้อหลังตอนเชนจ์เกียร์ลง แต่ยังช่วยให้น้ำหนักก้านคลัทช์เบาลงอีกไม่ต่ำกว่า 50% ไม่เพียงเท่านั้นยังมีแนวโน้งสูงมากที่มันจะถูกติดตั้งระบบควิกชิฟท์เตอร์ที่ช่วยให้ผู้ขี่สามารถเข้าเกียร์ต่อโดยไม่ต้องกำคลัทช์ ซึ่งด้วยความที่…
Author: admin
ในปี 2019 นี้ ถือเป็นการครบรอบ 50 ปี ของรถมอเตอร์ไซค์ที่ได้ชื่อว่าเป็นซุปเปอร์ไบค์คันแรกของโลกอย่าง Honda CB750 ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจเท่าไหร่นักที่เหล่าผู้แทนจำหน่ายรถมอเตอร์ไซค์ Honda ในประเทศต่างๆพากันเฉลิมฉลองวาระนี้ด้วยการเปิดตัวรถมอเตอร์ไซค์ตระกูล CB รุ่นพิเศษอยู่หลายรุ่น และ Honda CB1100RS “5Four” Limited Edition คันนี้ก็เป็นหนึ่งในนั้น โดยสำหรับโครงสร้างพื้นฐานของ CB1100RS “5Four” ก็ยังคงไม่มีอะไรแตกต่างจาก CB1100RS รุ่นเดิมๆมากนัก ดังนั้นทั้ง เครื่องยนต์ 4 สูบ 1,140cc ระบายความร้อนด้วยอากาศ กำลังสูงสุด 88.5 แรงม้า กับแรงบิดสูงสุด 91 นิวตันเมตร, โช๊คหน้าสีทองขนาดแกน 43 มิลลิเมตรจาก Showa ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยี ‘Dual Bending Valve Two-Piece Fork’ ,โช๊คหลังซับแท๊งแยกมีรีโมทปรับตั้งความหนืดให้ในตัว…
ในปัจจุบัน นอกจากการแข่งขันในเรื่องความปลอดภัย, มุมมอง หรือทัศนวิศัย, และความลู่ลม หมวกกันน็อคเต็มใบที่สายซิ่งมักใช้กัน ยังต้องแข่งขันในเรื่องน้ำหนักด้วย ซึ่งในตอนนี้ หมวกกันน็อคน้องใหม่ชื่อ Roof RO200 Carbon ก็ได้กลายมาเป็นหมวกกันน็อคเต็มใบที่เบาที่สุดในโลกไปแล้วเป็นที่เรียบร้อย ด้วยตัวเลขน้ำหนักมาตรฐานที่ 1,090 กรัม หรือ 1.09 กิโลกรัมเท่านั้น โดยสำหรับข้อมูลในวัสดุเบื้องต้นหมวก Roof RO200 Carbon หมวกใบนี้จะถูกประกอบขึ้นจากแผ่นคาร์บอน 5 ชิ้นด้วยกัน โดยจะแบ่งสัดส่วนความหนาแต่ละชิ้นให้เหมาะกับตำแหน่งที่ต้องรับแรงกระแทก และจะมีเชลล์ หรือเปลือกนอก 2 ขนาด ให้เลือก คือเชลล์สำหรับนวมไซส์ XS-M กับนวมไซส์ ML-XXL ซึ่งอันที่จริงในรุ่นเชลล์ใหญ่นั้น จะมีน้ำหนักกมากกว่าเล้กน้อยคือเพิ่มขึ้นมาเป็น 1,150 กรัม แต่นั่นก็ยังถือว่าเบากว่าหมวกเจ้าของสถิติครั้งก่อนหน้าอย่าง X-Lite X-803 Ultra Carbon ที่เคลมน้ำหนักไว้ 1,290 กิโลกรัม ส่วนฟีเจอร์เด็ดอื่นๆของมันก็มีทั้ง มุมมองด้านกว้างที่มากถึง…
ขณะที่ค่ายอื่นได้เริ่มปล่อยทีเซอร์รถมอเตอร์ไซค์รุ่นใหม่กันบ้างแล้ว แต่ทาง Suzuki เองกลับยังซ่มเงียบต่อไป และมีแค่เพียงการเปิดตัวรถมอเตอร์ไซค์ปรับสีใหม่ที่พวกเขาเท่านั้น โดยในคันล่าสุดก็คือ Suzuki V-Strom 650 โฉม MY2020 แน่นอนครับว่าในเมื่อ 2020 V-Strom 650 จะมีเพียงแค่การปรับสี ดังนั้นพื้นฐานตัวรถยังคงเหมือนกับโฉมปี 2019 ทุกอย่าง ทั้งยังคงใช้เครื่องยนต์ V-Twin 645cc เป็นขุมกำลังหลักอยู่เช่นเคย ส่วนชุดเฟรมเป็นแบบอลูมิเนียม Twin-Spar, ระบบกันสะเทือนด้านหน้าแบบเทเลสโกปิคขนาดแกน 43 มิลลิเมตร, ระบบกันสะเทือนหลังโมโนช็อคทำงานร่วมกับสวิงอาร์มอลูมิเนียม ชุดล้อก็ยังเป็นแบบซี่ลวดขนาด 19 นิ้วด้านหน้า และ 17 นิ้วด้านหลัง ในรุ่น XT และล้อแม็กขอบ 17 นิ้วหน้า/หลัง ในรุ่นพื้นฐาน, ส่วนระบบเบรกด้านหน้าเป็นแบบคาลิปเปอร์ 2 สูบ ทำงานกับดิสก์คู่ขนาด 310 มิลลิเมตร ขณะที่ระบบเบรกด้านหลังเป็นแบบจานเดี่ยวขนาด 260 มิลลิเมตรทำงานร่วมกับปั๊มเบรกสูบเดียว…
ออกุสโต เฟอร์นันเดซ (Augusto Fernandez) นักบิดชาวสเปนจากทีม Flexbox HP40 แสดงฝีมือได้อย่างโดดเด่นในสนาม Misano เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา และคว้าชัยชนะครั้งที่สามของเขาในฤดูกาลแข่งขันอันดุเดือดอย่างน่าเหลือเชื่อ โดยชัยชนะดังกล่าวทำให้ ฟาบิโอ ดิ จิอันนันโตนิโอ (Fabio Di Giannantonio) ผู้ครองตำแหน่งโพลโพสิชั่นชาวอิตาลีในรอบสุดท้ายพลาดชัยชนะในการแข่งขัน Moto2 ครั้งแรกของเขาด้วยเวลาเพียง 0.186 วินาที การแข่งขันรายการ Moto2 เริ่มต้นก้าวแรกของสุดสัปดาห์ด้วยความร้อนแรง โดยในรอบคัดเลือกนักแข่งทั้ง 11 อันดับแรก ทำเวลาห่างกันเพียง 0.5 วินาที และนักแข่ง 17 อันดับแรกทำเวลาห่างกันเพียง 0.742 วินาที ในรอบการแข่งขันตั้งแต่จุดเริ่มต้น และนักแข่งสี่อันดับแรก เริ่มทิ้งระยะห่างโดยมี ฟาบิโอ ดิ จิอันนันโตนิโอ (Fabio Di Giannantonio) ขึ้นนำห่างจาก ออกุสโต เฟอร์นันเดซ (Augusto…
“กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา” ร่วมกับ การกีฬาแห่งประเทศไทย หน่วยงานภาครัฐ-เอกชน แถลงเปิดตัวถ้วยรางวัลเวอร์ชั่นใหม่ “พีทีที ไทยแลนด์ กรังด์ปรีซ์ 2019” ยิ่งใหญ่กว่าเดิม ผสานความเป็นไทยเข้ากับโมโตจีพีสะท้อนความภาคภูมิใจของคนไทยสู่สายตาชาวโลก พร้อมชวนชาวไทยนับถอยหลัง 3 สัปดาห์ ก่อนเปิดบ้านเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันศึกมอเตอร์สปอร์ต ระดับโลก ระหว่างวันที่ 4-6 ตุลาคมนี้ ประกาศความพร้อมร้อยเปอร์เซ็นต์ทั้งการจัดการแข่งขันในสนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต และความสะดวกโดยรอบ จังหวัดบุรีรัมย์ และจังหวัดใกล้เคียง ต้อนรับแฟนความเร็วหลายแสนคนที่หลั่งไหล สู่ประเทศไทย ประเทศไทยเตรียมระเบิดศึกจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลกโมโตจีพี เตรียมระเบิดความมันส์สนามที่ 15 ในรายการ พีทีที ไทยแลนด์ กรังด์ปรีซ์ 2019 ระหว่างวันที่ 4-6 ตุลาคมนี้ ที่ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จังหวัด บุรีรัมย์ ท่ามกลางการรอคอยของแฟนมอเตอร์สปอร์ตชาวไทยและทั่วโลก กับการเป็นเจ้าภาพปีที่ 2 ล่าสุดเมื่อวันพุธที่ 18 กันยายนที่ผ่านมา…
ในศึกการแข่งขัน MotoGP ณ ปัจจุบัน นอกจากชุดวิงเล็ท, สปูนดักอากาศใต้สวิงอาร์ม, สคูปดักลมเข้าคาลิปเปอร์เบรก, และโช้กอัพหน้าปลอกคาร์บอนแล้ว ชุดสวิงอาร์มที่ทำขึ้นจากวัสดุคาร์บอนเอง ก็คือชิ้นส่วนติดรถที่กำลังเป็นเทรนด์ หรือเป็นกระแสนิยมฝในปัจจุบัน ที่เหล่าตัวแข่งระดับทีมโรงงานไม่ควรพลาดใช้เป็นอย่างยิ่ง แม้แต่ทีมในระดับ Moto2 ทางแห่งเองก็เริ่มเอากับเขาด้วยเช่นกันที่จะเลือกใช้สวิงอาร์มแบบนี้ อย่างไรก็ดี อาจจะด้วยความที่ต้นทุนในการผลิตนั้นสูงเกินไป จึงทำให้ทางคณะกรรมการของ MotoGP ซึ่งก็คือ FIM ประกาศ แบนสวิงอาร์มคาร์บอน ในรุ่น Moto3 ตั้งแต่เนิ่นๆ เพื่อให้ทีมแข่งในรุ่นเล็กสุดที่มีมากกว่า 18 สังกัด กับนักบิดหน้าใหม่กว่า 31 คน (ไม่นับทีมอิสระ) ได้แข่งขันในแบบที่เท่าเทียมกันที่สุด นอกจากนี้ในประกาศฉบับเดียวกันเอง ทาง GIM ยังได้มีการประกาศว่าในรุ่นใหญ่ MotoGP เองก็จะมีการเปลี่ยนตัวจับเวลาบนรถใหม่ ให้เป็นของ X2 รุ่น RaceLink Pro ที่มีความแม่นยำในการระบุพิกัดตัวแข่งบนสนามแบบเรียลไทม์มากยิ่งขึ้นกว่าปัจจุบัน ไม่เพียงเท่านั้น ยังรองรับการส่งข้อความจากทีมแข่ง ผ่าน กรรมการ…
หลังจากที่ในช่วง 1-2 เดือนที่ผ่านมา ทาง Kawasaki ได้มีการเผยโฉมรถมอเตอร์ไซค์โฉมปรับสีรับปี 2020 จนครบทุกรุ่นแล้ว ในที่สุดก็ถึงเวลาที่พวกเขาจะต้องเริ่มเคาท์ดาวน์วันเวลาการเปิดตัวรถมอเตอร์ไซค์รุ่นใหม่ที่จะถูกปรับโฉมในแบบ All-New กันเสียที โดยจากภาพที่เพื่อนๆกำลังเห็นกันอยู่ในขณะนี้ จะเห็นได้ว่าทาง Kawasaki ได้มีการขึ้นภาพรถถูกคลุมผ้าอยู่ทั้งหมด 6 คันด้วยกัน โดยแบ่งเป็น วันที่ 7 ตุลาคม 2019 จำนวน 1 คัน ตามด้วยวันที่ 23 ตุลาคม 2019 ซึ่งเป็นวันเปิดงาน Tokyo Motor Show 2019 ประเทศญี่ปุ่น อีก 2 คัน และในวันสุดท้ายคือวันที่ 4 พฤศจิกายน 2019 ที่เป็นวันเปิดงาน EICMA Show 2019 ประเทศอิตาลี อีก 3 คัน…
แม้ในตอนนี้ ทุกๆคนที่ตามข่าวจะทราบกันดีอยู่แล้วว่า Ducati Multistrada V4 ได้กำลังถูกทางค่ายแดงพัฒนามันอยู่จริงในตอนนี้ แต่ทว่าจากข้อมูล่าสุดที่เราได้รับมา ดูเหมือนว่ามันจะยังไม่ถึงคิว หรือเวลาเปิดตัวภายในช่วงปี 2019 เพื่อจำหน่ายต่อในฐานะโมเดลปี 2020 เสียอย่างนั้น เนื่องจากทาง Ducati USA พึ่งมีการยื่นเอกสารค่าไอเสียของ 2020 Ducati Multistrada 1260 GT ให้กับกรมมลพิษรัฐแคลิฟอร์เนียไป และในที่สุดทาง Ducati บริษัทก็ได้ออกมาให้ข้อมุลเกี่ยวกับเรื่องของ Multistrada V4 ด้วยตนเองในเสียทีว่า แท้จริงแล้ว เจ้าแอดเวนเจอร์ไบค์รุ่นใหม่ของเขานั้น จะเป็นส่วนหนึ่งของพี่น้อง Multistrada 1260 L-Twin และ Multistrada 950 L-Twin ในปี 2021 นั่นจึงเท่ากับว่าอย่างเร็วที่สุด เราคงจะได้เห็นมันถูกเปิดตัวในงาน EICMA Show 2020 หรือก็คือในอีกราวๆ 1 ปีข้างหน้านู่นเลย นอกจากนี้…
แม้ว่าก่อนจบฤดูกาล MotoGP 2018 นักบิดจอมตีลังกา Johann Zarco จะเตรียมย้ายสังกัดจาก Monster Tech3 Yamaha มาสู่ KTM Factory ใน MotoGP 2019 ด้วยความหวังในการสร้างชื่อ ณ ซุ้มทีมสีส้มแห่งนี้อย่างเต็มเปี่ยม ทว่าพอถึงช่วงเวลาการแข่งขันจริง กลับกลายเป็นว่านี่อาจจะเป็นฤดูกาลฝันร้ายที่สุดเท่าที่เขาเคยเจอมาเสียอย่างนั้นเนื่องจากเจ้าตัวไม่สามารถเข้ากับตัวแข่ง KTM RC16 ได้เลย จนต้องขอคุยกับผู้บริหารว่าตนจะไม่ขอฝืนลงแข่งกับทีมต่อไปใน MotoGP 2020 ทว่าจากข้อมูลล่าสุด ดูเหมือนสถานการณ์จะเลวร้ายกว่าที่คิด เนื่องจากเมื่อคืนที่ผ่านมา ทาง KTM ได้มีการประกาศข้อมูลใหม่เกี่ยวกับ Johann Zarco ว่า นักบิดหมายเลข 5 รายนี้ จะไม่ได้กลับมาแข่งให้กับ KTM อีกแล้วในอีก 6 สนามที่เหลือของ MotoGP 2019 หรือก็คือ Zarco ได้ถูกถอนรายชื่อออกจากทีมสำหรับการแข่งขันฤดูกาลนี้ไปแล้วเป็นที่เรียบร้อยนั่นเอง อย่างไรก็ดี…