ยังคงตามติดอยู่กับประเด็นรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าของแบรนด์ Ducati เช่นเดิม ซึ่งคราวนี้ไม่ใช่คอนเซปท์ไบค์ แต่เป็นรถที่ทำขายจริงแล้วเรียบร้อย ทว่าเป็นสกูตเตอร์ไฟฟ้าที่สร้างโดย SuperSoco ผู้ผลิตสัญชาติจีน ที่ร่วมกันจับมือกับ Ducati นับตั้งแต่ปี 2018 ซึ่งผลิตภัณฑ์แรกที่เกิดจากความร่วมมือระหว่างสองบริษัทนี้ก็คือ SuperSoco CUx – Ducati Special Edition และหากให้เจาะไปที่รายละเอียดตัวรถสกูตเตอร์ไฟฟ้า CUx คันนี้ล่ะก็ เราขอเริ่มจาก ตัวขุมกำลังหลักที่เป็นมอเตอร์ไฟฟ้าของ BOSCH รุ่น 1300W กำลังขับ 2.8 กิโลวัตต์ สามารถทำความเร็วได้สูงสุด 45 กิโลเมตร/ชั่วโมง รองรับการใช้งานระยะทางสูงสุด 85 กิโลเมตร และใช้เวลาในการชาร์จประจุไฟกลับจาก 0 ด้วยเวลาเพียง 8 ชั่วโมงเท่านั้น นอกจากนี้ จุดเด่นสำคัญของเจ้า CUx ก็คือมันมีการติดตั้งกล้องสำหรับบันทึกเหตุการณ์บนท้องถนนฝังไว้บริเวณใต้โคมไฟ LED ด้านหน้า โดยผู้ใช้สามารถสั่งการว่ากล้องจะเริ่มบันทึกภาพ หรือวิดีโอช่วงไหนก็ได้ ไม่เพียงเท่านั้น…
Author: admin
จากกระแสข้อมูลที่ถูกเกริ่นถึงเป็นพักๆว่าในอนาคตอีกไม่นานนักนับจากนี้ Ducati จะทำการเปิดตัวรถมอเตอร์ไซค์พลังงานไฟฟ้าออกมา แต่ยังไม่รู้ว่าจะเป็นโมเดลในกลุ่มไหนกันแน่ นั่นจึงทำให้ทางสำนัก Aritra Das Designs มองว่าถ้าหากค่ายแดงอยากแจ้งเกิดในตลาดรถมอเตอร์ไซค์ประเภทนี้จริง พวกเขาก็ควรจะเริ่มจากการสร้างมันมาในรูปแบบสปอร์ตไบค์เลย และกลายเป็นงานออกแบบเจ้า Ducati Panigale Electrico คันนี้ในที่สุด โดยจากภาพ เพื่อนๆคงจะเดาได้ไม่ยากนักว่าแรงบันดาลใจในการออกแบบเจ้า Panigale Electrico คันนี้ เกิดขึ้นมาจาก Panigale V4 เพราะทั้งชุดคาวลิ่งหน้ากับวินชิลด์ และแผงแฟริ่งด้านข้าง ไปจนถึงถังน้ำมัน(ถังหลอก) ต่างก็มีลายเส้นที่เปรียบเสมือนกับลายเซ็นต์ของซุปเปอร์ไบค์เครื่องวีสี่สูบแสดงไว้ชัดเจน ไม่เพียงเท่านั้นทั้งตัวชุดล้อหน้า/หลัง, สวิงอาร์มแขนเดียว, โช้กหน้า Ohlins, คาลิปเปอร์เบรก Brembo ต่างก็เป็นของที่หยิบยกมาจาก Panigale V4 ทั้งสิ้น จะมีจุดต่างอยู่ก็แค่เพียง ชุดตูดมดด้านท้ายที่ดูสั้นกุดมากกว่า, ตัวท่อไอเสียออกล่างที่หายไป เพราะไม่จำเป็นต้องใช้, กับตัวโช้กหลังที่ดูธรรมดาเกินไป เพราะมันยังเป็นแค่โช้กเดี่ยวปรับพรีโหลดด้วยสตรัทเพียงอย่างเดียวเท่านั้น งานนี้เราก็ไม่แน่ใจเหมือนกันครับว่า Ducati จะทำรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าโมเดลใหม่ของพวกเขาในแนวทางนี้หรือไม่ แต่ถ้าได้แบบนี้ล่ะก็ ขอบอกว่า “แจ่มแมว” อ่านข่าว…
กลายเป็นทอล์คออฟเดอะทาวน์ที่สุดในขณะนี้เลยก็ว่าได้ สำหรับข่าวคราวของ Kawasaki ZX-2R ที่ว่ากันว่าทางค่ายได้เริ่มพัฒนามาไกลจนถึงขึ้นโปรโตไทป์ และคาดเปิดตัวมันออกมาเพื่อทวงตำแหน่ง “The King of 250” จาก Honda CBR250RR ภายในปี 2020 ซึ่งจุดที่น่าสนใจจริงๆของมันก็คือ ตัวเครื่องยนต์แบบ 4 สูบเรียง ขนาดความจุ 250cc ที่ทุกคนต่างรอคอย แต่ก็มีคนจำนวนไม่น้อยสงสัยว่ามันจะทำได้จริงๆหรือ ? งานนี้ต้องบอกเลยครับว่าจริง !! เพราะหากย้อนไปช่วงยุคปี 80-90’s (ยุคนี้นี่มันมีแต่ของดีจริงๆ) ขณะนั้นกระแสความนิยมในกลุ่มรถมอเตอร์ไซค์แนวสปอร์ตไบค์มีค่อนข้างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในหมู่วัยรุ่น นั่นจึงทำให้ทางผู้ผลิตสัญชาติญี่ปุ่นต้องทำอะไรสักอย่างเพื่อชิงส่วนแบ่งตลาดตรงนี้ จนเกิดเป็น “จตุรอาชา” อันได้แก่ Yamaha FZR250, Honda CBR250RR, Suzuki GSX-R250, และ Kawasaki ZXR250 เหล่าสปอร์ตไบค์ไซส์เล็ก ที่มาพร้อม เครื่องยนต์แบบ 4 สูบเรียง ขนาดความจุ…
สำหรับการแข่งขันรถจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลก “MotoGP” 2019 สนามที่ 4 รายการสแปนิช กรังปรีซ์ ณ สนาม Circuito do Jeresz – Angel Nieto ประเทศสเปน อเล็กซ์ รินส์ นักบิดชาวสเปน หมายเลข 42 สังกัด Team Suzuki Ecstar ได้คว้าชัยในสนามนี้ โดยควบ Suzuki GSX-RR แซงคู่แข่งผ่านธงตราหมากรุกเข้าเส้นชัยเป็นอันดับที่ 2 โดยก่อนหน้านี้ในสนามที่ 3 อเล็กซ์ รินส์ ทำผลงานได้น่าทึ่งโดยการคว้าแชมป์สนามมาแล้วเช่นกัน โดยมีคะแนนสะสมรวมอยู่ลำดับที่ 2 ห่างจากผู้นำเพียง 1 คะแนนเท่านั้น ติดตามเชียร์ และเป็นกำลังให้ อเล็กซ์ รินส์ คว้าแชมป์ในสนามที่ 5 ในวันที่ 19 พฤษภาคม…
เรียกได้ว่าในขณะนี้ คนที่เจอความยากลำบากและน่าผิดหวังที่สุดคงเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก Jorge Lorenzo นักบิดดีกรีแชมป์โลก 5 สมัย ที่จบการแข่งขัน MotoGP 2019 สนามที่ 4 ในช่วงวันเกิดของเขาได้ไม่ดีเท่าไหร่นัก และด้วยความที่นี่คือสนามที่ 4 แต่เจ้าตัวยังไปได้ดีกับตัวแข่ง Honda RC213V ไม่ได้ จึงทำให้เขาเริ่มรู้สึกไม่ดีมากขึ้นเรื่อยๆ จนต้องระบายกับสื่อฯที่เข้าไปสัมภาษณ์เอาไว้ว่า “ผมไม่สามารถจะมีความสุขกับการแข่งของผมได้เลย”, “ผมหมดไฟ, สิ่งที่เป็นตอนนี้มีแต่ เศร้า, ผิดหวัง, และกังวล”, “แน่นอนว่าผมพยายามที่จะไปต่อ, เรามีการทดสอบที่สำคัญ กับหลายๆสิ่งที่ต้องทดสอบ กับหลายๆอย่างที่ผมหวังว่ามันจะมีบางอย่างที่ช่วยให้ผมเร็วขึ้นได้บ้าง” “มันคือช่วงเวลาที่ยากลำบากสำหรับผม แต่ผมจะไปต่อให้ได้ และนั่นแหล่ะคือความคิดเดียวที่ผมพอจะมี” “คุณเห็นหน้าผมใช่มั้ย มันไม่ใช่หน้าที่มีความสุขเลย ที่เป็นแบบนี้ก็มีเหตุผลอยู่ คือผมไม่ชอบเลยที่มีการแข่งแบบวันนั้น เพราะผมได้ลองใส่ทุกสิ่งทุกอย่างไปแล้วในแทร็คแต่มันก็ไม่ได้ช่วยให้ผมเร็วขึ้นเลย” “ผมไม่ชอบที่เป็นอยู่(ตอนนี้), ผมไม่ชอบสถานการณ์(ตอนนี้) แต่ผมก็คิดว่าผมคือแชมป์นะ และแชมป์ก็ต้องพยายามสู้ต่อไปจนกว่าพวกเขาจะเจอทางออก และผมจะหาทางออกนั้นให้เจอ” ขอบคุ๊ข้อมูลจาก Crash.net, Motorsport.com อ่านข่าว MotoGP เพิ่มเติมได้ที่นี่…
อีกไม่กี่ชั่วโมงก็จะเข้าสู่การเทส ณ สนามเฆเรซ เซอร์กิต ประเทศสเปน วันที่ 2 ของเหล่านักบิด MotoGP ซึ่งแน่นอนว่านักบิดที่ได้รับความสนใจมากที่สุดก็คงหนีไม่พ้น Marc Marquez ที่เมื่อวันก่อนในการเทสวันแรก เจ้าตัวได้ทดสอบตัวแข่ง RC213V ปริศนาที่มาพร้อมกับ “เฟรมคาร์บอน และแฟริ่งสีไครคัลเลอร์ตามฉบับ HRC” สำหรับข้อมูลเท็จจริงเกี่ยวกับตัวแข่ง RC213V คันนี้ก็มีอยู่ว่า มันก็คือตัวรถคันเดียวกับที่ Stefan Bradl นักทดสอบหลักของ HRC ใช้แข่งขันในศึก MotoGP สนาม 4 โดยเฟรมคาร์บอนที่กล่าวถึงในตอนแรก แท้จริงแล้ว มันก็ยังเป็นเฟรมอลูมิเนียมเหมือนตัวแข่ง RC213V ที่ Marquez ใช้ แต่ถูกหุ้มผ้าคาร์บอนใหม่ เพื่อหวังผลในเรื่องคามแข็งแรงของตัวเฟรม ซึ่งทาง MM93 ก็ได้ระบุหลังเทสเสร็จเอาไว้ว่า “มันมีทั้งข้อและข้อเสีย แต่ถ้าให้เลือกผมขอยังไม่ใช้มันในการแข่งขันดีกว่า” “ผมได้ทดสอบชิ้นส่วนใหม่วันนี้ โดยที่ไม่ต้องลงลึกในรายละเอียดปลีกย่อยอะไรกับมันมากมายนัก”, “รถขง Stefan ยังเป็นแค่คอนเซปท์ที่ต่างกับตัวแข่งที่ผมใช้อยู่”,…
เพื่อนๆหลายคนาจจะพอทราบแล้วว่า ในอีกเพียสัปดาห์นิดๆนับจากนี้ทาง Suzuki ประเทศอินเดีย ได้มีแผนที่จะเปิดตัว GIXXER 250 รถมอเตอร์ไซค์โมเดลใหม่ในบ้านตนเอง หลังจากที่พวกเขาได้เผยภาพทีเซอร์ของมันอกมาเป็นครั้งแรกเมื่อปลายเดือนก่อน โดยจากข้อมูลในขณะนั้นทางสื่ออินเดียได้มีการระบุไว้ว่าตัวรถ All-New GIXXER 250 นั้นจะปรากฏตัวในรูปแบบของสปอร์ต-แน็คเก็ท แต่ทว่าล่าสุดพวกเขาได้มีการให้รายละเอียดข้อมูลใหม่ว่าแท้จริงแล้วมันจะเป็นรถมอเตอร์ไซค์แนวสปอร์ตฟูลแฟริ่ง และมาพร้อมกับเครื่องยนต์สูบเดียว ระบายความร้อนด้วยน้ำมัน (ออยคูลเลอร์) ขนาดความจุ 248cc ที่ทำแรงม้าได้สูงสุด 26.5 ตัว ส่งกำลังด้วยชุดเกียร์ 6 สปีด ส่วนตัวแชสซีย์ หรือโครงรถคาดว่าทาง Suzuki จะใช้แบบโครงท่อเหล็กจาก Gixxer 150 SF มาปรับปรุงใหม่ให้รับกับน้ำหนักและพละกำลังของตัวรถที่มากขึ้น ในขณะเดียวกันระบบกันสะเทือนก็จะเปลี่ยนไปใช้แบบหัวกลับด้านหน้า และโมโนช็อคปรับพรีโหลดได้ด้านหลัง ซึ่งมันจะเป็นอย่างที่คาดการณ์ไว้จริงหรือไม่ 20 พฤษภาคมที่จะถึงนี้ เรามารอดูกันครับ อ่านข่าว Suzuki เพิ่มเติมได้ที่นี่ เพื่อนๆ Bikers สามารถติดตามข่าวสารวงการล้อ ได้ทางแฟนเพจ MotoRival ของเราครับ Motorival
นับวันรถมอเตอร์ไซค์โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มซุปเปอร์ไบค์ทั้งหลายก็มีแต่จะสร้างและทำลายสถิติความเร็วสูงสุดในอดีตทับกันไปเรื่อยๆ ซึ่งในเมื่อตอนนี้มันเข้าสู่ช่วงกลางปี 2019 กันแล้ว เราก็ขอภาพเพื่อนๆไปดูกันหน่อยดีกว่าครับ ว่าจะมีซุปเปอร์ไบค์คันไหนบ้าง ที่สามารถทำความเร็วสูงสุดจนติดอันดับท็อป 10 ของโลก (*ข้อมูลตรงนี้จะอิงจากตัวเลขที่มีการบันทึกข้อมูลความเร็วสูงสุดไว้เท่านั้น ดังนั้นสำหรับโมเดลใหม่ๆบางรุ่นจึงอาจจะยังไม่มีการอัพเดทเข้าในการจัดอันดับครั้งนี้) 10. Yamaha YZF-R1 เครื่องยนต์ Crossplane 4 ขนาดความจุ 998cc กำลังสูงสุด 197 แรงม้า ที่ 13,500 รอบ/นาที ความเร็วสูงสุด 299 กิโลเมตร/ชั่วโมง (ล็อคความเร็วไว้เท่านี้) 9. Kawasaki ZX-14R เครื่องยนต์ 4 สูบเรียง ขนาดความจุ 1,441cc กำลังสูงสุด 197 แรงม้า ที่ 10,000 รอบ/นาที ความเร็วสูงสุด 301 กิโลเมตร/ชั่วโมง (ล็อคความเร็วไว้เท่านี้) 8. BMW S1000RR…
จริงอยู่ว่าในขณะนี้ทาง TVS และ BMW จะมีการสร้างรถมอเตอร์ไซค์พิกัด 300cc ร่วมกันมาครบ 3 category หรือ 3 ประเภทหลักแล้วเรียบร้อย แต่อันที่จริงมันก็เป็นแค่โมเดลที่ต้องแบ่งกันขายเท่านั้น ฝั่ง G310R และ G310GS เป็นของ BMW แต่โฉมสปอร์ตอย่าง Apache RR 310 กลับเป็นของ TVS นั่นจึงทำให้ในไม่ช้า ทั้ง BMW และ TVS จะต้องเปิดตัวโมเดลใหม่ในประเภทที่หายไปของตนเองออกมาเพื่อให้ครบช่องว่าง ซึ่งฝ่ายแรกที่จะเริ่มก่อนในตอนนี้ก็คือ TVS ที่พึ่งปล่อยข้อมูลออกมาว่าภายในช่วงเวลาอีกไม่เกิน 6 เดือนนับจากนี้ภายในปี 2019 พวกเขาจะเปิดตัวรถมอเตอร์ไซค์รุ่นใหม่ที่ใช้พื้นฐานเดียวกันกับ BMW G310R ออกมา โดยอาจจะเป็นคู่แฝดของเจ้าสปอร์ท-แน็คเก็ทที่ว่านี้ หรืออาจจะเป็นแฝดของ G310GS ก็ได้ แน่นอนว่าหากเป็นเช่นนี้แล้ว ในช่วงเวลาถัดไปหลังจากที่ TVS ได้เปิดตัวรถมอเตอร์ไซค์รุ่นใหม่ของตนเองไปแล้ว ทาง…
ขณะที่บ้านเราพึ่งมีการเปิดตัว Honda CBR250RR แบบนำเข้าจากญี่ปุ่นไปแค่เพียง 2 เดือน แต่ด้วยความที่อันที่จริงเจ้านี่ได้ถูกเปิดตัวแบบ World Premiere ในอินโดนีเซียมาตั้งแต่ปี 2017 จึงทำให้มันอยู่ในช่วงปลายใกล้จะปรับโฉมไปทุกทีเพื่ออัดเดทความสดใหม่ตามหลักการตลาด โดยหากย้อนไปก่อนหน้านี้ ข้อมูลของ CBR250RR โฉมถัดไปที่เราได้เคยลงไว้ก็จะมีใจความคร่าวๆว่า ทาง Astra Honda Motor หรือ Honda Indonesia จะจัดการเพิ่มระบบสลิปเปอร์คลัทช์ และ ควิกชิฟท์เข้าไปให้กับตัวรถ เพื่อให้มันกลายเป็นอสูรตัวจริงเมื่อเทียบกับคู่แข่งคันอื่นๆในพิกัดสปอร์ต 250cc ด้วยกัน แต่ทว่าแค่นั้นคงยังครบเครื่องไม่พอเท่าไหร่นัก เพราะล่าสุดทาง AHM ได้มีการเผยสิทธิบัตรระบบกุญแจ Keyless ที่ออกแบบไว้ใช้กับ 2020 CBR250RR ด้วย ซึ่งนี่น่าจะเป็นครั้งแรกที่ทาง Honda เอาระบบกุญแจอัจฉริยะแบบนี้มาใช้ในรถมอเตอร์ไซค์กลุ่มสปอร์ตไบค์ของตน ไม่เพียงเท่านั้นทางแหล่งข้อมูลยังระบุเพิ่มเติมอีกว่า CBR250RR อาจจะมาพร้อมกับหัวโช้กของมันมีการใส่น็อตปรับตั้งความแข็ง/อ่อนของสปริง หรือพรีโหลดด้วย เรียกได้ว่ากะเอาให้ครบที่สุดเท่าที่รถมอเตอร์ไซค์ระดับ 250cc ขณะนี้จะทำได้เลยทีเดียว ส่วนช่วงเวลาการเปิดตัว Honda…