แม้ว่า “1290 Super Adventure” จะพึ่งมีการเปิดตัวรุ่นปรับโฉมไปเมื่อปลายปี 2016 และทำตลาดจริงในฐานะโมเดลปี 2017 แต่ล่าสุดมีช่างภาพตาดีแอบเห็นทาง KTM เริ่มทดสอบพี่ใหญ่สายแอดเวนเจอร์-ทัวร์ริ่งรุ่นใหม่แล้วเป็นที่เรียบร้อย ราวกับว่าพวกเขาจะเตรียมเปิดตัวมันในเร็วๆนี้ และจากข้อมูลหน้าตาตัวรถในเบื้องต้นของ New KTM 1290 Super Adventure ก็มีอยู่ว่า แม้ชิ้นส่วนบางรายการของมันจะยังคงอิงเส้นสายเดียวกับโฉมปัจจุบัน เช่นไฟหน้า และชุดท้าย แต่ตัววินชิลด์กลับมีขนาดใหญ่ขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ขณะที่ตัวกาบแฟริ่งด้านข้างถูกออกแบบใหม่หมดจดให้โอบลงถึงแครงก์เครื่องด้านล่าง คล้ายกับของน้องใหม่ 790 Adventure จากเดิมที่ปิดเพียงครึ่งลำตัวเท่านั้น ด้านช่วงเวลาเปิดตัวค่าดว่าจะเกิดขึ้นที่งาน EICMA Show 2019 ซึ่งระหว่างนี้เราคงได้เห็นเจ้า 2020 KTM 1290 Super Adventure – Prototype ปรากฏตัวออกมาบ่อยขึ้นเรื่อยๆ พร้อมกับมีข้อมูลทางเทคนิคตัวรถเผยออกมาทีละนิดให้เราได้ทราบกัน ซึ่งหากเพื่อนๆคนไหนกำลังติดตามโมเดลนี้อยู่ ก็รอการอัพเดทข่าวสารที่หน้าเพจ MotoRival ของเราได้เลยครับผม สำหรับเพื่อนๆคนไหนที่อยากชมภาพ Spyshot ของตัวรถ 2020…
Author: admin
จริงอยู่ว่าตลอดระยะเวลา 3-4 ปีมานี้ ทาง KTM นั้นค่อนข้างเน้นในการทำตลาดรถมอเตอร์ไซค์แนวสปอร์ต-แน็คเก็ท ค่อนข้างหนัก จนทำให้มีแค่เพียง RC390 เท่านั้นที่ยังเป็นโมเดลสปอร์ท-เรพลิก้าประจำค่าย แต่หลังจากที่เจ้า Duke 790 ได้ถูกเปิดตัวออกมาพร้อมกับสมรรถนะที่ไม่แพ้ใครในคลาสเดียวกัน บวกกับกระแสความร้อนแรงของรถมอเตอร์ไซค์แนวสปอร์ตพิกัดกลางเริ่มกลับมาโหมแรงอีกครั้ง ทำให้เกิดกระแสขึ้นมาว่าทาง KTM อาจกำลังพิจารณาสร้าง RC790 แบบเงียบๆภายในโรงงานอยู่ก็ได้ ? โดยหากเป็นเช่นนั้นจริง เชื่อได้เลยว่าตัว KTM RC790 นั้นจะต้องอิงพื้นฐานตัวรถส่วนใหญ่จาก Duke 790 มาแทบทั้งคัน ไม่ว่าจะเป็นเครื่องยนต์แบบ 2 สูบเรียงขนาดความจุ 799cc กำลังสูงสุด 105 แรงม้า ที่ 9,000 รอบ/นาที และมีแรงบิดสูงสุดอีก 86 นิวตันเมตร ที่ 8,000 รอบ/นาที ที่อาจจะมีการปรับจูนใหม่เล็กน้อยเพื่อความเหมาะสม ด้านชุดเฟรมมีความเป็นไปได้ที่ทาง KTM อาจเปลี่ยนซับเฟรมหลังเป็นแบบอลูมิเนียมเพิ่มรีดน้ำหนัก ยึดเข้ากับเมนเฟรมที่เป็นแบบโครงเหล็กถักชุดเดียวกับ…
ขณะที่กฏหมายในบ้านเรายังไม่สามารถกำหนดให้ชัดเจนเสียทีว่าจะเอายังไงดีกับรถมอเตอร์ไซค์พลังงานทางเลือก ล่าสุดทาง Harley-Davidson กลับได้ทำการเปิดราคาค่าตัวของรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าคันแรกของทางค่าย “LiveWire” ออกมาเรียบร้อย เพื่อเป็นการยืนยันว่ามันพร้อมแล้วที่จะถูกเปิดให้ลูกค้าที่สนใจได้จับจองในเร็ววันนี้ สำหรับหน้าตาโดยรวมของ 2019 LiveWire นั้น ยังคงอิงจุดเด่นหลายๆอย่างมาจาก LiveWire Concept แต่ปรับเปลี่ยนรูปแบบชุดเฟรมอลูมิเนียมใหม่ให้ดูแข็งแรงและสวยงามเหมาะกับการทำขายจริงมากยิ่งขึ้น, ถอดชุดฝาครอบแบตทิ้งไปเพื่อเผยให้เห็นครีบระบายความร้อนที่เรียงรายตั้งแต่บนยันล่างทั่วตัวแบตฯ, ชุดไฟหน้ามีการปรับขนาดโคมให้ใหญ่ขึ้นตามฉบับรถมอเตอร์ไซค์ยุคใหม่ของ Harley-Davidson ถังน้ำมันหลอกทรงหยดน้ำทำเอาไว้เพื่อบ่งบอกเป็นเอกลักษณ์ของทางค่าย, ชุดซับเฟรมโครงเหล็กและติดตั้งเบาะนั่งกับพักเท้าสำหรับผู้ซ้อนเสริมเข้ามา, ระบบกันสะเทือนหน้าเป็นแบบหัวกลับปรับเซ็ทได้ทุกค่าจาก Showa ส่วนโมโนโช้กด้านหลังมีการเพิ่มกระปุกแก๊สหรือซับแทงค์แยกสามารถปรับเซ็ทได้ทุกค่า และเป็นผลิตภัณท์ของ Showa เช่นกัน ระบบเบรกด้านหน้าเป็นแบบดิสก์คู่ขนาดจาน 300 มิลลิเมตร ทำงานร่วมกับปั๊มโมโนบล็อคเรเดียลเมาท์จาก Brembo และเสริมความปลอดภัยด้วยระบบ ABS กับ Traction Control ขณะที่ชุดล้อก็เป็นแบบอลูมินัมอัลลอยด์ขอบ 17 รัดด้วยยางหน้ากว้า 120 มิลลิเมตรด้านหน้า และ 180 มิลลิเมตรด้านหลัง และในส่วนของขุมกำลังหลักที่ประจำการอยู่ในเจ้า LiveWire นั้น จะเป็นแบบมอเตอร์ไฟฟ้า ที่มีข้อดีในเรื่องของแรงบิดคงที่ในทุกย่านการใช้งานนับตั้งแต่เริ่มเปิดคันเร่งจนสามารถเร่งตัวรถจาก 0-96…
เป็นที่ทราบกันดีว่าขณะนี้เหล่าผู้ผลิตแต่ละค่ายมักจะมีการเปิดเพจ Facebook หรือ Instragram แบบเป็นทางการของตนเองไว้เพื่อใช้ในการโปรโมทและตอบข้อสงสัยกับผู้สนใจในระดับเบื้องต้นได้ อย่างไรก็ดี ดูเหมือนแอดมิน Instragram ของทาง Yamaha ประเทศอินโดนีเซีย จะตอบคำถามลูกเพจแบบชัดเจนไปนิด หลังจากที่มีลูกเพจได้เข้ามาบ่นถึงเรื่อง New Yamaha Nmax ว่าเมื่อไหร่จะได้เวลาเปิดตัวของมันจริงๆเสียที ซึ่งเราก็ไม่รู้จะเรียกว่าแอดมินรายนี้โป๊ะแตกดีหรือไม่ เพราะเขาได้ตอบลูกเพจคนดังกล่าวว่าขณะนี้มันเหลือแค่ “รอเวลาเปิดตัวเท่านั้น” (กรอบที่สอง) นั่นจึงเท่ากับขณะนี้ทาง Yamaha ได้จัดการออกแบบ 2019 NMax ขึ้นจนเสร็จสิ้นแล้วเรียบร้อย และเชื่อได้เลยว่าภายในระยะเวลาอีกไม่เกินครึ่งปีนับจากนี้ หรือ อาจจะไม่เกินไตรมาสแรก (ไม่เกินเดือนมีนาคม) เราก็น่าจะได้เห็นการปรากฏภาพหน้าตาของเจ้าพรีเมียมสกูตเตอร์พิกัด 150cc นี้แล้ว แต่หากถามกันต่อว่า New Yamaha Nmax ที่ว่านี้จะมีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงไปมากแค่ไหน เราคงต้องเรียนตามตรงว่าจากข้อมุลที่เรามีอยู่ตอนนี้ ดูเหมือนว่ามันจะเป็นการปรับโฉมแค่ภายนอกแบบ Minor Change หรือเปลี่ยนเปลือกภายนอกเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ยังไงสำหรับเพื่อนๆที่รอคอยโมเดลนี้อยู่ก็รอติดตามชมกันได้เลยครับผม ขอบคุณข้อมูลจาก Warungasep อ่านข่าว Yamaha เพิ่มเติมได้ที่นี่…
จากระแสตอบรับในตัว Royal Enfield Twin 650 ที่ดีเกินความคาดหมายไปมากๆ โดยเฉพาะในเรื่องของเครื่องยนต์ 2 สูบเรียง 648cc ที่กลบจุดด้อยของเครื่องยนต์สูบเดียวรุ่นอื่นๆที่ค่ายมีอยู่จนแทบหมดสิ้น จนทำให้เหล่าสาวกหลายๆคนต่างก็เริ่มเรียกร้องอยากให้ทางค่ายนำเครื่องยนต์ลูกนี้ไปติดตั้งในโมเดลอื่นที่ค่ายมีอยู่เพิ่มเติมบ้าง โดยเฉพาะ “เจ้าแพะภูเขา – Himalayan” อย่างไรก็ดี จากความพยายามในการปรับลดมลพิษทางอากาศที่เข้มงวดขึ้นอย่างก้าวกระโดดในประเทศอินเดีย ทำให้ Siddhartha Lal ผู้บริหารของ Royal Enfield ต้องออกมาเรียนกับสื่อในประเทศตามตรงว่า “ในตอนนี้ทางบริษัทไม่สามารถออกโมเดลใหม่ตระกูล 650 ใดๆเพิ่มเติมได้เลย” ซึ่งเราคาดว่าเป็นเพราะแค่การพยายามปรับปรุงเครื่องยนต์ให้ผ่านมาตรฐานไอเสียในอนาคตที่จะถึงนี้ได้ก็เต็มกลืนแล้วนั่นเอง แน่นอนว่าเมื่อเป็นเช่นนั้นแล้วสำหรับตัว Royal Himalayan 650 เองก็ย่อมที่จะไม่ได้เปิดตัวในเร็วๆนี้เช่นกัน ซึ่งทางผู้บริหารคนเดียวกันนี้ก็ได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมอีกว่า “ไม่มีแผนเปิดตัว Himalayan 650 ในระยะเวลาอันสั้น” ดังนั้นหากเพื่อนๆคนไหนกำลังสนใจโมเดลนี้อยู่จึงอาจจะต้องอดใจรอกันอย่างน้อยประมาณ 2 ปี เพราะกฏมลพิษเจ้าปัญหาที่ว่าจะเริ่มบังคับใช้ในช่วงเดือนเมษายนปี 2020 นั่นเอง ขอบคุณข้อมูลจาก Indianautosblog อ่านข่าว Royal-Enfield เพิ่มเติมได้ที่นี่…
ย้อนไปไม่กี่วันก่อนหน้าเราพึ่งนพเสนอข่าวไปว่าทาง Kawasaki อาจเตรียมเปิดตัว Z400RS/Z250RS รุ่นใหม่ภายในปี 2019 นี้เพื่อหวังตีตลาดรถมอเตอร์ไซค์กลุ่ม นีโอ-คลาสสิค พิกัด 250-400cc หลังจากที่ตนเองได้ดิบได้ดีในรุ่นใหญ่มาแล้ว แต่ล่าสุดดูเหมือนว่าทางค่าย Yamaha เองที่มีรถมอเตอร์ไซค์ตระกูล XSR700/XSR900 ไว้ตีตลาดตรงนี้เอง ก็อาจจะมีแผนเปิดตัว XSR250/XSR300 ใหม่กับเขาด้วยเช่นกัน โดยจากการอัพเดทข้อมูลล่าสุดจากทางสื่อดังแดนญี่ปุ่น Young-Machine ได้นำเสนอออกมานั้น มีใจความระบุเกี่ยวกับเรื่องนี้เอาไว้ว่า จากกระแสความนิยมของรถมอเตอร์ไซค์แนว นีโอ-คลาสสิค ที่เริ่มแผ่ขยายลงมาถึงโมเดลเล็กมากขึ้น ทำให้ทาง Yamaha อาจจะกำลังพัฒนา XSR250/XSR300 อยู่ เพื่อตีตลาดเดียวกับ CB300R ที่ทำตลาดอยู่ในตอนนี้และ Z400RS/Z250RS ที่อาจจะเปิดตัวในอนาคต โดยเจ้า XSR ที่ว่านี้อาจจะไม่ได้ใช้พื้นฐานตัวรถแบบยกชุดจาก YZF-R25/YZF-R3 มาเลยเสียทีเดียว เพราะมันอาจจะได้ใช้ชุดเฟรมใหม่ที่ดีกว่า อย่างไรก็ดีทาง Young-Machine ยังระบุไว้เพิ่มเติมอีกว่า หากภายในช่วงระหว่างปี 2019-2020 นี้ ทาง Yamaha…
เป็นที่แน่นอนแล้วว่าทาง A.P. Honda ได้มีแผนที่จะเปิดตัวรถมอเตอร์ไซค์โมเดลใหม่ในอีกไม่ถึงสัปดาห์ข้างหน้า ทำให้เกิดคำถามไปหลากหลายว่าโมเดลปริศนาที่ว่านี้จะเป็นโมเดลใดกันแน่ ? อย่างไรก็ดีใช้ว่าการหาคำตอบในเรื่ืองนี้จะไร้แนวทางไปเลยซะทีเดียว เพราะจากกระแสข้อมูลที่เกิดขึ้น รวมถึงความเป็นได้ต่างๆจึงทำให้เรายังสามารถที่จะไล่เรียงรายชื่อรุ่นรถมอเตอร์ไซค์ที่อยู่ในต้องสงสัยได้บ้าง 1. Scoopy-i แม้ว่าที่จริงแล้ว แฟชัน-สกูตเตอร์ คันนี้จะพึ่งปรับโฉมใหญ่ไปครั้งแรกเมื่อตอนปี 2017 แต่ด้วยกระแสความนิยมที่ถดถอยลงไปพอสมควร ประกอบกับเมื่อช่วงปลายปี 2018 ที่ผ่านมา ทาง Astra Honda หรือ ฮอนด้าประเทศอินโดนีเซีย ได้มีการเปิดตัว คอนเซปท์ที่ชื่อว่า “Project G” ออกมา โดยเจ้าคอนเซปท์ไบค์ที่ว่านี้ก็มีรูปทรงใกล้เคียงกับ Scoopy-i ไม่น้อย ดังนั้นจึงมีโอกาสอยู่มากพอสมควรที่ทาง Honda อาจจะเตรียมปรับโฉมมันใหม่เร็วกว่าปกติ 2. Wave 110i เปิดตัวออกมาครั้งแรกเมื่อปี 2009 และปรับโฉมอีกครั้งในปี 2011 แต่หลังจากนั้นผ่านไปนับ 8 ปี เราก็ยังไม่เห็นวี่แววว่า Honda จะปรับโฉมเจ้ามอเตอร์ไซค์แม่บ้านยอดนิยมคันนี้เสียที แต่หลังจากที่เมื่อกลางปีที่แล้วพวกเขาได้มีการปรับพี่ใหญ่ Wave…
แม้ว่าจะเหลือเวลาอีกนานกว่าที่การแข่งขัน MotoGP จะเริ่มเปิดฤดูกาล แต่เพื่อไม่ให้เพื่อนๆหลงลืมมันไปซะก่อน เรามาพูดถึงสิ่งที่เพื่อนๆหลายคนอยากรู้กันมาโดยตลอดนั่นก็คือ ระยะเวลา(ระยะทาง)ในการใช้งานของชิ้นส่วนตัวแข่ง MotoGP ซึ่งแต่ละชิ้นส่วนหลักๆจะถูกเปลี่ยนเมื่อถูกใช้งานไปได้เท่าไหร่นั้น เรามาดูกันเลยดีกว่าครับ 1. น้ำมันเครื่อง และน้ำหล่อเย็น ทุกๆ 350 กิโลเมตร 2. โซ่ขับเคลื่อน ทุกๆ 500 กิโลเมตร 3. เฟืองสเตอร์, ชุดแผ่นคลัทช์*, แผ่นเหล็กคลัทช์*, จานเบรก, และผ้าเบรก ทุกๆ 1,000 กิโลเมตร (* หรือทุกครั้งที่มีการซ้อมออกตัว) 4. ล้อ ทุกๆ 1,200 กิโลเมตร 5. เครื่องยนต์ ทุกๆ 2,000 กิโลเมตร 6. ชุดแผงคอ, แฮนด์บาร์, และชุดเบาะนั่ง (รวมแฟริ่งด้านท้ายและซับเฟรม) ทุกๆ 4,000 กิโลเมตร 7.…
จากประเด็นร้อนที่เกิดขึ้นในช่วงปลายปีก่อนเกี่ยวกับบทสัมภาษณ์ของผู้บริหาร KTM – Stefan Pierer ที่มีใจความส่วนหนึ่งระบุไว้ว่า ขณะนี้ตัวเขาเองมีความสนใจที่จะฮุบเอา Ducati ยอดแบรนด์ผู้ผลิตมอเตอร์ไซค์ระดับพรีเมียมจากอิตาลีมาไว้ในครอบครองของตนเอง ล่าสุดได้มีข้อมูลออกมาเพิ่มอีกว่าขณะนี้ผู้บริหารคนดังกล่าวได้คิดคำนวนเม็ดเงินไว้สำหรับต่อรองกับทาง Volkswagen Group แล้วเป็นที่เรียบร้อยเกี่ยวกับความสนใจตรงนี้ และสำหรับเม็ดเงินที่ทางผู้บริหาร KTM ได้ตระเตรียมเอาไว้เจรจา เพื่อขอซื้อ Ducati ก็อยู่ที่ 1,500 ล้านยูโร หรือราวๆ 54,645 ล้านบาท ซึ่งหลายคนอาจจะมองว่าสูงมากจนผู้บริหาร Volkswagen Group ต้องใจอ่อนกันไปข้าง แต่แท้จริงแล้วตัวเลขตรงนี้ถือว่าไม่ต่างจากครั้งที่ Harley-Davidson ประมูลไปมากเท่าไหร่นัก (จริงๆ HD ให้เลขไว้สูงกว่าด้วยซ้ำในการประมูลครั้งก่อน) โดยผลของการประมูลครั้งนั้น ก็เป็นที่ทราบกันดีว่าสุดท้ายแล้วทาง VW ก็ไม่ได้ยอมขายแบรนด์อิตาลีออกแต่อย่างใด เพราะบอร์ดบริหารส่วนใหญ่ไม่อนุมัติ และให้เหตุผลไว้ว่าบริษัทยังสามารถหากำไรได้อีกเยอะในระยะยาวจากทาง Ducati ซึ่งมันเป็นอะไรที่ดีกว่าการขายทิ้งเพื่อนำเงินก้อนใหญ่เพียงก้อนเดียวมาเก็บไว้กับตัว นั่นจึงเท่ากับว่าแม้ Stefan Pierer จะเสนอเงินเป็นจำนวนเฉียด 55,000 ล้านบาทเพื่อขอซื้อ Ducati ก็ตาม…
อาจจะฟังดูเป็นเรื่องใหม่เพราะไม่เคยมีใครพูดถึงเท่าไหร่ในบ้านเรา แต่แท้จริงแล้วเมื่อราวๆ 5 ปีก่อน ทาง Ducati ได้เคยมีแผนที่จะทำตลาดรถโมโตครอสพิกัด 450cc แต่สุดท้ายต้องพับโปรเจ็กท์ไปเพราะต้องการโฟกัสกับการแข่งขัน MotoGP และการพัฒนารถมอเตอร์ไซค์โมเดลใหญ่อื่นๆที่สำคัญมากกว่าแทน มาตอนนี้ด้วยกระแสตลาดของลูกค้าที่ไม่ได้จำเจอยู่แค่รถมอเตอร์ไซค์แนวสปอร์ตไบค์/แน็คเก็ทไบค์มากมายเหมือนเมื่อก่อนอีกต่อไป และหันไปนิยมรถมอเตอร์ไซค์ในกลุ่มแอดเวนเจอร์-ไบค์ มากขึ้น ทำให้ตอนนี้ทาง Ducati เริ่มรื้อฟื้นโปรเจ็กต์มอเตอร์ไซค์แนวเอนดูโร่ หรือ โมโตครอสนี้กลับมาอีกครั้งเพื่อหวังรุกตลาดลูกค้าสายลุยมากกว่าเดิม โดยคาดว่าพวกเขาจะเริ่มจากการทำตัวแข่งสูบเดียวพิกัด 450cc ก่อนแล้วจึงจะต่อยอดโมเดลที่ว่านี้ไว้สำหรับวางจำหน่ายให้กับลูกค้าทั่วไปในภายหลัง อย่างไรก็ดีนี่ยังเป็นเพียงข่าวลือที่พึ่งมีการพูดถึงโดยสื่อนิตยสารสายฝุ่นสัญชาติอเมริกาเพียงเจ้าเดียวเท่านั้น เราจึงอยากให้เพื่อนๆที่ให้ความสนอกนสใจในโมเดลนี้อยู่ใจเย็นไว้ก่อน โดยหากข้อมูลที่ว่านี้เป็นจริง เชื่อว่าอีกไม่นานนับจากนี้ทางส่ือใหญ่เจ้าอื่นๆจะต้องเริ่มหาข้อมูลเพิ่มให้เราได้วิเคราะห์กันอีกแน่นอน ยังไงก็รอติดตามกันต่อไปครับ สำหรับความเคลื่อนไหวที่แท้จริงของ Ducati Motocross 450 ว่าที่สายลุยแท้ๆคันแรกจากค่ายแดงแดนอิตาลี ขอบคุณข้อมูลจาก MotoHead, Asphaltandrubber ขอบคุณภาพจาก Oberdan Bezzi อ่านข่าว Ducati เพิ่มเติมได้ที่นี่ เพื่อนๆ Bikers สามารถติดตามข่าวสารวงการล้อ ได้ทางแฟนเพจ MotoRival ของเราครับ Motorival