ย้อนไปเมื่อราวๆ 40 ปีที่แล้ว Honda CBX ถือเป็นสตรีท(แน็คเก็ท)ไบค์ที่ได้รับเสียงฮือฮาหลังเปิดตัวเป็นอย่างมาก เนื่องจากขุมกำลังของมันนั้นไม่ได้มีลูกสูบให้ใช้งานแค่ 1, 2, 3, หรือ 4 สูบ เหมือนกับรถมอเตอร์ไซค์คันอื่นๆทั่วๆไป แต่มันกลับมีจำนวนสูบให้รีดกำลังได้มากถึง 6 สูบด้วยกัน ซึ่งมันออกจะน่าเสียดายไปซักนิดเพราะในท้ายที่สุดมันกลับถูกยกเลิกสายการผลิตไปในระยะเวลาอันสั้นด้วยอายุการตลาดเพียง 4 ปีเท่านั้น แต่อย่างที่เพื่อนๆหลายคนทราบกันดีว่าในช่วงระยะ 1 ปีที่ผ่านมานี้ทาง Honda ได้เน้นเปิดโมเดลใหม่ที่ออกแบบมาเพื่อตีตลาดเอาใจคนชอบรถมอเตอร์ไซค์แนวคลาสสิคมากเป็นพิเศษ ซึ่งดูเหมือนว่าจะรวมถึงการชุบชีวิตเจ้า CBX ให้กลับมาโลดแล่นบนถนนใหม่อีกครั้ง ดังที่เราได้เห็นจากภาพสิทธิบัตรชุดนี้ โดยจากภาพจะเห็นได้ว่าเจ้า All-New Honda CBX นั้นถูกปรับดีไซน์ภายนอกใหม่ทั้งหมดเพื่อให้เข้ากับยุคสมัย แต่ยังแฝงกลิ่นอายความเป็น CB ไว้ได้อยางดี แถมจุดเปลี่ยนในครั้งนี้ก็คือชุดแฟริ่งที่ทางค่ายตั้งใจออกแบบให้เป็นทรง Cafe Racer อย่างแท้จริง และที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลยเด็ดขาดก็คือ เครื่องยนต์ 6 สูบเรียงขนาดความจุใหญ่ถึง 1,200cc ที่ได้รับการติดตั้งชุดแผงหม้อน้ำระบายความร้อนด้านหน้าเข้ามา เพื่อรักษาอุณภูมิเครื่องยนต์ให้คงที่มากกว่าเดิม ส่วนกำลังแรงม้าที่ได้คาดว่าจะอยู่ที่ราวๆ 200…
Author: admin
จากที่ก่อนหน้านี้เราได้นำเสนอไปแล้วว่าทาง Kawasaki USA ได้ทำการยื่นเอกสารของเจ้า ZX-6R รุ่นใหม่ให้กับกรมมลพิษตรวจสอบ ก่อนที่จะจัดจำหน่ายจริงในปีหน้า ซึ่งนี่ถือเป็นข่าวดีไม่น้อยสำหรับเพื่อนๆที่รอโมเดลนี้กันอยู่ อย่างไรก็ดี จากผลพวงของมาตรฐาน Euro4 ที่เจ้า All-New ZX-6R ต้องผ่านให้ได้นั้น ส่งผลให้ตัวเลขพละกำลังสูงสุดของเครื่องยนต์ลดลงจากโฉมปัจจุบันเล็กน้อย นั่นก็คือลดลงมาเหลือ 128 แรงม้า ที่ 13,500 รอบ/นาที จากที่ตอนแรกมีอยู่ 129 แรงม้า ณ รอบกำลังเดียวกัน แน่นอนว่าน้ำหนักเองก็มีตัวเลขเพิิ่มขึ้นไปโดยปริยาย เพราะตัวรถต้องแบกน้ำหนักของแคทตาไลติกในท่อไอเสียมากขึ้น จนส่งผลให้น้ำหนักตัวรถเขยิบขึ้นอีก 2 กิโลกรัม จากเดิมที่มีอยู่ 194 กิโลกรัม จึงทำให้อัตราส่วนของน้ำหนัก/แรงม้า เพิ่มขึ้นอีกเล็กน้อยเป็น 1.53 กิโลกรัม/ 1 แรงม้า (ของเดิมอยู่ที่ 1.50 กิโลกรัม/แรงม้า) และมีผลต่อเนื่องให้ความเร็วสูงสุดลดลงอีกเล็กน้อย (คาว่าจะหายไปราวๆ 3-4 กิโลเมตร/ชั่วโมง จากเดิม) แต่ใช่ว่ากำลังจะลดลง…
ไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์ เปิดโปรโมชั่นรถมอเตอร์ไซค์หลากหลายรุ่นเอาใจสาวก เพื่อการเป็นเจ้าของรถมอเตอร์ไซค์สัญชาติอังกฤษได้ง่ายขึ้นตลอดเดือนกรกฎาคม ดังนี้ “Triumph Street Twin” รับข้อเสนอสุดพิเศษ Gift Voucher มูลค่า 20,000 บาท พร้อมอุปกรณ์เสริมมูลค่ารวม 20,700 บาท “Triumph Street Scrambler” รับ Gift Voucher มูลค่า 20,000 บาท และอุปกรณ์เสริมมูลค่ารวม 23,290 บาท “Triumph Bonneville T100” และ “Triumph Bonneville T100 Black” รับ Gift Voucher มูลค่า 10,000 บาท “Triumph Tiger 800 XRt” และ “Triumph Tiger…
แม้ว่าก่อนหน้านี้เราจะได้นำเสนอไปว่า Dani Pedrosa ได้ทำการเซ็นสัญญาเป็นนักบิดในทีม SIC Petronas Yamaha สำหรับการแข่งขัน MotoGP ปี 2019-2020 ไปแล้วเรียบร้อย แต่เราต้องไม่ลืมว่าข้อมูลในครั้งนั้นเป็นข้อมูลที่เจ้าตัวยังไม่ได้ออกมาประกาศอย่างเป็นทางการใดๆ ซึ่งในที่สุดเขาก็ได้เลือกมาแล้วว่าจะแถลงเกี่ยวกับเรื่องนี้ในการแข่งขันสนามถัดไปที่ ซัคเชนริง ประเทศเยอรมัน ที่จะจัดขึ้นในกลางเดือนนี้ โดย Dani Pedrosa ได้เกริ่นกับสื่อที่ไปสัมภาษณ์แบบสั้นๆเอาไว้ว่า “ในที่สุดผมก็ตัดสินใจได้แล้วว่าจะเอายังไงกับอนาคตของผม, แต่ผมอยากจะชี้แจงให้ทุกๆคนได้ทราบพร้อมกันในทีเดียว, ดังนั้นที่ซัคเชนริง ผมจะจัดแถลงการเกี่ยวกับเรื่องนี้, ผมอยากขอบทุกคนเคารพในการตัดสินใจของผม และขอบคุณที่ต้องรอจนกว่าจะถึงวันแถลง, ขอบคุณเป็นอย่างยิ่ง” อย่างไรก็ดีแม้ว่าเราจะได้กล่าวไปในข้างต้นว่า มีสื่อยุโรประบุว่า Pedrosa ได้ทำการเซ็นสัญญากับทาง SIC Petronas Yamaha ไปแล้วเรียบร้อย และทาง Yamaha ก็พร้อมสนับสนุนด้วยการส่งหัวหน้าช่างของ Maverick Vinales คนปัจจุบันไปทำงานด้วย แต่ในขณะเดียวกันข้อมูลของสื่อฝั่งอิตาลีก็มีการระบุแย้งว่า “ความเป็นไปได้ที่ Pedrosa จะประกาศรีไทร์ยังมีอยู่” ดังนั้นในระหว่างนี้สิ่งที่เราควรทำจริงๆคือควรรอวันแถลงย่างเดียวเท่านั้นว่าเจ้าตัวจะชี้แจงมาว่าอย่างไร ขอบคุณข้อมูลจาก Speedweek อ่านข่าว…
นับตั้งแต่มีการแบนชุดปีก หรือวิงเล็ทเป็นครั้งแรกในการแข่งขัน MotoGP เมื่อปลายปี 2016 ในปี 2017 และ 2018 ทางคณะกรรมการก็ได้มีการอัพเดทกฏที่เข้มงวดมากขึ้นเรื่อยๆเพื่อให้สิ่งเหล่านี้มีความปลอดภัยในการใช้งานมากที่สุด ซึ่งในการแข่งขันปีหน้าพวกเขาก็เตรียมปรับกฏใหม่อีกครั้งเช่นกันหลังมีมติประชุมกันเกี่ยวกับเรื่องนี้เรียบร้อยในการแข่งขัน DutchGP ที่ผ่านมาเมื่อปลายสุดสัปดาห์ก่อน หากเพื่อนๆยังจำกันได้ ก่อนหน้านี้เราได้เสนอไปว่า ยังไงๆทางคณะกรรมการยังคงอยากให้ “ชุดแอโรแฟริ่ง” ปรากฏอยู่ในการแข่งขันระดับ MotoGP นี้อยู่เช่นเดิม แต่ประเด็นในเรื่องของชุดแฟริ่งแบบแยกส่วนที่สามารถปรับรายละเอียดเล็กน้อยกลางซีซันได้ยังเป็นประเด็นให้ถกเถียงกันอยู่ จนกระทั่งในการแข่งขันล่าสุดนั้นทางคณะกรรมการได้มีมติแล้วว่าจะไม่ให้ทีมแข่งปรับเปลี่ยนรายละเอียดใดๆของชุดแฟริ่งได้ในปี 2019 ขยายความกันอีกสักนิด สำหรับกฏข้อดังกล่าว โดยเราอยากให้เพื่อนๆลองทำความเข้าใจก่อนว่า ในการแข่งขันปี 2018 นี้ กฏที่ใช้ควบคุมชุดแอโรแฟริ่ง มีใจความสำคัฯหลักๆแบ่งเป็นข้อๆได้อย่างนี้ว่า 1. ทีมแข่งสามารถใช้ชุดแอโรแฟริ่งที่นอกเหนือจากแฟริ่งมาตรฐานได้ 1 แบบ, 2. ชุดแอโรแฟริ่งที่ว่านี้สามารถอัพเกรดได้หนึ่งครั้งระหว่างซีซั่น, 3. ตัวชุดแอโรแฟริ่งสามารถออกแบบให้ถอดหรือเปลี่ยนชิ้นส่วนได้หากไม่มีผลต่อแฟริ่งโดยรวม แต่ไม่อนุญาตให้เพิ่มใหม่ได้ ซึ่งปัญหาที่ทางกรรมการต้องถกกันก็คือกฏข้อที่ 3 นี่แหล่ะครับ เพราะเมื่อทางคณะกรรมการบอกว่าชุดแอโรแฟริงที่ว่านี้สามารถถอดเข้าออกได้ ทางทีมแข่งจึงได้ออกแบบชุดแฟริ่งนี้ให้มีหลายชิ้นไว้ก่อน เพื่อที่จะได้ถอดปรับตามความต้องการของนักบิดได้ในภายหลัง มันจึงเกิดข้อได้เปรียบเสียเปรียบกับทีมอื่นที่ไม่ได้ออกแบบชุดแฟริ่งแนวนี้ไว้แต่แรก แถมยังเป็นการเปลืิองงบประมาณในการออกแบบที่มากกว่าปกติจนเกินไปอีกด้วย ดังนั้นในปี 2019…
หลังจากที่ 2 วันก่อนเราได้นำเสนอข้อมูลไปว่า Dani Pedrosa ได้เซ็นสัญญากับทาง Petronas เป็นที่เรียบร้อยเพื่อขับตัวแข่ง Yamaha YZR-M1 ใน MotoGP ปี 2019-2020 โดยนอกจากการได้ขับเจ้า YZR-M1 สเปคโรงงานแล้ว (ยังไม่มีการยืนยันแต่ก็เป็นไปได้สูง) ดูเหมือนว่าตัวเขายังต้องการให้มั่นใจว่าตนเองจะมีทีมซัพพอร์ทที่ดีจนช่วยเสริมให้ตนสามารถไล่กวดกับนักบิดแถวหน้าได้แน่นอน ดังนั้นเขาจึงได้ทำการดึง Ramon Forcada หัวหน้าช่างคนปัจจุบันของ Maverick Vinales ที่น่าจะเข้าใจถึงนิสัยของตัวแข่งคันใหม่ดีไม่มากก็น้อยให้มาร่วมงานกันในปีหน้า ส่วนผู้ที่จะมาเป็นหัวหน้าช่างคนใหม่ให้กับ Maverick Vinales ในปีหน้าก็คือ Manuel Cazeux ผู้ซึ่งปัจจุบันกำลังเป็นหัวหน้าช่างให้กับ Alex Rins ที่พึ่งจบการแข่งขันเป็นลำดับที่ 2 ในการแข่งขัน MotoGP 2018 สนามล่าสุดนั่นเอง ขอบคุณข้อมูลจาก Speedweek อ่านข่าว MotoGP เพิ่มเติมได้ที่นี่ เพื่อนๆ Bikers สามารถติดตามข่าวสารวงการล้อ ได้ทางแฟนเพจ…
ย้อนไปเมื่อปี 2016 ทาง Honda India ได้ทำการเปิดตัวสกูตเตอร์สุดแหวกแนวคันนี้ขึ้นมาโดยใช้ชื่อ NAVI ซึ่งนอกจากหน้าตาจะแปลกไปจากชาวบ้านจนไม่ต้องเสียเวลามาเดากันว่ามันคือมอเตอร์ไซค์รุ่นอะไร และในตอนนี้ก้ได้มีข้อมูลออกมาว่าทางค่ายก็ได้เตรียมพร้อมที่ปรับหน้าตาของเจ้านี่ใหม่อีกครั้งเพื่ออัพเดทความสดใหม่ให้กับตัวรถ โดยสำหรับงานแต่งหน้าทาปากเจ้า NAVI โฉมปี 2018 หลักๆจะอยู่ที่ชุดจอมาตรวัดใหม่ที่จะปรับให้เป็นแบบกึ่งดิจิตอล, เปลี่ยนชุดกรอบไฟหน้า และแผงแฟริ่งข้างใหม่ ซึ่งแน่นอนว่ารวมถึงการเปิดสีกับสติ๊กเกอร์ลายใหม่อีกด้วย ด้านข้อมูลพื้นฐานของเจ้า Honda NAVI นั้น จัดอยู่ในกลุ่มแฟชันสกูตเตอร์ที่พกพาเครื่องยนต์ขนาด 109.19cc กำลังสูงสุด 7.83 แรงม้า ที่ 7,000 รอบ/นาที และแรงบิดสูงสุดอีก 8.96 นิวตันเมตรที่ 5,500 รอบ/นาที ส่งกำลังด้วยระบบเกียร์ CVT ไปยังล้อหลังขนาด 10 นิ้วที่รัดด้วยยางขนาด 90/100-10 ส่วนล้อหน้าเป็นขอบ 12 นิ้วรัดด้วยยางหน้ากว้างเดียวกันคือ 90/90-12 ขณะที่ระบบเบรกเป็นแบบดรัมทั้งหน้าและหลัง ซึ่งไม่น่าแปลกใจเท่าไหร่นักกับราคาค่าตัวที่ถูกเพียงแค่ราวๆ 2 หมื่นบาทนิดๆเท่านั้น อ่านข่าว Honda…
Triumph Motorcycle ผู้ผลิตรถจักรยานยนต์สัญชาติอังกฤษ ขอแนะนำเสื้อผ้าสไตล์ไบค์เกอร์สุดเท่และมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ได้แก่ “RAW RIDING JEANS” ราคา 8,560 บาท กางเกงยีนส์สำหรับผู้ขี่รถมอเตอร์ไซค์โดยเฉพาะ ผลิตจากผ้า PEKEV® ที่มีความแข็งแรงทนทาน รองรับแรงกระแทกและทนต่อการขัดถูได้ดี นอกจากนี้ยังมาพร้อมการ์ดสะโพกและการ์ดเข่าคุณภาพสูงจาก D3o® ต่อด้วย “ARNO QUILTED JACKET” ราคา 14,900 บาท เสื้อแจ็คเก็ตหนังแท้ดีไซน์สุดคูลที่ให้ความรู้สึกสะดวกสบายขณะขับขี่ พร้อมจัดเต็มด้านการป้องกัน 5 จุด ที่หัวไหล่ ข้อศอก และหลัง ด้วยวัสดุกันกระแทกอย่างดีจาก D3o® ที่มีประสิทธิภาพ ปิดท้ายความเท่ให้ครบเซ็ทด้วย “STOKE BLACK BOOTS” ราคา 4,900 บาท รองเท้าบูทหนังแท้สีดำที่มีคุณสมบัติป้องกันรอยขีดข่วน พร้อมช่วยกระชับข้อเท้าระหว่างการปรับเปลี่ยนเกียร์ขณะขับขี่ ให้คุณมั่นใจในความปลอดภัยตลอดทุกการเดินทาง โดยผู้สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ได้ที่โชว์รูมไทรอัมพ์ ทั้ง 13 สาขาทั่วประเทศ…
นับตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมา กระแสข้อมูลของเจ้า Yamaha YZF-R25 ก็หนักมากขึ้นเรื่อยๆ ทั้งการคาดเดาออปชั่นท่ีทางค่ายจะจัดให้ ต่อด้วยเส้นสายที่ดีไซน์เนอร์จะออกแบบมา และล่าสุดกับช่วงเดือนหลังๆมานี้ที่ได้มีการเปิดภาพ Spyshot ของเจ้านี่ออกมาราวกับว่ามันใกล้ถึงเวลาแล้วที่จะเปิดตัวให้เราๆได้เชยชมและจับจองกันในเร็วๆนี้ โดยจากข้อมูลที่สื่ออินโดได้ระบุไว้นั้นมีใจความว่า ในอีก 1 เดือนนับจากนี้ที่ประเทศของตนเองจะมีการจัดงานมหกรรมยานยนต์ “GIIAS2018” (อารมณ์ Motor Expo บ้านเรา) ดังนั้นจึงมีความเป็นได้ไม่น้อยที่ทาง Yamaha Indonesia จะนำเจ้า YZF-R3 รุ่นใหม่ มาเปิดตัวอย่างเป็นทางการในงานนี้ อย่างไรก็ดีปกติแล้วในงาน GIIAS นั้น ทาง Yamaha มักจะเปิดตัวเฉพาะรถมอเตอร์ไซค์ใหญ่ หรือ Bigbike ที่มีฟีเจอร์ระดับ Hi-End เท่านั้น แต่อะไรก็เกิดขึ้นได้เพราะเจ้า All-Yamaha YZF-R3 คันนี้ก็มีความนิยมในตัวเองสูงมาก และออปชั่นเองก็จัดเต็มไม่แพ้กันหากอ้างอิงตามข้อมูลก่อนหน้านี้ ทั้งโช้กหน้าหัวกลับ, เครื่องยนต์ 250cc รอบจัดกำลังสูงพร้อมระบบ VVA, ชุดไฟรอบคัน Full LED,…
โดยปกติแล้วสำหรับนักเดินทางที่ชอบเที่ยวไปในที่ต่างๆใกลๆ (ที่ไม่ใช่ชุมชนเมือง) ถ้าไม่ต้องคอยเปิดห้องโรงแรมหรือที่พักซึ่งมีจำนวนน้อยมากๆ ก็มักจะพกชุดเตนท์ที่ต้องเสียเวลากางก่อนนอน และเก็บก่อนเดินทางต่อเสมอๆ ซึ่งทั้งหมดที่ว่ามานี้ก็คือไอเดียของนักศึกษาหนุ่มจากมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในรัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา ที่ได้ออกแบบและสร้างเจ้า “MOTOHOME” หรือ “มอเตอร์ไซค์บ้าน” คันนี้ออกมา เพราะไม่ต้องพกเตนท์ที่นอนยากเย็นแบบนั้นอีกต่อไป แต่สามารถนอนง่ายๆบนฟูกนุ่มๆที่พกมาในห้องแคปซูลที่ติดอยู่หลังรถได้เลย และผู้ที่ออกแบบเจ้า “MOTOHOME” ก็คือ Jeremy Carman นักศึกษาคณะสถาปัตย์ ผู้รักในการเดินทาง ซึ่งพื้นฐานของรถมอเตอร์ไซค์บ้านคันนี้แท้จริงแล้วเป็น Honda CBR1000F รุ่นปี 1993 ที่ถูกดัดแปลงชิ้นส่วนภายนอกตัวรถใหม่แทบทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นชุดโช้กคู่หน้าที่หันไปหยิบเอาของ Honda CR500 มาใส่เพราะต้องการความสูงกับระยะยุบช่วงกว้าง ในขณะที่ระบบกันสะเทือนหลังเองก็ถูกยืดขาสวิงอาร์มออกไปจนระยะฐานล้อยาวถึง 2.6 เมตร เพื่อรองรับกับส่วนห้องพักที่ยื่นไปทางด้านหลัง โดยสำหรับข้อมูลของห้องพักด้านหลังนั้นถูกสร้างขึ้นจากวัสดุอลูมิเนียมน้ำหนักเบาจนทำให้น้ำหนักของตัวห้องที่ว่านี้เบาเพียง 32 กิโลกรัมเท่านั้น ในขณะที่ขนาดโดยรอบตามสเกล กว้างxยาวxสูง ก็อยู่ที่ 86x183x100 ในหน่วยเซนติเมตรซึ่งไม่ได้ใหญ่อะไรมากมายเลย แต่ก็ยังกว้างพอที่จะทำให้ผู้ขี่นอนหลับอย่างสบายตัวเพราะความจุโดยรวมนั้นสูงถึง 132 ลิตร (ละถ้าเพื่อนๆคนไหนเกิดหิวขึ้นมาล่ะก็ใต้ตู้นอนที่ว่านี้ก็จะมีช่องเก็บของอยู่ด้านล่างเผื่อเอาไว้ให้อีกด้วย) หากเพื่อนๆคนไหนสนใจสามารถติดตามรายละเอียดเต็มๆของโปรเจ็กท์ “MOTOHOME” ที่ลิ้งค์ตรงนี้ได้เลยครับผม…