บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด ทำการส่งมอบเครื่องยนต์รถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์ Yamaha YZF-R6 ให้กับชมรมพัฒนาเทคโนโลยียานยนต์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต เพื่อใช้ในการพัฒนาและเข้าร่วมการแข่งขันรายการ 15th TSAE Auto Challenge 2019 -Student Formula โดยการส่งมอบเครื่องยนต์ในครั้งนี้มีขึ้น ณ สถาบันฝึกอบรมขับขี่รถจักรยานยนต์ยามาฮ่า (YRA) เมื่อเร็วๆ นี้ อ่านข่าว Yamaha เพิ่มเติมได้ที่นี่ เพื่อนๆ Bikers สามารถติดตามข่าวสารวงการล้อ ได้ทางแฟนเพจ MotoRival ของเราครับ Motorival
Author: admin
อย่างที่ทราบกันดีว่าในอนาคตอีกไม่นานนับจากนี้รถมอเตอร์ไซค์ที่เราใช้อยู่จจะต้องกลายเป็นระบบไฟฟ้าทั้งหมดในซักวัน ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจเท่าไหร่นัก ถ้าในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้เราจะเห็นเหล่าผู้ผลิตต่างๆเปิดตัวรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าของพวกเขาออกมากันมากขึ้น ซึ่งในวันนี้เราก็จะพาเพื่อนๆไปพบกับเจ้าครุยเซอร์ไฟฟ้าหน้าตาแปลกประหลาดที่ชื่อว่า Curtiss Zeus กันครับ โดยสำหรับที่มาคร่าวๆของรถครุยเซอร์ไฟฟ้านามว่า Curtiss Zeus คันนี้นั้นเป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้รับความร่วมมือจากผู้ผลิตหลายแบรนด์ด้วยกันทั้งจาก Zero Motorcycle ที่ช่วยพัฒชุดมอเตอร์ไฟฟ้าคู่มาให้ โดยทาง Curtiss ได้นำมาเชื่อมต่อกันด้วยเพลากลาง ซึ่งเมื่อมอเตอร์ทั้งสองตัวรถกำลังกันแล้วมันก็จะสามารถสร้างตัวเลขกำลังแรงม้าสูงสุดได้ 170 HP ส่วนแรงบิดสูงสุดนั้นแตะตัวเลขระดับชวนขนหัวลุกที่ 393 นิวตันเมตร ด้านตัวถังที่ใช้อลูมิเนียมในการสร้างทั้งหมดเป็นงานออกแบบร่วมกันระหว่าง Curtiss เองกับ Confederate บริษัทแม่ที่ขึ้นชื่อในเรื่องการสร้างครุยเซอร์ไบค์สุดแปลกประหลาด ดังนั้นจุดซิกเนเจอร์หรือลายเซ็นของบริษัทแม่ค่ายนี้อย่าง ชุดระบบกันสะเทือนหน้าแบบดับเบิ้ลวิชโบน และโครงหลักทรงท่อกลมขนาดใหญ่ กับชิ้นเหล็กทรงกลมซึ่งเชื่อมติดเหมือนกับข้อต่อแถวแกนคอของตัวรถ ที่เอาจริงๆแล้วในครุยเซอร์ของ Confederate เองคือถังน้ำมันก็ยังออกแบบเอาไว้ให้ด้วย ส่วนจุดเด่นอื่นๆของเจ้า Curtiss Zeus ก็มีทั้ง ชุดพอร์ทเชื่อมต่อกับ Apple iPad ที่จะเป็นต้องใช้อย่างมากเพราะมันจะหลายเป็นมาตรวัดให้กับตัวรถ, ชุดล้อแบบจานคาร์บอน (ย้ำว่าเป็น “จาน” นะครับ เพราะมาเป็นแผ่นเลย), และชุดระบบเบรกหน้าหลังทั้งหมดจาก Beringer…
ชื่อ Jawa Moto อาจจะเป็นชื่อแบรนด์ที่ไม่คุ้นหูบ้านเราเลยซักนิด แต่ถ้าหากใครเป็นแฟนพันธ์แท้การแข่งขัน Isle Of Man TT จะทราบกันดีว่านี้คือหนึ่งในแบรนด์ที่สามารถคว้าแชมป์การแข่งขันได้อยู่หลายต่อหลายครั้งเมื่อยุคปี 1960 ก่อนที่จะจางหายไปตามการเวลา แต่เอาจริงๆแล้วตลอดช่วง 60 กว่าปีที่ผ่านมานี้ทางค่ายสัญชาติสาธารณรัฐเช็ก ยังไม่ได้หายไปไหน และด้วยความที่พวกเค้าเริ่มอยากที่จะกลับมาทำให้โลกรู้จักอีกครั้งจึงได้เลือกเปิดตัวเจ้า 2018 Jawa 350 Special ที่เราไม่สามารถมองข้ามได้คันนี้ออกมา อย่างที่เรากล่าวในข้างต้นว่าทาง Jawa เคยมีชื่อเสียงกับการแข่งขันในรายการ Isle Of Man TT ดังนั้นเราจึงเห็นได้ว่าเจ้า 350 Special คันนี้ถูกออกแบบให้มีหน้าตาแบบเดียวกับตัวแข่งยุค 60 ไม่ว่าจะเป็นชุดไฟริ่งด้านหน้าทรงหัวกระสุนที่ถูกต่อเป็นชิ้นเดียวยาวลงมาด้านข้างตัวรถ, ถังน้ำมันทรงคางหมูขนาด 12 ลิตร, ตูดมดทรงคลาสสิค, แฮนด์จับโช้กวางใต้แผงคอ, พักเท้าแบบเกียร์โยงวางตำแหน่งสูงและถอยไปด้านหลังที่เอื้อต่อการเทโค้งแทงเข่า, และล้อซี่ขอบ 18 นิ้วรัดด้วยยางแก้มสูงขนาดหน้ากว้าง 3.25 นิ้วสำหรับล้อหน้า และ 130/70-18 สำหรับล้อหลัง ด้านเครื่องยนต์ที่ติดรถมานั้นเป็นแม้จะเป็นแบบ…
ย้อนไปเมื่อยุคปี 1980 ทาง Honda ได้เคยเปิดตัวสตรีทไบค์แนวใหม่ (ของยุคนั้น) ที่มาพร้อมกับเครื่องยนต์แบบ V-Twin วางขวางลำตัว นั่นก็คือเจ้า 1978 Honda CX500 ที่ต่อมามันได้ถูกต่อยอดด้วยการดัดแปลงบอดี้ไปอีกหลายแบบเช่น CX650C โฉมครุยเซอร์, CX500EC Sports โฉมทัวร์ริ่งไบค์, และ CX500 Turbo ที่ได้รับการติดตั้งระบบอัดอากาศเทอร์โบชาร์จ ซึ่งทางสื่อเยอรมันรายหนึ่งได้นำมาต่อยอดออกแบบไว้จนกลายเป็น Honda CX1200 Concept ที่เรากำลังเห็นอยู่นี้ โดยสำหรับคอนเซปท์ Honda CX1200 คันนี้ทางสื่อ Motorrad ได้ให้ข้อมูลว่าตัวรถจะถูกออกแบบให้เน้นไปที่ความร่วมสมัย ดังนั้นดีไซน์โดยรวมจะมีความเป็น Neo-Classic คล้ายๆกับกลุ่ม CB1000R, CB300R, และ CB150R แต่ในตัว CX คันนี้จะมีความเป็น Cafe Racer เพิ่มมาอีกพอสมควร เพราะติดตั้งทั้งชุดแฟริ่งครอบไฟหน้า, ชุดระบบกันสะเทือนหัวกลับ ทำงานร่วมกับจานเบรกและคาลิปเปอร์เบรกเรเดียลเมาท์,…
ในปี 2018 เอ.พี.ฮอนด้า ได้วางรากฐานเพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำและผู้บุกเบิกวงการมอเตอร์สปอร์ต อันดับ 1 ของไทย ด้วยการริเริ่มโปรเจกต์บิดล่าฝัน ปั้นเยาวชนนักบิดในโครงการ “เอ.พี.ฮอนด้า อะคาเดมี ไทยแลนด์” ซึ่งออกสตาร์ทสนามที่ 1 ไปแล้ว ระหว่างวันที่ 28-29 เมษายน ที่ผ่านมา ณ สนามมอเตอร์สปอร์ต พาร์ค กรุงเทพฯ โดยหลังการฝึกอบรม ฟิล์ม-รัฐภาคย์ วิไลโรจน์ นักบิดชาวไทยคนแรกที่เคยโลดแล่นในรายการโมตีจีพี รุ่นโมโตทู ผู้รับหน้าที่เป็นครูฝึกสอนร่วมกับ มาโกโตะ ทามาดะ นักแข่งชาวญี่ปุ่นผู้มีประสบการณ์บนเวทีระดับโลกมาแล้วในศึกโมโตจีพี กล่าวชมน้องๆ นักบิดรุ่นเยาว์ทั้ง 15 คนว่า “ทุกคนล้วนมีใจสู้ แม้จะเหนื่อยล้าจากการเรียนรู้ทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติ อย่างทักษะการฟิตร่างกายและเทคนิคการขับขี่ควบคุมรถแข่ง ฮอนด้า เอ็นเอสเอฟ100 อย่างหนักตลอดทั้งสองวัน แต่ทุกคนก็ยังฮึดสู้และตั้งใจฝึกจนจบครบตามหลักสูตรที่กำหนดไว้ได้สำเร็จ” ขณะที่สนามต่อไปจะยังไม่มีการเก็บคะแนนเช่นเดียวกับสนามแรก อย่างไรก็ตามทางครูฝึกจะเพิ่มความเข้มข้นมากขึ้น เพื่อให้เหล่านักบิดอนาคตไกลได้มีความคุ้นเคยกับรูปแบบการแข่งขันใกล้เคียงกับของจริงมากที่สุด “สนามที่ 2 ที่กำลังจะจัดขึ้นสุดสัปดาห์นี้ โปรแกรมการฝึกอบรมจะแตกต่างจากครั้งแรก…
ย้อนไปเมื่อช่วงปลายปีที่แล้วนอกจากการเปิดตัวโฉม Concept ของ Duke 790 ที่พึ่งกลายเป็นโฉมขายจริงเมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมานี้ ทาง KTM ก็ได้ทำการเปิดตัวโฉมคอนเซปท์ของว่าที่ตัวลุยรุ่นกลางอย่างเจ้า 790 Adventure ออกมาด้วย ซึ่งตลอดระยะเวลากว่าครึ่งปีที่ผ่านมาก็ได้มีภาพตัวทดสอบหรือโฉม Prototype ออกมาให้เห็นอยู่หลายครั้ง รวมถึงเมื่อช่วงคืนวานนี้ด้วย โดยสำหรับตัวรูปที่เราเห็นมานั้น (ไม่ใช่รูปที่เราแนบในนี้นะครับ ถ้าเพื่อนๆอยากเห็นให้คลิกที่ลิ้งค์ด้านล่าง) คาดว่าตัว KTM 790 Adventure Prototype คันที่อยู่ในรูปจะต้องเป็นตัวรุ่นย่อย S หรือ ธรรมดา ที่ออกแบบมาเพื่อใช้งานถนนดำเป็นหลัก เพราะชิ้นส่วนที่ถูกติดตั้งไว้กับตัวรถอย่าง วินชิลด์ทรงสูง และ ล้อซี่ลวดรัดด้วยยางกึ่งหนาม บ่งบอกไว้ค่อนข้างชัดเจน เพราะปกติแล้วถ้าเป็นตระกูล Adventure รุ่นย่อย R จะมีการติดตั้งยางหนาม และวินชิลด์ทรงสั้นมาให้แทน เพื่อความคล่องตัวในการใช้งานแนวบุกตะลุยที่มากกว่า ด้านดีไซน์อื่นๆที่บ่งบอกถึงความแตกต่างจากตัว Duke 790 ก็มีอีกหลายส่วนด้วยกัน ทั้งชุดโคมไฟหน้าที่มีรายละเอียดช่วงบนต่างกันเล็กน้อย (ต้องสังเกตุจริงๆถึงจะเห็นความต่าง), บังโคลนยกสูงแบบรถเอนดูโร่, ถังน้ำมันขนาดใหญ่ขึ้น, ชุดแฟริ่งข่างที่ลากยาวลงมาปิดแครงก์เครื่องซ้ายขวาไปจนถึงด้านล่างอย่างมิดชิดแบบเดียวกับที่ดีไซน์ไว้ในตัว…
สองวันที่ผ่านมา เรานำเสนอข้อมูลไปทั้ง Suzuki GIXXER-R250 ที่อาจจะใช้เครื่องยนต์สูบเดียวน้ำหนักเบา และเมื่อวันก่อนก็เป็นคิวของ Kawasaki ZX-25R ที่คาดว่าจะมาพร้อมกับเครื่องยนต์ 4 สูบเรียง รอบจัดถึง 20,000 รอบ/นาทีกันไปแล้ว วันนี้ก็ถึงคราวของ YZF-R25 รุ่นใหม่กันบ้างว่าทาง Yamaha จะงัดไม้เด็ดอะไรออกมาเพื่อตีตลาดสปอร์ตเอนทรีไบค์พิกัด 250cc (หรือ 300cc ในบ้านเรา) มาเริ่มกันเลยครับ เริ่มจากหน้าตาภายนอกที่ตลอดระยะเวลาเกือบ 1 ปีที่่ผ่านมาต้งบอกกันตามตรงว่าในช่วงแรกการแกว่งในเรื่องดีไซน์ค่อนข้างสูงจนจับแนวทางไม่ได้ จนกระทั่งพึ่งมานิ่งจริงๆในช่วง 3-4 เดือนที่ผ่านมานี้ นั่นก็คือตัว YZF-R25 หรือ R3 รุ่นใหม่นั้นจะมีการปรับเปลี่ยนหน้าตาช่วงหน้าให้เหมือนกับพี่น้องร่วมตระกูลที่มีความโค้งมนเหมือนตัวแข่ง YZR-M1 ในเวที MotoGP ในขณะที่ไฟหน้า LED ก็จะวางไว้ตำแหน่งเดียวกันกับ YZF-R15 และมีลักษณะโคมเหมือน YZF-R6 แต่ขนาดเล็กกว่า รวมถึงช่องแรมแอร์ก็ไม่พลาดที่จะทำมาให้เรียกได้ว่าเอาใจแฟนพันธ์แท้ R-Series สุด ด้านแฟริ่งนอกเหนือจากช่วงหน้าตั้งแต่ด้านข้างลากยาวไปจนถึงช่วงกลางตัวรถ หลายสื่อทั้งฝั่งอินโดฯที่อยู่ใกล้กับโรงงานผลิต…
ยังคงเกาะติดอยู่กับกระแสข่าวของกลุ่มสปอร์ตไบค์เอนทรไบค์รุ่นใหม่ที่คาดว่าจะเปิดตัวออกมาในเร็วๆนี้เพื่อโค่นบัลลังก์ของ Honda CBR250RR ลง โดยเมื่อวันก่อนเราได้พูดถึงฝั่งของ GIXXER-R250 จาก Suzuki ที่จะมาพร้อมกับเครื่องยนต์สูบเดียวน้ำหนักเบา ระบายความร้อนด้วยระบบ Oil-Cooler กันไปแล้ว ในวันนี้เราก็พูดถึงอีกหนึ่งสปอร์ตไบค์พิกัด 250cc ที่สาวกค่ายเขียวต่างรอคอยกันบ้าง กับเจ้า Kawasaki ZX-25R ที่มีข่าวลือหนาหูเหลือเกินว่ามันจะมาพร้อมกับเครื่องยนต์ 4 สูบ รอบจัดแบบเดียวกับยุค 90 โดยข้อมูลล่าสุดที่ถูกปล่อยออกมานั้นเป็นของทางสื่อสายนิตยสาร “MotoPlus” ของประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งจากการที่เราได้ลองพยายามแกะข้อความพร้อมกับดูอ้างอิงจากข้อมูลที่สื่อ Young-Machine ประกอบก็พบว่าทางสื่ออินโดฯรายดังกล่าวได้ลงข้อมูลถึงหน้าตาและสเปคคร่าวๆของเจ้า ZX-25R เอาไว้ว่ามันจะเปิดตัวด้วยคอนเซปท์เดียวกันกับที่ Kawasaki ใช้กับ Ninja H2 นั่นก็คือเน้นความเป็นสปอร์ตไบค์ประสิทธิภาพสูงเต็มขั้น ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจเท่าไหร่นักถ้าเครื่องยนต์ที่คาดว่าจะถูกนำมาใช้ใน ZX-25R นี้จะเป็นแบบ 4 สูบเรียง ลูกสูบโต ช่วงชักสั้น เพื่อรีดแรงม้าให้ได้สูงที่สุดเท่าที่จะทำได้ ซึ่งเจ้าเครื่องยนต์ลูกที่ว่านี้น่าจะอ้างอิงพื้นฐานมาจากตัว Ninja ZX-R250 รุ่นปี 1989-90 โดยในตอนนั้นมันสามารถสร้างแรงม้าได้สูงถึง…
เรียกได้ว่าเหตุการณ์ดราม่าหลังจบการแข่งขันสนามที่ 4 ของ MotoGP 2018 จะยังไม่จบง่ายๆ เพราะล่าสุดหนึ่งในผู้เคราะห์ร้ายที่ร่วมเหตุการณ์ “โดมิโน่ล้ม ของนักบิดสายสุภาพ 3 คนรวด” อย่าง Andrea Dovizioso ก็ได้อกมาบ่น Jorge Lorenzo ว่าเป็นเพราะเพื่อนร่วมทีมคนนี้นี่แหล่ะที่ช้าและขี่ดึงจังหวะตนเองจนไม่สามารถไล่ตามผู้ชนะในวันนั้นได้ทัน ก่อนที่จะจบการแข่งขันด้วยการคว้า 0 แต้มกลับบ้านทั้งคู่ เพราะไปปะทะกันในช่วง 8 รอบสุดท้าย “เค้า (Lorenzo) ขี่ได้เร็ว แต่กลับช้าในช่วงกลางโค้ง, เพราะมันเหมือนเค้าเสียอาการไปเยอะกับช่วงล้อหน้า. แต่ผมคิดว่าเค้าตงไม่อยากให้ผมแซงขึ้นไป เลยเลือกหน่วงความเร็วลงในช่วงกลางโค้ง”, ” และนั่นแหล่ะคือเหตุผลที่ผมไม่สามารถตาม Marc ได้ทัน เพราะผมติดอยู่ด้านหลัง Lorenzo นานเกินไป เนื่องจากเค้าพยายามหน่วงความเร็วลงเพื่อปิดโอกาศของผม” “ผมเสียเวลาไปเป็น 10 รอบ หรือเท่าไหร่ก็ไม่รู้เพื่อที่จะแซงเค้าให้ได้ เพราะผมไม่อยากพลาด (ต้องการหาจังหวะที่ชัวร์จริงๆเลยหาจังหวะนาน)” “ถ้าผมอยู่ติดกับ Marc ตั้งแต่แรกก่อนที่เค้าจะฉีกหนีเราไป ผมน่าจะสามารถตามเค้าได้, น่าจะนะ”…
เป็นประจำของทุกปีอยู่แล้วที่เหล่านักบิด MotoGP จะต้องทำการทดสอบทันทีหลังจบการแข่งขันที่สนามเฆเรซ ซึ่งในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมานี้ นับตั้งแต่มีการนำ “ปีก”, “วิงเล็ท” หรือที่ภายหลังกลายมาเป็น “แอโร่แฟริ่ง” มาใช้ติดตั้งกับตัวรถ เหล่าทีมแข่งทั้งหลายก็ถือโอกาศเปิดโอกาศและทดสอบแอโรแฟริงแบบใหม่กันซะเลย ซึ่งในการทดสอบครั้งนี้ทาง Repsol Honda รวมกัง ACR Honda เองก็ช่วยกันทดสอบแอโรแฟริงไปหลากหลายแบบ โดยหนึ่งในนั้นก็มีแบบที่หน้าตาคล้ายกับของที่ Yamaha Movistar Team ใช้อยู่ด้วย หากยังจำกันได้เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมาทาง Repsol Honda ได้ให้ทั้ง Dani Pedrosa และ Marc Marquez รวมถึง Cal Crutchlow จากทีม ACR Honda ทดสอบแอโรแฟริงอยู่ 2 แบบด้วยกัน นั่นก็คือแบบมีวิงเล็ทขนาดเล็กแบบดั้งเดิมปี 2017 ที่ถูกใช้ในการแข่งขันในช่วง 4 สนามแรกที่ผ่านมา และแบบ “ฉลามหัวค้อน”…