หลายคนน่าจะรู้กันอยู่แล้ว ว่าเครื่องยนต์แบบสันดาบภายในที่เราใช้กัน จำเป็นต้องมีการดึงอากาศจากภายนอกเข้ามาจุดระเบิดกับน้ำมันเชื้อเพลิง และต้องปล่อยไอเสียที่ได้จากการเผาไหม้ทิ้งไป โดยอากาศทั้งหมดที่ว่านั้นก็จำเป็นต้องไหลผ่าน “วาล์ว” ที่ทำหน้าที่เป็นประตูเปิด-ปิด และควบคุมการไหลของอากาศ แต่เคยสงสัยกันไหมว่ามีกี่วาล์วถึงจะดี? 2 กับ 4 อะไรดีกว่ากัน? สิ่งแรกที่เราต้องดูกันก่อนคือในส่วนของกลไก เครื่องยนต์ 2 วาล์ว นั้นจะมีวาล์วหนึ่งทำหน้าที่เป็นวาล์วไอดี และอีกวาล์วทำหน้าเป็นวาล์วไอเสีย ส่วนเครื่องยนต์ 4 วาล์ว นั้นจะมี 2 วาล์วไอดี กับอีก 2 วาล์วไอเสีย โดยในแต่ละวาล์วนั้นจะถูกควบคุมการเปิดด้วยการกดของ “เพลาลูกเบี้ยว” หรือ “Camshaft” ส่วนการปิดวาล์วแต่ละวาล์วนั้นจะควบคุมผ่านสปริง จากข้อมูลตรงนี้ก็จะเห็นได้ว่าเครื่องยนต์แบบ 2 วาล์ว นั้นจะมีความเรียบง่ายมากกว่า มีชิ้นส่วนน้อยกว่า แปลว่าการผลิตและดูแลรักษาก็จะต่ำกว่า เหมาะกับสำหรับรถบ้านเน้นใช้งาน และด้วยความที่มันมีชิ้นส่วนน้อย สปริงก็มีน้อยกว่าครึ่งหนึ่ง นั่นหมายความว่ามันกินแรงเครื่องน้อยกว่า ส่งผลให้เครื่องยนต์ประหยัดน้ำมันมากกว่า ทางด้านของเครื่องยนต์แบบ 4 วาล์ว นั้นจะมีข้อดีตรงที่อากาศสามารถไหลผ่านได้มากกว่า อย่าลืมว่าเครื่องยนต์สันดาปนั้นทำหน้าที่เป็นเหมือนปั้มอากาศรูปแบบหนึ่ง การที่อากาศไหลเข้ามากขึ้น…
Author: Kristha
Kawasaki KLE500 รถมอเตอร์ไซค์แอดเวนเจอร์แรลลี่ ตัวเริ่มคันใหม่จากค่ายเขียว Kawasaki เตรียมเปิดตัวในอนาคตอันใกล้ หลังจากทางค่ายเคยแง้มต้นแบบรถสายลุยคันใหม่ ที่มาพร้อมกับล้อหน้าซี่ลวดขนาด 21 นิ้ว ที่งาน EICMA 2024 แต่ล่าสุดพวกเขาก็ได้ทำการปล่อยคลิปทีเซอร์ตัวใหม่ ที่แสดงให้เห็นว่ารถคันจริงใกล้จะเปิดตัวเต็มที โดยในคลิปดังกล่าว เราจะเห็นภาพของรถมอเตอร์ไซค์แนวแอดเวนเจอร์แรลลี่คันหนึ่งจากมุมไกล ๆ วิ่งไปตามทางลูกรัง ในช็อตซูมใกล้จะเห็นได้ว่าล้อหน้าของมันนั้นจะเป็นล้อซี่ลวดขนาด 21 นิ้ว แบบพร้อมลุยเต็มที่ โช้คหน้าคราวนี้ให้มาแบบไม่กั้กสักที เพราะกลายเป็นแบบหัวกลับเรียบร้อยแล้ว ถึงแม้ว่าเบรกหน้าจะยังเป็นแบบแอ็กเซียลเม้าท์อยู่ก็ตาม แต่ว่ากันตามตรง รถที่เน้นขับขี่ในทางฝุ่นแบบนี้ ก็ไม่ค่อยมีความจำเป็นที่จะต้องใช้คาลิเปอร์แบบเรเดียลเม้าท์เท่าไร อาจจะติดอยู่นิดหน่อยตรงสวิงอาร์มที่ยังเป็นแบบเหล็กกล่อง แต่คู่แข่งจากค่ายปีกนกก็ไม่ได้ทำได้ดีกว่าในจุดนี้ ในส่วนของขุมพลัง แน่นอนว่ามันจะมาพร้อมกับเครื่องยนต์แบบระบายความร้อนด้วยน้ำ 2 สูบเรียง ปริมาตรกระบอกสูบ 451 ซีซี ลูกเดียวกับที่ใช้อยู่ในรถฝาแฝดร่างเตี้ยอย่าง Ninja 500 และ Z500 ที่สามารถให้พละกำลังสูงสุดได้ 52 PS ที่ 10,000 รอบต่อนาที และแรงบิดสูงสุด…
เปิดตัวมาเรียบร้อยกับครุยเซอร์คลาสกลางคันใหม่ Royal Enfield Classic 650 กับค่าตัวที่ตั้งไว้แค่ 2 แสนกลาง เรียกได้ว่าจ่อชิดกับคู่แข่งต่างค่าย ต่างสไตล์อย่าง Honda Rebel 500 ที่ถึงแม้ว่าโทนของรถทั้งสองรุ่นจะไม่ได้มีอะไรเหมือนกัน แต่ด้วยความที่เป็นรถแนวเดียวกัน พละกำลังใกล้กัน ค่าตัวก็ใกล้กัน มีหรอที่เราจะไม่เอามาเทียบสเปค เครื่องยนต์Royal Enfield Classic 650 : 2 สูบ / 4 วาล์วต่อสูบ / SOHC / ระบายความร้อนด้วยน้ำมัน / ปริมาตรกระบอกสูบ 648 ซีซีHonda Rebel 500 : 2 สูบ / 4 วาล์วต่อสูบ / DOHC / ระบายความร้อนด้วยน้ำ / ปริมาตรกระบอกสูบ…
และแล้ววันที่แฟนมอเตอร์สปอร์ตชาวไทยไม่อยากเจอก็มาถึง ก้อง สมเกียรติ จันทรา นักแข่งชาวไทยคนแรกที่ได้ขึ้นมาต่อสู้ใน MotoGP ถูกประกาศออกมาอย่างเป็นทางการ ว่าจะไม่ได้ไปต่อกับเวทีรถสูตรรายการนี้ แต่อนาคตของมอเตอร์สปอร์ตไทยนั้นยังไม่ได้จบ เพราะเส้นทางของนักแข่งมากฝีมืออย่างก้องยังเปิดกว้างเสมอ เพราะวันเดียวกันก็มีประกาศอย่างเป็นทางการ ว่าเขาจะได้ไปสู้ต่อในเวทีรถโปรดักชั่นอย่าง WSBK แถมเป็นทีมโรงงานด้วย วันนี้เราเลยจะมาย้อนดูกันว่าเส้นทางชีวิตนักแข่งของก้องนั้นเป็นอย่างไร ก้อง สมเกียรติ จันทรา เกิดที่จังหวัดชลบุรี เขาเริ่มต้นชีวิตนักแข่งตั้งแต่วัยเพียง 9 ปี ด้วยการสนับสนุนจากครอบครัว ทำให้ก้องได้เข้าเรียน และลงแข่งขันรายการภายในประเทศภายใต้สังกัดของ Honda Thailand เส้นทางการแข่งขันในระดับโลกนั้นเริ่มต้นขึ้นในปี 2014 เมื่อก้องได้กลายเป็นนักแข่งในรายการ Asia Talent Cup สามารถคว้าแชมป์สนามครั้งแรกของตัวเองได้ในปี 2015 และกลายเป็นแชมป์ประจำฤดูกาลไปในปี 2016 ส่งผลให้ประตูสู่ระดับโลกเปิดกว้างขึ้นกว่าเดิม ในปี 2017 ก้องได้ย้ายไปสู่เวทีที่ใหญ่กว่าในฝั่งยุโรปอย่าง FIM CEV Moto3 Junior World Championship กับผลงานที่สามารถทำได้อยู่ในกลุ่มกลาง ค่อนไปทางหัวแถว แต่ตั๋วทองคำที่เป็นการเปิดตัวก้องอย่างจริงจัง…
จบไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วกับการชิงแชมป์โลก MotoGP ฤดูกาล 2025 ซึ่งเราก็ได้ตัวแชมป์โลกมาแล้ว นั่นก็คือ Marc Marquez ที่ถึงแม้ว่าจะเหลือการแข่งอยู่อีกหลายสนามก็ตาม โดยการคว้าแชมป์ในครั้งนี้ทำให้เขามีสถิติในรุ่นใหญ่เทียบเท่ากับ Valentino Rossi แต่รู้หรือไม่ว่านักแข่งตัวตึงที่เป็นตำนานคนอื่น ได้แชมป์โลกในรุ่นใหญ่กันมาคนละกี่ครั้ง? (ตอนแรกเราคิดจะทำแค่ 5 อันดับ แต่ว่าอันดับ 5 มีได้ร่วมกันหลายคนมาก ก็เลยจัดมาให้รวมแล้ว 8 คนเลย) อันดับที่ 5 ร่วม – Geoff Duke แชมป์โลก 4 สมัย (1951,1953,1954,1955) นักแข่งชาวสหราชอาณาจักร จากยุคสมัยที่มอเตอร์ไซค์สปอร์ตยังไม่เป็นรูปเป็นร่างแบบทุกวันนี้ เพราะรถแข่งในตอนนั้นยังไม่มีแม้แต่แฟริ่งด้วยซ้ำ ไม่ต้องพูดถึงหมวกกันน็อคที่ให้มาแค่ครึ่งใบ กับสนามแข่งที่ยังเป็นแค่ถนนสาธารณะตามชนบท เขาเป็นแชมป์ทุกสมัยร่วมกับ Norton อันดับที่ 5 ร่วม – John Surtees แชมป์โลก 4 สมัย (1956,1958,1959,1960)…
ปิดจ็อปเป็นที่เรียบร้อยแล้วกับการแข่งขัน MotoGP ฤดูกาล 2025 ที่ถึงแม้ว่าการแข่งขันในฤดูกาลนี้จะยังไม่จบลงอย่างเป็นทางการ แต่ว่าเราก็ได้แชมป์โลกของฤดูกาลนี้เป็นที่เรียบร้อย นั่นก็คือ Marc Marquez ที่สามารถรวบรัดตัดตอนการชิงแชมป์ได้ในรายการ JapaneseGP กับค่ายรถรายปัจจุบันอย่าง Ducati แต่กว่าที่ Marc Marquez จะกลับขึ้นมายังจุดสูงสุดอีกครั้งนั้นก็ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะเขาต้องต่อสู้กับอาการบาดเจ็บ ปัญหากับตัวแข่งค่ายเดิม และไหนจะคู่แข่งรุ่นใหม่ที่ต่างก็แข็งแกร่งขึ้นในช่วงที่เขาไม่อยู่ วันนี้เราเลยจะพามาดูกันว่า เส้นทางการกลับมาของแชมป์โลกคนล่าสุดนั้นเป็นอย่างไร ตั้งแต่วันที่ล้ม ยันวันที่ยืนเหนือทุกคนได้อีกครั้ง ย้อนกลับไปในฤดูกาล 2019 ซึ่งถือเป็นปีที่เขามีผลงานโดดเด่น ไร้เทียมทานที่สุดของชีวิตของตัวเอง สมัยยังอยู่กับทีมแข่ง Honda เพราะจากการแข่งขันทั้งหมด 19 สนาม Marc สามารถคว้าชัยชนะไปได้ถึง 12 สนาม และเป็นรองแชมป์อีก 6 สนาม และไม่เคยมีครั้งไหนเลยที่เขาทำอันดับได้ต่ำกว่านั้น จะมีการล้มจนไม่จบการแข่งขันเพียงแค่ครั้งเดียวเท่านั้น ต่อมาในฤดูกาล 2020 เขาได้ทำการต่อสัญญาระยะยาวพิเศษถึง 4 ปี ร่วมกับค่ายปีกนก ซึ่งนี่ถือเป็นสัญญาณที่ดีในอาชีพของเจ้าตัว แต่ทุกอย่างที่ควรจะสวยงามก็จบลง…
หลังจากที่เมื่อช่วงกลางปีที่ผ่านมา พวกเราได้รายงานข้อมูลหลุดของรถมอเตอร์ไซค์คลาสเริ่มต้นรุ่นใหม่ จากค่ายคนบ้าอย่าง Suzuki GSX-500R ซึ่งมันจะเข้ามาเป็นคู่แข่งโดยตรงกับ Honda CBR500R ซึ่งวันนี้เราก็มีข้อมูลอัพเดตเกี่ยวกับรถรุ่นดังกล่าวที่ดูเป็นชิ้นเป็นอันมากขึ้น แถมมีลุ้นว่ามันจะไม่ได้มาแค่รุ่นเดียว แต่จะพาพี่น้องพื้นฐานเดียวกันมาด้วยถึง 4 รุ่น ก่อนอื่นเราก็ต้องอธิบายกันก่อนว่าเมื่อช่วงเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา มีคนนำภาพหลุดจากงานประชุมภายในบริษัท Hoajue Suzuki หรือก็คือบริษัทร่วมทุนของค่ายคนบ้าสาขาประเทศจีนออกมาเผยแพร่ โดยในภาพนั้นมีการระบุข้อมูลของรถที่น่าสนใจไว้ 1 รุ่น นั้นก็คือ GSX500 แน่นอนว่าชื่อที่ว่านี้จะยังไม่ใช่ชื่อที่ใช้ในการจำหน่ายจริง แต่เป็นเหมือนชื่อที่มีไว้เรียกกันภายในเท่านั้น แต่จากข้อมูลตรงนี้ก็ทำให้เราทราบว่า Suzuki กำลังเตรียมจะเปิดตัวรถมอเตอร์ไซค์ใหม่ในคลาสประมาณ 450-500 ซีซี ซึ่งเป็นคลาสที่พวกเขาไม่มีรถมาแย่งส่วนแบ่งตลาดในตอนนี้ ทั้งที่เป็นคลาสที่ได้รับความนิยมสูงทั่วโลก เพราะไม่ว่าจะเป็น Honda, Kawasaki, BMW, KTM, Royal Enfield, Aprilia ต่างก็มีตัวแทนมาสู้ในตลาดนี้กันหมด ซึ่งล่าสุดก็มีคนจับภาพขณะที่รถมอเตอร์ไซค์ปริศนาที่ว่านี้ กำลังถูกทดสอบในถนนสาธารณะของประเทศจีนไว้ได้อย่างชัดเจน ข้อมูลเท่าที่เห็นได้ด้วยตาคือมันจะเป็นรถสปอร์ตฟูลแฟริ่งทรงมาตรฐาน เน้นการใช้งานในเมืองเป็นหลัก มีท่าขี่ที่ไม่ได้ดุดันมากนัก ชุดเฟรมเป็นแบบเหล็กท่อ มาพร้อมของติดรถที่จัดเต็มสมยุคสมัยไม่ว่าจะเป็น โช้คหน้าแบบหัวตั้ง คาลิเปอร์เบรกหน้าเรเดียลเม้าท์…
หลังจากการเปิดตัวของ Honda CB500 Super Four รถมอเตอร์ไซค์สปอร์ตไฟกลมจากค่ายปีกนก เคียงคู่กับสปอร์ตแฟริ่งอย่าง Honda CBR500R Four ไปที่ประเทศจีน ชาวเน็ตไทยที่เคยสนใจ CB400 Super Four ในตำนานก็ให้ความสนใจกันไม่น้อย แต่ก็มีหลายเสียงที่แสดงความผิดหวัง เพราะรถรุ่นใหม่ไม่มีความคลาสสิกแบบที่คิด แต่ทุกคนจะว่าอย่างไรถ้าเราบอกว่า Honda CB500 Super Four นั้นไม่จำเป็นต้องคลาสสิกก็ได้ เพราะว่ารถในตำนานของตระกูล Super Four ไม่ว่าจะคลาสเล็กหรือใหญ่ ก็ไม่เคยถูกวางแผนให้เจาะตลาดคลาสสิกตั้งแต่แรก และความคลาสสิกที่ว่านี้ล้วนเป็นสิ่งที่พวกเราเติมแต่งให้มันทั้งสิ้น เพราะถ้าหากเราย้อนไปในปี 1992 ในช่วงที่ค่ายปีกนกเปิดตัว CB1000 Super Four และ CB400 Super Four นั้นต่างก็มีตำแหน่งการตลาดระดับบน ชูทั้งความแรงและเทคโนโลยีที่เป็นมาตรฐานของยุคนั้น ถ้าดูให้ดีที่เส้นสายของมัน ไม่ว่าจะเป็นเครื่องยนต์แบบระบายความร้อนด้วยน้ำ รูปทรงของถังน้ำมัน หรือหางแบบตูดเป็ดก็ดูทันสมันสำหรับตอนนั้น ของที่หลายคนในตอนนี้มองว่าเป็นของคลาสสิก ไม่ว่าจะเป็นไฟหน้าโคมกลม จอแสดงผลแบบเข็ม โช้คหน้าหัวตั้ง…
2026 Ducati Panigale V4R รถมอเตอร์ไซค์ซุปเปอร์ไบค์ตัวสุดคันใหม่ สายแข่งขันจากค่ายแดง Ducati ที่ถูกสร้างขึ้นบนพื้นฐานของ Panigale V4 โฉมสวิงอาร์มคู่ ได้รับการเปิดตัวออกมาอย่างเป็นทางการ พร้อมนำเทคโนโลยีแอโร่ไดนามิค และชุดเกียร์ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจาก MotoGP ตัวรถนั้นถูกสร้างขึ้นบนพื้นฐานของ 2025 Ducati Panigale V4 ที่ได้ทำการเปลี่ยนไปใช้ชุดเฟรมและสวิงอาร์มแขนคู่ชุดใหม่หมดจด ซึ่งถึงแม้การเปลี่ยนแปลงในจุดนี้จะทำให้แฟนเดนตายค่ายแดงมีเคือง แต่นี่ก็เป็นการปรับปรุงโดย Ducati Corse ที่ทำขึ้นเพื่อให้เหมาะสมกับการใช้งานในสนามแข่งที่ดีขึ้นกว่าเดิม เครื่องยนต์ยังคงเป็นบล็อค Desmosedici Stradale V4 แต่ถูกลดความจุเครื่องยนต์ลงจาก 1,103 ซีซี เหลือแค่ 998 ซีซี เพื่อให้สามารถใช้ลงแข่งขันในระดับโลกได้อย่างไม่มีปัญหา แน่นอนว่ายังคงมาพร้อมวาล์ว Desmodromic แต่ทำการเปลี่ยนลูกสูบ และเพลาข้อเหวี่ยงใหม่ให้เบาลง โดยมันสามารถสร้างพละกำลังสูงสุดได้สูงถึง 218 Hp ที่ 15,750 รอบต่อนาที และแรงบิดสูงสุด 114.5 Nm…
ถึงแม้ว่าในปัจจุบันนี้ รถมอเตอร์ไซค์แนวบิ๊กสกู๊ตเตอร์ จะถือเป็นรถแนวที่กำลังได้รับความนิยมอย่างสูงในไทย เพราะมันทั้งแรง สามารถเดินทางไกลได้ แต่ก็ขับขี่ได้อย่างสะดวกสบายด้วยเบาะนั่งขนาดใหญ่ แถมไม่ต้องตบเกียร์แบบรถสปอร์ต และมอเตอร์ไซค์ที่เป็นตัวจุดกระแสรถแนวนี้ให้นิยมทั่วบ้าน ทั่วเมือง จะเป็นรุ่นอะไรไปไม่ได้นอกจาก Yamaha Xmax 300 แต่ทุกคนรู้หรือไม่ว่าก่อนที่ Yamaha Xmax 300 จะมาจุดกระแสโซฟาวิ่งได้ในไทยนั้น ค่ายส้อมเสียงได้ออกวาดลวดลาย และสร้างความนิยมในส่วนอื่นของโลกมาก่อนแล้วในทวีปยุโรป โดยรถที่ว่านั้นก็คือ Yamaha Majesty 250 จากปี 1995 มันถือเป็นผู้บุกเบิกรถแนวบิ๊กสกู๊ตเตอร์พวกแรกของโลก และเมื่อค่ายส้อมเสียงรู้ว่ารถบิ๊กสกู๊ตเตอร์นั้นได้รับความนิยม พวกเขาก็คิดจะต่อยอดมันด้วยรถรุ่นใหม่ ที่ใหญ่กว่า แรงกว่า และสุดกว่าอย่าง Yamaha Tmax 500 จากปี 2001 ถือเป็นตัวเปิดตระกูล Max Series อย่างเป็นทางการ โดยมันมาพร้อมกับแนวคิด Super Automatic แล้วก็เหมือนว่ามันจะเป็นแบบนั้นจริง ๆ เพราะมันมาพร้อมเครื่องยนต์แบบ 2 สูบเรียง 499…
