Author: Kristha

MotoGP รายการแข่งขันรถจักรยานยนต์รับดับโลก ที่ทั้งยิ่งใหญ่และราคาแพงที่สุด ซึ่งหลายคนที่เข้ามาอ่านบทความนี้ก็คงเข้าใจกันอยู่แล้ว แต่ถึงอย่างนั้นรายการที่ว่านี้กลับมีปัญหาใหญ่ที่ไม่สามารถแก้ได้ และไม่มีท่าทีว่าจะสามารถแก้ได้ในอนาคตอันใกล้เลย นั่นก็คือเรื่องความหลากหลายของนักแข่ง เพราะถึงแม้จะมีค่ายรถจากทั้งฝั่งญี่ปุ่นและยุโรป แต่นักแข่งครึ่งกริดกลับมีแค่คนจาก สเปน-อิตาลี จนทำให้ยากต่อการขยายตลาดในอนาคต เราเชื่อว่าหลายคนคงเข้าใจเรื่องนี้กันดีกว่า การที่เราได้เห็นนักกีฬาที่มีความเชื่อมโยงกับคนดู(ในที่นี้ก็มักจะเป็นเชื้อชาติ สัญชาติ หรือเพศ) นั้นช่วยให้การเชียร์กีฬาสนุกและน่าติดตามพุ่งขึ้นสูงมาก ยกตัวอย่างกรณีที่ ก้อง สมเกียรติ จันทรา คว้าโพเดียมในการแข่งขันในประเทศไทย เพราะฉนั้นในมุมของผู้จัดการแข่งขันเพื่อความบันเทิง การทำให้นักแข่งบนกริดมีความหลากหลายจึงเป็นเรื่องสำคัญมาก เพราะเมื่อรายการสามารถเข้าถึงคนดูได้มากขึ้น เงินที่เข้ามาก็จะมากขึ้น แต่หากเราไปดูที่รายชื่อนักแข่งในรุ่นใหญ่ในปีนี้ทั้ง 22 คน กลับมีนักแข่งจากสเปนมากถึง 10 คน และนักแข่งอิตาลีอีก 6 คน หรือคิดเป็น 45% และ 27% (รวม 72%) ของจำนวนนักแข่งทั้งหมด สัญชาติของนักแข่งที่เหลือก็มีแค่ ฝรั่งเศส, ญี่ปุ่น, โปรตุเกส, ออสเตรเลีย, แอฟริกาใต้ ซึ่งถือว่ามีความหลากหลายน้อยมากเมื่อเทียบกับรายการอย่าง Formula 1…

Read More

หนึ่งในดีลซื้อขายนักแข่งตอนสิ้นฤดูกาล 2023 ที่ดึงความสนใจคนส่วนใหญ่คงไม่พ้นเรื่องของ Marc Marquez ที่ย้ายไปอยู่กับรถตัวแรงอย่าง Ducati ที่ใครต่อใครก็มองว่าไร้เทียมทานตาม แต่ขณะเดียวกัน นักแข่งที่มารับหน้าที่แทนตำแหน่งที่ว่างไปในพิตของ Honda กลับเป็นคนที่หลายคนไม่คิดว่าจะไปอย่าง Luca Marini น้องชายของตำนาน Valentino Rossi ซึ่งเดิมก็มีรถที่ดีอยู่แล้ว ถึงจะเป็นทีมโรงงาน แต่ก็ดูไม่สมเหตุผลที่จะทิ้งรถคันเก่าไป เรื่องนี้ไม่ได้มีแค่คนดูที่มองว่า Luca Marini ตัดสินใจผิดพลาด เพราะอดีตนักแข่งดีกรีแชมป์โลก(อาชีพใหม่เป็นนักวิจารณ์)อย่าง Jorge Lorenzo ก็คิดแบบเดียกวับคนดู “ในมุมของการแข่งขัน ผมคิดว่านี่คือความผิดพลาด” เขากล่าว “ผมเชื่อว่า Honda อยู่ในจุดที่ยากลำบากมากจนกล้าทำสัญญาระยะยาวค่าจ้างหนาที่ทำให้ Marini ซึ่งไม่น่าคิดจะย้ายทีม ต้องตัดสินใจย้ายทีม” “การได้รถที่ดีที่จะพาเราชนะ จะสร้างชื่อเสียงให้กับตัวนักแข่งด้วย การและเงินกับรถที่แย่กว่ารถคันเดิมของเรา เป็นปัญหาที่ทำให้นักแข่งหลายคนต้องบาดเจ็บ” ซึ่งตรงนี้คงเป็นจุดที่ Lorenzo ที่เคยย้ายจากค่ายเดิมอย่าง Yamaha ไปสู่ Ducati และ Honda สามารถพูดและวิจาร์ได้เต็มปากเกี่ยวกับข้อเสียดังกล่าว…

Read More

Pedro Acosta นักแข่งหน้าใหม่ในรายการ MotoGP ฤดูกาลหน้า ที่ขยับขึ้นมาพร้อมดีกรีระดับแชมป์โลกคนล่าสุดจาก Moto2 พร้อมกับความหวังว่าจะเป็นอีกหนึ่งนักแข่งสุดเทพ ระดับเดียวกับ Marc Marquez ได้ออกมาให้ความเห็นกับสื่อเกี่ยวกับเรื่องความนิยมในการการใหญ่ที่เปลี่ยนไป ว่าคนดูต้องการการแข่งขัน และคู่แข่งที่ดุเดือดมากกว่านี้ เช่นเดียวกับในสมัยของ Marc Marquez ที่ต้องปะทะกับ Valentino Rossi หรือ Jorge Lorenzo “ตอนนี้เราจะเห็นได้ว่าทุกคนเป็นเพื่อนกัน และมีความสัมพันธ์ที่ดีกับทุกคน” Pedro Acosta กล่าว “แต่ว่าคนดูเข้าต้องการดูการต่อสู้ของคู่แข่งอย่าง Pedrosa กับ Lorenzo, Marc กับ Rossi, Lorenzo กับ Marquez, Rossi กับ Biaggi, Rossi กับ Sete คนดูเขาต้องการเห็นอะไรแบบนี้” “แบบเดียวกับที่ Max Verstappen ไปสู้อย่างดุเดือดในฝั่ง F1…

Read More

หลังจากที่ Marc Marquez ได้ย้ายไปทดลองขี่รถของ Ducati ในการทดสอบหลังจบฤดูกาลที่ Valencia Test แฟนคลับหลายคนก็คงคาดหวังว่าจะได้ฟังข้อมูลจากปากเจ้าตัว ว่ารถคันใหม่ที่ได้ชื่อว่าเทพที่สุดในสนาม ต่างจากรถคันเดิมของ Honda อย่างไร? แต่หลายคนอาจผิดหวังเมื่อนักแข่งที่ย้ายทีมทุกคน ไม่สามารถให้ข้อมูลต่อหน้าสื่อในเรื่องนี้ได้ เนื่องจากสัญญาตัวจริงยังผูกกับค่ายเก่าจนถึงสิ้นปี แต่ถึงอย่างนั้นเราก็มีข้อมูลที่ดีรองลงมา ก็คือคำบอกเล่าจากปากของ Michele Pirro นักทดสอบตัวหลักของ Ducati ที่ได้เข้าไปสอบถามข้อมูลการพัฒนารถจากอดีตแชมป์โลกรายนี้ ซึ่งข้อมูลที่ได้มานั้นก็น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง “ข่าวดีคือ Marc Marquez ยืนยันว่ารถแข่งนั้นมีความอเนกประสงค์ และเราก็ได้รับความรู้สึกด้านบวกจากนักแข่งคนสำคัญแบบเขา” “ในปี 2016 เราจะซื้อตัวเขามาอยู่กับ Ducati แต่ก็ติดปัญหาเรื่องค่าตัวของเขาที่แพงเกินไป แต่ตอนนี้เขาย้ายมาอยู่กับเราเอง เพราะต้องการรถสามารถชนะได้” Pirro กล่าว “เขาไม่ได้พูดอะไรมาก แต่เราเห็นได้จากหน้าของเขาและการที่เขาลงไปขับมากกว่า 50 รอบ โดยที่ไม่ต้องพยายามขับแบบเสี่ยงตายก็น่าจะเป็นการยืนยันที่ดี” “ในฐานะนักทดสอบที่ต้องส่งข้อมูลและความรู้สึกให้กับช่าง ผมจึงต้องไปถามเขาว่ารถของเราต้องพัฒนาตรงไหนบ้าง แต่ในตอนนี้ยังไม่มีความต้องการอะไรพิเศษ(ยังไม่มีอะไรให้ปรับปรุง) มันเป็นความพึงพอใจของเรามาก เพราะตอนที่ผมเข้ามาทำงานกับ Ducati พวกเรายังต้องไล่ก็อปงานจากค่ายญี่ปุ่น…

Read More

เมื่อวานเพิ่งมีข่าวเปิดตัวทีมอิสระรายใหม่อย่าง Trackhouse Racing ที่จะเข้ามารับหน้าที่เป็นทีมรองให้กับ Aprilia แทนที่ CryptoDATA RNF ที่ถูกทางคณะกรรมการการแข่งขัน แตะออกไปไม่ให้แข่งในฤดูกาลหน้าด้วยเหตุผลว่า “ทำผิดข้อตกลงซ้ำซากจนทำให้ MotoGP เสียชื่อเสียง” วันนี้เราเลยจะพามาดูรายละเอียดเบื้องหลังกันว่าเกิดอะไรขึ้น ในแบบที่ไม่ละเอียดเท่าไร เนื่องจากข้อมูลหลายอย่างถูกตกลงกันหลังบ้าน และไม่เปิดเผยต่อสาธารณะ เราขอเริ่มอธิบายก่อนว่าบริษัท CryptoDATA ที่เป็นผู้สนับสนุนรายใหญ่ให้กับทีม RNF นั้นเป็นบริษัทความปลอดภัยทางคอมพิวเตอร์และคริปโตจากประเทศโรมาเนีย เข้าซื้อส่วนแบ่งทีมชิ้นใหญ่มากถึง 60% กับเงินลงทุนมากถึง 7 ล้านยูโร ในขณะที่เจ้าของและผู้จัดการทีมคนเดิมจากมาเลเซียอย่าง Razlan Razali ยังคงเป็นเจ้าของส่วนที่เหลืออีก 40% แต่ถึงอย่างนั้นทางบริษัทคริปโตดังกล่าวก็ประกาศชัดเจนว่าไม่ได้ต้องการวุ่นวายกับเรื่องของการแข่งขัน และทั้งสองฝ่ายก็ประกาศตัวชัดเจนตั้งแต่ก่อนหน้านี้แล้วว่าไม่คิดที่จะขายทีม ปลอดหนี้และไม่มีปัญหาด้านการเงิน ถึงแม้จะมีข่าวลือเรื่องปัญหาทางการเงิน และการเข้ามาซื้อกิจการของทีม Trackhouse Racing ที่เป็นทีมแข่งรถยนต์ NASCAR จากฝั่งอเมริกา จนเมื่อทางคณะกรรมการ MotoGP ที่ประกอบไปด้วย Dorna, IRTA, FIM ลงมติถอดทีม CryptoDATA…

Read More

Triumph TF 250-X ราคา เปิดขายต่างประเทศ ตัวแข่ง MX คันแรก รถมอเตอร์ไซค์สายลุยแนวเต็มขั้นแบบ Motocross รุ่นแรกจากค่ายแดนผู้ดี Triumph ที่มีการประกาศว่าได้ซุ่มพัฒนารถรุ่นนี้อยู่ตั้งแต่ปี 2021 ในที่สุดก็ได้เวลาเปิดตัวออกมาให้เราได้เห้นอย่างเป็นทางการ เตรียมลงลุยในรายการ MXGP คลาส 250 ในฤดูกาล 2024 กับทีมโรงงานอย่างเป็นทางการ Triumph Racing Triumph TF 250-X นั้นเป็นรถมอเตอร์ไซค์รุ่นใหม่หมดจดที่พัฒนาโดยบริษัทแม่เอง ไม่ใช่การนำมอเตอร์ไซค์ค่ายอื่นมีย้อมสีตีตราใหม่แต่อย่างใด(ยกเว้นเรื่องที่ซื้อบริษัทรถสายลุยอื่นมาทั้งบริษัท เพื่อมาทำเป็นแผนกพัฒนา Motocross) ตัวรถมาพร้อมกับเครื่องยนต์แบบระบายความร้อนด้วยน้ำ 1 สูบ DOHC 249.95 ซีซี ที่มีขนาดกระบอกสูบและช่วงชักอยู่ที่ 78 x 52.3 มิลลิเมตร ซึ่งถือว่าช่วงชักยาวกว่าของคู่แข่งเล็กน้อย ลูกสูบทำจากวัสดุอลูมีเนียม วาล์วไทเทเนียม พร้อมกำลังอัดที่สูงจัดที่ 14.4:1 แต่ไม่ได้บอกพละกำลังสูงสุดและแรงบิดเอาไว้ ซึ่งผู้ใช้สามารถใช้แอป MX…

Read More

Trackhouse Racing ทีมแข่งรถยนต์เลือดอเมริกันจากรายการสนามวงรีอย่าง NASCAR ได้ทำการประการทำทีมแข่งในรายการ MotoGP อย่างเป็นทางการ โดยการเข้าเซ้งที่ว่างของทีม CryptoData RNF ที่เพิ่งถูกประกาศยกเลิกสัญญาการแข่งขันในฤดูกาลหน้า เนื่องจากทีมดังกล่าวได้ทำผิดข้อตกลงซ้ำซากหลายครั้ง(แต่ถึงตอนนี้เราก็ยังไม่รู้รายละเอียดเบื้องหลังว่าเกิดอะไรขึ้น) เดิมทีนั้น Trackhouse Racing เป็นทีมแข่งจากฝั่ง NASCAR แต่เจ้าของทีมก็เป็นคนที่ชอบรถแข่งสองล้ออย่าง MotoGP อยู่แล้ว เลยอาศัยช่องว่างดังกล่าวทำทีมแบบเร่งด่วน โดยการเข้ามาเป็นทีมสนับสนุนรายใหม่ให้กับ Aprilia ที่เพิ่งเสียทีมแข่งจากมาเลเซียอย่าง CryptoData RNF ทางด้านนักแข่งที่รับหน้าที่ลงสนามให้กับทีมเก่าอย่าง Raul Fernandez และ Miguel Oliveira ก็จะมารับงานต่อกับทีมใหม่นี้ทันทีแบบไร้รอยต่อ เนื่องจากนักแข่งทั้งสองมีสัญญาโดยตรงกับทีมโรงงาน Aprilia ไม่ใช่กับทีมรอง อำนาจการโยคย้ายนักแข่งทั้งสองจึงอยู่ที่ทีมโรงงานทั้งหมด ซึ่งการรับทีมอิสระจากฝั่งอเมริกาก็คงจะเป็นแผนของ Dorna ที่ต้องการขยายฐานคนดูจากฝั่งอเมริกาให้มากขึ้น โดยเราจะได้เห็นทีม Trackhouse Racing ทำหน้าที่ครั้งแรกในต้นปีหน้าช่วงการทดสอบ Sepang Test 2023 อ่านข่าวสาร MotoGP เพิ่มเติมได้ที่นี่

Read More

Royal Enfield Himalayan 450 รถมอเตอร์ไซค์สายลุยรุ่นใหม่หมดจดจาก Royal Enfield ค่ายรถอังกฤษ-อินเดีย ที่พลิกโฉมการออกแบบและวิศวกรรมครั้งใหญ่(ภายในค่ายเอง) แล้วหันมาสร้างเครื่องยนต์แบบระบายความร้อนด้วยน้ำเครื่องแรกของค่าย ตอนนี้ก็ได้มีการเปิดราคาจำหน่ายในต่างประเทศเรียบร้อนแล้ว เราจึงอยากพาทุกคนมาวิเคราะห์กันว่าราคาขายไทยของรถรุ่นนี้จะอยู่ที่เท่าไร Royal Enfield Himalayan 450 หรือชื่อจริงคือ Himalayan(เฉยๆ) นั้นได้ทำการเปิดราคาจำหน่ายในฝั่งทวีปยุโรปออกมาให้เราได้เห็นแบบเป็นทางการ โดยแบ่งเป็น 3 รุ่นย่อย คือ Base/Pass/Summit ซึ่งราคาที่เราจะนำมาใช้เปรียบเทียบก็จะเป็นราคาของรถในสหราชอาณาจักรเช่นเคย เราขอเริ่มด้วยการเทียบราคาของ Himalayan 411 ที่เป็นรถรุ่นเก่าที่มีขายในประเทศไทยก่อน โดยราคาในสหราชอาณาจักรของรถตัวเริ่มรุ่นแรกจะอยู่ที่ 4,949 GBP หรือประมาณ 220,000 THB ส่วนรถรุ่นที่ขายจริงในไทยนั้นมีราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 189,700 THB หรือก็คือถูกกว่าในสหราชอาณาจักรประมาณ 30,000 THB ทางด้านราคาของ Himalayan 450 ที่เพิ่งเปิดตัวไปใหม่ในแต่ละรุ่นย่อยก็จะไปตามข้อมูลด้านล่างนี้ Base 5,750 GBP หรือประมาณ 256,000…

Read More

หลังการทดสอบรถแข่ง MotoGP ในฤดูกาลหน้าที่ Valencia Test เราได้เห็นผลงานของนักแข่งบางคนที่ได้ทำการเปลี่ยนตัวแข่งใหม่ หนึ่งในนั้นคือ Alex Rins ที่ได้ทำการฉีกสัญญาเดิมกับ LCR Honda เพื่อย้ายไปอยู่ทีมโรงงาน Yamaha ที่หลายคนเชื่อว่ารถของทีมส้อมเสียงอาจจะเข้ามือกับนักแข่งคนนี้มากกว่ารถของค่ายปีกนก เนื่องจากเป็นรถที่ใช้เครื่องยนต์แบบ 4 สูบเรียง ซึ่งคล้ายกับตัวแข่งเก่าสมัยที่อยู่กับค่ายคนบ้า Suzuki แต่ดูเหมือนว่าหลายอย่างจะไม่เป็นแบบที่คนดูคิดไว้ เมื่อเจ้าตัวได้ออกมาอธิบายความรู้สึกหลังได้จับตัวแข่ง CP4 ว่า “มันเป็นรถที่ต่างกันมากกับ Suzuki” Alex Rins กล่าว “ผมสามารถเข้าโค้งได้ด้วยการใช้เบรกหน้าที่หนักขึ้น และนี่เป็นเรื่องที่ดี เพราะเราสามารถทำเวลาได้จากส่วนนั้น” “เราแบ่งเวลาในระหว่างวันทดสอบเป็นสองช่วง ตอนเช้าผมใช้เซ็ตติ้งของ Fabio ออกไปวิ่งซ้ำหลายรอบเพื่อหาตำแหน่งแฮนด์และพักเท้าที่ผมชอบ ในตอนบ่ายเราก็วิ่งทำรอบเพื่อทดสอบแฟริ่งใหม่ ตัวรถมันเรียบเนียนลื่นไหลกว่าที่ผมคิดไว้มาก ในความคิดของผม เครื่องยนต์แบบ V4 และ I4 นั้นไม่ใช่จุดที่ทำให้รถมีความแตกต่างกันมากขนาดนั้น” “ตอนนี้ความต่างต่างที่ชัดที่สุดจะอยู่ที่แอโร่ มันทำให้เราเข้าโค้งได้ง่ายขึ้น จากประสบการณ์ของผมกับรถรุ่นอื่น หรือกับรถรุ่นนี้ที่ใช้แฟริ่งแบบปกติด้วยสภาพลมแบบที่มีในวันนี้ หน้าผมลอยเยอะมาก แต่พอเปลี่ยนแฟริ่งแล้วหน้ารถก็ลอยน้อยลงและเข้าโค้งได้ดีขึ้น…

Read More

ในการแข่งขัน MotoGP ฤดูกาล 2023 ทางผู้จัดได้ทำการตัดสินใจเปลี่ยนผังรายการใหม่ครั้งใหญ่ โดยการเพิ่มการแข่งขันแบบสั้นที่เรียกว่า Sprint Race เข้ามาในช่วงกิจกรรมวันเสาร์ เพื่อดึงความสนใจผู้ชมให้หันมาเข้างานแข่งเพิ่มอีกหนึ่งวัน แน่นอนว่านี่เป็นเร่องของลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดที่เพิ่มเข้ามาด้วย คนได้ประโยชน์จึงตกอยู่กับผู้จัดเต็ม ๆ นั่นจึงทำให้นักแข่งหลายคนออกมาบนว่าทำให้พวกเขามีงานมากเกินไป(ยังไม่นับปัญหาเรื่องค่าตัวของนักแข่งที่ต้องเพิ่มขึ้น เพราะต้องลงแข็งมากขึ้น) แต่จนจบฤดูกาลก็ดูเหมือนว่าจะมีคนชอบ Sprint Race ที่ว่านี้มากกว่าการแข่งขันขริงเสียอีก และนักแข่งคนนั้นคือ Marc Marquez Marc Marquez กล่าวว่า “Sprint มันดีกับผู้ชมนะ เพราะมันดูเหมือนว่าการแข่งในวันเสาร์จะมีความน่าสนใจมากกว่าการแข่งจริงในวันอาทิตย์ ในมุมมองของผม การแข่งขันในวันอาทิตย์มันยาวเกินไป ทุกครั้งในระหว่างการแข่งขัน มันจะมีช่วงที่ไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลยอยู่หลายรอบ ในกรณีนี้ Sprint นั้นถือว่ามีความน่าสนใจมากกว่า” “แต่ถึงอย่างนั้น (การแข่งขันแบบเต็มมากถึง 22 เรซ + 22 Sprint Race) มันก็มากเกินไปสำหรับนักแข่ง สำหรับปีหน้าได้มีการวางตารางของทั้ง 22 Sprint Race ไปเรียบร้อยแล้ว นั่นจีงเป็นเหตุผลที่นักแข่งหลายคนมองว่า…

Read More