Author: Kristha

Honda RC-E รถมอเตอร์ไซค์สปอร์ตพลังงานไฟฟ้าต้นแบบจาก Honda ที่เปิดตัวไปเมื่อปี 2011 ซึ่งเป็นการนำเอางานออกแบบของรถแข่ง GP จากยุค 1960 มาใช้กับโครงสร้างของรถสมัยใหม่ที่ใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ ก่อนที่จะถูกลืมในเวลาถัดมา ส่วนหนึ่งก็อาจจะเป็นเพราะเทคโนโลยีของรถ EV ในยุคนั้นยังไม่ก้าวหน้าพอให้ต้นแบบคันนี้เป็นจริง แต่เมื่อยุคสมัยเปลี่ยนไป ก็ดูเหมือนว่าค่ายปีกนกจะยังไม่ทิ้งแนวคิดนี้ไปเสียทีเดียว Honda RC-E โผล่อยู่ในภาพสิทธิบัตรของค่ายปีกนกที่พูดถึงรถพลังงานไฟฟ้าที่ค่ายกำลังพัฒนาอยู่ ซึ่งโดยปกติแล้วค่ายรถรายนี้ก็มักจะนำงานออกแบบของรถที่มีอยู่แล้ว มาใช้ในการประกอบภาพสิทธิบัตรเพื่อความเข้าใจ ไม่ได้หมายความว่าตัวสิทธิบัตรนั้นเกี่ยวกับรถรุ่นนั้นจริง แต่ดูเหมือนว่ากรณีนี้จะต่างออกไป เนื่องจากภาพสิทธิบัตรดังกล่าวมีการเจาะจงพูดถึงระบบกันสะเทือนหลังที่วางทำมุมเอียงอยู่ข้างมอเตอร์ไฟฟ้า ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ในงานออกแบบของรถต้นแบบรุ่นดังกล่าว แต่ก็มีความแตกต่างของภาพสิทธิบัตรและรถต้นแบบจากปี 2011 อยู่เล็กน้อย เริ่มจากในรถต้นแบบ โช้คหลังถูกติดตั้งไว้กึ่งกลางตัวรถ ในตำแหน่งด้านบนของเคสมอเตอร์ไฟฟ้า แต่ในภาพสิทธิบัตร โช้คหลังจะถูกติดตั้งไว้ด้านข้างแบบเยื้องศูนย์กลาง โดยจะยึดอยู่กับส่วนหลังของเฟรมแทน แต่ในภาพรวมของรถนั้นยังคล้ายเดิม คือส่วนของเคสแบตเตอรี่และมอเตอร์ไฟฟ้าจะทำหน้าที่เป็นโครงสร้างร่วมกับชุดเฟรมเช่นเดิม ถือว่าเป็นแนวโน้มที่ดีของวงการยานยนต์ ไม่ว่ารถสปอร์ตพลังงานไฟฟ้ารุ่นนี้จะถูกผลิตจริงหรือไม่ แต่ก็น่าสนใจที่ค่ายรถยักษ์ใหญ่เริ่มหันมาสนใจรถแนวนี้มากขึ้น นอกจากจะแค่มองความเป็นไปได้ของมอเตอร์ไซค์พลังงานไฟฟ้าว่าเป็นได้แค่สกู๊ตเตอร์สำหรับการใช้งานในเมือง เพราะก่อนหน้านี้คู่แข่งอย่าง Kawasaki ก็ได้ทำการเปิดตัว Ninja e-1 และ Ninja 7 HEV…

Read More

Kawasaki Ninja e-1 และ Z e-1 รถมอเตอร์ไซค์สปอร์ตแฟริ่งและสปอร์ตเปลือยคลาสเริ่มต้นจาก Kawasaki ในที่สุดก็ได้ทำการเปิดตัวอย่างเป็นทางการ พร้อมกับสเปคและราคาเป็นที่เรียบร้อย หลังจากที่เผยโฉมแต่ไม่เผยข้อมูลให้เราเห็นมาตั้งแต่ช่วงปลายปีที่แล้ว โดยรถทั้งสองรุ่นจะทำตลาดเป็นตัวเริ่มต้นพลังงานสะอาดยุคใหม่ของค่าย ซึ่งแน่นอนว่าจะมีรถอีกหลายรุ่นถูกเปิดตัวตามมาในอนาคต Kawasaki Ninja e-1 และ Z e-1 ทั้งสองรุ่นถูกสร้างขึ้นบนพื้นฐานโครงสร้างที่แชร์ร่วมกับรถคลาสเริ่มเครื่องยนต์สันดาปอย่าง Ninja 400 และ Z400 ทั้งชุดเฟรมเหล็กถักและสวิงอาร์มเหล็กกล่องนั้นยังเป็นของเดิมที่ลากขายใช้มานาน โดยไม่มีการปรับเปลี่ยนตามความทันสมัยของพลังงานไฟฟ้าแม้แต่น้อย แน่นอนว่ารูปลักษณ์ก็ถูกลากใช้งานตามด้วยเช่นกัน ซึ่งตรงนี้อาจทำให้หลายคนผิดหวังกันพอสมควร สิ่งสำคัญที่ถูกเปลี่ยนไปก็คือเครื่องยนต์สันดาปลูกเดิม ถูกแทนที่ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าที่ให้พละกำลังได้แบบต่อเนื่องที่ 6.7 Hp ที่ 2,800 รอบ/นาที แต่สามารถให้พละกำลังสูงสุดได้ 12.1 Hp ที่ 2,600-4,000 รอบ/นาที ในช่วงเร่งแซงระยะสั้น ส่วนแรงบิดสูงสุดทำได้ที่ 40.5 Nm ที่ 0-1,600 รอบ/นาที ไม่มีเกียร์ ขับเคลื่อนด้วยโซ่…

Read More

หลังจากการประกาศออกมาอย่างเป็นทางการว่า Marc Marquez จะทำการย้ายทีมไปอยู่กับ Gresini ร่วมกับน้องชายในฤดูกาลหน้า แน่นอนว่าถึงจุดนี้หลายคนก็อาจจะคิดว่าเรื่องราวของข่าวลือแปลกประหลาดได้จบลงแล้ว แต่ก็ยังมีข่าวลือหนึ่งที่หลงเหลืออยู่ เกี่ยวกับเรื่องที่นักแข่งผู้นี้อาจเข้าซื้อกิจการของทีมดังกล่าว เช่นเดียวกับที่แชมป์เก๋ารุ่นเก่าอย่าง Valentino Rossi เคยทำ เรื่องนี้เองก็เป็นเรื่องที่ผู้บรรยาย MotoGP ได้เข้าไปถามกับ Jaime Martinez ผู้จัดการส่วนตัวของ Marc Marquez “การตัดสินใจย้ายทีมเป็นหนึ่งในการตัดสินใจที่ยากที่สุดของเขา(Marc Marquez) พวกเขามีเวลาที่ดีร่วมกัน มีแชมป์ร่วมกัน Honda จะอยู่ในใจของเขาตลอดไป” ผู้จัดการกล่าว “ช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา สถานะการณ์มันเปลี่ยนแปลงไปเร็วมาก ตอนนั้นเขาแค่โทรมาบอกผมว่า ‘ได้เวลาแล้ว’ มันเป็นเรื่องน่าเศร้า แต่ตอนนี้เขามั่นใจว่าจำเป็นต้องหาความสุขในการแข่งขันให้กลับมาอีกครั้ง” และเมื่อถูกถามเกี่ยวกับข่าวลือเรื่องการเข้าซื้อกิจการทั้งหมด หรือบางส่วนของทีมใหม่อย่าง Gresini ทางผู้จัดการเองก็ไม่ได้ปฏิเสธอะไรแบบแข็งขัน “ยังไม่ใช่ตอนนี้ครับ อย่างน้อยก็ไม่ใช่ในปี 2024 ปีนี้จะเป็นปีที่เราต้องทำให้เขากลับมายิ้มได้อีกครั้ง แต่หลังจากนั้นเราก็ค่อยว่ากัน” เรียกได้ว่าความเป็นไปได้ในการซื้อทีมที่เคยลือกัน จะไม่ใช่แค่ข่าวลือแบบไม่มีมูลเสียแล้ว ที่มา tmcblog อ่านข่าวสาร MotoGP เพิ่มเติมได้ที่นี่

Read More

MV Agusta Superveloce 98 มอเตอร์ไซค์สปอร์ตเรโทรรุ่นพิเศษที่สร้างขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองให้กับ MV Agusta 98 รถมอเตอร์ไซค์คันแรกของค่ายรถงานศิลป์ที่ถูกเปิดตัวในปี 1947 จุดเริ่มต้นของตำนานความเร็วสุดพรีเมี่ยมจากอิตาลี มาพร้อมจำนวนการผลิตที่ 300 คันทั่วโลก แน่นอนว่ามีรถจำนวนหนึ่งถูกจองไปเรียบร้อยแล้วโดยลูกค้าเงินหนาที่ใกล้ชิดกับบริษัท MV Agusta Superveloce 98 จะยังมาพร้อมกับเครื่องยนต์ระบายความร้อนด้วยน้ำ 3 สูบเรียง 798 ซีซี พื้นฐานเดิมที่ผ่านการปรับปรุงใหม่และลดแรงเสียดทานของชิ้นส่วนภายในหลายจุด ปรับทางเดินไอเสีย จนมีพละกำลังสูงสุด 147 Hp ที่ 13,000 รอบ/นาที และแรงบิดสูงสุด 88 Nm ที่ 10,100 รอบ/นาที ที่เป็นเครื่องยนต์ลูกเดียวกับที่ใช้อยู่ใน F3 มาพร้อมถังน้ำมันขนาด 16.5 ลิตร, หน้ำหนักตัวรถแบบไม่รวมของเหลว 173 กิโลกรัม, ความสูงเบาะนั่ง 830 มิลลิเมตร สเปถส่วนใหญ่ในภาพรวมของรถนั้นเป็นแบบเดียวกับรถรุ่นปกติ…

Read More

หลังจากการจบสัญญาระหว่าง Marc Marquez และทีมเดิมอย่าง Repsol Honda นอกจากจะสร้างแรงกระเพื่อมครั้งใหญ่ในวงการ MotoGP อีกปัญหาที่ตามมาของค่ายปีกนกก็คือตำแหน่งนักแข่งที่ว่างเว้นลงไป และปัญหานั้นก็ใหญ่ขึ้นไปอีกเมื่อเข้าช่วงท้ายฤดูกาลที่นักแข่งส่วนใหญ่ตั้งแต่รุ่นกลางยันรุ่นใหญ่ ต่างก็มีสัญญาสำหรับปีหน้ากันหมดแล้ว ซึ่งทางค่ายก็ร้อนรนจนต้องเข้าไปติดต่อนักแข่งที่มีสัญญาอยู่แล้วอย่าง Miguel Oliveira Miguel Oliveira ถูกถามเรื่องนี้ในสัปดาห์การแข่งขันที่ Mandalika ซึ่งเขาเป็นผู้ชนะประเดิมสนามนี้ในปีที่แล้ว โดยเขาให้ข้อมูลว่า “ผมยังไม่คิดเรื่องการเปลี่ยนทีม เพราะผมยังติดสัญญากับ Aprilia จนถึงสิ้นปี 2024 แต่มันก็ไม่มีอะไรแน่นอนเพราะมันมีความต้องการตัวผมอยู่” เขากล่าว “เราได้เห็นสิ่งที่ไม่คาดคิดหลายครั้งในปีนี้ ผมเห็นนักแข่งถูกส่งกลับบ้านกลางฤดูกาล ผมเห็นนักแข่งฉีกสัญญา ตอนนี้อะไรก็เกิดขึ้นได้” เขากล่าว “ผมเป็นเกียรติมาที่มีทีมโรงงานเข้ามาติดต่อผมเอง โดยเฉพาะทีมโรงงานขนาดใหญ่อย่าง Honda” โดยก่อนหน้านี้ทางทีมโรงงาน Honda ก็เคยมีข่าวว่าเข้าไปติดต่อนักแข่งที่ดูมีผลงานที่ดีบางคนเช่น Maverick Vinales หรือนักแข่งรายอื่นที่ไม่มีข้อมูล แต่ถ้าจะเอาความเป็นไปได้ที่เกิดขึ้นได้ง่ายที่สุดก็คงจะเป็นการดึงตัว Johann Zarco ที่เพิ่งตกลงเข้าร่วมกับทีมอิสระ LCR ในฤดูกาลหน้า แต่นั่นก็จะทำให้ปัญหาตำแหน่งนักแข่งว่างนั้นตกไปอยู่กับทางทีมอิสระแทน ซึ่งเราต้องมาดูกันต่อว่าใครที่จะได้เข้าไปแทนที่ในตำแหน่งนั้น ที่มา…

Read More

Yamaha ค่ายรถตราส้อมเสียงยักษ์ใหญ่จากประเทศญี่ปุ่น ได้ทำการโชว์ภาพของรถต้นแบบ (Concept) ทั้ง 8 คัน ที่จะถูกนำไปอวดโฉมในงาน Tokyo Motor Show 2023 ซึ่งเป็นงานโชว์รถที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของประเทศญี่ปุ่นที่จะถูกจัดขึ้นทุกสองปี แน่นอนว่าพอเป็นงานใหญ่ที่ไม่ได้มีกันบ่อย แถมงานครั้งที่แล้วยังยกเลิกการจัดไปเพราะ Covid-19 ทำให้งานในครั้งนี้ยิ่งสำคัญเป็นพิเศษ เราเลยจะพาทุกคนมาดูกันว่ารถต้นแบบจากส้อมเสียงที่ได้เผยโฉมมาก่อนนั้นมีอะไรน่าสนใจบ้าง MOTOROiD2 รถต้นแบบที่โดดเด่นที่สุดของค่าย เป็นการพัฒนาต่อยอดมาจาก MOTOROiD รุ่นแรกที่เปิดตัวเมื่อปี 2017 ใน TMS2017 ซึ่งนอกจากหน้าตาที่เป็นเอกลักษณ์เหมือนกับเครื่องดนตรีแล้ว มันยังมาพร้อมระบบรักษาการทรงตัว “Active Mass Center Control System” ที่จะสามารถบิดหมุนองศาของสวิงอาร์มเพื่อช่วยรักษาสมดุลให้รถตั้งตรงได้ นอกจากนี้ยังมีการติดตั้ง AI เข้าไปเพื่อให้รถมีการตอบสนองที่เป็นเอกลักษณ์ ให้ความรู้สึกเหมือนว่ารถนั้นคล้ายกับสิ่งมีชีวิต Y-00Z MTB จักรยานภูเขาพลังงานไฟฟ้า ที่มีการติดตั้งระบบ “Power Steer” ที่ใช้มอเตอร์ไฟฟ้าในการเสริมแรงในการหันแผงคอเพื่อเลี้ยวเช่นเดียวกับที่มีอยู่ในรถยนต์ยุคปัจจุบัน ซึ่งเป็นระบบที่ทางค่ายพัฒนามาสำหรับรายการแข่งขัน All-Japan Motocross Championship Y-01W…

Read More

หลังจากที่มีการประกาศออกมาอย่างเป็นทางการว่า Marc Marquez จะย้ายไปแข่งให้กับทีม Gresini โดยใช้ตัวแข่งของ Ducati ในฤดูกาลถัดไป ในที่สุดก็ได้เวลาที่เขาสามารถเล่าเรื่องราวทุกอย่างได้อย่างเปิดเผยกับสื่อ ซึ่งข้อมูลหลายอย่างก็น่าสนใจไม่น้อย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่เขาเกือบเลิกแข่ง หรือเรื่องที่เกือบอยู่ต่อกับค่ายเดิม เราจึงนำบางส่วนมาให้ทุกคนได้ชมกัน “การพักการแข่งขันไปหนึ่งปีเป็นหนึ่งในทางเลือกของผม” Marc Marquez กล่าว “การแข่งขันที่ไม่สนุกนั้นไม่มีความหมายสำหรับผม ผมทำอะไรหลายอย่างในอดีต(การคว้าแชมป์) แต่ผมอยากจะสู้ได้ในปัจจุบัน Gresini เป็นทีมที่รอคอยผมมาตลอด พวกเขาเสี่ยงพนันที่จะได้ผมมา เพราะก่อนหน้านี้ผมไม่เคยสัญญาอะไรกับเขาว่าจะย้ายไปที่นั่น ผมเพิ่งตัดสินใจเรื่องนี้เมื่อวันอังคารที่แล้ว และโทรไปหาฝั่งญี่ปุ่นเมื่อวันพุธที่แล้ว” “ก่อนหน้านี้ผมไม่เคยไปนั่งคุยเรื่องอนาคตกับทีมไหนเลย เป้าหมายของผมคือสัญญา 1 ปี เพราะมันเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากที่ผมก็ยังไม่มั่นใจในตัวเอง ถ้าผมไม่ชอบ ก็ไม่มีความหมายที่จะแข่งต่อ ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องอยู่ต่อ” “การตัดสินใจนี้ไม่ได้เป็นไปอย่างเด็ดขาด เมื่อช่วง 2 เดือนที่ผ่านมามันเหมือนกับผมใจโลเล แต่ให้พูดตามตรง สถานะการณ์มันเปลี่ยนไปทุกสัปดาห์ ตอนอยู่ที่ Misano ใจผมอยู่กับ Honda 90% แล้วสถานะการณ์ก็เปลี่ยนไปมาตลอด ถือเป็นช่วงที่ยากลำบาก ทางค่ายก็จำเป็นต้องเปลี่ยนวิธีการทำงาน ต้องเอาเงินไปพัฒนารถให้ถูกที่ มันไม่ง่าย…

Read More

การเปิดตัวและเปิดราคาอย่างเป้นทางการของ Triumph Speed 400 และ Scrambler 400X รถมอเตอร์ไซค์โมเดิร์นเรโทรคลาสเริ่มต้นจากค่ายผู้ดีพรีเมี่ยมรายนี้ สร้างแรงกระเพิ่มอย่างรุนแรงเป็นวงกว้างในตลาดรถพิกัด 150-400 ซีซี กระทบแม้กระทั่งกลุ่มรถบิ้กสกู๊ตเตอร์ที่มีกลุ่มเป้าหมายต่างกันอย่างชัดเจน คำถามที่ยากลำบากสำหรับค่ายรถที่ได้รับผลกระทบในตอนนี้จึงเป็น “จะทำอย่างไรเพื่อแก้เกม?” ซึ่งเหตุผลที่ทำให้คนมาสนใจเจ้า Triumph Speed 400 และ Scrambler 400X นั้นไม่ใช่เพราะว่ามันเป็นรถที่มีสเปคจัดเต็มที่สุด หรือมีราคาที่ถูกที่สุด แต่มันเป็นรถที่ให้สเปคมาน่าพึงพอใจ ในราคาที่น่าพึงพอใจ หรือก็คือทางค่ายนั้นจัดสเปคมาได้เหมาะสมไม่ได้น้อยเกินไปจนรู้สึกขนาดหรือมากเกินที่คนปกติจะต้องการ และยังตั้งราคาได้น่าพึงพอใจเมื่อเทียบกับสเปคที่ได้ ด้วยความคุ้มค่าเช่นนี้ มันจึงเป็นไปได้ยากที่คนที่คิดจะซื้อรถใหม่ในระดับราคาและความจุนี้(ไม่ว่าจะรถแนวไหน) จะต้องกลับมาพิจารณาตัวเลือกใหม่อีกครั้ง ค่ายรถรายอื่นจึงต้องรีบหาวิธีแก้เกม เพื่อป้องกันไม่ให้ยอดขายถูกแย่งไปจนหมด ซึ่งแนวทางการแก้เกมที่เราพอวิเคราะห์ได้ก็จะแตกต่างออกไปตามรูปแบบการทำตลาดของแต่ละค่าย ค่ายรถราคาประหยัด – อาจจะต้องรีบเดิมเกมการอัพเกรดสเปค อาจจะไม่จำเป็นที่จะต้องอัพเกรดแบบจัดเต็มด้วยการยัดระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ซับซ้อน หรือ QuickShifter แต่ระบบกันสะเทือนแบบหัวกลับ หรือระบบเบรกแบบเรเดียลเม้าท์ และอุปกรณ์ภายนอกที่เห็นได้ด้วยตาที่ทำให้รถดูน่าซื้อมากขึ้นน่าจะเป็นของอย่างแรกที่ลูกค้าสนใจ ระบบไฟ LED ก็เป็นของมาตรฐานในยุคนี้ แต่ก็อาจจะยังเสียเปรียบเรื่องภาพลักษณ์แบรนด์ที่ยากจะสู้กับ Triumph ค่ายรถพรีเมี่ยม – อาจจะต้องหาวิธีลดต้นทุนบางอย่างเพื่อให้ช่องว่างราคาดูน่าขยับขึ้นไปเล่นมากขึ้น…

Read More

Honda E-Clutch ระบบคลัทช์ไฟฟ้า เทคโนโลยีใหม่ล่าสุกจากค่ายปีกนก Honda ที่มักขยันวิจัยและพัฒนาของเล่นใหม่สำหรับนักขี่มอเตอร์ไซค์อยู่เสมอ เทคโนโลยีที่มีชื่อเสียงก่อนหน้านี้ก็คงจะเป็นระบบเกียร์ DCT ที่ทำให้ผู้ใช้สามารถเปลี่ยนเกียร์ของรถได้เองเพียงแค่กดสวิทช์ หรือจะขับขี่แบบเกียร์ออโต้เลยก็ได้ แต่ครั้งนี้ทางค่ายกลับมาพร้อมของที่เรียบง่ายกว่านั้น ซึ่งอาจจะทำให้คนทั่วไปเข้าถึงได้ง่ายกว่าด้วย Honda E-Clutch นั้นถ้าจะให้อธิบายอย่างง่ายก็คือระบบ “คลัทช์ไฟฟ้า” ซึ่งจะทำงานคล้ายคันเร่งไฟฟ้าที่จะตัดการเชื่อมต่อโดยตรงระหว่างคนกับรถ แล้วใส่ระบบควบคุมด้วยคอมพิวเตอร์มาช่วงสนับสนุนตรงกลาง ทำให้คลัทช์นั้นทำหน้าที่เป้นเหมือนแค่สวิทช์ตัวนึงเท่านั้น ซึ่งข้อดีในการใช้งานทั่วไปก็คือวิศวกรสามารถปรับให้จังหวะการกำและปล่อยคลัทช์เป็นไปด้วยความเหมาะสมมากขึ้น ทำให้การทำงานของเครื่องยนต์เรียบเนียนเหมือนเป็นนักขับมืออาชีพ แต่ถ้าจะให้สุดโต่งขึ้นมาอีกนิด เราก็สามารถปล่อยให้หน้าที่การกำคลัทช์ทั้งหมดเป็นเรื่องของรถและระบบคอมพิวเตอร์ไปเลยก็ยังได้ โดยผู้ใช้แค่ทำหน้าที่เปลี่ยนเกียร์เองเพียงอย่างเดียว ถ้าจะให้เปรียบเทียบระดับการช่วยเหลือผู้ขับขี่ ระดับราคา และความซับซ้อนทางวิศวกรรมก็คงจะบอกได้ว่า Honda E-Clutch นั้นอยู่ตรงกลางระหว่าง Quick-Shifter ที่ยังต้องกำคลัทช์ในช่วงออกตัวและในช่วงหยุดรถ กับระบบเกียร์ DCT ที่ทำงานได้ไวกว่ามาก แถมยังสามารถขับขี่แบบเดียวกับเกียร์อัตโนมัติได้เลย แต่ก็มาพร้อมน้ำหนักที่มากและราคาที่สูงกว่าระบบอื่น โดยทางค่ายบอกว่า Honda E-Clutch นั้นเป็นระบบที่สามารถนำมาติดตั้งได้ครับเครื่องยนต์หลายรุ่นของทางค่าย โดยที่แทบไม่ต้องทำการดัดแปลงเครื่องยนต์ใหม่ ทำให้เราอาจจะได้เห็นระบบดังกล่าวกลายเป็นตัวเลือกเสริมให้กับมอเตอร์ไซค์หลายรุ่นในอนาคต ซึ่งปกติแล้วก็มักจะเริ่มใช้งานในระที่มีราคาสูงซึ่งไม่มีระบบเกียร์ DCT ก่อนเป็นลำดับแรก ทางด้านประเภทของรถก็คาดว่าจะเป็นรถที่เน้นใช้งานในเมืองอย่าง CB1000R และ CB750…

Read More

ถึงแม้ว่าตอนนี้ Marc Marquez นักแข่งดีกรีแชมป์โลกที่กำลังตกทุกได้ยากกับผลงานของตัวแข่ง Honda ได้ประกาศออกมาอย่างเป็นทางการแล้วว่าจะแยกทางกับต้นสังกัดของตัวเองในฤดูกาลหน้า แต่กลับยังไม่มีการยืนยันออกมาว่าเจ้าตัวจะย้ายไปแข่งให้กับทีมไหนต่อไป ถึงแม้จะมีข่าวสลือหนาหูจนแทบจะกล้ายืนยันแล้วว่าจะไปขับรถค่ายแดง Ducati ให้กับทีมอิสระ Gresini ร่วมกับน้องชาย แต่การย้ายค่ายของ Marc Marquez นั้นไม่ใช่แค่การย้ายทีมของนักแข่งทั่วไป แต่เป็นการย้ายทีมของนักแข่งที่แกร่งที่สุด ที่มีค่าตัวสูงที่สุด ไปจับคู่กับตัวแข่งที่แกร่งที่สุดในสนาม และถึงแม้ว่าตัวแข่งดังกล่าวจะเป็น Desmosedici GP22 ที่เป็นรถตกรุ่นจากปีที่แล้ว แต่มันก็คือรถสเปคเดียวกับที่คว้าตำแหน่งแชมป์โลกให้กับ Francesco Bagnaia นั่นจึงอาจจะทำให้การแข่งขัน MotoGP เข้าใกล้การเป็น One Make Race แบบที่แฟนกีฬาชอบล้อกัน เรื่องนี้เองที่แม้แต่อดีตหัวหน้าของเขาอย่างอดีตผู้จัดการทีมปีกนก Livio Suppo ก็ได้แสดงความกังวลว่า “ถ้า Marquez ย้ายไปอยู่กับ Ducati ขึ้นมา MotoGP ได้กลายเป็น One Make Race แน่นอน” เขากล่าว “ตอนแรกไม่คิดว่าเขาจะย้ายทีม…

Read More