Author: Kristha

Honda CB1000 Hornet รถมอเตอร์ไซค์สปอร์ตเปลือยรุ่นใหญ่จากค่ายปีกนก Honda อาจจะเป็นรถใหม่อีกรุ่นที่ซุ่มเปิดตัวภายในปลายปีนี้ หลังจากที่รถสปอร์ตเปลือยรุ่นปัจจุบันอย่าง CB1000R แนวนีโอเรโทรไฟกลมที่เปิดตัวในช่วงปลายปี 2017 ก่อนที่จะถูกปรับโฉมเล็กน้อยในปี 2020 ซึ่งตอนนี้ก็ถือว่าถูกวางขายมาจนจะได้เวลาปรับโฉมใหญ่แล้ว โดยการปรับโฉมใหญ่ครั้งนี้อาจมีอะไรหลายอย่างเปลี่ยนไปมากกว่าที่เราคิด Honda CB1000 Hornet นั้นเป็นรถที่มีข่าวลือว่ากำลังเตรียมจะเปิดตัวมาตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา เนื่องจากตามธรรมเนียมของรถสปอร์ตเปลือยคลาสใหญ่ของ Honda รวมถึงรถมอเตอร์ไซค์จากญี่ปุ่นหลายค่าย ที่มักนำเอาเครื่องยนต์เจนเก่าของรถ Superbike ที่ตกยุคไปมาใช้ ซึ่งการที่ทางค่ายทำการเปิดตัว CBR1000RR-R ที่มาพร้อมเครื่องยนต์ลูกใหม่ ทำให้รถฝั่งถนนมีช่องว่างในการขยับเจนไปใช้เครื่องยนต์ที่ใหม่ขึ้น(ซึ่งก็ถือว่ายังเก่ากว่าเครื่องยนต์เจนล่าสุดอยู่รุ่นนึงพอดี) นอกจากนี้ก็ดูเหมือนว่าค่ายปีกนกกำลังเปลี่ยนแนวทางการออกแบบรถของตัวเองอีกครั้ง หลังจากที่ก่อนหน้านี้ทางค่ายพยายามดันรถสไตล์ Neo-Sport Cafe ที่เน้นรถสปอร์ตเปลือยไฟกลมเป็นหลัง เห็นได้จากการมาถึงของ CB1000R, CB650R, CB300R, CB150R แต่หลังจากนั้นก็ไม่ได้มีการเปิดตัวรถไฟกลมแนวโมเดิร์นออกมาเพิ่มอีกเลย โดยเฉพาะการเปิดตัว CB750 Hornet ที่กลับไปใช้งานออกแบบหลักที่ทันสมัยกว่าของค่ายอีกครั้ง ทำให้เราอาจจะตีความได้ว่ารถตัวตายตัวแทนของ CB1000R นั้นอาจจะไปใช้แนวทางการออกแบบที่มีความแหลมคม ทันสมัยมากขึ้น ส่วนหนึ่งก็อาจจะเป็นเพราะว่างานดีไซน์แนวคลาสสิกนั้นมาถึงทางตันได้ค่อยข้างง่าย เพราะแค่ปรับโฉมรอบแรก ไฟหน้าจากที่เคยกลมก็เริ่มเปลี่ยนทรงเป็นหยดน้ำแล้ว…

Read More

Brabus 1300R Masterpiece Edition รถมอเตอร์ไซค์สปอร์ตเปลือยร่างสุดยอดที่เกิดจากความร่วมมือระหว่าง Brabus สำนักแต่งที่มีชื่อเสียงจากการดัดแปลงรถของ Mercedes-Benz และค่ายรถมอเตอร์ไซค์ KTM ซึ่งในครั้งนี้ความร่วมมือดังกล่าวก็มาถึงจุดสิ้นสุด ด้วยผลงานรุ่นพิเศษชิ้นสุดท้าย ที่มาพร้อมจำนวนการผลิตจำกัดเพียงแค่ 50 คัน Brabus 1300R Masterpiece Edition นั้นยังมีรูปร่างภายนอกโดยรวมไม่ต่างจากเดิมมากนัก ยังคงใช้พื้นฐานด้านโครงสร้างและเครื่องยนต์แบบเดียวกับราชาอสูรค่ายส้ม ที่มาพร้อมเครื่องยนต์แบบระบายความร้อนด้วยน้ำ V-Twin 75 องศา ปริมาตรกระบอกสูบ 1,301 ซีซี ลูกเดิมที่ให้พละกำลังสูงสุด 180 Hp @ 9,500 RPM และแรงบิดสูงสุด 140 Nm @ 8,000 RPM ที่วางอยู่ในเฟรมแบบเหล็กถัก และเฟรมท้ายแบบอลูมีเนียมเช่นเดียวกับร่างต้น แต่ทำการเปลี่ยนรูปลักษณ์ภายนอกใหม่ทั้งหมดให้เป็นของ Brabus รายละเอียดทางวิศวกรรมส่วนใหญ่ของรถรุ่นนี้ยังคงเป็นการยกมาจากรถร่างต้นโดยตรง ระบบกันสะเทือนด้านหน้าแบบหัวกลับ และด้านหลังแบบสปริงเดี่ยว WP Apex ที่สามารถปรับได้ทุกค่าด้วยไฟฟ้า…

Read More

2024 BMW R1300GS รถมอเตอร์ไซค์แอดเวนเจอร์รุ่นใหญ่จากค่ายฟ้าขาว BMW ที่จะเข้ามาทำตลาดแทนที่รถตัวจบสายเที่ยวทางฝุ่นอย่าง R1250GS ที่ถือเป็นรถที่ได้รับความนิยมสูงที่สุดในคลาส เรียกได้ว่าถ้าไม่รู้จะเลือกสายลุยคันไหน ตัวนี้คือคำตอบ และแน่นอนว่าการเปิดตัวรุ่นใหม่ครั้งนี้พิเศษกว่าครั้งอื่น เพราะมันได้ทำการเปลี่ยนงานดีไซน์ใหม่ทั้งหมด แถมยังมาพร้อมเครื่องยนต์ที่ไม่เคยมีมาก่อน 2024 BMW R1300GS นั้นมาพร้อมกับเครื่องยนต์ลูกใหม่หมดจด ที่เปลี่ยนจากการระบายความร้อนด้วยน้ำผสมกับอากาศ มาเป็นแบบระบายความร้อนด้วยน้ำเต็มระบบ ช่วยให้สามารถรีดพละกำลังได้สูงขึ้น และสามารถผ่านมาตรฐานไอเสียยุคใหม่ได้ รูปแบบเครื่องยนต์ยังคงเป็นแบบ 2 สูบนอน Boxer ตามสูตรที่เป็นเอกลักษณ์ ปริมาตรกระบอกสูบถูกเพิ่มขึ้นเป็น 1,300 ซีซี พ่วงระบบวาล์วแปรผัน ShiftCam ให้พละกำลังสูงสุด 145 Hp ที่ 7,750 รอบ/นาที และแรงบิดสูงสุด 149 Nm ที่ 6,500 รอบ/นาที ส่งกำลังด้วยเพลาเช่นเดิม ความเปลี่ยนแปลงขนานใหญ่ส่วนอื่นก็อย่างเช่น ชุดเฟรมทั้งเฟรมหลักและซับเฟรมนั้นเปลี่ยนเป็นวัสดุอลูมีเนียม ที่มีความแข็งแรงแต่น้ำหนักลดลง, ถังน้ำมันขนาด 19 ลิตร…

Read More

ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ข่าวลือการย้ายทีมของ Marc Marquez นั้นดูจะแรงขึ้นไม่หยุด จากสิ่งที่เคยเป็นเหมือนข่าวลือที่ไม่น่าเป็นไปได้ แต่ตอนนี้กลายเป็นว่าน้ำหนักของมันกลับเพิ่มขึ้นไม่หยุด จนแทบจะกลายเป็นข่าวที่ทั้งสื่อและแฟนกีฬาต่างก็เพียงแค่รอการประกาศย้ายทีมของนักแข่งผู้นี้ออกจาก Honda เพื่อไปอยู่ Gresini ร่วมกับน้องชายอย่างเป็นทางการ และนั่นก็รวมถึง Jorge Lorenzo ที่ผันตัวเองจากนักแข่งมาเป็นสื่อด้วยเช่นกัน Jorge Lorenzo ที่ปัจจุบันหลังจากเลิกแข่งกีฬาความเร็ว เขาก็ได้หันมาทำงานร่วมกับสื่อเจ้าใหญ่อย่าง DAZN และได้ให้ความเห็นเชิงวิเคราะห์เกี่ยวกับดีลใหม่ของ Marc Marquez ในฐานะอดีตนักแข่ง และอดีตเพื่อนร่วมทีมที่รู้จักกันมา โดยเขาได้ให้ข้อมูลว่า “ข่าวการย้ายทีมของเขาไป Gresini นั้นใหญ่ขึ้นมาก และใหญ่ขึ้นไม่หยุดในหัวของผม” “ผมคิดว่าดีลที่ว่านั้นถูกจัดการเซ็นต์ไปเรียบร้อยแล้ว ผมคิดว่ามาร์คไม่ได้สนใจเรื่องเงินอะไรเป็นพิเศษ เขาแค่ต้องการที่จะกลับมาสู้ได้อีกครั้งในปี 2024 ก่อนที่จะเปิดช่องให้ตัวเองเลือกทีมใหม่ได้อย่างกว้างขวางในปี 2025” โดยในปีดังกล่าวก็เป็นปีที่นักแข่งจำนวนมากจะผมสัญญากับทีมแข่ง ทำให้ตลาดนักแข่งเปิดกว้างในช่วงนั้น ซึ่งก็คงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกในที่ Jorge Lorenzo จะคิดแบบนั้น เนื่องจากนักแข่งส่วนใหญ่มักจะทำการตัดสินใจเรื่องทีมแข่งสำหรับฤดูกาลถัดไปสำเร็จไปนานแล้ว ส่วนทีมแข่งก็จะไม่อยากไม่ปล่อยให้ตำแหน่งที่นั่งว่างนานเกินไปจนเสี่ยงเกิดความเสียหาย แต่รายละเอียดข้อตกลงดังกล่าวของสุดยอดแชมป์โลกของยุคจะเป็นอย่างไร และจะประกาศอนาคตตอนไหน ก็คงต้องติดตามอย่างใกล้ชิด ที่มา crash…

Read More

เข้าสู่การแข่งขัน MotoGP ในช่วงท้ายของฤดูกาลในสนามแข่ง Motegi ที่จะจัดขึ้นที่ประเทศญี่ปุ่น นอกจากจะเป็นสนามบ้านเกิดของทั้ง Honda และ Yamaha ยังเป็นช่วงเวลาที่ Marc Marquez จะได้เข้าไปเจรจากับสำนักงานใหญ่ของตัวเองเกี่ยวกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นในปีหน้า หลังจากมีการเปิดเผยว่าเจ้าตัวสามารถย้ายทีมก่อนหมดสัญญาได้ หากทีมที่ย้ายเป็นทีมอิสระ ซึ่งทีมที่มีข่าวลือว่าจะย้ายไปก็คือ Gresini ที่น้องชายของตัวเองแข่งอยู่ แต่ข่าวลือล่าสุดค่อนข้างน่าแปลกใจพอสมควร เป็นผลจากการที่ Marc Marquez เข้าไปเจรจากับต้นสังกัด Honda โดยทางค่ายจะยอมปล่อยตัวเขาไปแข่งกับค่ายอื่นแต่มีข้อแม้ว่า นักแข่งแชมป์โลกผู้นี้จะย้ายไปอยู่กับ Gresini แค่ในฤดูกาล 2024 เพื่อเป็นการหาทางออกเรื่องตัวแข่งของค่ายปีกนกที่ไม่สามารถสู้ได้เท่านั้น ก่อนจะกลับมาอยู่กับค่ายปีกนกต่อในฤดูกาล 2025 ซึ่งข้อตกลงแบบนี้จะช่วยให้ฝั่งนักแข่ง สามารถทำผลงานในสนามตามแบบที่ตนเองพึงพอใจได้ โดยไม่ถูกถ่วงโดยตัวแข่งที่มีปัญหารุมล้อม ส่วนฝั่งค่ายรถก็ยังสามารถรักษาความใกล้ชิดกับนักแข่งที่เก่งที่สุดของตัวเองได้ โดยไม่ต้องห่วงว่าจะหลุดมือแบบถาวร และสามารถใช้เวลาหนึ่งปีตรงนี้ในการเปลี่ยนโครงสร้างของทีม รวมถึงพัฒนาตัวแข่งให้กลับมาอยู่หัวแถวอีกครั้งเพื่อรอการกลับมาของ Marc Marquez ถ้าข้อสรุปนั้นเป็นไปตามข่าวลือนี้จริง ก็ถือว่าเป็นการต่อสัญญานักแข่งล่วงหน้าแบบเว้นช่วงที่ถือว่าแปลกพอสมควร อีกสิ่งที่ต้องติดตามคือทาง Gresini จะเห็นดีเห็นงามกับการทำข้อตกลงกับ Marc Marquez เพียงแค่ปีเดียวหรือไม่ เพราะจะทำให้ทีมเสียเวลาไปกับการปรับตัวของนักแข่งมากเกินไป…

Read More

หลังจากที่ทีมแข่งคนบ้าอย่าง Suzuki ของรายการ MotoGP ได้ทำการถอนตัวออกจากการแข่งขันไปเมื่อปีก่อน ความเป็นไปตัวตัวแข่งแต่ละคันที่มีแตกต่างกันไป ไม่ว่าจะเป็นการนำไปเก็บในพิพิธภัณฑ์ หรือส่งไปให้เป็นของขวัญสำหรับนักแข่งของตัวเองที่สู้ด้วยกันมานาน บ้างก็อาจจะเก็บไว้วิจัยเพื่อพัฒนารถถนน บ้างก็ถูกทำลายทิ้งเพื่อรักษาความลับของบริษัท แต่มีบางส่วนที่หลุดรอดออกมาให้นักสะสมในตลาดได้ครอบครอง ซึ่งมีนักสะสมไทย ได้โพสต์ขาย ซากตัวแข่ง Suzuki GSX-RR ไปในเดือนนี้ อย่างไรก็ดี เราไม่ทราบว่าเป็นตัวแข่งปีไหน แต่คาดว่า น่าจะปี 2020 ลงไป ตามโพสต์นี้ จะเห็นได้ว่า ซากรถจะมีชิ้นส่วน ทั้ง เครื่องยนต์ เฟรม สวิงอาร์ม ท่อไอเสีย ถังน้ำมัน หม้อน้ำ ระบบกันสะเทือน ปั๊มเบรกบน สนนราคา เพียง 1,350,000 บาท หากแกนกลางรถ GSX-RR ยังไม่พอ ยังสามารถจัดออปชั่นเพิ่มอีก จ่ายอีก 250,000 บาท เพื่อได้ ล้อคาร์บอน จานดิสก์คาร์บอน และ…

Read More

Voge RR666S รถมอเตอร์ไซค์สปอร์ตคลาสกลางจาก Voge ค่ายรถสัญชาติจีนที่หลายคนอาจจไม่รู้จัก แต่ถ้าบอกว่าค่ายรถนี้คือแบรนด์ย่อยสำหรับตลาดรถหรูมีราคาและเครื่องยนต์ใหญ่ของ Loncin อาจจะทำให้เราพอจะเข้าใจภาพรวมได้ดีขึ้นบ้าง ซึ่งก่อนหน้านี้ค่ายรถดังกล่าวได้ทำการเปิดตัวสปอร์ตน้องเล็กไปแล้ว คราวนี้ก็ถึงเวลาของคลาสกลางกันบ้าง Voge RR666S นั้นถือเป็นรถมอเตอร์ไซค์รุ่นใหม่ที่มีมีความทันสมัยมากที่สุดในค่าย แถมยังมาพร้อมเครื่องยนต์ใหม่หมดจดที่พัฒนาขึ้นมาเองแบบระบายความร้อนด้วยน้ำ 4 สูบเรียง 660 ซีซี ที่มีข้อมูลเบื้องต้นว่าจะให้พละกำลังสูงสุดประมาณ 100 แรงม้า ต่างกับรถรุ่นอื่นในค่ายที่มักจะเป็นการเอาเครื่องยนต์ของค่ายอื่นมาทำวิศวกรรมย้อนกลับ หรือไม่ก็ยืมเครื่องยนต์จาก BMW ที่เป็นพันธมิตรมาใช้งานโดยตรง สเปครอบคันก็จัดเต็มมากสำหรับรถคลาสเดียวกัน เพราะมันมาพร้อมกับระบบกันสะเทือนด้านหน้าแบบหัวกลับ และด้านหลังแบบสปริงเดี่ยว ทำงานร่วมกับสวิงอาร์มแขนเดี่ยว จากแบรนด์ KYB ที่สามารถปรับได้ทุกค่า กันสบัดที่แฮนด์ก็เป้นของ KYB เช่นเดียวกัน ระบบเบรกด้านหน้าแบบดิสก์เดี่ยว ทำงานร่วมกับคาลิเปอร์แบบเรเดียลเม้าท์จาก Brembo ส่วนด้านหลังเป็นแบบดิสก์เดี่ยว ทำงานร่วมกับคาลิเปอร์แบบแอ็กเซียลเม้าท์ ทางด้านของยางนั้นก็เป็น Pirelli Diablo Rosso รูปลักษณ์ของตัวรถโดยรวมนั้นก็ถือว่าเป็นรถแนวสปอร์ตที่มีแฮนด์จับโช้คแบบหมอบต่ำ แต่ตำแหน่งเบาะนั่งกลับไม่ได้สูงมากนัก อาจจะเพื่อให้เหมาะกับผู้ใช้ชาวเอเชีย เส้นสายรอบคันดูโฉบเฉี่ยวในแบบรถมอเตอร์ไซค์จากจีน ระบบไฟส่องสว่างรอบคันแบบ LED…

Read More

BMW R12 รถมอเตอร์ไซค์ครุยเซอร์รุ่นใหม่จาก BMW ที่ก่อนหน้านี้เคยมีข่าวลือว่าทางค่ายบาวาเรียกำลังซุ่มพัฒนาอยู่ เพื่อนำมาทำตลาดในระดับที่ต่ำกว่า R18 นั้นดูเหมือนว่าจะใกล้ความจริงเข้าไปทุกที หลังจากที่ล่าสุดมีข้อมูลหลุดออกมาจากกรมขนส่งของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ว่าครุยเซอร์รุ่นน้อง(แต่ไม่เล็ก)คันนี้ถูกจดทะเบียน พร้อมระบุสเปคบางส่วนสำหรับการจำหน่ายในปีหน้า BMW R12 จากข้อมูลที่เรารู้และสามารถคาดเดาได้ คือมันจะถูกสร้างอยู่บนพื้นฐานของเครื่องยนต์และเฟรมที่ยกมาจาก R12 nineT ที่เป็นฝาแฝดไฟกลมโฉม Roadster ที่ใช้เครื่องยนต์แบบระบายความร้อนด้วยอากาศและน้ำมันแบบ Boxer ปริมาตรกระบอกสูบ 1,170 ซีซี ที่ให้พละกำลังสูงสุด 90 Hp และแรงบิดสูงสุด 110 Nm ส่งกำลังไปล้อหลังด้วยเพลา ซึ่งอาจจะถูกจูนต่างไปจากพี่น้องของมันเล็กน้อย แต่ก็ดูจะไม่มากไม่น้อยเกินไปสำหรับรถครุยเซอร์ระดับนี้ รายละเอียดส่วนอื่นที่ถูกระบุไว้ในเอกสารเช่น น้ำหนักตัว 229 กิโลกรัม, ขนาดล้อหน้า-หลัง 100/90-19 และ 150/80-16 ที่ดูเหมือนว่าจะเป็นแนว Bobber เต็มตัว, ความยาวตัวรถ 2,200 มิลลิเมตร, รถยะฐานล้อ 1,520 มิลลิเมตร…

Read More

Kawasaki Ninja HEV รถมอเตอร์ไซค์สปอร์ตขุมพลังลูกผสม Hybrid Electric Vehicle จากค่ายเขียว Kawasaki ที่ได้เผยโฉมเป็นครั้งแรกไปเมื่อปีที่แล้ว ในที่สุดก็มีคนจับภาพได้ขณะที่มันกำลังวิ่งถ่ายภาพโฆษณาอยู่ในเมืองตูริน ประเทศอิตาลี แสดงให้เห็นว่ารถร่างสมบูรณ์กำลังจะได้เวลาเผยโฉมให้เราเห็นอย่างเป็นทางการ Kawasaki Ninja HEV นั้นถึงแม้จะไม่ใช่รถที่เป็นความลับอะไร เนื่องจากถูกค่ายเขียวนำมาโชว์ตัวในที่สาธารณะมาแล้วหลายรอบ แต่ข้อมูลเกี่ยวกับรถคันนี้ก็ยังมีอยู่ข้อนข้างจำกัด เรารู้เพียงแค่ว่ามันจะมาพร้อมกับเครื่องยนต์แบบระบายความร้อนด้วยน้ำ 2 สูบเรียง ที่มีปริมาตรกระบอกสูบประมาณ 250-450 ซีซี ที่ยกมาจากรถคลาสเริ่มต้นของค่ายอย่าง Ninja 400 นำมาพ่วงกับมอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 48 V ที่จะช่วยทั้งสตาร์ทรถและเสริมกำลังขับเคลื่อน แต่นอกจากนั้นเราก็ไม่มีข้อมูลอะไรเพิ่มเติมเกี่ยวกับพละกำลังสูงสุด หรือหลักการทำงานของระบบไฮบริดที่เพิ่มเข้ามา ทราบเพียงแต่ว่ามันจะมาพร้อมรูปลักษณ์ใหม่หมดจด แต่ยังคงเอกลักษณ์ของรถตระกูล Ninja ซึ่งไม่สามารถแชร์ร่วมพี่พี่น้องรุ่นอื่นได้เนื่องจากพื้นที่ติดตั้งอุปกรณ์ภายในเปลี่ยนไปจากเดิมมาก View this post on Instagram A post shared by TorinoCronaca (@torinocronaca) หลังจากที่…

Read More

Honda CBR650R และ CB650R สองรถมอเตอร์ไซค์สปอร์ตแฟริ่งและสปอร์ตเปลือย ที่ได้รับความนิยมอย่างสูงในตลาดรถคลาสกลาง เนื่องจากมาพร้อมเครื่องยนต์แบบ 4 สูบเรียง ซึ่งถือว่ามีความโดดเด่นมากกว่ารถรุ่นอื่นในระดับเดียวกัน แต่เนื่องจากการเปิดตัวของ CB750 และ XL750 ที่มาพร้อมเครื่องยนต์ความจะใหญ่กว่าแบบ 2 สูบเรียง ทำให้อนาคตของสองรถเจ้าตลาดอาจต้องปรับเปลี่ยนเล็กน้อย ก่อนหน้านี้ทางค่ายปีกนก Honda ได้ทำการจดสิทธิ์บัตรระบบ “คลัทช์ไฟฟ้า” ในชื่อ “Honda Pro Crutch” และ “Honda E-Clutch” ซึ่งจะเป็นการเปลี่ยนจากการควบคุมคลัทช์ด้วยสายลวดโลหะหรือแรงดันน้ำมัน ไปเป็นการควบคุมด้วยสัญญาไฟฟ้าเช่นเดียวกับระบบคันเร่งไฟฟ้าแทน นั่นจะทำให้การกำก้านคลัทช์ของเรานั้นไปควบคุมสวิทช์ที่ส่งข้อมูลไปยังสมองกล ที่จะไปควบคุมการบีบคลัทช์แทนเราอีกทีเหมือนเป็น “Clutch by Wire” ข้อดีของระบบนี้คือทำให้ผู้ขี่สามารถขี่รถโดยที่จะใช้งานคลัทช์หรือไม่ก็ได้ เพราะในเมื่อคลัทช์ถูกควบคุมด้วยสมองกล การที่ผู้ขี่แค่ตบเกียร์อย่างเดียว รถของเราก็จะสั่งงานคลัทช์ตามการตบเกียร์ของเราเอง ซึ่งระบบนี้สามารถใช้งานร่วมกับ Auto Blip เพื่อให้เกิดความลื่นไหลได้ด้วย แต่ถ้าผู้ใช้ต้องการที่จะขับขี่แบบสั่งงานคลัทช์ด้วยตัวเองก็ยังสามารถทำได้อยู่เช่นกัน แต่ระบบนี้จะไม่เหมือนกับเกียร์ DCT เนื่องจากผู้ใช้ยังจำเป็นต้องเปลี่ยนเกียร์เองอยู่ โดยทางสื่อต้นทางก็คาดว่าระบบนี้จะถูกนำไปใช้งานกับรถในตระกูล 650…

Read More