Suzuki GSX-R1000 รถมอเตอร์ไซค์สปอร์ตสายสนามจากค่ายคนบ้า Suzuki ที่ปัจจุบันดูมีชตากรรมที่ไม่แน่นอน หลังจากที่ทางค่ายประกาศถอนตัวออกจากรายการแข่งทุกประเภท ไม่เว้นแม้แต่ MotoGP หรือ EWC เนื่องจากต้องการผันงบประมาณไปพัฒนารถที่ขายได้มากกว่านี้ ทำให้เราเกิดข้อสงสัยว่ารถในตระกูล GSX-R ที่ยอดขายไม่เยอะนัก แถมไม่ได้ไปลงแข่งรายการไหนแล้วจะยังได้ไปต่อหรือไม่ Suzuki GSX-R1000 เป็นรถมอเตอร์ไซค์ตัวท็อปรุ่นใหม่ล่าสุดในตระกูล GSX-R ที่อยู่มานานตั้งแต่ปี 1985 ซึ่งถูกบึกเบิกเริ่มต้นสายตระกูลโดย GSX-R750 ที่ได้วิวัฒนาการแตกรุ่นย่อยมาตลอดระยะเวลาเกือบ 40 ปี ถึงแม้ว่าเราจะยังไม่มีข้อมูลที่แน่ชัดเกี่ยวกับรถรุ่นนี้ แต่เราก็มีภาพสิทธิบัตรล่าสุดของค่ายคนบ้า ที่จดทะเบียนไว้ใช้กับรถมอเตอร์ไซค์สายสปอร์ต ทำให้เราเชื่อว่ารถรุ่นดังกล่าว อาจได้รับการปรับโฉมในปีหน้า ภาพสิทธิบัตรใหม่นี้แสดงให้เห็นถึงแผ่นแฟริ่งที่ติดตั้งอยู่บริเวณแผงคอของรถ ด้านใต้ของแฟรุ่ง ซึ่งจะทำหน้าที่ปิดช่องว่างรอบแผงคอไม่ให้ลมที่พุ่งเข้ามาด้านล่าง วนขึ้นมาในตำแหน่งแผงคอ แต่ไหลไปที่ตำแหน่งหม้อน้ำเพื่อช่วยระบายความร้อน ดูแล้วก็เหมือนจะเป็นตัวช่วยอย่างง่ายที่ไม่ได้มีความซับซ้อนอะไร แต่ก็เป็นของที่ยังไม่มีค่ายรถรายอื่นทำขายกันจริงจัง และคงเป็นการอัพเกรดส่วนนึงในอีกหลายด้านที่คงจะมีขึ้นเพื่อให้รถรุ่นนี้เท่าทันคู่แข่ง Suzuki GSX-R1000 รุ่นล่าสุดนั้นถูกเปิดตัวไปตั้งแต่ปี 2017 แล้วถูกลากขายยาวมาตั้งแต่ตอนนั้นโดยที่แทบไม่ได้รับการอัพเกรดเพิ่มความสดใหม่อะไร จนมันถูกถอดออกจากการวางจำหน่ายในทวีปยุโรปไปเมื่อปีที่แล้ว เนื่องจากไม่ผ่านมาตรฐานไอเสีย Euro5 ถ้าทางค่ายคิดจะไปต่อกับรถรุ่นนี้ในระดับโลกจริง การอัพเกรดสปอร์ตคนบ้าคันนี้ก็เป็นสิ่งที่ควรจะเกิดขึ้น ทั้งในมุมของกฎหมายค่ามลพิษ…
Author: Kristha
2023 Royal Enfield Interceptor และ Continental GT รถมอเตอร์ไซค์เรโทรคลาสกลางจาก Royal Enfield ที่ค่ายรถผู้ดีชมพูทวีปรายนี้สร้างขึ้นมาเพื่อเจาะตลาดรถคลาสกลาง ซึ่งผลตอบรับของมันก็เป็นไปในทางบวกจนเริ่มออกรุ่นย่อยอย่าง Super Meteor ตามมาในภายหลัง แต่รถร่างต้นกลับแทบไม่ได้รับการปรับสเปคเลย จนเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา 2023 Royal Enfield Interceptor และ Continental GT นั้นยังคงมีภาพรวมของตัวรถไม่ต่างจากรุ่นเดิม โดยหัวใจที่เป็นเครื่องยนต์ระบายความร้อนด้วยอากาศและน้ำมัน 2 สูบเรียง 648 ซีซี นั้นยังให้พละกำลังสูงสุด 47 Hp และแรงบิดสูงสุดที่ 52 Nm ลูกเดิมที่ติดตั้งอยู่ในชุดเฟรมเดิม แต่ถูกย้อมสีรอบคันให้เป็นสีดำล้วน ลดความเงาแบบคลาสสิก ความเปลี่ยนแปลงสำคัญจะอยู่ที่ระบบไฟส่องสว่างด้านหน้าแบบ LED ในรถทั้งสองรุ่นที่ยกมาจากฝาแฝดสายย่ออย่าง Super Meteor ที่เปิดตัวไปเมื่อปลายปีที่แล้ว และยังรวมถึงพอร์ตชาร์จไฟแบบ USB ที่ติดตั้งมาให้ด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ยังมีชุดล้อแบบอัลลอยด์ 7…
QJMotor SAI 150 รถมอเตอร์ไซค์สปอร์ตคลาสเริ่มจาก QJMotor ค่ายรถแดนมังกรที่กำลังบุกตลาดโลกแบบรุกหนัก หลังจากที่ได้ไปสร้างความร่วมมือกับค่ายรถใหญ่หลายเจ้าไม่ว่าจะเป็น Harley-Davidson หรือ MV Agusta เพื่อพัฒนาตลาดคลาสใหญ่ของค่าย ล่าสุดทางค่ายได้ทำการเปิดตัวรถสปอร์ตน้องเล็ก เพื่อมาเสริมความแข็งแกร่งของรถตัวเริ่มในกลุ่มที่ตัวเองถนัด QJMotor SAI 150 นั้นถือได้ว่าเป็นรถสปอร์ตตัวเริ่มที่เป็นมิตรกับผู้ใช้ทั่วไป ทั้งในด้านของพละกำลังและราคา มาพร้อมกับเครื่องยนต์ระบายความร้อนด้วยน้ำ 1 สูบ 150 ซีซี สามารถให้พละกำลังสูงสุด 16.7 Hp @ 9,250 RPM และแรงบิดสูงสุด 13.5 Nm @ 7,250 RPM ซึ่งก็ไม่ได้มากมายอะไรเป็นพิเศษเมื่อเทียบกับคู่แข่งจากญี่ปุ่น ชุดเฟรมและสวิงอาร์มแบบเหล็ก ทำให้รถมีน้ำหนักตัวอยู่ที่ 145 กิโลกรัม ถังน้ำมันขนาด 12.5 ลิตร, ความสูงเบาะนั่ง 765 มิลลิเมตร, ระบบกันสะเทือนด้านหน้าแบบหัวกลับ ด้านหลังแบบสปริงเดี่ยว ปรับค่าไม่ได้,…
2024 Honda CBR1000RR-R รถมอเตอร์ไซค์สปอร์ตคลาสพันจากค่ายปีกนก Honda เจ้าของฉายาดาปไฟ Fireblade อาจกำลังเตรียมปรับสเปคกันอีกครั้งในช่วงปลายปีนี้ หลังจากที่ตัวรถรุ่นปัจจุบันถูกเปิดตัวไปเมื่อปลายปี 2019 ซึ่งในปลายปีนี้ก็ถือว่ารถรุ่นปัจจุบันมีอายุมากถึง 4 ปี ได้เวลาอันเหมาะสมในการปรับสเปคให้ทันสมัย เพราะเป็นการกระตุ้นตลาด เพิ่มยอดขาย รวมถึงเพิ่มความสามารถให้สู้กับคู่แข่งในการการ WSBK ได้ดีกว่าเดิม 2024 Honda CBR1000RR-R ในปัจจุบันนั้นเรายังไม่มีข้อมูลอะไรเกี่ยวกับมันมากนัก แต่เราก็พอจะเดาได้ว่าความเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นนั้นจะเป็นแค่การปรับระดับ Minor Change ไม่ใช่การเปลี่ยนโมเดลหรือเปลี่ยนรูปลักษณ์แบบพลิกฝ่ามือ ตัวรถจะยังคงมาพร้อมเครื่องยนต์แบบระบายความร้อนด้วยน้ำ 4 สูบเรียง 999 ซีซี ที่ให้พละกำลังสูงสุด 215 แรงม้า ลูกปัจจุบัน ที่ติดตั้งอยู่ในเฟรมชุดเดิม ความเปลี่ยนแปลงส่วนใหญ่ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นจะไปอยู่ที่ ระบบไหลเวียนอากาศทั้งไอดีและไอเสีย, การลดแรงเสียดทานภายในเครื่องยนต์, ระบบแอโร่ไดนามิคที่อาจมีการเพิ่มปีกที่ใหญ่ขึ้น, เทคโนโลยีรอบคันรุ่นปรับปรุง รวมถึงลวดลายใหม่ที่เปลี่ยนไปตามยุคสมัย เพื่อทำให้สเปคของรถสปอร์ตสายสนามคันนี้ สามารถสู้กับคู่แข่งระดับแชมป์อย่าง Ducati Panigale V4 R ที่แทบจะปรับสเปคทุก…
Jorge Lorenzo อดีตนักแข่ง MotoGP ดีกรีแชมป์โลกที่ถึงแม้จะเลิกแข่งไปสักพักแล้ว แต่ก็ยังสามารถอยู่บนหน้าสื่อได้ตลอด ส่วนนึงก็เนื่องมาจากความโด่งดังในประเทศบ้านเกิด รวมถึงประสบการณ์ที่ไปอยู่กับทีมระดับแชมป์โลกมาแล้วหลายทีม ไม่ว่าจะเป็น Yamaha Ducati Honda ทำให้ทุกครั้งที่เขาไปพบสื่อที่ไหน จะต้องมีข้อความที่น่าสนใจลอยมาเป็นข่าวได้เสมอ เมื่อถูกถามถึงรูปแบบการแข่งขันในฤดูกาลนี้ Jorge Lorenzo ก็ได้ให้ความเห็นว่า “ผมชอบฟอร์แมทนี้นะ ผมชอบการแข่งขัน Sprint Race ซึ่งผมพูดในมุมของคนดู แต่ผมก็เข้าใจในมุมของนักแข่งด้วยเช่นกัน ความเสี่ยงมันอาจจะเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าหรือสามเท่า เพราะรถยุคนี้วิ่งกันเร็วมากด้วยแอโร่ไดนามิค ผมเป็นห่วงนักแข่งเหล่านั้น แต่ผมชอบในมุมของคนดู” หลังจากนั้นเขาก็ถูกถามเรื่องความเร็วของรถในปัจจุบันจนเป็นอันตราย “เราอยู่ในจุดที่รถแข่ง MotoGP นั้นเร็วเกินไปจนน่ากลัว” Jorge Lorenzo กล่าว “ตอนนี้รถแรงกว่า 300 แรงม้า ทำความเร็วได้เกิน 370 กิโลเมตร/ชั่วโมง ถ้าเราไม่หยุดเรื่องนี้ในไม่กี่ปีเราคงไปถึงระดับ 400 กิโลเมตร/ชั่วโมง ผมมองว่าเราควรหาทางจำกัดพละกำลังของรถสักวิธี ถ้าเป็นผมคงจำกัดเรื่องแอโร่ไดนามิค หรือไม่ก็ยกเลิกมันไปเลย” นอกจากนี้เขายังได้ถูกนักข่าวถามถึงปัญหาของค่ายรถญี่ปุ่นทั้ง Honda และ…
ทีมแข่ง MotoGP ของค่ายรถอิตาลีอย่าง Aprilia นั้นเป็นทีมในระดับกลางที่มีพัฒนาการให้เราเห็นอย่างต่อเนื่องในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ขยับจากการเป็นทีมท้ายแถวมานำหน้าเหล่าทีมญี่ปุ่นอย่าง Honda และ Yamaha ได้สำเร็จ ถึงแม้ว่าในภาพรวมนั้นดูจะเป็นทีมแข่งที่ไม่ค่อยมีดราม่าหน้าสื่อ หรือเข้าร่วมแย่งชิงนักแข่งตัวท็อปของวงการที่มีราคาค่าตัวสูง แต่หลังจากที่สถานะการณ์รอบสนามเปลี่ยนไป ค่ายรถดังกล่าวก็เริ่มฝันไกล Aprilia สามารถคว้าชัยชนะครั้งแรกได้ในปี 2022 แต่จนถึงตอนนี้ทางค่ายก็ยังไม่สามารถรักษาความนิ่ง และไปถึงจุดนั้นได้อีกรอบในฤดูกาลปัจจุบัน จนมีสื่อไปถามผู้จัดการทีมอย่าง Massimo Rivola ทำให้ได้ความประมาณว่า “ในมุมมองของผม DNA ของรถเราไม่ได้เปลี่ยนไป เรายังคงเร็วบนสนาม Termas de Río Hondo และ Mugello หรือ Assen แต่เรายังไม่สามารถปรับให้ดีกว่านี้ได้” “Silverstone กับ Phillip Island ก็กำลังจะมา นั่นเป็นสนามที่เราควรจะอยู่ข้างหน้า หรืออย่างน้อยเราก็ควรสู้ได้ เมื่ออิงจากผลงานเก่าที่เคยทำไว้ พวกเราทำได้ดีในสนามแบบ Stop and Go(แบบที่เร่งสุดแล้วเบรกสุด)” Massimo Rivola…
Suzuki GSX-S1000T เป็นชื่อของรถมอเตอร์ไซค์ปริศนา ที่โผล่ออกมาในเอกสารเมื่อไม่กี่ปีก่อน ซึ่งหลายฝ่ายก็เชื่อว่ามันจะเป็นรถแนวสปอร์ตแอดเวนเจอร์ยกสูงคลาสใหญ่จากค่ายคนบ้า Suzuki ที่จะทำตลาดในระดับเดียวกับ Kawasaki Versys 1000 จนล่าสุดได้มีคนเจอรถปริศนาที่คาดว่าจะเป็นรถรุ่นดังกล่าวกำลังทดสอบอยู่ในยุโรป เพื่อเติมเต็มช่องว่างทางการตลาดที่ปล่อยโล่งมานาน Suzuki GSX-S1000T ที่เห็นอยู่ในภาพหลุดนี้(ชมภาพได้ที่นี่) เป็นรถมอเตอร์ไซค์ร่างยกสูงที่ถูกสร้างขึ้นบนพื้นฐานเดียวกับรถแนวท่องเที่ยวอย่าง GSX-S1000GT ที่มาพร้อมเครื่องยนต์ระบายความร้อนด้วยน้ำ 4 สูบเรียง 999 ซีซี ที่ยกมาจาก GSX-R1000 K5 ที่ถูกนำมาปรับปรุงใหม่ให้เหมาะกับการใช้งานท่องเที่ยวมากขึ้น ให้พละกำลังสูงสุด 152 Hp และแรงบิดสูงสุด 106 Nm ความเปลี่ยนแปลงที่พอจะเห็นได้ในตอนนี้คือชุดแฟริ่ง ที่รับเอางานออกแบบของรถแนว SUV หรือสปอร์ตแอดเวนเจอร์มาปรับใช้, ชุดไฟหน้าแบบโปรเจคเตอร์คู่ ซ้อนกันสองชั้นตามแนวทางการออกแบบยุตใหม่ของค่าย, แฮนด์บาร์ ตำแหน่งไฟเลี้ยว ชิลด์หน้า ถูกปรับตำแหน่งให้สูงขึ้นเล็กน้อย, กระจกมองข้างถูกย้ายจากบนแฟริ่ง มาติดตั้งอยู่บนแฮนด์บาร์, ไม่มีการติดตั้งระบบเรดาร์ตามยุคสมัย ทางด้านระบบกันสะเทือนนั้นไม่สามารถบอกได้ว่ามีการเพิ่มความสูงหรือไม่ ถ้ามีก็อาจจะเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อย Suzuki GSX-S1000T ในตอนนี้ยังมีข้อมูลอยู่อย่างจำกัด…
Herve Poncharal อดีตนักแข่ง และผู้จัดการทีมแข่ง GASGAS นอกจากนี้ยังเป็นประธานสมาคมทีมแข่งนานาชาติที่ได้รับความเคารพนับถืออย่างสูงในวงการสองล้อ ได้ออกมาพูดเกี่ยวกับข่าวลือที่ KTM อาจหาวิธีเพิ่มทีมแข่งขึ้นมาอีกทีม โดยอาจจะเลือกใช้เป็นตำแหน่งที่ว่างไปของ Suzuki พร้อมกับหาที่นั่งให้กับดาวรุ่งอย่าง Pedro Acosta ซึ่งทางผู้จัดการก็ได้ออกมาปฏิเสธประเด็นดังกล่าว “สถานะการในอุดมคติของเราคือการมีรถแข่ง 24 คัน ที่มาจาก 6 ผู้ผลิตที่มีทีมอิสระเป็นของตัวเองอย่างละทีม” Herve Poncharal กล่าว “ผู้ผลิตที่เหมาะสมตอนนี้คือ BMW และ Kawasaki พวกเขามีทั้งความรู้และทรัพยากรที่จะทำทีมแข่ง ทางด้าน Triumph นั้นยังไม่พร้อม และมีความสุขดีกับการทำเครื่องยนต์ให้ Moto2 ทางด้านของ Suzuki ก็อาจจะกลับมาก็ได้ ใครจะรู้” “นั่นคือเหตุผลให้ตำแหน่งที่ว่างของรถอีก 2 คัน ถูกเก็บไว้ก่อน ถ้าเราเอาตำแหน่งนี้ไปให้ทีมอิสระอื่น มันก็จะไม่มีที่ว่างให้กับผู้ผลิตรายใหม่” เขากล่าวเสริม “คุณไม่สามารถเอาตำแหน่งนี้ไปให้กับคนอื่นในปีหน้าได้ เพราะจะมีปัญหาตามมามากมาย ยกตัวอย่างว่า KTM อยากหาที่นั่งให้…
Honda ค่ายรถตราปีกนกจากประเทศญี่ปุ่น ได้วางเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอนไว้ในปี 2040 ซึ่งทางค่ายก็ได้ทำการอวดแผนการเตรียมเปิดตัวรถมอเตอร์ไซค์พลังงานไฟฟ้ามากมายหลายรุ่น ที่จะวางขายในอนาคตอันใกล้ แต่ถึงอย่างนั้นก็มีสิ่งหนึ่งที่ขาดไป นั่นก็คือรถมอเตอร์ไซค์พลังงานลูกผสม น้ำมัน และ ไฟฟ้า ล่าสุดก็ได้มีภาพสิทธิบัตรใหม่จาก Honda เกี่ยวกับรถมอเตอร์ไซค์พลังงาน Hybrid ที่จะมาพร้อมกับเครื่องยนต์สันดาปภายใน และมอเตอร์ไฟฟ้าถึง 2 ตัว โดยในสิทธิบัตรดังกล่าวนั้นไม่ได้มีการลงรายละเอียดชัดเจนเกี่ยวกับการทำงานของระบบ แต่จะเน้นไปที่หลักการขั้นพื้นฐาน และวิธีจัดวางระบบให้สามารถยัดเข้าไปได้ภายในตัวรถ ซึ่งถ้าทุกคนเข้าไปดูในลิ้งค์ต้นทาง ก็จะเห็นว่าค่ายปีกนกคิดวิธีจัดระเบียบอุปกรณ์ไว้มากถึง 11 แบบ ทางด้านหลักการทำงานขั้นพื้นฐานคือ เครื่องยนต์สันดาปจะถูกเชื่อมต่อกับมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว ที่ชุดเกียร์ DCT ถึงแม้ทางค่ายจะไม่ได้บอกว่าทำไมถึงต้องมีมอเตอร์จำนวนเท่านั้น แต่เราก็คาดว่าวิศวกรจะทำการแยกหน้าที่ของมอเตอร์ขับเคลื่อน และมอเตอร์สำหรับปั่นไฟไว้แยกกัน โดยจะทำงานสลับกันตามการเร่งและเบรกของผู้ใช้ ปัจจุบันภาพสิทธิบัตรดังกล่าวยังอยู่ในขั้นเริ่มต้นเท่านั้น จะเห็นได้ว่าทางค่ายยังไม่ได้ตัดสินใจเลือกวิธีบรรจุอุปกรณ์ทั้งหมดนี้ลงไปในรถด้วยซ้ำ แต่ก็ดูเป็นก้าวแรกที่น่าสนใจ หลังค่ายรถร่วมชาติอย่าง Kawasaki ได้ลงมือเปิดตัวมอเตอร์ไซค์พลังงานลูกผสมไปก่อนแล้ว ที่มา motorcycle อ่านข่าวสาร Honda เพิ่มเติมได้ที่นี่
Royal Enfield Scram 650 รถมอเตอร์ไซค์สไตล์สแครมเบลอร์ไฟกลมจาก Royal Enfield ค่ายรถลูกครึ่ง อังกฤษ-อินเดีย ที่ถูกสร้างขึ้นบนพื้นฐานเดียวกับรถคลาสกลางของอย่าง Interceptor และ Continental GT แต่ถูกปรับเปลี่ยนสไตล์ใหม่ให้สามารถพร้อมลุยได้มากขึ้นอีกนิด โดยนำแรงบันดาลใจมาจากรุ่นน้อง Scram 411 Royal Enfield Scram 650 ที่เรากำลังพูดถึงอยู่นี้เป็นเพียงชื่อสมมุติเท่านั้น แต่เนื่องจากมันมีสไตล์ใกล้เคียงกับรถสแครมเบลอร์รุ่นน้องอย่าง Scram 411 ที่เพิ่งเปิดตัวในประเทศไทยไปได้ไม่นาน เราจึงเชื่อว่ารถรุ่นนี้คงใช้แนวทางของชื่อไม่ต่างกันมากนัก โดยจากรูปเราจะเห็นได้ว่ารถที่กำลังทดสอบอยู่นั้น ใช้พื้นฐานของเครื่องยนต์ระบายความร้อนด้วยอากาศและน้ำมันแบบ 2 สูบเรียง และชุดเฟรมที่ยกมาจากรถในตระกูล 650 series ของทางค่ายทุกประการ แต่มีการปรับเปลี่ยนระบบกันสะเทือนใหม่ โช้คหน้าเป็นแบบหัวกลับ ขณะที่โช้คหลังแบบสปริงคู่มีการปรับระยะยุบตัวให้มากขึ้น เพื่อให้เหมาะสมกับการใช้งานแบบลุยที่มากขึ้น, แฮนด์บาร์ถูกเปลี่ยนเป็นทรงสแครมเบลอร์, ชุดล้อซี่ลวดขนาด 19 และ 17 นิ้ว รวมถึงท่อไอเสียที่ถูกเดินท่อมาออกที่ด้านขวาของรถ ก็เป็นไปตามสูตรของรถแนวนี้ที่ขาดไม่ได ดูเหมือนว่าทาง Royal…