เปิดโปรเจ็กท์ BMW S1000RR Turbo ท็อปสปีดเกือบแตะ 400 กม/ชม.!!

0

แม้อันที่จริงรถมอเตอร์ไซค์รุ่นใหญ่ระดับซุปเปอร์ไบค์ จะมีแรงม้าหลัก 200 ตัวโดยเฉลี่ยซี่งเท่านี้ก็แทบจะใช้บนถนนไม่หมดกันอยู่แล้ว แต่ดูเหมือนว่าแนวคิดนี้ในสายตาของสำนักแต่งแห่งหนึ่งจะไม่เป็นแบบนั้น เพราะพวกเขาได้จัดการเอาเจ้าฉลามรุ่นที่ 2 อย่าง 2018 BMW S1000RR มาอัพเกรดชุดใหญ่จนทำให้แรงม้าของมันเพิ่มข้ึนมาอีกถึงเกือบ 100 ตัว !!

2018-bmw-s1000rr-turbo-Motokouture-06
ใช่ครับ สำหรับสเต็ปในการโมดิฟาย S1000RR ครั้งนี้ ถ้าจะให้ทำแค่รื้อแล้วเปลี่ยนชิ้นส่วนไส้ในเครื่องยนต์ 4 สูบเรียง 999cc แล้วเพียงเปลี่ยนท่อ, เปลี่ยนกรอง, เปลี่ยนหัวฉีด และจูนกล่อง ECU ใหม่ แรงม้าสูงสุดของมันคงขยับขึ้นมาจากเดิมแค่เพียงไม่กี่สิบตัวจากตอนแรกที่เคลมไว้ 199HP ดังนั้น Steven Decaluwe เจ้าของสำนัก Motokouture Motorcycles ในประเทศเบลเยี่ยมจึงได้จัดการติดตั้งระบบเทอร์โบชาร์จเจอร์เข้าไปเพื่ออัดอากาศเข้าสู่ห้องเผาไหม้ให้มากที่สุดเท่าที่ได้

2018-bmw-s1000rr-turbo-Motokouture-05
จากสเต็ปการโมดิฟายเครื่องยนต์ดังกล่าว จึงทำให้แรงม้าสูงสุดของมันขยับขึ้นเป็น 296 แรงม้า แถมยังเป็นการวัดที่ล้อหลังบนไดโน่อีกด้วย ส่วนแรงบิดสูงสุดแม้จะไม่หวือหวาเท่าไหร่นักเพราะเคลมตัวเลขไว้ 145 นิวตันเมตร แต่ก็มีให้เรียกใช้เต็มที่ตั้งแต่ 9,000 รอบ/นาทีเลยทีเดียว ซึ่งอันที่จริงเรามองว่าถ้าหากเจ้าของสำนักไม่ปรับลดกำลังอัดเครื่องยนต์ลงเหลือ 9.2 : 1 เพื่อความคงทนของเครื่องยนต์ล่ะก็ พละกำลังของมันก็น่าจะสูงขึ้นไปกว่านี้อีกพอสมควรจนอาจจะมีแตะหลัก 320 ตัว++ ให้เห็นเลยก้ได้

2018-bmw-s1000rr-turbo-Motokouture-02
และจากการเพิ่มแรงม้าขึ้นมากมายขนาดนี้ จึงทำให้ Steven ต้องจัดการกับซอฟท์แวร์ความปลอดภัยเดิมๆของ S1000RR คันนี้ใหม่ทั้งหมด เพื่อให้มันทำงานได้สอดรับกับพละกำลังเครื่องยนต์ที่มากกว่าเดิม ไม่เพียงเท่านั้นยังปรับอัตราทดเฟืองท้าย(ทดสเตอร์)ใหม่ให้กว้างยิ่งขึ้นเพื่อลดอาการหน้าลอยของตัวรถ ส่วนท็อปสปีดหรือความเร็วสูงสุดที่ได้ของเจ้าซุปเปอร์ไบค์คันนี้ก็อยู่ที่ 319 กิโลเมตร/ชัวโมง ซึ่งนี่เป็นความเร็วที่วัดได้ตอนขี่ด้วยเกียร์ 4 เท่านั้น เนื่องจากถ้าให้ขี่เร็วกว่านี้ล่ะก็ตัวรถอาจจะลอยเหินกับสายลมไปก่อนนั่นเอง

2018-bmw-s1000rr-turbo-Motokouture-04
ทีนีถ้าหากเพื่อนๆถามว่า งั้นถ้าเกิดรถคันนี้สามารถบิดไปถึงรอบสูงสุดที่เกียร์ 6 ได้จริงๆ ท็อปสปีดของมันจะขึ้นไปถึงเท่าไหร่กัน ? คำตอบคือจากการที่เราได้คำนวนโดยคร่าวๆแล้ว ในทางทฤษฏี เราก็คาดว่ามันจะสามารถทำตัวเลขความเร็วปลายได้สูงถึง 380 กิโลเมตร/ชั่วโมงเลยทีเดียว แต่กว่าจะทำได้ขนาดนั้น เราคงต้องขอให้ทางสำนักไปจัดการติดตั้งชุดแฟริ่งของ BMW S1000RR Turbo คันนี้ให้ครบๆเสียก่อน ไม่เช่นนั้นก็คงทำได้เพียงไม่เกิน 320 กิโลเมตร/ชั่วโมงดังที่ทดสอบเอาไว้อยู่ดีนั่นเอง เพราะไม่มีแฟริ่งมาช่วยแหวกลมและกดรถให้อยู่กับพื้นได้ (หรือเพื่อนๆจะอยากลองบิดดูล่ะครับ ?)

ขอบคุณข้อมูลจาก i-Moto

อ่านข่าว BMW เพิ่มเติมได้ที่นี่

เพื่อนๆ Bikers สามารถติดตามข่าวสารวงการล้อ ได้ทางแฟนเพจ MotoRival ของเราครับ

Share.

About Author

error: Content is protected !!