เปิดตัว CFmoto 250SR/300SR พร้อมเผยสเปคอย่างเป็นทางการ

หลังปล่อยให้รอเก้อกันไปไม่น้อยเพราะไม่มีการเปิดตัวในงาน EICMA Show 2019 ดังที่ใครหลายคนคาดการณ์เอาไว้ ในที่สุดเมื่อช่วงกลางดึกของคืนที่ผ่านมา CFmoto 250SR และ CFmoto 300SR ก็ถูกเปิดเผยข้อมูลอย่างเป็นทางการออกมาเรียบร้อยในประเทศจีน

โดยจากข้อมูลในเบื้องต้น ทั้ง 250SR และ 300SR จะมาพร้อมกับดีไซน์ภายนอกที่เหมือนกันทุกจุด ไม่ว่าจะเป็นชุดแฟริ่งที่เน้นเส้นสายโค้งมนรอบคันแต่ยังได้อารมณ์สปอร์ตโฉบเฉี่ยว

ชุดระบบไฟส่องสว่าง LED รอบคันตั้งแต่โคมไฟคู่หน้า/ไฟเลี้ยว/ไฟท้าย

ชุดเฟรมถัก

ระบบกันสะเทือนด้านหน้าตะเกียบคู่หัวกลับ/ด้านหลังโมโนช็อค

ระบบเบรกดิสก์เดี่ยวขนาด 292 มิลลิเมตร ร่วมกับเรเดียลเมาท์คาลิปเปอร์ 4 พอร์ทด้านหน้า/ดิสก์เดี่ยวขนาด 220 มิลลิเมตรร่วมกับโฟลทติ้งเมาท์คาลิปเปอร์ 1 พอร์ทด้านหลัง และมีระบบ ABS

ชุดล้ออัลลอยด์ขอบ 17 นิ้ว รัดด้วยยางไซส์ 110/70R17 และ 140/60R17 ตามลำดับหน้า-หลัง

และชุดหน้าจอ TFT-LCD ที่นอกจากจะแสดงผลขั้นพื้นฐานครบครันทั้งรอบเครื่องยนต์, ความเร็ว, ระดับเกียร์, และอื่นๆแล้ว มันยังสามารถเชื่อมต่อกับโทรศัพท์มือถือผ่านสัญญาณบลูทูธ รวมถึงเปลี่ยนรูปแบบการแสดงผลบนหน้าจอตามโหมดการขับขี่ที่ปรับได้สองรูปแบบคือ Sport และ Rain Mode ด้วย

ส่วนจุดแตกต่างที่เห็นได้ชัดที่สุดจริงๆระหว่าง 250SR และ 300SR จริงๆก็คือเครื่องยนต์สูบเดียว DOHC ระบายความร้อนด้วยน้ำ เหมือนกัน แต่มีขนาดลูกสูบไม่เท่ากัน โดยในฝั่งรุ่น 250cc (ความจุจริง 249cc) จะสามารถทำแรงม้าสูงสุดได้ 27.5 แรงม้า ที่ 9,750 รอบ/นาที กับแรงบิดสูงสุดอีก 22 นิวตันเมตร ที่ 7,500 รอบ/นาที และฝั่งรุ่น 300cc (ความจุจริง 292cc) จะสามารถทำแรงม้าสูงสุดได้ 28.7 แรงม้า ที่ 8,750 รอบ/นาที กับแรงบิดสูงสุดอีก 25.3 นิวตันเมตร ที่ 7,250 รอบ/นาที

ด้านข้อมูลอื่นๆของ CFmoto 250SR/300SR ที่เหลืออยู่ก็คือ มิติตัวรถ 2,010 × 750 × 1,080 มิลลิเมตร ตามระยะด้านยาว x กว้าง x สูง, ระยะฐานล้อ 1,360 มิลลิเมตร, น้ำหนักตัว 165 กิโลกรัม, ความสูงเบาะ 780 มิลลิเมตร, ความสูงใต้ท้องรถ 135 มิลลิเมตร, และความจุถังน้ำมัน 12 ลิตร

ขณะที่ข้อมูลในเรื่องของราคา ทาง CFmoto ประเทศจีนได้ระบุว่าพวกเขาจะเปิดเผยมันอีกครั้งในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ หรือก็คือวันพรุ่งนี้ ส่วนเพื่อนๆคนไหนที่อยากให้ CFmoto เปิดตัว 250SR/300SR ในบ้านเราบ้าง ก็อดใจรอกันอีกสักนิดครับ เพราะไม่แน่ว่าเราอาจจะได้เห็นมันภายในสิ้นปีนี้เป็นอย่างช้าก็ได้ ซุ้งถ้าหากเรามีข้อมูลของมันมาอัพเดทเพิ่มเติมอีกล่ะก็ รอรับชมกันได้เลยครับ