รีวิวสัมผัสแรก CFmoto 650NK/650MT สองบิ๊กไบค์ 650cc สมรรถนะเกินราคาค่ายฟ้าคราม

0

ผ่านไปราวๆ 1 ปีเห็นจะได้นับตั้งแต่ที่ทาง CFmoto ได้ประกาศว่าพวกเขาจะเริ่มทำตลาดในบ้านเราอย่างจริงจัง โดยมีตัวรถตั้งแต่พิกัด 250cc-650cc ให้ลูกค้าได้เลือกซื้อกันอย่างครอบคลุมพร้อมชูจุดเด่นคือเรื่องราคาที่ย่อมเยาว์กว่าเจ้าตลาดหลายเท่า ซึ่งก่อนหน้านี้เราก็ได้ทำการรีวิวเจ้าน้องเล็กสุดอย่าง CFmoto 250NK กันไปแล้ว มาตอนนี้ก็ถึงเวลาที่เราจะต้องรีวิวสองพี่ใหญ่อย่าง 650NK และ 650MT กันบ้าง

cfmoto-650mt-650nk-test-trip-23
แต่ก่อนที่จะเข้าเรื่องไป เราต้องขอบอกเพื่อนๆก่อนว่า การรีวิว CFmoto 650NK และ CFmoto 650MT ในครั้งนี้ จะเป็นการรีวิวแบบ First Impression เท่านั้น เนื่องจากเราได้มีโอกาสสัมผัสมันแค่เพียงตอนที่ทางผู้บริหารได้รับเชิญทางทีมงาน MotoRival ให้เข้าร่วมทริปทดสอบเพียงอย่างเดียว ยังไม่ได้มีการนำรถมาเทสแบบจัดเต็มเจาะทุกรายละเอียดในฉบับของเรา แต่ด้วยระยะการขับขี่ที่มากถึง 300 กว่ากิโลเมตรในทริปนี้ จึงทำให้เราพอจะจับจุดรถได้อยู่มากพอสมควร ซึ่งมันจะมีอะไรน่าสนใจ ดีงามยังไงบ้าง เรามาว่ากันเลยครับ

cfmoto-650mt-650nk-test-trip-06
สำหรับตัวรถ CFmoto 650NK นั้นจะเป็นรถมอเตอร์ไซค์แนวสปอร์ต-เนคเก็ท ที่ออกแบบมาให้ตัวรถดูมีความโฉบเฉี่ยวเป็นพิเศษ ทว่าในภาพรวมเส้นสายของมันนั้นไม่ได้มีความแข็งกร้าวเท่าไหร่นัก ออกไปทางลื่นไหลตั้งแต่หัวจรดท้ายมากกว่า ส่วนมิติตัวรถที่ระบุไว้ว่าอยู่ที่ 2,114 x 750 x 1,100 ในหน่วยมิลลิเมตร ตามด้าน ยาว x กว้าง x สูง นั้น ก็ทำให้เจ้า NK คันนี้มีลักษณะที่ป้อมและหน้าออกด้านข้างพอสมควร แต่ไม่ได้มีผลเท่าไหร่นักเวลามุดช่องจราจร

cfmoto-650mt-650nk-test-trip-15
ด้านท่านั่งของรถเมื่อลองขึ้นคร่อมแล้ว ด้วยความสูงเบาะที่ระบุตัวเลขไว้คือ 815 มิลลิเมตร จึงอาจจะทำให้ผู้ขี่ที่สูงน้อยกว่า 170 เซนติเมตรนั้น พะวงอยู่บ้าง เพราะส้นเท้าทั้งสองฝั่งจะลอยหน่อยๆ แต่ถ้ายกขึ้นพักเท้าข้างหนึ่งก็วางเต็มฝ่าเท้าได้แล้ว แถมความกว้างกับความหนาเบาะที่ให้มาก็จัดว่าเต็มก้นเหลือๆ ถึงผู้ทดสอบจะเป็นผู้ชายอวบอ้วนที่หนักถึง 90 กว่ากิโลกรัมก็ตาม

cfmoto-650mt-650nk-test-trip-24
ขณะที่แฮนด์บาร์เอง แม้จะมีระยะห่างตัวผู้ขี่กำลังดี แต่ความกว้างแฮนด์และองศาแฮนด์กลับแคบและงุ้มเข้ามากกว่าเนคเก็ทไบค์ทั่วๆไป ดังนั้นในจังหวะแรกอาจจะรู้สึกแปลกๆอยู่บ้าง แต่ถ้าขี่ไปสักพักก็จะสามารถปรับตัวเข้าหามันได้ไม่ยากเย็น แถมที่สำคัญคือมันกลับให้ความรู้สึกว่าจะมุมช่องจราจรได้ง่ายกว่าเนคเก็ทไบค์คันอื่นๆอยู่ประมาณหนึ่งด้วย ส่วนพักเท้าก็ไม่ได้ถอยไปด้านหลังเท่าไหร่นัก ไม่ได้จิกแบบสปอร์ตจ๋าจนขี่นานๆแล้วเมื่อยแต่อย่างใด

cfmoto-650mt-650nk-test-trip-05
ขณะที่ฝั่ง CFmoto 650MT เอง ก็จะเป็นรถมอเตอร์ไซค์แนวแอดเวนเจอร์ทัวริ่ง ที่ยังคงมาพร้อมกับเส้นสายที่แหลมคมและดูแข็งแรงกว่า NK รับกับชุดแครชบาร์ที่ยึดเป็นโครงกันกระแทกตั้งแต่ช่วงใต้ไฟหน้า ลากยาวมาจนถึงข้างเครื่องยนต์ ซึ่งเมื่อรวมกับวินชิลด์ด้านบน จนได้ตัวเลขมิติที่ 2,150 x 835 x 1,332 ในหน่วยมิลลิเมตร ตามด้าน ยาว x กว้าง x สูง ก็ทำให้เราเห็นได้ว่า แม้ตัวรถจะสูงขึ้นพอสมควร แต่ด้วยความกว้างของแครชบาร์ที่ยื่นออกมา จึงทำให้ต้องระวังพอสมควรเวลามุดช่องจราจร

cfmoto-650mt-650nk-test-trip-09
ด้านท่านั่งของรถหลังจากที่ได้ขึ้นคร่อม ด้วยความสูงเบาะที่ระบุตัวเลขไว้คือ 820 มิลลิเมตร ซึ่งสูงกว่า NK อยู่เพียงแค่ 5 มิลลิเมตร จึงทำให้ไม่ได้รู้สึกแตกต่างเท่าไหร่นักในเรื่องการวางเท้าขณะจอด ขณะที่ตัวเบาะที่ให้มาซึ่งเป็นเบาะแบบตอนเดียวตลอดแนวตั้งแต่ผู้ขี่ยันผู้ซ้อนนั้น มีความกว้างและบุโฟมมาหนานุ่มจนนั่งสบายกว่า NK ไปอีกขั้น

cfmoto-650mt-650nk-test-trip-02
ส่วนลำตัวช่วงบน ด้วยความที่แฮนด์บาร์ของ MT มีความกว้างและสูงพอสมควรในฉบับของรถมอเตอร์ไซค์แนวทัวร์ริ่ง ดังนั้นการจะพลิกเลี้ยว หรือหักแฮนด์เพื่อควบคุมตัวรถด้วยท่านั่งขี่ปกตกจึงเป็นสิ่งที่ทำได้อย่างเป็นธรรมชาติมากๆ หรือถ้าจะยืนขี่ในลักษณะของรถทัวร์ริ่งเองก็ทำได้สบายๆเช่นกัน เนื่องจากระยะห่างของแฮนด์บาร์กับช่วงเบาะนั่งไม่ได้ไกล หรือ ใกล้จนเกินไป ส่วนการวางขาขณะรถเคลื่อนที่เมื่อเหยียบพักเท้าทั้งสองข้างนั้นก็มีระยะที่กำลังดีเช่นกัน จะติดก็แค่เพียงเรื่องความหนาของช่วงถังน้ำมันตรงหว่างขาที่อวบไปนิดเท่านั้นเอง

cfmoto-650mt-650nk-test-trip-19
สำหรับเครื่องยนต์ของ ทั้ง 650NK และ 650MT ก็จะเป็นบล็อค 2 สูบเรียง 649cc DOHC ระบายความร้อนด้วยน้ำ ที่เมื่อดูจากตัวเลขทางเทคนิคภายในอื่นๆแล้วก็ค่อนข้างชัดเจนว่ามันเป็นบล็อคเดียวกันกับที่เคยอยู่ในอดีตรถมอเตอร์ไซค์ยอดนิยมเมื่อหลายปีก่อนรุ่นหนึ่งของค่ายญี่ปุ่นสีเขียว แต่ทว่ามันจะถูกเปลี่ยนกล่อง ECU และปรับจูนกราฟ กับปรับแต่งชิ้นส่วนที่เกี่ยวข้องกับระบบไหลเวียนอากาศทั้งขาเข้า/ขาออกใหม่ เพื่อให้มันมีบุคลิกที่ตรงกับความตั้งใจของ CFmoto มากขึ้น

cfmoto-650mt-650nk-test-trip-20
และจากผลการปรับจูนดังกล่าวจึงทำให้พละกำลังสูงสุดของเครื่องยนต์บล็อคนี้ถูกเคลมไว้ที่ 60.3 แรงม้า (PS) ที่ 8,750 รอบ/นาที กับแรงบิดสูงสุดอีก 56 นิวตันเมตรที่ 7,000 รอบ/นาที ซึ่งดูๆแล้วมันอาจจะหดหายไปจากเครื่องยนต์ต้นฉบับพอสมควร แต่นิสัยหรือบุคลิกเมื่อมันประจำการอยู่ใน CFmoto ทั้งสองรุ่นแล้วก็ยังคงไม่ต่างจากเดิมเท่าไหร่นัก โดยเฉพาะความฉับไวในการตอบสนองเวลากระแทกคันเร่งเพื่อออกตัว หรือแซง เพราะทางวิศวกรได้เลือกปรับอัตราทดขั้นสุดท้าย(ทดสเตอร์)ให้จัดจ้านยิ่งขึ้นแทน แต่หลังจากนั้นก็จะไหลขึ้นแบบนุ่มๆมากกว่า ซึ่งเอาจริงๆนี่ก็ถือว่าเพียงพอแล้วสำหรับการใช้งานทั้งในเชิงเนคเก็ทในตัว NK และ ทัวร์ริ่ง MT

cfmoto-650mt-650nk-test-trip-12
ส่วนระบบกันสะเทือนที่ให้มา ถือว่าเป็นจุดที่น่าสนใจและต่างกันอย่างมากของรถทั้งสองรุ่นนี้ เพราะในฝั่งของ 650NK นั้น จะได้รับการติดตั้งโช้กหน้าแบบตะเกียบคู่หัวตั้ง ที่ไม่สามารถปรับเซ็ทค่าใดๆได้ทั้งสิ้น ส่วนโช้กหลังที่เป็นแบบโมโนช็อค วางนอนและเยื้องศูนย์กลางลำตัวรถ ก็สามารถปรับได้เพียงแค่พรีโหลดแบบสเต็ปขันเท่านั้น

cfmoto-650mt-650nk-test-trip-26
ซึ่งด้วยการเซ็ทติ้งเดิมๆออกโรงงานนั้น เราต้องบอกว่าเจ้า NK คันนี้จะมีคาแรกเตอร์ที่หน้าไวนิดๆ เพื่อให้เกิดความคล่องตัวยามใช้งานในเมือง แต่เวลาเจอหลุม ร่องขณะเอียงรถเพื่อเลี้ยวอยู่ อาการหน้ายึกยักจะมีให้สัมผัสเล็กๆ ซึ่งก็เป็นเรื่องปกติของรถสไตล์เนคเก็ทนี้อยู่แล้ว ส่วนเรื่องการซับแรงสั่นสะเทือนก็ถือว่ากำลังดี ไม่ได้แข็งจนซับแรงสะเทือนเล็กๆบนผิวถนนไม่ได้เลย แต่ก็ไม่ได้อ่อนเกินไปจนออกอาการท้ายย้วยหรือท้ายห้อยเวลาสาดโค้งแรงๆ (แต่ถ้าขันโช้กหลังให้แข็งมากกว่าเดิม ก็อาจจะขี่สนุกขึ้นอีก)

cfmoto-650mt-650nk-test-trip-08
ด้านระบบกันสะเทือนของ 650MT ดูจะเหนือกว่าไปอีกขั้นในเรื่องความหล่อ เพราะใช้โช้กหน้าตะเกียบคู่หัวกลับที่สามารถปรับขันพรีโหลดได้ ส่วนด้านหลังถึงจะเป็นแบบโมโนช็อควางนอนและเยื้องศูนย์กลางลำตัวรถเช่นเดียวกับ NK (เนื่องจากใช้เฟรมและสวิงอาร์มเดียวกัน) แต่มันก็เป็นรุ่นที่สามารถขันพรีโหลดได้ด้วยการขันสตรัทปรับซึ่งมีความละเอียดในการเซ็ทติ้งให้ตรงกับน้ำหนักผู้ขี่มากกว่า แถมยังมีฟีเจอร์ในเรื่องของการขันปรับรีบาวน์ได้ด้วย

cfmoto-650mt-650nk-test-trip-10
นอกจากนี้ ด้วยความที่โช้กของเจ้า MT นั้น มีช่วงยุบที่เยอะกว่า จึงทำให้แม้เวลาขึ้นขี่, พลิกเลี้ยว, หรือสาดโค้ง เราอาจจะรู้สึกว่าโช้กของมันดูอ่อนนุ่มกว่า NK พอสมควร แต่มันก็จะได้ในเรื่องของความสามารถในการซับแรงกระแทกจากร่อง, หลุ่ม, กรวดหินเล็กๆบนผิวถนนได้ดีกว่า แถมถ้ากล่าวถึงความหนืดในการคืนตัวของโช้กแล้ว แม้เราจะไม่ได้ทำการปรับเซ็ทใหม่ใดๆทั้งสิ้นก่อนขี่ แต่เซ็ทติ้งเดิมๆโรงงานที่เป็นอยู่นี้ก็ถือว่ามีความหนึบพอแล้วสำหรับการที่จะเอามันมาขี่ลัดเลาะไปตามทางโค้งเส้นทางทริปครั้งนี้ได้อย่างไม่กังวลใจใดๆ (ดีเกินราคาค่าของตัวมันเองไปเยอะเลยล่ะครับ)

cfmoto-650mt-650nk-test-trip-34
และสุดท้ายคือระบบเบรกของ 650NK และ 650MT เองก็ใช้เหมือนกันทั้ง 2 คัน นั่นก็คือแบบดิสก์คู่ขนาด 300 มิลลิเมตรด้านหนัา ทำงานร่วมกับปั๊มแอกเซียลเมาท์ 4 พอร์ท และมีการเดินสายเบรกแบบสายถัก ซึ่งให้ความรู้สึกว่า “เอาอยู่” ใช้ได้ เพียงแต่จะมีจุดสังเกตอยู่เล็กน้อยคือ หากกำไปแล้ว รถจะมีอาการหน้าดื้อ หรือเลี้ยวเข้าโค้งยากเพราะรถพยายามตั้งตรงมากกว่าของค่ายอื่นๆพอสมควร ดังนั้นถ้าเป็นไปได้จึงควรเบรกแต่งความเร็วตั้งแต่เนิ่นก่อนพับโค้งจะดีกว่า (ย้ำว่าเกิดขึ้นเฉพาะตอนกำเบรกหน้าขณะกำลังจะเข้าโค้งเท่านั้นนะครับ หากไม่กำรถก็สามารถหักเข้าโค้งได้ปกติ เนียนๆไม่ได้ติดขัดอะไร)

cfmoto-650mt-650nk-test-trip-11
ส่วนเบรกด้านหลังดิสก์เดี่ยวขนาด 220 มิลลิเมตร ทำงานร่วมกับปั๊มโฟลทติ้งเมาท์ 1 พอร์ท และยังใช้สบายเบรกยางอยู่ นั้นสามารถช่วยชะลอความเร็วรถได้ดีแล้ว เซ็ทติ้งการไล่น้ำหนักกำลังพอเหมาะ ช่วยให้การแต่งความเร็วรถขณะอยู่ในโค้งทำได้อย่างไม่ยากเย็นเท่าไหร่นัก นอกจากนี้ในเรื่องของระบบ ABS ที่ให้มา (ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง) เอง ก็ทำงานในสภาวะฉุกเฉินได้ดีเช่นกัน ไม่ได้ทำงานระแวงจนเกินไป เพียงแต่อาจจะไม่ได้จับ/ปล่อยได้ถี่ และเนียนเท่าระบบ ABS ในรถมอเตอร์ไซค์ตัวหรูๆเท่านั้นเอง

cfmoto-650mt-650nk-test-trip-31
แต่อันที่จริง ทั้ง CFmoto 650NK และ 650MT ยังมีจุดไฮไลท์ หรือลูกเล่นยิบอื่นๆอีกพอสมควร ที่เราไม่ได้กลาวถึงไป เช่นลักษณะโคมไฟหน้า, ก้านเบรก, และเรือนไมล์ เป็นต้น แม้แต่ตัวเลขอัตราเร่ง, ความเร็วสูงสุด, อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงที่สามารถเอามาคำนวนหาระยะทางต่อน้ำมันหนึ่งถัง ทั้งใน NK (17 ลิตร) หรือ MT (18 ลิตร) เอง ก็ยังไม่มีโอกาสได้เก็บข้อมูลเช่นกัน ซึ่งหากในครั้งหน้าเราได้มีโอกาสทำฟูลรีวิวของมันแบบจัดเต็มอีกครั้ง เราจะไม่พลาดเก็บรายละเอียดในจุดต่างๆเหล่านั้นมาให้เพื่อนๆได้รับทราบเพิ่มเติมกันแน่นอนครับ

cfmoto-650mt-650nk-test-trip-22
สรุป จากการที่ทางทีมงาน MotoRival เราได้สัมผัสกับ CFmoto 650NK และ CFmoto 650MT ครั้งนี้ ถือว่าเป็นอะไรที่ค่อนข้างพอใจ เพราะในฝั่งตัว NK เองก็สามารถตอบโจทย์ได้ดีในเรื่องการใช้งานในเมือง ที่ต้องการความสนุกสนานในยามเปิด/ปิดคันเร่ง และความคล่องตัวในการซอกแซกฉบับเนคเก็ทไบค์พิกัด 650cc ขณะที่ตัว MT เองก็สามารถใช้งานในเชิงทัวร์ริ่งได้ดีเช่นกัน เนื่องด้วยสิ่งต่างๆที่ติดรถมา และการเซ็ทติ้งที่กำลังพอเหมาะพอดี
พอเทียบกับราคาที่ตั้งขายแต่เพียง 185,000 บาท ในโฉมเนคเก็ท 650NK และ 188,000 บาท กับ 204,000 บาท (รุ่นติดปี๊บ 2 ใบ) ในโฉมทัวร์ริ่ง 650MT ก็ถือว่ามันเป็นรถที่มีสมรรถนะคุ้มค่ามากเลยทีเดียวกับเม็ดเงินที่เสียไป เนื่องจากในราคาเท่านี้ ถ้าเป็นค่ายเจ้าตลาดอื่นๆ เราจะสามารถซื้อรถมอเตอร์ไซค์ได้แค่เพียงไม่เกิน 400cc เท่านั้น ซึ่งหากเพื่อนๆคนไหนสนใจก็สามารถเดินทางไปสัมผัสตัวรถจริงๆที่ศูนย์ CFmoto ทั่วประเทศตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปได้เลยครับผม

รณกฤต ลิมปิชาติ Test Rider + Photo + Writer
ขอบคุณภาพเพิ่มเติมจาก Cfmoto Thailand

อ่านข่าว CF Moto เพิ่มเติมได้ที่นี่

เพื่อนๆ Bikers สามารถติดตามข่าวสารวงการล้อ ได้ทางแฟนเพจ MotoRival ของเราครับ

Share.

About Author

error: Content is protected !!