ในการแข่งขันกีฬาที่มีผู้เข้าแข่งขันจากหลายทีม สีและลวดลายที่ใช้บ่งบอกฝักฝ่ายให้แยกออกจากกันได้นั้นถือเป็นเรื่องที่สำคัญมาก เพราะนอกจากจะทำให้นักกีฬาที่ลงแข่ง รู้ว่าใครคือพวกเดียวกันในเสี้ยววินาที มันยังช่วยให้คนดูสามารถแยกแยะเหล่าผู้ลงแข่งขันออกจากกันได้ ถึงแม้จะตั้งนั่งดูอยู่ห่างออกไป แต่บางครั้งทีมกีฬาบางทีม ก็ดันมีสีและลวดลายที่อาจจะคล้ายกันโดยบังเอิญ ซึ่งพาให้เป็นปัญหากับคนดู
แน่นอนว่ามีบางครั้ง(หรือหลายครั้ง) ที่ผู้ชมอย่างเราอาจจะแยกลวดลายของรถแข่งบางทีมออกจากกันไม่ได้ ยกตัวอย่างเช่นรถสีแดงของ Ducati และ GASGAS หรือรถแข่งสีดำของ Yamaha, Aprilia, Honda, VR46, หรือแม้แต่ RNF ที่รถของทีมเหล่านี้ในบางปีก็แทบจะดูเหมือนเป็นสีดำไปแล้ว 80%
ซึ่งปัญหานี้เองก็เป็นที่พูดถึง และเตรียมถูกเอามาถกกันในเวที Formula 1 เพราะถึงแม้รถแข่งในกริดของพวกเขาจะมีแค่ 20 คัน แต่ในปีนี้ก็ดันมีหลายทีมที่ใจตรงกัน เลือกใช้สีเดียวกันในการแข่งขัน ซ้ำด้วยความพยายามในการลดน้ำหนักของตัวรถ ทำให้ทุกทีมแข่งเลือกที่จะย้อมสีและลวดลายบนตัวรถแค่บางส่วน และปล่อยให้เป็นชิ้นส่วนคาร์บอนเปลือยในส่วนอื่น ผลที่ได้คือรถแข่งทุกทีมกลายเป็นสีดำไปแล้ว 40% และสีส่วนอื่นที่เหลือก็ดันคล้ายกันอีก
นี่อาจจะดูเหมือนเป็นแค่ปัญหาเล็ก แต่การที่รถแข่งเหล่านี้วิ่งผ่านหน้าคนดูในสนามที่ความเร็ว 350 กิโลเมตร/ชั่วโมง มันก็ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจที่คนดูจะแยกไม่ออก Nikolas Tombazis ผู้ดูและกิจการการแข่งขันรถแบบหนึ่งที่นั่งของ FIA ได้ให้ข้อมูลว่า “เราต้องมีกระบวนการบางอย่าง ที่จะทำให้ทีมแข่งสามารถสื่อสารกันในเรื่องนี้ได้ เช่นการบอกว่ารถของทีมนึงจะใช้สีน้ำเงินตรงนี้ ทีมอื่นจะใช้สีเดียวกันในส่วนอื่น หรืออะไรประมาณนี้”
“แต่จะทำอย่างไรนี่ก็เป็นอีกเรื่องนึง เพราะเรื่องนี้มันไม่ใช่เรื่องที่ต้องออกกติกามากำหนด ในฐานะ FIA เราไม่ได้ต้องการบังคับเรื่องลวดลาย เราแค่อยากให้คนดูสามารถแยกความแตกต่างของรถแต่ละทีมได้”
ที่มา motorsport
อ่านข่าวสาร MotoGP เพิ่มเติมได้ที่นี่
