Honda CBR300R รถมอเตอร์ไซค์สปอร์ตคลาสเริ่มต้นจากค่ายปีกนก Honda ซึ่งถูกเปิดตัวครั้งแรกมาตั้งแต่ปลายปี 2013 ทำให้ขณะนี้มันมีอายุการจำหน่ายมากเกือบ 10 ปี ซึ่งหลายคนอาจจะลืมไปแล้ว แต่ตอนนี้เว็บของค่ายปีกนกยังมีข้อมูลของรถรุ่นปัจจุบันอยู่ แต่ด้วยระยะเวลาที่นานขนาดนี้ทำไมทางค่ายถึงยังไม่คิดปรับโฉมรถรุ่นดังกล่าว เพราะก่อนหน้านี้ฝาแฝดร่างเปลือยของมันอย่าง CB300F ก็ถูกปรับโฉมเป็น CB300R ไปเรียบร้อย
Honda CBR300R ในช่วงที่มันเปิดตัวมาก็ถือว่าได้รับความนิยมพอสมควร เนื่องจากรูปลักษณ์ที่เป็นเหมือนกับรุ่นพี่ CBR1000RR ในขณะนั้น แต่เมื่อเวลาผ่านไปรถรุ่นอื่นที่วางขายคู่กันกลับได้รับการปรับโฉมไปหมด ไม่ว่าจะเป็นรุ่นน้องอย่าง CB150R หรือรถสายลุยที่แชร์เครื่องยนต์เดียวกันอย่าง CRF300L ส่วนหนึ่งอาจจะเป็นเพราะรถในกลุ่มนี้ของค่ายนั้นยอดขายอาจจะไม่ค่อยดีในระยะยาว เราจะเห็นได้ว่าผู้ใช้รถกลุ่ม CBR300R/CB300R/CB300F/CBR150R/CB150R ต่างก็มีได้มีวิ่งเกลื่อนถนนเหมือนสมัย CBR250R และ CBR150R ในเจนก่อน อันที่จริงแล้วถือว่าเห็นได้น้อยกว่า Forza 350 ที่มีราคาแพงกว่าด้วยซ้ำ
ซึ่งตรงนี้เองอาจจะเป็นสาเหตุที่พาให้รถรุ่นดังกล่าวมาอยู่ในจุดที่มันไม่สามารถตอบโจทย์ลูกค้าได้ดีพอ เพราะความต้องการของตลาดเปลี่ยนไป คู่แข่งในตลาดที่ตอบสนองความต้องการนั้นได้ดีกว่าก็มีเพิ่มมาหลายรุ่น คนส่วนใหญ่ที่ต้องการรถที่มีกำลังพอสมควร แต่ใช้งานในชีวิตประจำวันได้ก็มักจะหันไปมองบิ้กสกู๊ตเตอร์อย่าง Honda Forza 350 หรือ Yamaha Xmax 300
แน่นอนว่าเราเข้าใจเรื่องที่มันเป็นรถคนละประเภทและคงมาแทนที่กันไม่ได้ แต่ในยุคก่อนที่ไม่มีรถบิ้กสกู๊ตเตอร์เหล่านี้ให้เลือก ลูกค้าที่ต้องการรถที่แตกต่างจากรถบ้านทั่วไปก็คงจะหันไปรถสปอร์ตคลาสเล็กอย่าง CBR150R หรือ CBR300R แต่ในปัจจุบันเมื่อมีตัวเลือกที่ดูดีเหมือนกัน แรงเหมือนกัน แต่ใช้ในชีวิตประจำวันง่ายกว่า แถมรถบิ้กสกู๊ตเตอร์ตอนนี้ยังดูสปอร์ตโฉบเฉี่ยวมากกว่าเมื่อก่อนหลายขุม
นอกจากก็ยังมีคู่แข่งในประเภทเดียวกันที่พัฒนาไปไกลแล้วอย่าง Kawasaki Ninja 400 หรือแม้แต่คู่แข่งจากยุโรปหลายรุ่นที่ต่างก็เข้าร่วมตลาดคลาสเริ่ม ซึ่งแต่ละรุ่นก็มาพร้อมสเปคที่จัดเต็มทั้งในด้านของเครื่องยนต์และเทคโนโลยี ช่องว่างนี้เองอาจจะเป็นตัวแปลหนึ่งที่มาขัดขวางอนาคตของ Honda CBR300R(และอาจจะรวมถึง CB300R) เพราะถ้าจะปรับปรุงแค่เทคโนโลยีและรูปลักษณ์ภายนอกอย่างเดียวก็คงไม่มากพอให้รถสู้ได้ ถ้าจะขยายความจุเครื่องยนต์ที่ใช้พื้นฐานเก่าขนาดนี้ให้ไปแตะ 400 ซีซี ก็คงจะไม่ไหว
ไม่ต้องพูดถึงเครื่องการพัฒนาเครื่องยนต์ใหม่ขึ้นมาทั้งลูก เพราะตอนนี้ทางค่ายก็มีรถในคลาสเดียวกันที่มีสเปคแน่นอย่าง Honda CBR250RR ซึ่งสามารถตอบสนองตลาดสายสปอร์ตเต็มขั้นได้ดีประมาณนึง เรียกได้ว่าเป็นรถที่สามารถสู้กับรถคู่แข่งต่างค่ายที่ว่ามาได้อย่างสูสี ทุกอย่างที่ว่ามารวมกันอาจจะเป็นสาเหตุให้รถอย่าง CBR300R ไม่ได้ไปต่อก็เป็นได้
อ่านข่าวสาร Honda เพิ่มเติมได้ที่นี่
