Honda Safety Riding Thailand ผู้บุกเบิกหลักสูตรขับขี่ปลอดภัย

0

บริษัท เอ.พี.ฮอนด้า จำกัด (AP Honda) ผู้จัดจำหน่ายรถจักรยานยนต์ฮอนด้าในประเทศไทย ได้บุกเบิกการทำกิจกรรมและเผยแพร่ความรู้ขับขี่ปลอดภัยให้กับสังคมไทยมาอย่างต่อเนื่องถึง 26 ปี อีกทั้งยังไม่เคยหยุดยั้งในการพัฒนาหลักสูตร หรือความรู้ใหม่ๆ รวมไปถึงการสร้างศูนย์ฝึกขับขี่ปลอดภัยในภูมิภาคต่างๆ ให้ครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศ โดยมีเป้าหมายหลักอยู่ที่การลดอัตราการเกิดอุบัติเหตุทางถนนให้เหลือน้อยที่สุด
กว่า 2 ทศวรรษที่ผ่านมา เอ.พี.ฮอนด้า ได้ผลิตวิทยากรครูฝึกขับขี่ปลอดภัยและผู้ช่วยครูฝึกไปแล้วไม่น้อยกว่า 28,000 คน ซึ่งควบคู่ไปกับการอบรมหลักสูตรขับขี่ปลอดภัยให้กับผู้ใช้รถจักรยานยนต์ทั่วไป ล่าสุดมีผู้ผ่านการอบรมหลักสูตรขับขี่ปลอดภัยรูปแบบต่างๆจากเอ.พี.ฮอนด้ารวมกันแล้วมากกว่า 23 ล้านคน

Honda-Safety-Riding_09_resize
ประวัติความเป็นมาในโครงการ Safety Thailand และศูนย์ฝึกขับขี่ปลอดภัยฮอนด้า
เอ.พี.ฮอนด้า ได้ริเริ่มดำเนินกิจกรรมเผยแพร่ความรู้ขับขี่ปลอดภัยสู่สังคมไทยภายใต้โครงการ “เมืองไทยปลอดภัย” หรือ “Safety Thailand” ตั้งแต่ปีพ.ศ.2532 (1989) โดยเริ่มจากการส่งเจ้าหน้าที่ไปอบรมความรู้ขับขี่ปลอดภัยที่ประเทศญี่ปุ่น จากนั้นได้นำความรู้และวิธีการมาดัดแปลงและค้นคว้าเพิ่มเติม เพื่อให้เหมาะสมกับเมืองไทย โดยเอกลักษณ์ที่สำคัญของโครงการนี้ก็คือ ข้อกำหนดให้ร้านผู้จำหน่ายรถจักรยานยนต์ฮอนด้าทั่วประเทศต้องมีวิทยากรครูฝึกขับขี่ปลอดภัยที่ได้รับการฝึกสอนจากเอ.พี.ฮอนด้า เพื่อนำความรู้ที่ได้ไปถ่ายทอดแก่ผู้ใช้อีกทอดหนึ่งโดยถือเป็น S ตัวที่ 4

พ.ศ. 2537 (1994) เอ.พี.ฮอนด้า ได้สร้างศูนย์ฝึกขับขี่ปลอดภัยแห่งแรกในประเทศไทยและอาเซียนที่ จ.สมุทรปราการ บนเนื้อที่กว่า 6,000 ตารางเมตรเพื่อใช้เป็นสถานที่ในการฝึกอบรมขับขี่ปลอดภัยให้กับผู้ใช้รถจักรยานยนต์ทั้งภาคทฤษฏีและปฏิบัติ ก่อนจะขยายเป็น 15,000 ตารางเมตรในเวลาต่อมาเพื่อรองรับการขยายตัวของฐานผู้เข้ารับการฝึก

พ.ศ. 2540 (1997) เอ.พี.ฮอนด้าได้ร่วมกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติและจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ทำการวิจัยสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุของผู้ใช้รถจักรยานยนต์ในประเทศไทย และนำผลที่ได้มาพัฒนาหลักสูตรการอบรมและสื่อการสอนใหม่ๆ รวมไปถึงการนำเครื่องจำลองการขับขี่ (Honda Riding Simulator) มาใช้ประกอบการฝึกสอนเป็นรายแรกในประเทศไทย เพื่อเสริมความเข้าใจให้แก่ผู้เรียนจากภาพจำลองสถานการณ์ของอุบัติเหตุแบบต่างๆ และปรับวิธีการขับขี่ของตนให้ปลอดภัยขึ้น

พ.ศ. 2546 (2003) เอ.พี.ฮอนด้า ได้เริ่มรณรงค์ให้ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์เปิดไฟหน้าเวลากลางวัน ต่อมารถจักรยานยนต์ฮอนด้ายังเป็นรายแรกในประเทศไทยที่ติดตั้งระบบเปิดไฟหน้าอัตโนมัติทุกรุ่นตั้งแต่ปี 2004
ในขณะเดียวกัน ศูนย์ฝึกขับขี่ปลอดภัยฮอนด้าจ.สมุทรปราการ ยังได้รับการรับรองจากกรมการขนส่งทางบก ให้เป็นสถาบันเอกชนที่สามารถอบรมและทดสอบใบขับขี่รถจักรยานยนต์ได้เป็นแห่งแรกในประเทศไทย

พ.ศ. 2548 (2005) เอ.พี.ฮอนด้า เริ่มขยายศูนย์ฝึกขับขี่ปลอดภัยสู่ภูมิภาคโดยการสนับสนุนร้านผู้จำหน่ายฯในแต่ละภาค เริ่มจากจังหวัดเชียงรายเป็นจังหวัดแรกและทยอยเปิดเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจนในปัจจุบันมีศูนย์ที่เกิดขึ้นจากความร่วมมือในลักษณะนี้มากถึง 11 แห่งแล้ว นอกจากนี้ เอ.พี.ฮอนด้ายังให้การสนับสนุนศูนย์ฝึกขับขี่ปลอดภัยเฉลิมพระเกียรติฯในศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) อีก 12 เขตทั่วประเทศตลอดหลายปีที่ผ่านมา

พ.ศ. 2552 (2009) เอ.พี.ฮอนด้า สร้างศูนย์ฝึกขับขี่ปลอดภัยแห่งที่ 2 ที่ถนนรามคำแหง (สุขาภิบาล 3) บนเนื้อที่กว่า 20,000 ตารางเมตร สามารถรองรับการฝึกอบรมได้ทั้งรถจักรยานยนต์และรถยนต์ ทั้งยังเป็นศูนย์ฝึกขับขี่ปลอดภัยที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในอาเซียนอีกด้วย

พ.ศ. 2553 (2010) เอ.พี.ฮอนด้า เป็นบริษัทแรกในประเทศไทยที่ริเริ่มรณรงค์ Zero Accident อุบัติเหตุเป็นศูนย์ เริ่มที่ตัวคุณ เพื่อให้ผู้ใช้รถใช้ถนนทุกคน ได้ตระหนักถึงความสำคัญในการลดอุบัติเหตุในช่วงเทศกาลวันหยุดยาวด้วยการขับขี่อยู่ในกฏจราจร ขี่ใส่หมวก ขี่ไม่ซิ่ง ขี่ไม่เมา โดยได้รับความร่วมมือจากศิลปินที่เป็นพรีเซนเตอร์รถจักรยานยนต์ฮอนด้ามาช่วยกันรณรงค์ผ่านสื่อประชาสัมพันธ์แบบเต็มรูปแบบทั้ง Above และ Below the Line โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย

พ.ศ. 2554 (2011) เอ.พี.ฮอนด้า ผนึกกำลังกับร้านผู้จำหน่ายรถจักรยานยนต์ฮอนด้าทั่วประเทศ และสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) เปิดตัวโครงการ “Honda One Dealer One School หนึ่งร้านสร้างสรรค์ หนึ่งสถาบันสร้างสังคม” โดยส่งเสริมให้ร้านผู้จำหน่ายฯ ร่วมสนับสนุนสถาบันอาชีวศึกษาในพื้นที่อย่างน้อยร้านละ 1 สถาบันในการจัดตั้งชมรมขับขี่ปลอดภัยเพื่อปลูกจิตสำนึกในการขับขี่อย่างปลอดภัยให้กับนักศึกษา จนมีสถาบันอาชีวศึกษาเข้าร่วมโครงการถึง 314 สถาบันภายใน 3 ปีแรก

พ.ศ. 2557 (2014) เอ.พี.ฮอนด้า ได้รับรางวัลประกาศเกียรติคุณด้านการรณรงค์และส่งเสริมกิจกรรมขับขี่ปลอดภัยในประเทศไทยมาอย่างต่อเนื่องกว่า 25 ปี จาก International Association of Traffic and Safety Sciences (IATSS) ประเทศญี่ปุ่น

พ.ศ. 2558 (2015) เอ.พี.ฮอนด้า ได้รับรางวัล Asia Responsible Entrepreneurship Awards 2015 (AREA Award) ในสาขา Investment in People Award จากสถาบัน Enterprise Asia ด้วยผลงานด้านการพัฒนาบุคลากรและรณรงค์ส่งเสริมการขับขี่ปลอดภัยอย่างครบวงจร เพื่อถ่ายทอดความรู้ขับขี่ปลอดภัยให้กับคนไทยทั่วประเทศภายใต้โครงการเมืองไทยปลอดภัย (Safety Thailand)

Honda-Safety-Riding_03_resize
หลักสูตรขับขี่ปลอดภัยของทาง AP Honda
ได้ถือกำเนิดขึ้นภายใต้โครงการ Safety Thailand ประกอบไปด้วยหลักสูตรต่างๆสำหรับบุคคลทั่วไป และหลักสูตรเฉพาะกลุ่มโดยมีเนื้อหาที่ครอบคลุมทั้งภาคทฤษฏีและปฏิบัติ อาทิ กฏจราจร เทคนิคในการเบรกและเข้าโค้ง ท่านั่งขับขี่ที่ถูกต้อง การทรงตัวในทางแคบ การเบรกด้วยระบบ ABS เป็นต้น

ตัวอย่างหลักสูตรสำหรับประชาชนทั่วไป
o PDSA (Pre Delivery Safety Advise) อบรมพื้นฐานขับขี่ปลอดภัย 10 ประการ สำหรับผู้ซื้อรถจักรยานยนต์ฮอนด้าทุกคน ระยะเวลา 15 นาที
o Introduction Course หลักสูตรอบรมทฤษฏีระยะสั้น 2 ชั่วโมง
o Basic Course หลักสูตรขั้นพื้นฐานทฤษฏีและปฏิบัติ 6 ชั่วโมง
o Pre-License Course หลักสูตรสำหรับผู้ที่ไม่เคยคิดขับขี่รถจักรยานยนต์มาก่อน ระยะเวลา 12 ชั่วโมง
o License Course หลักสูตรอบรมและทำใบอนุญาตขับขี่รถจักรยานยนต์ ระยะเวลา 15 ชั่วโมง
o Big Bike Course – Basic หลักสูตรขับขี่รถบิ๊กไบค์ขั้นพื้นฐาน ระยะเวลา 6 ชั่วโมง
o Big Bike Course – Advanced หลักสูตรขับขี่รถบิ๊กไบค์ขั้นประยุกต์ ระยะเวลา 6 ชั่วโมง
o Road Safety for Kids โครงการหนูน้อยปลอดภัยทางถนน ในโรงเรียนอนุบาล ระยะเวลา 2 ชั่วโมง

ตัวอย่างหลักสูตรพิเศษสำหรับครูฝึก
o Super Instructor Course หลักสูตรครูฝึกพิเศษ(เป็นผู้ออกใบขับขี่) ระยะเวลา 5 วัน
o Instructor Course หลักสูตรครูฝึก ระยะเวลา 5 วัน
o Sub-Instructor Course หลักสูตรผู้ช่วยครูฝึก ระยะเวลา 3 วัน

Honda-Safety-Riding_14_resize
ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมของโครงการ “เมืองไทยปลอดภัย” หรือ “Safety Thailand” และศูนย์ฝึกขับขี่ปลอดภัยฮอนด้าได้ที่ www.hondasafetythailand.com

อ่านข่าว Honda เพิ่มเติมได้ที่นี่

เพื่อนๆ Bikers สามารถติดตามข่าวสารวงการล้อ ได้ทางแฟนเพจ MotoRival ของเราครับ

Share.

About Author

Background EXP in Automotive journalists more than 10 Years Writer & Test Driver @Pantip Garage 2018-Present @9carthai 2015- 2017 @Torque & VIPStyle Magazine 2015 @Autospinn 2012-2015 @GTmania.tv 2009-2010

error: Content is protected !!