เจาะลึกคำถาม CBR1000RR-R กับบทสัมภาษณ์ Leader Project ใหญ่ Mr.Yuzuru Ishikawa

เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมาทางทีมงาน MotoRival เราได้รับเกียรติจากทาง A.P.Honda ได้รับเชิญเดินทางไปร่วมงาน EICMA2019
ซึ่งแน่นอนว่ารถไฮไลท์ที่เด่นที่สุดในงานนี้ คงหนีไม่พ้น Honda CBR1000RR-R อย่างแน่นอน เพราะมันเป็นรถที่เปิดตัวครั้งแรกในโลกที่งานนี้ พร้อมทั้งการตั้งมั่นที่จะกลับมาแก้มือในวงการ WSBK ของ Honda ด้วยรถม้าศึกตัวแรงคันใหม่นี้

และเพื่อความ Exclusive ยิ่งกว่านั้น ทาง A.P.Honda ได้ให้โอกาสเราเข้าร่วมพูดคุย สัมภาษณ์ คุณ Yuzuru Ishikawa ที่รับหน้าที่เป็น Leader Project Honda CBR1000RR-R คันนี้อีกด้วย

ก่อนไปคุยรายละเอียดการสัมภาษณ์เกี่ยวกับ CBR1000RR-R ในครั้งนี้ เราขอมาร่ายประวัติของ คุณ Yuzuru Ishikawa กันเสียก่อน
ต้องเรียกว่าไม่ธรรมดา เพราะได้รับหน้าที่เป็น Large Leader Project รถตระกูล CBR นี้มานับไม่ถ้วน ไม่ว่าจะเป็น

2008 CBR1000RR
2012 CBR1000RR
2013 CBR600RR
2014 CBR1000RR SP
2017 CBR1000RR SP2
รวมไปถึง Neo Sport Cafe ไฟกลมที่ผลิตในบ้านเราอีกด้วย 2018 CB125R/CB150R/CB250R/CB300R/
และ 2020 CBR1000RR-R / RR-R SP ล่าสุดทั้ง 2 โมเดลนี้

นอกจากนี้ยัง รับหน้าที่เป็น Chassis Design Project Leader รถแข่งดีกรีแชมป์โลก และตัวถอดแบบตัวแข่งแชมป์โลกลงสู่ท้องถนนอีกด้วย

2002 RC211V รถแข่ง MotoGP ของ Valentino Rossi ที่ได้แชมป์ MotoGP ในปีนั้น
2016 RC213V-S รถ Replica ตัวถอดแบบจากรถแข่งของแชมป์โลก Marc Marquez ลงสู่ท้องถนน

เอาล่ะ ไม่ให้เพื่อนๆ เสียเวลาไปมากกว่านี้ ทางผมขอกลับมาที่การรวบรวมประเด็นบทสัมภาษณ์ คุณ Yuzuru Ishikawa ทั้งจากคำถามของผมเอง และของพี่ๆสื่อไทย ท่านอื่น ที่น่าสนใจกันเลยดีกว่าครับ

RR-R ไอเจ้า R ตัวห้อยท้ายสุด ที่เพิ่มมานี้ คือ อะไร?
– อย่างที่ทราบกันดีว่า RR คือ Racing Replica ส่วน R สุดท้าย หมายถึง Racing Version ที่จะย้ำภาพของ CBR Fireblade คันล่าสุดนี้เข้าไปอีกว่า เป็นรถที่เน้นสมรรถนะการขี่ในสนาม

และที่ผมเรียกว่า Triple R นี่ถูกไหม?
– ชื่อเรียก จริงๆ ควรเรียก ออกเสียง อาร์ อาร์ อาร์ มากกว่า

ทำไมระบบ VTEC ถึงไม่มาใน CBR1000RR-R นี้ เพราะมีเป็นสิทธิบัตรออกมา ก่อนหน้านี้แล้ว
– เนื่องจากการปรับปรุงตัวเครื่องใหม่ นี้ ถือว่ามีพละกำลังมากขึ้นกว่าเดิม และเราเชื่อว่ามันแรงเพียงพอสำหรับการใช้งานในขณะนี้แล้ว

ภาพรวมในเรื่องของสมรรถนะนั้น จะเป็นอย่างไรบ้าง
– แน่นอนว่าเรามีการปรับปรุงเครื่องยนต์ใหม่ หมด แม้จะยังอิงพื้นฐานคือ เครื่องยนต์แบบ 4 สูบเรียง แต่เราได้ปรับเปลี่ยนในเรื่องของ
ขนาดกระบอกสูบ x ระยะชัก ให้มาเท่ากับตัว RC213V-S นั่นก็จะทำให้มันมีภาพลักษณ์ที่ดิบและดุดันขึ้นกว่า โฉมเดิมอย่างชัดเจน

ช่อง Ram Air ที่เป็นปากจมูกขนาดใหญ่ นี้ มันช่วยดีกว่าเดิมอย่างไร จากช่อง Ram Air ใน CBR1000RR เดิม ที่อยู่
– แน่นอนว่า การที่จะให้เครื่องยนต์มีประสิทธิภาพที่ดีนั้น จะต้องได้อากาศ หรือ ไอดีเข้า มาที่หม้อกรองให้ได้มาก
ซึ่งถ้าสังเกตุในรถแข่ง MotoGP ปาก Ram Air ก็จะเป็นช่องขนาดใหญ่ อยู่ในตำแหน่งด้านหน้าตัวรถทั้งสิ้น ซึ่งแบบนี้ จะสามารถดึงอากาศเข้ามาได้เต็มประสิทธิภาพที่สุด

ตัว Winglet ที่ได้ออกแบบมาแนวรถแข่ง MotoGP นี้ มันสามารถสร้างแรงกดที่ความเร็วสุดได้ที่เท่าไร?
– หลักๆ ของการที่เราออกแบบ Winglet ที่เป็นครีบ 3 ชั้นด้านใน เพื่อให้เสริมแรงกด ในการเปิดคันเร่งแรงๆ ไม่ให้รถ Wheelies (ยกล้อ) หรือ ในช่วงที่ความเร็วสูงๆ รถจะนิ่งมีเสถียรภาพที่ดียิ่งขึ้น จากการสร้างระเบียบการจัดเรียงของอากาศที่ไหลผ่าน

แล้วกลุ่มลูกค้าล่ะ เราคิดว่า CBR1000RR-R คันนี้ จะมีกลุ่มลูกค้าที่แตกต่างไปจากเดิมหรือไม่?
– จากที่ได้บอกไปว่ารถ คันนี้ ได้ออกแบบตาม คอนเซ็ปต์ Racing โดยเฉพาะ ดังนั้น ทั้งการปรับเซ็ทต่างๆ รวมไปถึงกำลังของเครื่องยนต์
จะมีกำลังที่สูงขึ้นกว่าเดิมมาก เราจึงเน้นกลุ่มลูกค้าที่ต้องการรถสมรรถนะสูงๆ หรือ ต้องการที่จะได้การขับขี่แบบสายสนามเป็นพิเศษ
ผมเชื่อมั่นว่ากับลูกค้า CBR1000RR เดิม ก็จะต้องรัก และชื่นชอบ CBR1000RR-R คันนี้ด้วย
อย่างไรก็ดี เรายังคงต้องการให้มันเป็นรถที่ดีที่สุดสำหรับทุกๆคน และสามารถขี่ได้จริงบนท้องถนนด้วย
ตามที่ Marc Marquez ได้ทดสอบรถคันนี้ ที่ Catalunya และให้นิยามมันว่า
“The Best Bike for the fans and for those who love motorbike”

ที่จริงแล้วเรายังมีคำถามที่อยากจะถามมากกว่านี้ แต่น่าเสียดายเนื่องด้วยเวลาไม่เพียงพอ คงต้องไว้มาเก็บตกกันหลังจากที่เปิดตัวในประเทศไทยกันแล้ว ว่าแต่เมื่อไรล่ะ? เพื่อนๆ มีความเห็นว่าอย่างไร คอมเม้นต์กันมาได้เลยครับ