สำหรับคนทั่วไปที่ไม่ได้มีงบประมาณมากมาย และไม่มีที่จอดรถขนาดใหญ่พอ จนสามารถครอบครองรถมอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์ได้หลายคันอย่างที่ฝัน พวกเราส่วนใหญ่ก็คงจะจบด้วยการเลือกรถมอเตอร์ไซค์สักรุ่นที่เป็นเหมือนเป็ด สามารถทำอะไรได้หลายอย่าง อยากจะเร็วก็ได้ ขี่ในเมืองหรือท่องเที่ยวก็ไหว วันนี้เราเลยจะมาแนะนำรถมอเตอร์ไซค์คลาสกลาง ทัวริ่งที่เน้นทางเรียบ และยกสูงนิดหน่อยมาให้ทุกคนได้เลือกกัน
(รถบางรุ่นในนี้อาจจะเปิดตัว และวางจำหน่ายในประเทศไทยแล้ว บางรุ่นอาจจะรอเปิดตัว หรือบางรุ่นอาจจะไม่มาไทยเลยก็ได้ แต่เรามองว่าเป็นรถน่าสนใจที่อยากให้ทุกคนได้เห็น)

Kawasaki Versys 650 ถ้าพูดถึงรถแนวทัวริ่งทางเรียบในคลาสกลาง คนไทยน่าจะคุ้นเคยกับค่ายเขียวคันนี้มากที่สุด เพราะเป็นรถที่อยู่มานานหลายเจน และสามารถใช้งานได้ทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการขับขี่ในเมืองหรือท่องเที่ยว มาพร้อมเครื่องยนต์ 2 สูบเรียง 649 ซีซี พละกำลังสูงสุด 67 Hp และแรงบิด 61 Nm
มาพร้อมถังน้ำมันขนาดใหญ่ 21 ลิตร, น้ำหนักตัวรถแบบรวมของเหลว 218 กิโลกรัม ถึงแม้ว่าพื้นฐานของรถจะค่อนข้างเก่า แต่ในรถเจนล่าสุดจะมาพร้อมหน้าจอแสดงผลแบบสี และไฟส่องสว่างรอบคันแบบ LED แต่ก็ถือว่าให้มาพอสำหรับการใช้งานส่วนใหญ่ กับค่าตัว 259,000 บาท

Triumph Tiger Sport 660 คู่แข่งที่ใกล้เคียงกับค่ายเขียวมากที่สุดในไทย แต่มาพร้อมเครื่องยนต์แบบ 3 สูบเรียง 660 ซีซี พละกำลังสูงสุด 80 Hp และแรงบิด 64 Nm บนน้ำหนักตัวรถเพียงแค่ 206 กิโลกรัม ถือว่าทั้งแรงกว่า และเบากว่ามาก แต่ก็แลกมากับค่าตัวสูงกว่ามากที่ 359,000 บาท
ถังน้ำมันขนาด 17.2 ลิตร, รถคันนี้เหมาะกับคนที่ชอบคาแรกเตอร์ของรถสปอร์ต น้ำหนักเบา เครื่องยนต์มีความนุ่มลื่น แรงกว่าในรอบสูง แต่หลายคนอาจจะขัดใจกับหน้าจอ LCD ผสม TFT ขนาดเล็กที่ดูไม่ชัดเจนสะใจ เมื่อเทียบกับคู่แข่งทั้งหมดในลิสต์นี้

Suzuki V-Strom 800RE รถคันนี้อาจจะดูไม่เป็นรถทัวริ่งเท่าไร เพราะมันคือการเอารถแอดเวนเจอร์ยกสูงอย่าง V-Strom 800DE ที่เดิมทีใช้ล้อซี่ลวดขนาด 21 นิ้ว มาเปลี่ยนเป็นล้ออัลลอยด์ขนาด 19 นิ้ว ที่สามารถใช้งานบนทางดำได้ดียิ่งขึ้น มาพร้อมเครื่องยนต์ 2 สูบเรียง Crossplane Crankshaft 776 ซีซี พละกำลังสูงสุด 84 Hp และแรงบิด 78 Nm, ถังน้ำมันขนาด 20 ลิตร, น้ำหนัก 223 กิโลกรัม
ติดอยู่ปัญหาเดียวคือในประเทศไทยจะมีเพียงแค่รุ่นลุยฝุ่นอย่าง V-Strom 800DE เท่านั้น แต่ถ้าใครไม่คิดมาก ก็สามารถหารถรุ่นเก่าอย่าง V-Strom 650 ที่มาพร้อมเครื่องสูบวีตามชื่อ และล้อทางเรียบสำหรับสายทางดำเต็มตัวก็ยังได้

Honda NC750X ลูกผสมรถบิ๊กไบค์ และบิ๊กสกู๊ตเตอร์ ที่ความนิยมในประเทศไทยถือว่าลดลงจากหลายปีก่อนค่อนข้างมาก มาพร้อมเครื่องยนต์ 2 สูบเรียง 745 ซีซี พละกำลังสูงสุด 57.8 Hp และแรงบิด 69 Nm ไม่เน้นแรงม้า แต่เน้นแรงบิดในรอบต่ำ มาพร้อมจุดเด่นคือระบบเกียร์ DCT ถังน้ำมันอยู่ใต้เบาะนั่ง ขนาด 14.1 ลิตร ส่วนตำแหน่งถังน้ำมันปกติกลายเป็นที่เก็บของขนาดใหญ่
ตัวรถรุ่นใหม่ที่มาพร้อมระบบไฟรอบคันแบบ LED หน้าจอแสดงผลแบบสี TFT แถมยังได้เพิ่มดิสก์เบรกหน้าเป็นแบบจานคู่ ได้ถูกเปิดตัวในยุโรปเรียบร้อยแล้ว แต่ดูเหมือนว่ารถรุ่นนี้จะไม่ถูกนำมาเปิดตัวในประเทศไทย เพราะคนให้ความสนใจกับ Forza 750 ที่เป็นรถบิ๊กสกู๊ตเตอร์มากกว่า

Yamaha Tracer 7 นี่น่าจะเป็นรถอีกรุ่นที่คนไทยสนใจ แต่น่าจะไม่มีโอกาสได้ใช้ เนื่องจากถูกผลิตสำหรับยุโรปโดยเฉพาะ มาพร้อมเครื่องยนต์ 2 สูบเรียง Crossplane Crankshaft ปริมาตรกระบอกสูบ 689 ซีซี พละกำลังสูงสุด 73.4 Hp แรงบิดสูงสุด 67 Nm ที่แชร์ร่วมกับ MT-07 และ R7 ถังน้ำมันขนาด 17 ลิตร, น้ำหนักตัวรถที่เบาเพียง 197 กิโลกรัม
โดยรวมแล้วดูจะมีความเป็นรถสปอร์ต หรือรถสำหรับใช้งานในเมือง ที่ถูกปรับปรุงให้พอใช้เที่ยวได้นิดหน่อย ไม่ใช่สายเที่ยวทางไกลแบบเต็มตัว แต่มีข้อดีมันเป็นรถที่เบาที่สุด และมีมิติเล็กที่สุดในลิสต์นี้ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะพื้นฐานของมันอย่าง MT-07 ก็ถือว่าเล็กไม่ต่างจากรถคลาส 400 ซีซี
อ่านข่าวสาร Honda เพิ่มเติมได้ที่นี่
อ่านข่าวสาร Yamaha เพิ่มเติมได้ที่นี่
อ่านข่าวสาร Suzuki เพิ่มเติมได้ที่นี่
อ่านข่าวสาร Kawasaki เพิ่มเติมได้ที่นี่
อ่านข่าวสาร Triumph เพิ่มเติมได้ที่นี่