Deus Ex Machina และ Moto Guzzi เปิดตัว V7 III “Carbon Shine Limited Edition” รุ่นพิเศษในงาน Lorm Pha Film & Art Night

0

เมื่อวันเสาร์ที่ 23 มิถุนายน ที่ผ่านมา Deus Ex Machina (เดอัส เอ็กซ์ มาคิน่า) หรือชื่อสั้นๆ ที่คุ้นหูของใครหลายคนว่า “Deus” คัลท์แบรนด์ไลฟ์สไตล์และขบถทางวัฒนธรรมจากออสเตรเลีย จับมือกับ Moto Guzzi (โมโต กุซซี่) สุดยอดสองล้อแฮนด์เมดสัญชาติอิตาเลี่ยนสุดคลาสสิค ร่วมจัดกิจกรรมความสนุกตามแบบฉบับของ Deus ในงาน “Deus Ex Machina & Moto Guzzi Present Lorm Pha Film & Art Night ที่รวมเหล่าสาวกของ คัลท์แบรนด์ไลฟ์สไตล์และบรรดาไบค์เกอร์ในไทยได้ร่วมสนุกและสัมผัสวัฒนธรรมขบถนอกกรอบ พร้อมดำดิ่งสู่ห้วงแห่งความคิดสร้างสรรค์แบบไร้ขีดจำกัดผ่านหนังสั้นและศิลปะซึ่งเป็นหนึ่งในอัตลักษณ์ของแบรนด์ ที่ผสานเข้ากับความเป็นไทยอย่างลงตัว พร้อมรับชมหนังสั้น 2 เรื่องในรูปแบบ Ride-In Cinema พิเศษไปกับการถ่ายทอดงานศิลปะผ่านความสนุกจากสองล้อและ Longboard ใน Live Painting โดย Paul McNeil ศิลปิน อัลเทอร์เนทีฟด้วยชิ้นงานสะดุดตา พร้อมด้วย Deus Art Exhibition สตรีทฟู้ดส์ เกมส์ ดีเจ ปาร์ตี้ และ Pop-Up Store จาก Deus ให้แฟนๆ ได้เลือกช้อปปิ้งและสุดพิเศษกับเสื้อยืดที่ผลิตขึ้นเฉพาะงานนี้เท่านั้น นอกจากนี้ยังเป็นการเผยโฉมครั้งแรกของสุดยอดมอเตอร์ไซค์คลาสสิคระดับตำนานของอิตาลี Moto Guzzi V7 III Carbon Shine Limited Edition โดยงานนี้จัดขึ้น ณ ACMEN เอกมัย คอมเพล็กซ์ ซ.เอกมัย 15

Deus-Ex-Machina-Present-Lorm-Pha-Film-n-Art-Night-05สำหรับ Deus Ex Machina คือ คัลท์แบรนด์ไลฟ์สไตล์และขบถทางวัฒนธรรมจากออสเตรเลีย Deus นั้นเป็นมากกว่า แบรนด์ แต่คือวัฒนธรรมที่เปิดกว้างมาพร้อมความกระตือรือร้นที่โดดเด่นและสามารถดึงดูดความสนใจจากผู้คนไม่ว่าจะปรากฎตัวอยู่ ณ ที่ใดก็ตาม โดย Deus เปรียบเสมือนเป็นสถานที่แห่งความคิดสร้างสรรค์สะท้อนได้จากปรัชญาแห่ง Deus คือ ความสนุกสนาน ไม่ยึดติดกับกฎเกณฑ์ เชื่อในการลงมือทำเพื่อสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ได้อย่างใจคิด ไม่ว่าจะเป็น การขี่มอเตอร์ไซค์ การเล่นเซิร์ฟ สเก็ตบอร์ด ฯลฯ ปัจจุบัน Deus ปรากฎตัวในรูปแบบแฟลกชิพสโตร์ทั้งหมด 5 แห่งทั่วโลก ได้แก่ ซิดนีย์ บาหลี ลอสแอนเจลิส มิลาน และโตเกียว โดยทุกแห่งมีสไตล์เฉพาะและเป็นตัวของตัวเอง โดยสิ่งเดียวที่เหมือนกันทุกที่คือวัฒนธรรมแบบ Deus สร้างสรรค์โดย 2 ผู้บริหารที่มีแนวคิดแบบไร้ขอบเขต มีความเป็นตัวของตัวเองและกระตือรือร้นเป็นอย่างมาก ประกอบด้วย Dare Jennings และ Carby Tuckwell

Deus-Ex-Machina-Present-Lorm-Pha-Film-n-Art-Night-03
“สำหรับกิจกรรม Deus Ex Machina & Moto Guzzi Present Lorm Pha Film & Art Night ที่จัดขึ้นในวันนี้ Deus ต้องการมอบประสบการณ์พิเศษที่เรียกว่าเป็นวัฒนธรรมแบบ Deus โดยนำมาผสานเข้ากันกับความเป็นไทย ได้อย่างลงตัวให้กับแฟนๆ ในประเทศไทยได้สัมผัสถึงจิตวิญญาณของความสนุก ความคิดสร้างสรรค์ในการใช้ชีวิตอย่าง ไร้ขีดจำกัดภายใต้แนวคิดที่พาทุกคนย้อนเวลาไปสนุกกับบรรยากาศงานเทศกาลของไทยสมัยก่อนด้วยการฉายหนังสั้นในรูปแบบ “หนังล้อมผ้า” ซึ่งการฉายหนังลักษณะนี้เป็นที่นิยมและแพร่หลายเป็นอย่างมากในประเทศไทยสมัย หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยเป็นการชมแบบ Ride-in Cinema ที่ผู้ชมสามารถขี่รถมอเตอร์ไซค์คู่ใจเข้าชมหนังสั้นได้เลย สำหรับหนังสั้นที่เรานำมาฉายนั้นเป็นเรื่องที่ถ่ายทำขึ้นโดย Deus และถ่ายทอดปรัชญาความเป็นแบรนด์อย่างแท้จริง ประกอบด้วย 2 เรื่อง ได้แก่ BLACKBOY และ Painted in Dust สำหรับหนังสั้นทั้ง 2 เรื่องที่นำมาฉายนั้น ใครที่พลาดก็สามารถรับชมได้ผ่านทางเฟซบุ๊ก Deus Thailand ได้แล้วตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป นอกเหนือไปจากนี้ เรายังได้ชวน Paul McNeil ศิลปินอัลเทอร์เนทีฟที่โดดเด่นด้วยการใช้ฝีแปรงและแอร์บรัชพร้อมสัญลักษณ์ดวงตากลมโตสีเหลืองอันเป็นเอกลักษณ์มาร่วมแสดง Live Painting ในงานนี้เป็นครั้งแรกในไทยอีกด้วย” กล่าวโดย Dare Jennings ผู้ก่อตั้งแบรนด์ Deus Ex Machina ผู้ที่มีคติในการทำทุกอย่างจากความรัก ความสนุก และความหลงใหลใน รถมอเตอร์ไซค์ เซิร์ฟ ดนตรีร็อค การ์ตูน และงานดีไซน์ต่างๆ

Deus-Ex-Machina-Present-Lorm-Pha-Film-n-Art-Night-02
นอกเหนือจากหนังสั้นแล้ว ยังมีอีกหนึ่งไฮไลท์ในงาน นั่นคือ การแสดง Live Painting บนรถ Piaggio Ape และ Surfboard ครั้งแรกโดย Paul McNeil ศิลปินชาวออสซี่ผู้สร้างสรรค์ชิ้นงานที่ไร้ขอบเขตจากเส้นสายคล้ายเกลียวคลื่นและดวงตากลมโตสีเหลืองอันเป็นเอกลักษณ์ โดยครั้งนี้เขามาพร้อมคอนเซ็ปต์ Italian – Californian Beach ในยุค 70 ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมการขับขี่ในแบบฉบับอิตาเลี่ยน ผสานเข้ากับบรรยากาศของความสนุกที่ไร้ขอบเขต บนชายหาดแคลิฟอร์เนีย รวมถึงเซิร์ฟ ภาพยนตร์ และดนตรีในยุคพั้งก์ร็อคซึ่งส่งผลให้เขาสามารถแสดงความเป็นตัวเองและสิ่งที่เขาชื่นชอบได้อย่างไร้ขอบเขต อีกความพิเศษคือเขายังได้รวบรวมผลงานมาแสดงให้แฟนๆ ในไทยได้รับชม เป็นครั้งแรกอีกด้วย สำหรับ Paul McNeil นอกเหนือจากการเป็นศิลปินแล้ว เขายังเป็นนักเล่นเซิร์ฟที่เก่งและบ้าบิ่นอีกด้วย

Deus-Ex-Machina-Present-Lorm-Pha-Film-n-Art-Night-04
สำหรับไฮไลท์อื่นๆ ในงาน Deus Ex Machina & Moto Guzzi Present Lorm Pha Film & Art Night ยังอัดแน่นไปด้วย จุดถ่ายรูปเท่ๆ ที่ให้บรรดาแฟนๆ ที่ขี่มอเตอร์ไซค์เข้าร่วมงานได้ถ่ายภาพกับรถของตัวเองพร้อมดาวน์โหลดเข้าสมาร์ทโฟนได้เลย และขี่มอเตอร์ไซค์เข้าไปจอดในงานพร้อมรอชมภาพยนตร์สั้นได้ทันที ในงานยังมี Deus Art Exhibition แสดงคอลเลคชั่นโปสเตอร์เท่ๆ สร้างสรรค์โดย Carby Tuckwell, Creative Director แห่ง Deus พร้อมด้วยห้องฉายโลโก้หลากหลายรูปแบบจาก Deus ให้แฟนๆ ได้เข้าไปถ่ายรูปเป็นที่ระลึก นอกจาก Art & Film แล้ว ยังได้เนรมิตงานวัดย่อมๆ พร้อมเกมส์ความสนุกต่างๆ อาทิ เกมส์ปากระป๋อง ยิงปืน และปาลูกดอกลุ้นรับของรางวัลพิเศษจาก Deus ทั้งนี้ แฟนๆ และผู้เข้าร่วมงานสามารถเลือกซื้อสินค้าคอลเลคชั่นที่รับการออกแบบมาเป็นพิเศษเพื่องานนี้เท่านั้นและมีจำนวนจำกัดพร้อมราคาพิเศษ เติมเต็มบรรยากาศสนุกด้วยเสียงดนตรีจาก DJ Tom Funky Gangster ที่คัดสรรสุดยอดเพลงจากแผ่นไวนิล ลิ้มรสกับความอร่อยอย่างมีสไตล์แบบย้อนเวลา อาทิ ปลาหมึกบด ข้าวเกรียบว่าว กาแฟรสเข้มกลิ่นหอมละมุน รวมถึงยาดองออแกนิคที่รังสรรค์ขึ้นมาเป็นพิเศษสำหรับงานนี้เท่านั้น

Deus-Ex-Machina-Present-Lorm-Pha-Film-n-Art-Night-01
นอกเหนือไปจากกิจกรรมความสนุกในสไตล์ Deus แล้ว โมโต กุซซี่ สุดยอดมอเตอร์ไซค์ระดับตำนานจากอิตาลี ที่ในงานนี้เป็นผู้สนับสนุนหลักของกิจกรรมยังได้เผยโฉม Moto Guzzi V7 III Carbon Shine Limited Edition ที่มาในมาดเท่กับรูปทรงคลาสสิคอันเป็นเอกลักษณ์ โดดเด่นและสะกดทุกสายตาไปกับวัสดุโครเมี่ยมที่ประกอบขึ้นอย่างปราณีตตาม จุดต่างๆ ผสานเข้ากับสไตล์เฉพาะและการใช้วัสดุตกแต่งแบบคาร์บอนไฟเบอร์ที่มีความทันสมัยและดูหรูหราในทุกมุมมองของตัวรถ โดยสร้างขึ้นอย่างภาคภูมิใจตามประโยคที่ว่า “ผลิตจากเมืองแมนเดลโล่ – Made in Mandello” ในทุกรายละเอียด ทั้งนี้ยังมาพร้อมกับสมรรถนะอันยอดเยี่ยม เสริมความเป็นเอกลักษณ์ด้วยการสลักหมายเลขลำดับการผลิตของมอเตอร์ไซค์สัญชาติอิตาเลี่ยนนี้ไว้ที่โครงยกแฮนด์ โดยผลิตขึ้นเป็นจำนวนทั้งสิ้น 1,921 คัน เพื่อสื่อถึงปีต้นกำเนิด ของแบรนด์คือปี ค.ศ. 1921 ด้วยการออกแบบอันลงตัวและประณีตเสมือนเป็นงานศิลปะชิ้นเอก โมโต กุซซี่ วี7 III คาร์บอน ไชน์ รุ่นนี้ เหล่าบรรดานักสะสมมอเตอร์ไซค์ระดับตำนานจากอิตาลีต้องไม่พลาด โดย Moto Guzzi V7 III Carbon Shine Limited Edition ราคา 675,000บาท

ติดตามข่าวสารประชาสัมพันธ์ของ Deus Ex Machina ได้ที่เฟซบุ๊ก Deus Thailand และอินสตาแกรม @inbenzinveritas_thailand สำหรับโมโต กุซซี่ ติดตามได้ที่เฟซบุ๊ก Moto Guzzi Thailand และอินสตาแกรม @Motoguzzi_thailand

อ่านข่าว Moto Guzzi เพิ่มเติมได้ที่นี่

เพื่อนๆ Bikers สามารถติดตามข่าวสารวงการล้อ ได้ทางแฟนเพจ MotoRival ของเราครับ

Share.

About Author

error: Content is protected !!