ชุดเกียร์ในรถมอเตอร์ไซค์ คือระบบตัดต่อกำลัง ที่เป็นส่วนสำคัญมากในการส่งพละกำลังจากเครื่องยนต์ไปยังล้อรถ ซึ่งระบบเกียร์บนโลกนั้นก็มีอยู่ด้วยกันหลากหลายแบบ ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมในการใช้งาน แต่ในรถมอเตอร์ไซค์บิ้กไบค์ส่วนใหญ่ หรือรถแข่งในสนามไม่ว่าจะเป็น WSBK หรือ MotoGP ระบบเกียร์ที่ใช้นั้นจะต่างออกไปจากรถถนนแบบพลิกหน้าเท้าเป็นหลังเท้าเลย
สิ่งแรกที่เราต้องอธิบายให้ทุกคนเข้าใจกันก่อน คือในการแข่งขันรถมอเตอร์ไซค์ส่วนใหญ่ นั้นมีการบังคับให้ใช้แค่ระบบเกียร์ธรรมดาในการแข่งขันเท่านั้น ห้ามไม่ให้มีการใช้เกียร์ DCT หรือ Dual Clutch Transmission แบบที่เราเห็นกันในรถซูเปอร์คาร์หรือรถมอเตอร์ไซค์คลาสใหญ่จาก Honda เนื่องจากผู้จัดต้องการควบคุมงบประมาณในการพัฒนารถ และบีบให้การควบคุมรถนั้นขึ้นอยู่กับความสามารถส่วนตัวของนักแข่ง
ทางทีมแข่งจึงหาวิธีดัดแปลงเกียร์ธรรมดาแบบคลัทช์เดียวที่มีอยู่ ให้สามารถใช้งานในการแข่งขันได้ดียิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาเกียร์ธรรมดานั้นให้กลายเป็นเกียร์ Seamless ที่มีจังหวะการตัดต่อกำลังที่เร็วมากจนแทบไม่ต่างกับเกียร์ DCT หรือการเปลี่ยนลำดับการสับเกียร์ให้กลับหัวกลับหางไปจากรถบ้านปกติ
โดยคนที่ใช้รถมอเตอร์ไซค์เกียร์ธรรมดาก็คงจะทราบกันดี ว่าลำดับการวางเกียร์แต่ละลำดับในรถถนนนั้นจะเรียงจากเกียร์ 1 N(เกียร์ว่าง) 2 3 4 5 6 โดยที่ผู้ใช้จะต้องเข้าเกียร์ 1 ด้วยการตบคันเกียร์ที่เท้าลงไปหนึ่งครั้ง แล้วเราจึงจะเพิ่มเกียร์ได้ด้วยการงัดคันเกียร์ขึ้นไปจนถึงเกียร์สูงสุด
แต่ในรถแข่งนั้นจะเรียงลำดับเกียร์จากเกียร์ 6 5 4 3 2 N(เกียร์ว่าง) 1 ที่เราจำเป็นต้องงัดคันเกียร์ขึ้นครั้งนึงเพื่อเข้าเกียร์ 1 แล้วหลังจากนั้นค่อยตบคันเกียร์ลงเพื่อเพิ่มเกียร์ ซึ่งจะเห็นได้ว่ารูปแบบและลำดับการใช้งานนั้นจะกลับด้านกับรถถนนโดยสิ้นเชิง
เหตุผลที่เป็นแบบนั้นเพราะว่าในการแข่งขันมักจะมีการเข้าโค้งด้วยความเร็วสูง จนตัวรถและคนขับเอียงไปข้างใดข้างหนึ่งมากจนเกือบจะแนบไปกับพื้น ซึ่งอันที่จริงแล้วการเอียงรถไปทางขวานั้นก็ไม่ได้เป็นปัญหาอะไร แต่การเอียงตัวรถไปด้านซ้ายจะทำให้เกิดความยากลำบากในการเพิ่มเกียร์ เนื่องจากเมื่อพักเท้าซ้ายและคันเกียร์อยู่ใกล้พื้นมากเกินไป นักแข่งจะไม่มีพื้นที่สอดเท้าของตัวเองไปด้านล่างเพื่องัดเกียร์ขึ้น การสลับด้านการเปลี่ยนเกียร์ก็จะช่วยแก้ปัญหานี้ไปได้
ซึ่งรถที่ถูกสร้างสำหรับการใช้งานในสนามแข่ง ก็จะมีการลำดับการเข้าเกียร์แบบนี้มาให้เลย แต่คนที่ใช้รถถนนอย่างเรา ก็สามารถเปลี่ยนเกียร์โยงให้เป็นแบบที่ใช้ในสนามก็ได้เช่นกัน เพราะเกียร์โยงที่ว่าจะไปเปลี่ยนทิศทางการตบเกียร์ของเราก่อนถึงชุดเกียร์แทน
นอกจากนี้ในรถแข่ง MotoGP สมัยใหม่ยังมีการลำดับเกียร์ที่แปลกขึ้นไปอีก โดยจะเอาเกียร์ว่างไปวางไว้บนสุดตามลำดับ 6 5 4 3 2 1 N(เกียร์ว่าง) แทนที่จะวางไว้ระหว่างเกียร์ 1 และ 2 และเพื่อป้องกันไม่ให้นักแข่งเข้าเกียร์พลาด จึงมีการเพิ่มปุ่มพิเศษสำหรับเข้าเกียร์ว่างไว้บนประกับแฮนด์ ที่นักแข่งจะต้องกดปุ่นนี้ก่อนจึงจะสามารถเข้าเกียร์ว่างได้
อ่าน Tips Trick เพิ่มเติมได้ที่นี่
