ในที่สุดดีลใหญ่ในวงการ Motorsport ที่ทาง Liberty Media ผู้ครองครองรายการแข่งขัน Formula 1 ได้ประกาศการเข้าซื้อ Dorna ผู้ครอบครอง MotoGP อย่างเป็นทางการ และสิ่งที่แฟนกีฬาหลายคนในตอนนี้กำลังสงสัยคือ “แล้วยังไงต่อ?” จะเกิดความเปลี่ยนแปลงอะไรขึ้นกับ MotoGP ในอนาคตหรือไม่? ค่าตัวจะแพงขึ้นไหม? มีโอกาสได้เห็นทั้งสองรายการจัดคู่กันหรือเปล่า?
เราต้องอธิบายภาพรวมของการเข้ามาควบรวมกิจการครั้งนี้ให้ทุกคนเข้าใจก่อน โดยทาง Liberty Media ได้ทำการซื้อหุ้นของ Dorna เป็นจำนวน 86% ซึ่งหุ้นอีก 14% ที่เหลือจะยังคงอยู่กับคณะบริหารของ Dorna ดั้งเดิม ทางด้านของทีมบริหารทั้งหมดรวมถึง CEO อย่าง Carmelo และ Carlos Ezpeleta จะยังคงทำหน้าที่บริหารจากสำนักงานใหญ่ในสเปนเช่นเดิม เรียกได้ว่าทั้งสองรายการใหญ่จะยังถือเป็นคนละบริษัทที่บริหารแยกกันชัดเจน
หลังจากนี้จะเป็นการวิเคราะห์ถึงความเป็นไปได้เกี่ยวกับอนาคตของ MotoGP โดยเราจะรวมรวมความเห็นจากทีมงาน MotoRival และสื่อต่างชาติ รวมถึงบุคคลในวงการมอเตอร์สปอร์ตที่มีต่อข่าวนี้มาให้ทุกคนชมกัน ซึ่งสิ่งที่เราพูดถึงต่อจากนี้อาจจะเกิด หรือไม่เกิดก็ได้
– การจัดแข่งขัน MotoGP ร่วมกับ Formula 1 ในสัปดาห์เดียวกัน โดยเรื่องนี้เป็นความคิดของผู้บริหารสนามแข่ง Circuit of the America ที่ต้องการจัดทั้งสองรายการใหญ่พร้อมกัน (จากเดิมที่จัดคนละช่วงเวลากันในแต่ละปี) การเข้ามาครอบครองของ Liberty Media ที่เป็นบริษัทสัญชาติอเมริกัน น่าจะช่วยให้เรื่องนี้เกิดได้ง่ายขึ้น แต่ ถ้าพูดถึงสนามอื่นๆ ส่วนตัวเรามองว่า ก็ยังเป็นไปได้ยาก เพราะ ยังมีปัจจัยเรื่องความพร้อม ด้าน Facility ของสนาม รวมถึงพื้นที่รองรับนักท่องเที่ยวอีก
– การเพิ่มจำนวนการแข่งขัน MotoGP ในสหรัฐอเมริกาที่มากขึ้น เนื่องจาก MotoGP ในช่วงหลังมีแผนที่จะขยายตลาดไปสู่อเมริกาเหนืออยู่แล้ว การเปลี่ยนมือเจ้าของก็จะช่วยให้แผนการนี้เกิดได้ง่ายขึ้น เพราะหลังจากที่ Liberty Media เข้าครอบครอง Formula 1 รายการดังกล่าวก็ไปเพิ่มสนามแข่งในอเมริกาแบบผิดหูผิดตา
– นักแข่งและทีมแข่งสัญชาติอเมริกันที่มากขึ้น เนื่องจากการเปิดตลาดโดยเจ้าของใหม่ และการเข้าถึงคนดูหน้าใหม่ที่มากขึ้น ซึ่งถูกเบิกทางไปก่อนแล้วโดยทีม Trackhouse
– MotoGP Ride to Survive รายการสารคดีตามติดชีวิตนักแข่ง MotoGP ที่ทำขึ้นเพื่อลงใน Netflix แบบเดียวกับที่ทำกับ Formula 1 Drive to Survive
– การแข่งขันในวันเสาร์อย่าง Sprint Race มีแนวโน้มจะอยู่ยาว เพราะเจ้าของใหม่จากอเมริการายนี้ คือต้นความคิดการเพิ่มช่วง Sprint Race เข้ามาใน Formula 1 มาก่อนสักพักแล้ว คงจะเป็นตัวช่วยเพิ่มความมั่นคงของการจัดแข่งขันในวันเสาร์ได้เป็นอย่างดี
– ราคาค่าตั๋วและค่าลิขสิทธิ์ที่อาจจะแพงมากขึ้น เนื่องจากตอนนี้ Liberty Media ได้ผูdขาดกีฬามอเตอร์สปอร์ตที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกทั้ง Formula 1 และ MotoGP และนอกจากนี้ยังมี WSBK ที่อยู่ภายใต้ชายคาเดียวกันที่ถูกซื้อรวมไปด้วย แปลว่ามีตัวเลือกในตลาดที่น้อยลง อาจนำไปสู้การโก่งราคาที่มากขึ้น รวมถึง มีความเป็นไปได้ที่ Liberty Media อาจจะขายแพ็คเกจ ร่วมเช่น MotoGP ลิขสิทธิ์ ปีละ 300 ล้าน F1 ปีละประมาณ 1,000 ล้าน หากซื้อแยก จะต้องใช้เงินกว่า 1,300 ล้านบาท แต่ Liberty Media อาจขายเป็นแพ็คคู่ เหลือประมาณ 1,000 ล้านบาท เป็นต้น
– การตรวจสอบโดยคณะกรรมการป้องกันการผู้ขาดของสหภาพยุโรป เพราะก่อนหน้านี้ในปี 2006 บริษัท CVC Capital Partners ได้เคยครอบครองทั้งสองรายการนี้อยู่ช่วงหนึ่ง ก่อนที่จะถูกสหภาพยุโรปบังคับให้ขาย MotoGP ทิ้งไปเพื่อป้องกันการผู้ขาด ซึ่งอาจนำไปสู่ดราม่าให้เราได้ติดตามต่อในอนาคต
อ่านข่าวสาร MotoGP เพิ่มเติมได้ที่นี่
