MV Agusta Brutale 1000 Nurburgring ซุปเปอร์เนคเก็ทไบค์โมเดลใหม่ล่าสุดจากค่ายอิตาลี ถูกเผยโฉมอย่างเป็นทางการแล้วเมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมา แถมในคราวนี้ยังเป็นโฉมพิเศษที่ผลิตขึ้นด้วยจำนวนจำกัด เพียงไม่กี่คันบนโลกอีกด้วย
สำหรับข้อมูลในเบื้องต้น MV Agusta Brutale 1000 Nurburgring คันนี้ ก็จะใช้พื้นฐานตัวรถเดียวกันกับ Brutale 1000 RR รุ่นดั้งเดิม เพียงแต่ในคราวนี้ มันจะมาพร้อมกับลวดลายกราฟฟิกพิเศษ ที่เน้นโทน เงิน แดง ดำ และทอง เป็นหลัก แถมยังออกแบบให้ตัวรถดูมีความโฉบเฉี่ยวมากยิ่งขึ้น ตั้งแต่บนลงล่าง นอกจากนี้ยังมีการเสริมของแต่งที่เห็นได้ชัดเจนจากภายนอกเพิ่มมาอีก 2 รายการ ได้แก่ชุดวิงเล็ทคาร์บอนชิ้นจิ๋วที่จะติดตั้งเหนือไฟหน้า และชุดล้อคาร์บอนของ BST ที่ไม่ใช่ล้อคาร์บอนสีดำธรรมดา แต่เป็นล้อคาร์บอนเหลือบทอง ซึ่งทำให้ตัวรถดูหรูรายิ่งขึ้นแถมยังทำให้รถมีน้ำหนักเบาลงกว่าเดิม 3 กิโลกรัม เหลือ 183 กิลโกรัม (ไม่รวมของเหลว) ช่วยให้ผู้ขี่สามารถควบคุมรถได้ดั่งใจมากยิ่งขึ้น
นอกนั้นในด้านข้อมูลทางเทคนิคต่างๆของ Brutale 1000 Nurburgring ก็ยังคงเหมือนกันกับ Brutale 1000 RR ทุกอย่าง ทั้ง เครื่องยนต์ 4 สูบเรียง 999cc ที่ได้รับการปรับจูนให้ผ่านมาตรฐาน Euro 5 เรียบร้อย เคลมแรงบิดสูงสุด 116.5 นิวตันเมตร ที่ 11,000 รอบ/นาที เท่าเดิม กับแรงม้าสูงสุด 208 PS ที่ 13,000 รอบ/นาที และพร้อมจะขยับแรงม้าสูงสุดขึ้นไปอีกเป็น 215 PS ที่ 13,200 รอบ/นาที เมื่อติดตั้งชุดกล่อง ECU Race Kit ที่ปรับจูนใหม่ และท่อไอเสีย Titanium Full-System จาก Arrows
ชุดเฟรมหน้าแบบเหล็กโครโมลีถัก เฟลงกลาง และซับเฟรมอลูมิเนียม, ระบบช่วงล่าง โช้กหน้าหัวกลับ Öhlins Nix EC และโช้กหลัง Öhlins EC TTX และสามารถปรับความแแข็ง-อ่อนร่วมถึงความหนืดได้ตลอดเวลาด้วยระบบไฟฟ้า ผ่านการทำงานร่วมกันกับชุดกล่อง ECU ทำงานร่วมสวิงอาร์มอลูมิเนียมแขนเดียวที่สามารถปรับตำแหน่งแกนได้ ชุดปั๊มเบรกคู่หน้าแบบเรเดียลเมาท์โมโนบล็อครุ่นใหม่ล่าสุด Stylema จาก Brembo ทำงานร่วมกับจานเบรกคู่ขนาด 320 มิลลิเมตร และไม่ลืมที่จะใส่ชุดกันสะบัดมาให้ด้วย
ด้านระบบอิเล็กทรอนิกส์สำหรับจัดการตัวรถก็ยังคงครบครันทั้ง ระบบประมวลผล MVICS 2.1 ซึ่งมีฟังก์ช่อนย่อยหลากหลายทั้ง Engine Mode, Misfire Torque control, Traction Control, Anti-Wheelie, Launch Control, Quickshifter Bi-Direction, Auto-off Indicator, Cruise control, และ Cornering ABS ซึ่งแต่เดิมจะเป็นระบบที่รับผิดชอบโดยทาง Bosch แต่ในตัวรถปี 2021 จะเปลี่ยนมาให้ทาง Continental รับผิดชอบแทน โดยระบบทั้งหมดที่ว่านี้จะแสดงผลบนหน้าจอ TFT-Full Color ขนาดใหญ่ 5 นิ้ว ที่สามารถเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนเพื่อเข้าถึงฟังก์ชันระบบนำทาง, รับสายเข้า, หรือจะเข้าถึงแอพพลิเคชัน MV Ride การการปรับเซ็ทระบบต่างๆภายในตัวรถด้วยโทรศัพท์ก็ยังได้
โดยตัวรถ MV Agusta Brutale 1000 Nurburgring จะถุกผลิตขึ้นเพียง 150 คันบนโลกเท่านั้น และตัวเลขลำดับการผลิต ก็จะถูกเลเซอร์เอาไว้ที่เพลทอลูมิเนียมตรงแฟริ่งคาร์บอนด้านข้างตัวรถ ส่วนราคาค่าตัวก็สนนตัวเลขเอาไว้ที่ 39,900 ยูโร หรือราวๆ 1,562,000 บาท
อ่านข่าว MV Agusta เพิ่มเติมได้ที่นี่
