รู้หรือไม่ ทำไม Honda CBR250RR ไม่ทำตลาดในไทย ? มาไขข้อข้องใจกับ MotoRival กัน

0

ผ่านไป 3 ปีนับตั้งแต่เปิดตัวครั้งแรกเมื่อปี 2016 เราก็ยังไม่เห็นวี่แววว่าทาง A.P. Honda จะทำการเปิดตัว CBR250RR (ซึ่งน่าจะเป็น CBR300RR สำหรับตลาดประเทศไทย) ในบ้านเรา จนทำให้หลายคนต่างสงสัยว่าทำไม หรือเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ที่ทำให้จนตอนนี้เรายังไม่ได้มีโอกาสได้สัมผัสตัวเป็นๆของมัน

2019-honda-cbr250rr-hrc-endurance-color-scheme-01
ดังนั้นในวันนี้เราจึงจะมาวิเคราะห์กันซักหน่อยดีกว่าครับ ว่าทำไม เจ้า Honda CBR250RR สปอร์ตไบค์พิกัดยอดนิยมคันนี้ ถึงไม่ยอมขายในไทยเสียที ?

honda-cbr250rr-engine
และสาเหตุแรกก็คือการที่เรามองว่าน่าจะเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ CBR250RR ไม่ขายไทยก็ยังคงเป็นสาเหตุประจำที่เราได้ยินกันบ่อยมากก็คือ “มาตรฐานไอเสีย” อันสุดแสนจะเข้มงวดในบ้านเรา เนื่องจากว่าประเทศไทยเรา จะใช้มาตรฐานไอเสียสูงพอๆกับทางฝั่งประเทศยุโรป (ตอนนี้อยู่ในระดับเทียบเคียงกับ Euro4 เตรียมต่อ Euro5 เพราะต้องไม่ลืมว่าเราคือประเทศที่เป็นฐานการผลิตเพื่อส่งออกรถไปวางจำหน่ายในประเทศเหล่านั้น) ส่วนมาตรฐานไอเสียของประเทศอินโดนีเซียดูจะเข้มงวดน้อยกว่าอย่างเห็นได้ชัด เพราะพวกเขาพึ่งปรับไปใช้ Euro3 ในปีนี้ และยังมีรถมอเตอร์ไซค์ 2 จังหวะขายในท้องตลาดเมื่อปีก่อนได้อยู่เลย ดังนั้นตัว CBR250RR คันนี้จึงน่าจะผ่านมาตรฐานไอเสียในระดับแค่ Euro3 เท่านั้น

Honda-CBR250RR-Right-Back
แต่เอาจริงๆแล้วข้อมูลในจุดนี้แหล่งข้อมูลวงในได้มีการเปิดเผยให้กับเราเองว่าส่วนหนึ่งที่โมเดลนี้เอาเข้ามา หรือผลิตเพื่อวางจำหน่ายไม่ได้เพราะติดเรื่องค่าไอเสียที่สูงเกินไปจริงๆ ดังนั้นจึงแทบไม่ต้องอธิบายสาเหตุนี้ต่อให้ยืดยาว

CBR250RR-Dashboard
ส่วนสาเหตุที่สองคือ หากมองออปชันต่างๆของตัวรถ ทั้งระบบกันสะเทือนด้านหน้าแบบโช้กตะเกียบคู่หัวกลับ, สวิงอาร์มหลังอลูมิเนียม, และที่สำคัญคือโหมดเครื่องยนต์ 3 ระดับ พร้อมคันเร่งไฟฟ้า จะเห็นได้ว่าล้วนเป็นออปชันที่ดูดีกว่า CBR500R รุ่นปี 2016-2018 ที่เปิดตัวไล่เลี่ยกัน(และอาจจะรวมถึงรุ่นปี 2019 ในตอนนี้) ทั้งหมด

2016-Honda-CBR500R_01
ทำให้หากมันถูกเปิดตัวขายจริงราคาของมันอาจจะขยับไปติดกับสปอร์ตไบค์ยอดนิยมพิกัดครึ่งลิตรรุ่นดังกล่าวเกินไป ซึ่งเราก็มีตัวอย่างให้เห็นแบบชัดๆก็จากการที่ Honda ประเทศญี่ปุ่น ได้วางจำหน่าย 2018 CBR400R (2018 CBR500R รุ่นปรับลดควาจุเครื่องยนต์ลงตามกฏหมายประเทศญี่ปุ่น) ในราคาเงินเยนที่ 783,000 เยน หรือราวๆ 229,700 บาท ส่วน 2018 CBR250RR รุ่นธรรมดาจำหน่ายในราคาเงินเยนที่ 784,000 เยน หรือราวๆ 231,000 บาท และจะขยับขึ้นไปเป็น 806,760 เยน หรือราวๆ 236,700 บาท ด้วยซ้ำในรุ่น ABS

2017-honda-cbr250rr-kabuki-limited-edt-10
นอกจากนี้ ด้วยความที่ปกติแล้วรถมอเตอร์ไซค์ตลาดตั้งแต่ 650 ซีซี ลงมา ที่ A.P. Honda ได้จำหน่ายในไทยจะผลิตในไทยเท่านั้น ส่วน CBR250RR ไม่ได้ผลิตในไทยแต่แรก ทำให้อาจจะโดนกำแพงภาษี ซึ่งแม้จะไม่มีการคิดภาษีนำเข้าเพราะเป็นการนำเข้าจากประเทศในแถบอาเซียน แต่ก็มีภาษีสรรพสามิตรและค่าขนส่งอื่นๆให้บวกเพิ่ม ทำให้ราคาต้นทุนสูงขึ้นไปอีก เพราะต้องนำเข้าตัวรถจากประเทศอินโดนีเซีย

2019-honda-cbr250rr-hrc-endurance-color-scheme-01
ดังนั้นหากอิงความต่างของราคาตามนี้ ตัว CBR250RR อาจจะตีตลาดได้ยาก เพราะต้องยอมรับจริงๆว่าธรรมชาติของลูกค้าชาวไทยส่วนใหญ่นั้นเป็นประเภท “คลั่ง ซีซี” ทำให้เมื่อมีรถมอเตอร์ไซค์ที่ราคาใกล้เคียง(หรือแพงกว่า)รุ่นใหญ่เปิดตัวออกมา พวกเขาเหล่านั้นมักเลือกซื้อรุ่นใหญ่กว่าไว้ก่อน ส่วนออพชันต่างๆถ้าไม่ได้ด้อยกว่ามากก็มองข้ามมันไปได้ เนื่องจากยังไงก็การันตี “ความแรง” กับความเป็น “รุ่นใหญ่” ที่หลายคนถวิลหาจากความจุที่เพิ่มขึ้น และทาง A.P. Honda ก็ย่อมพิจารณาเรื่องนี้ไว้ในหัวเป็นอันดับต้นๆแน่นอน

honda-cbr250rr-my19-official-05
และทั้งหมดที่ว่ามานี้คือสาเหตุที่เราสามารถวิเคราะห์ได้ ถ้าหากเพื่อนๆคนไหนมีความคิดเห็นเพิ่มเติมยังไงก็เชิญคอมเมนท์เสนอที่หน้าเพจ MotoRival กันเข้ามาได้เลยครับ

อ่านข่าวสาร Honda เพิ่มเติมได้ที่นี่

เพื่อนๆ Bikers สามารถติดตามข่าวสารวงการล้อ ได้ทางแฟนเพจ MotoRival ของเราครับ

Share.

About Author

error: Content is protected !!