รีวิว 2022 YZF-R15M / R15 1st impression รถสปอร์ตเอนทรี่ ที่จัดเต็มทั้งความแรง และเทคโนโลยี สุดในคลาสขณะนี้ เหลือแค่ราคาเท่านั้น
รีวิว 2022 YZF-R15M / R15 ในครั้งนี้เราได้มาทดสอบกันที่ แก่งกระจานเซอร์กิต แบบ สัมผัสแรกในแทร็ก ลักษณะ Sneak Preview ก่อนเปิดตัวพร้อมประกาศราคาอย่างเป็นทางการใน BIMS2022 อีกไม่กี่วันข้างหน้า จะเป็นยังไงมาเริ่มกันเลยครับ
ก่อนอื่น ผมจะขอไม่เล่าถึงดีเทล ตัวรถซ้ำนะครับ เพราะได้ ทำคอนเท้นต์พรีวิว ไปแล้ว (ชมได้ที่นี่)
ก็หลักๆ ตามที่บอก R15M จะอัพเกรดเพิ่ม นอกเหนือ จากรูปลักษณ์หน้าตาแล้วก็มี QS, TC และ ABS รวมถึงตัวจับเวลา Laptime ให้
เริ่มที่ท่านั่ง
2022 YZF-R15 ท่านั่งต้องบอกเลยว่าเป็นมิตรกว่าเดิม เพราะแฮนด์คลิปออนที่ต่ำเตี้ยในตัวเดิม มันเมื่อยมาก หมอบเกิน ขี่บนถนน หรือ ขี่นานๆ ปวดหลังมากๆ แถมน้ำหนักกดช่วงข้อมือปวดอีก แต่ตัวนี้ดูผ่อนคลายขึ้นมา แต่ยังให้ฟีลเรซซิ่งได้อยู่
พักเท้าถูกขยับไปด้านหลังมากขึ้น ก็ทำให้ตำแหน่งช่วงวางเท้าออกไปทางสปอร์ตมากขึ้น ซึ่งสอดคล้องกับตัวเบาะที่ยาวกว่าเดิม คือ ผมว่าดูดีกับคนสรีระที่สูง เพราะ ตัวเก่าๆ อาจจะต้องยกก้นขยับไปที่เบาะนั่งคนซ้อนกันเลย เพื่อให้ได้ Aerodynamics หมอบขี่แบบเรซซิ่งเต็มพิกัด
รุ่นใหม่คันนี้ คือ ให้เราได้ยืดช่วงตัวได้ยาวขึ้นไม่ต้องนั่งขดอยู่แต่ตรงกลางช่วงลำตัวรถ
ส่วนถังน้ำมัน พบว่ามันโหนกสูงขึ้นนิดหน่อย อ้วนขึ้นในแบบรถ Bigbike ก็อาจติดช่วงพุงนิด (หากใครมีพุง)
แต่ช่วงล่างของตัวถังจะเว้าลงมา ทำให้รู้สึกกระชับเวลาที่หนีบท่อนขาได้ดีขั้น และเวลาเราต้องการเลื่อนจัดท่า Hang On ก็สะดวกมากขึ้นด้วย ซึ่งโดยรวมสำหรับผมแล้วชอบถังตัวใหม่นี้มากกว่า
นน. ตัว R15M ด้วยความที่จัดระบบเทคโนโลยีมาให้แบบเต็มๆ ทำให้มันต้องมี นน. เพิ่มขึ้นมาอีก 3 กก. คือ 140 กก. เมื่อเทียบกับ R15 Connected ที่จะมี นน. เท่าโฉมเดิม คือ 137 กก.
เครื่องยนต์ 155 VVA บล็อกนี้ขึ้นชื่ออยู่แล้ว ทั้งความแรงสุดในคลาส และการันตีได้ในหลายโมเดลทั้ง MT-15, XSR155, Aerox, Nmax รีดกำลังได้ทุกย่าน ต้น-ปลาย โดยเฉพาะช่วงรอบ ประมาณแตะๆ 7,000rpm+ ขึ้นไป ช่วงนี้บิดแล้วรอบกวาดมาเร็ว ติดมือมากๆ รู้สึกถึงแรงดึงได้ดีจากช่วงวาล์วเปิด ให้ความเร้าใจ
และกับแทร็กเล็กๆ โค้งแคบ อย่างแก่งกระจานนี้ ผมว่า เครื่องพิกัดนี้ กำลังพอดีมือขี่สนุก ไม่แรง เกินไปจนเกร็ง เติมเกินแล้วล้น จนคุมยาก อย่างไรก็ดี มันก็แรงสุดในคลาสอยู่ดี นอกจากนี้ยังมี Slipper Clutch ให้เหมือนเดิม ช่วยลดแรงดึง Engine Brake ช่วงจังหวะ Shift Down เกียร์ไม่ให้ล้อล็อก คอนโทรลได้ง่าย
สำหรับ R15M อันนี้ ชอบเลย เพิ่ม QS มาให้ (1Way) ขึ้นอย่างเดียว ทำให้เราขี่ในแทร็กได้สนุก ต่อเกียร์ไหลลื่น ไม่เสียจังหวะ อันนี้ชอบมากๆ เลย
และก็ที่บอกว่า R15M นั้นมี Laptime ให้จับเวลาได้ โดย สามารถเซ็ทไปที่ Track Mode รอบเครื่องจะเริ่มโชว์ที่ 6,000rpm+ ขึ้นไป แถมด้วยการกดจับเวลาได้จากปุ่มไฟ Pass สะดวกมากๆ
ภาพรวมเครื่องผมไม่ติดขัดอะไร มีเพียงท่อไอเสียนี่ล่ะดูแล้วไม่เข้าตาสักเท่าไร จนผมว่าท่อตัวเก่ายังดูทรงสวยกว่านี้
ระบบกันสะเทือน โช้กหน้า USD เหมือนเดิม ทั้ง 2 รุ่นย่อย ด้านหลัง Monoshock
ภาพรวมก็ถือว่าแน่นเฟิร์มดีอยู่แล้ว ยิ่งกับการขี่ในแทร็กเช่นนี้ ผมว่ากำลังดีเลย จังหวะคืนตัวตอนผ่านบางช่วงของ Track ที่ Bumping ผมพบว่ามันไม่ดีดจนย้วย กำลังตึงแน่นๆ แต่ถ้าขี่บนถนน ก็จะรู้สึกว่ามันแข็งไปหน่อย แต่เข้าใจได้ ช่วงล่างอารมณ์สปอร์ต แน่นๆ เน้นขี่ใช้แบบสมรรถนะ
ระบบเบรก ด้านหน้าตัว R15M ให้เป็น bybre พร้อมระบบ ABS
ส่วนด้านหลังจะเป็น Nissin 1 pot
โดยรวมต้องเรียนตามตรงว่าผมเป็นคนไม่ชอบการทำงานของระบบ ABS อยู่แล้ว เพราะ ทำให้การกะระยะเบรกเพื้ยนไปหน่อย กับพิกัดประมาณ 150cc นน. ตัวไม่มากนัก ผมว่าไม่ค่อยจำเป็นเท่าไร ถ้าไม่ได้ขี่บนฝนตกถนนลื่นๆ
รวมถึงการกดลงน้ำหนักปั๊มเบรก Bybre หลายตัวผมว่า มันออกแนวทื่อๆ ต้องลงน้ำหนักเยอะอีกหน่อย คือ กดแล้วไม่ได้จับแน่นนัก ซึ่ง R15 ที่มี Slipper Clutch มาด้วย Engine Brake ถือว่าค่อนข้างต่ำอยู่แล้ว เลยต้องมากดเบรกหนักเพิ่มไปอีก
อันนี้ต้องบอกว่าเป็นข้อสังเกต ของตัวผมเองกับตัว R15M ครับ คนอื่นอาจจะชอบ เบรกของ R15M มากกว่าก็ได้
สรุป รีวิว 2022 YZF-R15M / R15 แบบสัมผัสแรก ในสนามแก่งกระจาน ถือเป็นรถที่ขี่สนุกเลย ไม่ต้องแรงมาก แต่ยังไงมันก็แรงสุดในคลาสอยู่ดี แถมเทคโนโลยีก็ให้มาเกินใคร อีก เอาเป็นว่าไม่ต้องพูดเยอะสุดในคลาส เอนทรี่สปอร์ต 150 แล้ว มีจุดนิดเดียว ที่ขัดตาผมเลย คือ ท่อไอเสียมันทรงไม่สปอร์ตเลย ถ้าเป็นไปได้ผมคงเปลี่ยนท่อก่อน
ตอนนี้ก็เหลืออย่างเดียว คือ ราคา! ผมแอบลุ้น ตัวเริ่ม R15 Connected ไม่ให้เกิน 1 แสน
แต่ตัวท็อป R15M น่าจะทะลุแน่ๆ แต่เท่าไร ไว้มารออัพเดทไปพร้อมๆกันครับ
อ่านข่าว Yamaha เพิ่มเติมได้ที่นี่
อ่านรีวิว เพิ่มเติมได้ที่นี่
