รีวิว 2023 Ducati Scrambler Next Gen ทดสอบก่อนเปิดตัวในไทย จาก บาเลนเซีย ก่อนเปิดตัวในไทย 3 เดือน
รีวิว 2023 Ducati Scrambler Next Gen โดยทีมงาน MotoRival นั้น ได้มีโอกาสไปร่วมทดสอบ International Press Test ที่ บาเลนเซีย ประเทศสเปน ตั้งแต่เมื่อต้นเดือน เม.ย. ที่ผ่านมา และเรารอ Embargo เปิดตัวในประเทศไทยกันก่อน ซึ่งล่าสุดก็ได้เปิดตัวออกมาแล้วเมื่อวานนี้
สำหรับในส่วนของรายละเอียดตัวรถ 2023 Scrambler Next Gen ดีเทล สเป็กเบื้องต้นผมได้ ทำคอนเท้นต์ พรีวิว ไปแล้วสามารถรับชมได้ที่นี่ ดังนั้นในคอนเท้นต์นี้ผมขอเข้าเนื้อหาฟีลลิ่ง การรีวิวเจ้า Next Gen ใหม่กันเลย
เริ่มที่ท่านั่ง
ความสูงเบาะจากตัวเลข มันสูงขึ้น 5 มม. มาอยู่ที่ 795 มม. แต่จากการที่เบาะมันออกแบบใหม่ให้ดูแบนลง ผมกลับรู้สึกว่ามันเหยียบลงได้เต็มเท้ามากขึ้น คือดูไม่ลำบากต่อผู้ขี่ไซส์เอเชียอย่างเราๆ มากนัก
ส่วนตัวแฮนด์บาร์ตามสไตล์รถ สแครมเบลอร์ เป็นแฮนด์กว้าง ยกสูงประมาณหนึ่ง หนังขี่หลังตรงสบายๆ ซึ่งโดยรวมผมว่ามันเหมาะสมกับสไตล์รถ และเผื่อเวลายืนคอนโทรลลุยทางฝุ่นด้วย
แต่ถ้าขี่ในเมืองรถติดๆ ก็อาจพบว่ามันดูยาว เกะกะเวลามุดรถติดอยู่บ้าง
ตำแหน่งพักเท้าก็จะยกและเยื้องไปด้านหลังนิดๆ อารมณ์ Naked Sport ทั่วไป ซึ่งผมขี่นาน เหมือนกันทั้งวันราวๆ ร่วม 3 ชม. ก็แอบมีเมื่อยนิดหน่อย
เครื่องยนต์ L-Twin ระบายความร้อนด้วยอากาศ 803cc ซึ่งมีการปรับปรุงรายละเอียดภายในใหม่ นน.เครื่องลดลงไปราว 2.5 กก. แต่การที่ทำให้ผ่านมาตรฐานไอเสียระดับ EU5 จึงทำให้กำลังลดลงด้วย โดยกำลังสูงสุดลดลง 2 ม้า เหลือ 73 Hp @ 8,250 RPM และแรงบิดสูงสุด ตกลง 2.8Nm เหลือ 65.2 Nm @ 7,000 RPM
คาแรกเตอร์ต้องบอกว่า ด้วยการหันมาใช้คันเร่งไฟฟ้า ทำให้การตอบสนองโดยรวมดีขึ้น และภาพรวมตัวรถผมว่ามันดิบน้อยลง แต่ ถ้าขี่ใน Mode Road เปิดคันเร่งก็ต้องระวังอยู่ดี คือ เรื่องกำลังใช้งานทั้งการเดินทาง หรือขี่ในเมืองพละกำลังถือว่าเพียงพอแล้ว เพียงแต่ คาแรกเตอร์เป็นมิตรต่อผู้ขี่ยิ่งขึ้น
แต่อย่างไรก็ดีมีระบบ DTC เข้ามาช่วยและปรับได้ละเอียด 4 ระดับ จุดนี้ ถือว่าช่วยให้มันเป็นรถที่ขี่ได้ง่าย และเหมาะกับมือใหม่มากยิ่งขึ้น
ส่วนความร้อนนั้น ต้องเรียนตามตรงว่า Valencia อากาศถือว่าค่อนข้างเย็นเลย ทำให้ผมรู้สึกเฉยๆ มาก จนหลายครั้งยังอยากเอามือไปอังบริเวณข้างเครื่องเลย ยังอาจตอบไม่ได้ในเรื่องประเด็นความร้อนเมื่อเทียบกับเจนก่อน
ระบบกันสะเทือน หน้าแบบหัวกลับจาก KYB ขนาดแกน 41 มิลลิเมตร และโช้กหลังเดี่ยว KYB ปรับพรีโหลดได้ ระยะยุบ 150 มม. ทั้งหน้า-หลัง โดยมันวางบนสวิงอาร์มใหม่ ในเจน 2 นี้ โช้กจะวางกลางบอดี้แล้ว จากที่รุ่นเดิมมันวางเยื้องมาด้านซ้าย
ผมรู้สึกว่า เรื่องของประสิทธิภาพนั้น ทำได้ดีขึ้นในจังหวะพลิกรถ มันคม และพลิ้วขึ้น
ขณะที่การซับแรงสะเทือนผมว่า มันทำได้ดีเลย ตัวเดิมผมก็รู้สึกว่าฟีลช่วงล่างมันไม่ดูแข็ง
เอาเป็นว่าผมขี่แล้วชอบ เล่นโค้งที่ Valencia มั่นใจพลิกรถไล่เกาะตาม Marshall Leader ได้อย่างสนุกสนาน
ระบบเบรก หน้าแบบดิสก์เดี่ยวขนาด 330 มิลลิเมตร ทำงานร่วมกับคาลิเปอร์แบบเรเดียวเม้าท์ 4 พอร์ตจาก Brembo และด้านหลังดิสก์เดี่ยวขนาด 245 มิลลิเมตร ทำงานร่วมกับคาลิเปอร์ 1 พอร์ตจาก Brembo มาพร้อม Cornering ABS
สไตล์การทำงานของระบบเบรก ก็ยังตอบสนองได้ดี แม้จะเป็นจานดิสก์เดี่ยว ผมว่าเพียงพอกับพละกำลังตัวรถแล้ว แต่การเพิ่ม Cornering ABS ยิ่งทำให้เราขี่ได้อย่างมั่นใจมากขึ้นในทางโค้ง
สรุป รีวิว 2023 Ducati Scrambler Next Gen ถือว่า ขี่ได้สนุกยิ่งขึ้น จากการออกแบบโครงสร้างใหม่ และเพิ่มเทคโนโลยีช่วยเข้ามา ทำให้มันดูเป็นมิตรมากกว่าเดิม เหมาะสมและตอบโจทย์กับคนรุ่นใหม่ มีลูกเล่นเปลี่ยนชิ้นพลาสติกสีถังให้ DIY เองได้ โดยค่าตัวเพิ่มขึ้นจากรุ่นก่อนประมาณ 2 หมื่นบาทในตัวเริ่มอย่าง Icon ผมว่าใครมองหารถ Ducati ตัวเริ่ม ขี่แบบมี Lifestyle Scrambler Next Gen นี้ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจครับ
ราคา 2023 Ducati Scrambler Next Gen เริ่มที่
– Icon 3.99 แสนบาท
– Nightshift 4.59 แสนบาท มากับสไตล์ Cafe แฮนด์บาร์องศาต่ำ, แบบจับโช้ก, กระจกปลายแฮนด์, เบาะหนังสีน้ำตาล, ใช้ล้อซี่, ตัวถังสีน้ำเงินเข้ม
– Full Throttle 4.64 แสนบาท มาในสไตล์ Flattrack สีดำแดง ให้ท่อแต่ง Termignoni และ QS 2Ways มาด้วย
อ่านข่าวสาร Ducati เพิ่มเติมได้ที่นี่
อ่าน รีวิว เพิ่มเติมได้ที่นี่
อ่านข่าว Ducati เพิ่มเติมได้ที่นี่