ขากลับจากร้านอาการมายัง Ducati Thailand ทางเราได้ลองสลับมาสัมผัส Ducati Scrambler Sixty2 กันช่วงสั้นๆ
โดยรวมรูปลักษณ์ของ Scrambler Sixty2 นั้นจะมีรูปทรงที่ใกล้เคียงกันกับ Icon (803cc) ทั้งไฟหน้า-ไฟท้ายเป็นแบบเดียวกัน
ทางด้านท้ายจะไม่ใช่ท้ายโล่ง เพราะมีขายึดทะเบียน, กระจกมองข้างเป็นทรงกลม, ก้านเบรกไม่สามารถปรับระดับไม่ได้
มาตรวัดทรงกลม รวมไปถึงสวิทช์ไฟซ้าย-ขวา แบบเดียวกันกับ Icon ซึ่งจะไม่ขอพูดซ้ำ
Scrambler Sixty2 มีน้ำหนักตัว Wet Weight 183 กก.
มีความสูงเบาะ 790 มม. เท่ากันกับ Icon เพราะใช้เบาะรูปแบบเดียวกัน
ถังน้ำมันจุ 14 ลิตร (จุกว่า 0.5 ลิตร)
ขณะที่ท่านั่งการขับขี่โดยรวมเหมือนกันกับตัว Icon เพราะใช้แฮนด์ทรงเดียวกัน เบาะแบบเดียวกัน
เครื่องยนต์ L-Twin 399cc ระบายความร้อนด้วยอากาศ ให้กำลัง 41 แรงม้า@8,750rpm และแรงบิด 34.6Nm @8,000rpm ซึ่งเครื่องบล็อกใหม่นี้ ถูกปรับให้ผ่านเกณฑ์มาตรฐานไอเสีย Euro4
หลังจากที่ขี่แบบกระชากๆ ใน Icon 803cc แล้วมาต่อที่เจ้า Sixty2 คันนี้ที่พิกัดน้อยกว่าถึงครึ่งหนึ่งพบว่า การเปิดคันเร่งออกตัว สมูทนิ่มๆ ขึ้นเรื่อยๆ แบบเดียวกับรถ 2 สูบ พิกัด 300cc แม้อาจจะดูไม่จี๊ดเท่ารถสปอร์ต แต่ทอร์คดีกว่าเล็กน้อย การขี่ใช้งานในเมืองก็ถือว่าทำได้ดียังคงให้ความสนุกได้ ขี่ควบคุมได้ง่ายกว่าเยอะ
ด้วยความที่ทอร์คและแรงม้าออกมาในช่วงใกล้ๆ กันทำให้ช่วงรอบเครื่องยนต์ต้นนั้นไม่หวือหวานักแต่ ย่านกลางขึ้นไป จะให้ความรู้สึกที่มาแบบเรียบๆ ดึงแบบนิ่มๆ ขณะที่ความเร็วเราทำได้ที่ระดับ 130 กม./ชม. ก็ไม่ใช่เรื่องยากนัก เมื่อลงจากสะพานข้ามแยกใหญ่ๆ ไม่ต้องกลัวเลยว่ากำลังเครื่องยนต์จะน้อยไป ไม่เพียงพอกับการขี่ในเมือง
ขณะที่ไอร้อนที่แผ่ออกมานั้นอยู่ในเกณฑ์ที่รับได้ ไม่ถึงกับต้องดับเครื่องตามแยกไฟแดง ซึ่งเราจะได้ไออุ่นๆ ทางฝั่งซ้ายของเครื่องยนต์ออกมาเล็กน้อย แต่ก็ถือว่าร้อนกว่าพวกรถสปอร์ตตระกูล 300 ทั้งหลาย พอสมควรเนื่องจากพวกนั้นมีหม้อน้ำเข้ามาช่วย
สำหรับการซับแรงสะเทือนนั้น ช่วงล่างด้านหน้าที่ปรับมาใช้โช้คธรรมดา Traditional จาก Showa 41 มม.
ทำให้ในช่วงซับแรงสะเทือนจากทางด้านหน้านั้น จะไม่ดีเท่า Icon มีสะเทือนขึ้นแฮนด์ในจังหวะ Damp หนักๆ ขณะที่โช้คหลัง มากโช้คหลังเดี่ยวก็ให้การขับขี่ที่นิ่มนวลนั่งสบายไม่แพ้กัน
ระบบเบรกมาพร้อม ABS ทั้งหน้า-หลัง ด้านหน้าจานเดี่ยวขนาด 320 มม. คาลิปเปอร์ 2 ลูกสูบจาก Brembo เบรกหลังจานเดี่ยวขนาด 245 มม. คาลิปเปอร์ 1 สูบ จาก Brembo เช่นกัน ในส่วนนี้นับตามสเป็กแล้วก็ ถือว่ากลางๆ เพียงพอกับการใช้งาน แต่ก็ไม่ได้ดูหนึบแน่นมือเท่า Icon ซึ่งฟีลลิ่งนั้นดูจะใกล้เคียงกับรถสปอร์ตตระกูล 300 ทั้งหลาย เบรกชะลอความเร็วได้ดีตามปกติ แต่หากซัดมาหนักๆ แน่นอนว่ามันอาจจะเบรกได้ไม่แน่นเชื่องมือนัก จากปั๊มที่มีขนาดเล็กกว่า
สรุป Ducati Scrambler ทั้ง Icon และ Sixty2 ถือเป็นรถ Scrambler Modern ที่นำอดีตกลับมาปรับปรุงใหม่ ให้เข้ากับยึคสมัยปัจุบัน ทำให้มันดูโดดเด่นขึ้น รวมถึงฟังก์ชั่นการใช้งานที่สะดวกสบายยิ่งขึ้น
แม้จะมีรูปลักษณ์ที่ใกล้เคียงกัน แต่นิสัยใจคอก็ต่างกันอย่างสิ้นเชิง จากขุมพลังที่ดิบ แรง ในรุ่น Icon (803cc) ขณะที่ Sixty2 (399cc) จะให้ความนุ่มสมูทขี่ง่าย สบายมือ
ขณะที่ออปชั่นอย่างโช้คหน้าและเบรกหน้าก็ ตามสเป็กและราคาที่ต่างกันเกือบ 1 แสนบาทด้วย
เอาเป็นว่าถ้าอยากขี่หล่อๆ แต่งต่อได้สบายๆ ไม่เน้นเร็วแรงอยู่แล้ว Sixty2 เลย เหลือเงินแต่งอีกเพียบ
หากรักความแรง ที่ยังคงเอกลักษณ์เครื่อง L-Twin ทอร์คจัด ซุ่มเสียงดุดัน และสมรรถนะการขี่ที่ดี Scrambler Icon เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจในตลาดราคาระดับนี้
Ducati Scrambler Sixty2 ราคา 2.82 แสนบาท
Ducati Scrambler Icon ราคา 3.699 (สีแดง) – 3.749 (สีเหลือง) แสนบาท พร้อม Worry Free 2 ปี 18,000 กม.
ขอขอบคุณ Ducati Thailand สำหรับกิจกรรม Scrambler in the city
ภณ เพียรทนงกิจ Test Driver
อ่านรีวิวอื่นเพิ่มเติมได้ที่นี่
อ่านข่าว Ducati เพิ่มเติมได้ที่นี่
เพื่อนๆ Bikers สามารถติดตามข่าวสารวงการล้อ ได้ทางแฟนเพจ MotoRival ของเราครับ