รีวิว GPX Gentleman Racer 200 เติมความหล่ออีกขั้น ให้สุภาพบุรุษ ด้วยสไตล์คาเฟ่เรเซอร์ ร่วมสมัย

ย้อนไปเมื่อ 3 ปีที่แล้ว ทาง GPX ได้มีการเปิดตัว Gentleman 200 รถมอเตอร์ไซค์แนวโมเดิร์นสปอร์ต-คาเฟต์ที่จัดเต็มด้วยอออพชัน กับรูปลักษณ์ที่หล่อทันสมัยไม่แพ้ใคร ซึ่งในตอนนั้นถือว่าพวกเขาประสบความสำเร็จมากสำหรับการทำตลาดโมเดลนี้ จนกระทั่งกาลเวลาผ่านไปเพียงครู่เดียว ในช่วงสิ้นปี 2018 ที่ผ่านมา ค่ายสัญชาติไทยก็ได้เลือกรุกตลาดรถมอเตอร์ไซค์แนวนี้ให้เต็มที่ขึ้นไปอีกขั้นด้วย GPX Gentleman Racer 200 คันที่เรากำลังจะมารีวิวให้เพื่อนๆ รับชมกัน

Gentleman Racer 200 จะมาพร้อม ภาพลักษณ์ใหม่ในแบบฉบับดุดัน ตามสไลต์สายดาร์กมาดเข้ม ซึ่งถือเป็นการปรับโฉมครั้งแรกตั้งแต่ถือกำเนิดรุ่นนี้มาเป็นระยะเวลากว่า 2 ปีแล้ว และในที่สุด วันนี้เราก็ได้รับโอกาสจากทาง GPX ให้ทดสอบเจ้าโมเดิร์นสปอร์ตคาเฟ่ต์ที่แท้ทรูเสียที แต่มันจะสร้างความประทับใจให้กับพวกเราแค่ไหน มาดู รีวิว GPX Gentleman Racer 200 กันเลยครับ

เริ่มกันที่รูปลักษณ์ดีไซน์ของ Gentleman Racer 200 ซึ่งแน่นอนว่าดั้งเดิมแล้ว มันจะถูกออกแบบโดยอิงพื้นฐานจาก Gentleman 200 ที่ถูกดีไซน์โดยนักออกแบบชาวอิตาลี จนกลายเป็นโมเดิร์นคาเฟ่ ที่แม้ชื่อจะดูเก๋าระดับตำนาน แต่งานดีไซน์ผสมผสานระหว่างความคลาสสิคและความโมเดิร์น ดูดีลงตัว

และจุดเด่นแรกที่เห็นได้ชัดเจนที่สุดของ Gentleman Racer ที่ต่างจาก Gentleman 200 ธรรมดาก็คือ การที่มันมีชุดโม่งหน้าลากยาวไปจนถึงข้างถังน้ำมัน แบบตัวแข่ง GP ยุคคลาสสิค เสริมครอบลงไปบนไฟหน้าทรงกลมที่มีแถบไฟ Day Time Running Light LED ล้อมรอบ

ไฟท้ายเป็นแบบ LED เช่นกันแต่ทำโคมสีแดง ส่วนไฟเลี้ยวทั้งหน้า-หลัง เป็น LED ทำเลนส์สีสโม้ค

ชุดแฮนด์บาร์เป็นแบบยึดติดกับแผงคอ วางระดับเดียวกัน ตรงตามคอนเซปท์ รถโมเดิร์นคลาสสิค สไตล์ คาเฟ่ต์-เรเซอร์

และเพิ่มกระจกปลายแฮนด์ สามารถปรับหมุนตำแหน่งได้เกือบ 180 องศา ทั้งไว้ข้างบน – ด้านข้าง – ด้านล่าง

ตัวถังน้ำมันมีความจุรวม 13 ลิตร แยกเป็นถังหลัก 11.5 ลิตร และถังสำรอง 1.5 ลิตร มีปุ่มบิดอยู่ทางด้านใต้ฝั่งซ้ายของตัวถัง และมีการเพิ่มลูกเล่น เป็นเข็บขัดหนังพาดกลางตัวถัง รวมถึงการใช้แถบชื่อรุ่นใหม่แบบ 3D Emblem ช่วยเพิ่มลุคหรูหราให้กับตัวรถได้เป็นอย่างดี

ฝาถังเป็นแบบฝายก โดยตัวผู้ใช้จะต้องเปิดฝาพับด้านบนขึ้นเพื่อขันกุญแจ

ตัวเบาะนั่งทำลายแบบคาร์บอนเคฟล่า เดินตะเข็บสีแดง ให้อารมณ์สปอร์ต แต่นั่งได้อย่างสบาย เนื่องจากบุโฟมมาค่อนข้างหนา และนุ่ม

ครอบท้ายตูดมดสไตล์สปอร์ตคาเฟ่ สามารถถอดออกได้ง่าย แค่ใช้ประแจหกเหลี่ยมขันน็อตออกเพียง 2 ตัว และจะสังเกตได้ว่า มันไม่มีเพลทหมายเลข 10 เหมือน Gentleman 200 รุ่นแรก เนื่องจากโฉมนั้นเป็นโฉมฉลองครบรอบ 10 ปี ดังนั้นในโฉมใหม่นี้จึงตัดเพลทดังกล่าวออกไป แล้วแทนที่ด้วยตูดมดทรงเพรียวกว่าเดิม พร้อมแปะตัวสติ๊กเกอร์ที่มีประโยคนิยามประจำตัวรถว่า “Timeless Speed”

นอกจากนี้ ยังมีชุดแฟริ่งอีกชิ้นติดตั้งมาให้นั่น ก็คือ อกล่าง

ท่อไอเสียออกข้าง ทำจากวัสดุสแตนเลสทั้งเส้น ดูสวยงาม และให้ซุ่มเสียงที่ ทุ้ม แน่น ดูมีพละกำลัง แต่ไม่ดังเกินไป

ล้อซี่ลวดขอบ 17 นิ้ว รัดด้วยยางยาง Pirelli Angel City ขนาด 110/70-17 สำหรับด้านหน้า และ 140/70-17 ทางด้านหลัง

มาตรวัดถ้วยกลม Full Digital มีลูกเล่นที่การเปลี่ยนสีได้มากถึง 7 สี แสดงผลครบครับทั้ง ความเร็ว, รอบเครื่องยนต์, ระดับน้ำมัน, ระยะทางรวม, ตำแหน่งเกียร์ และปริมาณประจุไฟฟ้าแบตเตอรี่แบบสเกลด้วย

สำหรับมิติของ Gentleman Racer 200
อยู่ที่ 790 x 2,020 x 1,100 ตามสัดส่วน กว้าง x ยาว x สูง ในหน่วย มม.
ระยะฐานล้อที่ 1,400 มม.
มีน้ำหนัก 160 กก. ซึ่งถือได้ว่ามีขนาดตัวใกล้เคียงรถสปอร์ตระดับ 250-300cc

ส่วนความสูงเบาะที่ 730 มม. ไม่สูงเกินไป ทำให้ผู้ขี่ส่วนใหญ่นั่งเหยียบได้เต็มเท้า

ด้านท่านั่ง และการขี่ใช้งานจริงในเมือง พบว่า ด้วยองศาแฮนด์บาร์ที่เตี้ยมากแทบจะระนาบเดียวกับเบาะนั่งตามฉบับรถมอเตอร์ไซค์แนวสปอร์ตคาเฟต์ หากไปที่รถติด ด้วยลักษณะลำตัวช่วงบนที่ต้องก้มหลังโน้มตัวไปข้างหน้าตามระดับความสูงของแฮนด์บาร์ จึงอาจทำให้การเลี้ยวลัดเลาะการจราจรไม่คล่องตัวมากเท่าไหร่นัก ส่วนการเดินทางไกลยิ่งต้องใช้ความเคยชินพอสมควรถึงจะขี่เจ้านี่นานๆแบบไม่เมื่อยได้

นอกจากนี้ตัวกระจกปลายแฮนด์เอง หากตั้งองศาการกางของกระจกไว้ที่ระดับเดิมตอนออกโรงงาน ก็เป็นอีกหนึ่งข้อสังเกตที่ทำให้ใช้ Gentleman 200 มุดช่องจราจรได้ยากกว่าปกติ ดังนั้นหากบิดกระจกให้หักเข้ามาตรงกลางจนส่วนนอกของกระจกอยู่ระดับเดียวกับตุ้มปลายแฮนด์ ก็ดูจะทุเลาปัญหาตรงนี้ไปได้อีกเยอะเลยทีเดียว

ขุมพลังครื่องยนต์ ขนาด 197cc จ่ายน้ำมันด้วยคาบูเรเตอร์ ระบายความร้อนด้วยอากาศ แต่ติดตั้ง Oil Cooler ช่วยระบายความร้อนตัวน้ำมันเครื่อง ส่งกำลังด้วยชุดเกียร์ 6 สปีด ขณะที่ชุดคลัทช์ที่ให้มานั้น น้ำหนักค่อนข้างจะหนักไปสักนิด ดังนั้นในการใช้งานในเมืองจึงอาจจะเมื่อยล้านิ้วมือข้างซ้ายกันบ้าง หากต้องซอกแซกเป็นเวลานานๆ

ด้านพละกำลังนั้นมีให้ใช้เหลือเฟือ ช่วงต้นและกลางติดมือดีมากสำหรับการเร่งแซง เมื่อเปิดคันเร่งหนักลากรอบเครื่อง พบแรงดึงพอประมาณ จนเริ่มออกอาการตื้อที่ 8,000 รอบ/นาที ภาพรวมถือว่าเป็นที่น่าพอใจ อาจสั่นบ้างเล็กน้อยตามสไตล์รถสูบเดี่ยว แต่ไม่ถือเป็นปัญหาแต่อย่างใด ขณะขี่เดินทางไกลถือว่ากำลังเพียงพอ ไม่ต้องเค้นลากรอบให้เหนื่อย เดินทางไกลไปได้ไม่ลำบาก เพราะตัวรถสามารถขี่ไต่ความเร็วขึ้น 130 กิโลเมตร/ชั่วโมงได้ภายในไม่กี่อึดใจ ส่วนความเร็วสูงสุดที่ได้อยู่ที่ 140 กิโลเมตร/ชั่วโมง และอัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเฉลี่ย ทำได้แตะๆ 30 กม./ลิตร ด้วยการขี่แบบตะบี้ตะบันคันเร่งเปิดเต็มตลอดเวลาทุกครั้งที่ถนนโล่ง สลับกับการคลอคันเร่งเบาๆช่วงรถติดหนักๆในเมืองซึ่งคิดสัดส่วนแล้วก็ยังน้อยกว่าตอนอัดคันเร่งช่วงทางโล่งๆอยู่ดี (ดังนั้นถ้าเพื่อนๆคิดว่าตัวเองไม่ได้ขี่ดิบขนาดตัวผู้ทดสอบก็หายห่วงเรื่องอัตราิส้นเปลืองได้เลยครับ)

ระบบกันสะเทือน โช้กหน้าแบบ Up Side Down ที่ไม่ใช่แค่หล่อขึ้นเท่านั้น แต่มันเพิ่มความเสถียรภาพของตัวรถด้วย
โช้ก UpSideDown ใน Gentleman Racer 200 นี้ จะให้ความรู้สึกตอนเบรก/เลี้ยว ที่มั่นใจ คล่องตัว และอาจจะติดนุ่มไปนิดเท่านั้น

โช้กหลังเดี่ยวจาก YSS สามารถขันปรับ Preload ได้ 6 ระดับ นอกจากนี้ยังมีกระเดื่องหลัง มาช่วยซับแรงอีกด้วย ช่วงล่างหลังจึงหนึบ สามารถสาดโค้งแรงๆได้ระดับนึงเลยทีเดียว

ระบบดิสก์เบรก
ด้านหน้า Twin Disc หรือจานคู่ ทำงงานร่วมกับ ปั๊มเบรก Radial Mount จัดเต็มไม่น้อยหน้ารถสปอร์ตระดับ Mid Sized ส่วนสัมผัสในการใช้งาน แม้น้ำหนักของก้านจะดูแข็งไปนิด แต่เบรกตอบสนองได้อย่างเหมาะสม สามารถหยุดกำลังเครื่องของ Gentleman คันนี้ได้สบายๆ เรียกได้ว่าสอดคล้องบาลานซ์กันกับ ช่วงล่างด้านหน้า

และในส่วนของเบรกหลัง ที่เป็นแบบจานเดี่ยว ทำงานร่วมกับปั๊มเบรก คาลิปเปอร์ 1 ลูกสูบ ยึดแบบ Floating-Mount นั้น กลับให้ความรู้สึกที่นิ่มนวล ไล่แรงในการเบรกได้ดีกว่าทางด้านหน้า

สรุป รีวิว 2019 GPX Gentleman Racer 200 คันนี้ ถือเป็นอีกตัวเลือกหนึ่งที่น่าสนใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่กำลังมองหารถมอเตอร์ไซค์แนว โมเดิร์นคลาสสิค สไตล์คาเฟต์-เรเซอร์ ตัวจริง กับกลิ่นอายอารมณ์ตัวแข่ง GP ยุคคลาสสิค ที่ได้รับจากโม่งหน้าแบบใหม่ ทรวดทรงถังน้ำมัน ไปจนถึงตูดมด ดีไซน์สวยงาม ผสานกับ โช้กหน้าหัวกลับ, ดิสเบรกคู่หน้า, โช้กหลังเดี่ยวที่มาพร้อมกระเดื่องทดแรง และเครื่องยนต์พิกัดเฉียด 200cc หม้อลม แต่มีออยคูลเลอร์ ที่ทำงานผสานกันได้อยางดีในแบบรถมอเตอร์ไซค์สมัยใหม่

สำหรับ GPX Gentleman Racer 200 มีมาให้เลือกด้วยกัน 2 เฉดสีบนเนื้อผิวพิเศษแบบด้าน ได้แก่ สีแดง (Red Mat) และ สีดำ (Black Mat) ด้วยราคาค่าตัวเพียง 72,500 บาท ถือว่าคุ้มค่าคุ้มกับเม็ดเงินที่ไป หากมองจากออพชั่นต่างๆที่เรากล่าวไป และหากเพื่อนๆคนไหนสนใจ ก็สามารถติดต่อสอบถามทางร้านตัวแทนจำหน่าย GPX ทุกสาขาทั่วประเทศได้เลยตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปครับ