รีวิว GT270 หลังจากที่ทีมงาน MotoRival เราได้ไปงานเปิดตัวพร้อมทดสอบ New GT270 เป็นครั้งแรกในโลก มาเมื่อช่วงประมาณ 2 สัปดาห์ก่อน (คลิ๊กชมได้ที่นี่) ซึ่งในครั้งนั้นเป็นการทดสอบแบบสั้นๆ ในลานจอดรถขี่อยู่ประมาณ 2 นาที และในวันนี้เราได้กลับมาอยู่กับมันอีกครั้ง มาเก็บตกประเด็นที่ยังขาดตกไปกับเจ้า Keeway GT270 คันนี้ จะเป็นยังไงเรามาว่ากันเลยครับ
เริ่มกันที่รูปลักษณ์ภายนอก
GT270 มีดีไซน์ ดูคล้าย Italjet Dragster ในช่วงไฟหน้าและชุด Cowling หน้า
ก็ไม่ต้องแปลกใจครับ เพราะว่าเขาใช้ OEM เดียวกัน
ชุดไฟหน้าเป็นแบบ LED โปรเจ็คเตอร์ โดยมีไฟ DRL อยู่ด้านบน
ตรงขอบด้านล่าง ตกแต่งลายเคฟล่า ดูสวยและดุ
รับกันกับ ชุดพลาสติกข้างลำตัว + พลาสติกคอนโซลด้านบน
ตัววินชิลด์ให้มาเป็นสีดำ (ถ้าเป็นตัว Extreme จะให้ชิลด์สูงสี Smoke)
ชุดไฟท้าย LED มีไฟเลี้ยวอยู่ภายในโคม
ตัวแฟริ่งท้าย และโลโก้ ดูสวยงามพรีเมี่ยมในแบบรถยุโรป (สีดำด้านโลโก้จะเป็นสีทอง)
ระบบกุญแจให้เป็น Smartkey รูปทรงคล้ายรถยนต์
ควบคุมการเปิด/ปิดด้วยปุ่มที่คอนโซลกลาง
ชุดมาตรวัดแบบครึ่งถ้วยกลมทางซ้ายบอกความเร็ว ด้านขวาบอกรอบเครื่อง
ตรงกลางเป็นจอดิจิตอล LCD แสดงผลข้อมูลพื้นฐานค่อนข้างครบ
ทางเก๊ะซ้าย ขนาดค่อนข้างเล็ก พอใส่กระเป๋าสตางค์+กุญแจ ลงไปได้ มาพร้อมพอร์ท USB
เมื่อเปิดเบาะขึ้นพบ U-Box ความจุ 10 ลิตร
ขนาดไม่ใหญ่มาก พอวางของจุกจิกได้ประมาณหนึ่ง
มิติรถ Keeway GT270
กว้าง x ยาว x สูง = 800 x 1,930 x 1,130 มม.
ระยะฐานล้อ = 1,390 มม.
ความสูงเบาะ = 785 มม.
น้ำหนัก 147 กก.
ถังน้ำมันจุ 12 ลิตร
ท่านั่ง GT270
เริ่มที่ความสูงเบาะ 785 มม. ถือว่าปกติใกล้กับ Sport Entry Bike ทั่วไป
แต่ตัวเบาะค่อนข้างแคบเลย
ผมสูง 175 ซม. สวมผ้าใบเหยียบลงได้เต็มเท้าหย่อนเข่าสบาย
คือ ไม่ต้องกังวล เหมือนพวก BigScooter 300-350 ฝั่งญี่ปุ่น
เพราะพวกนั้นออกแบบตามสรีระคนยุโรป
แต่ ถ้าเทียบจะมีอีกรุ่นหนึ่ง ในพิกัด 400cc ที่ CBU จากญี่ปุ่น ซึ่งคันนั้น ออกแบบตามสรีระคนเอเชีย
เบาะจะเตี้ยกว่า GT270 และแคบด้วย ทำให้ ดูจะยิ่งลงเท้าได้เต็มกว่าอีกหน่อย แต่ผมกลับมองว่า คันนี้ ท่านั่งดูจะสบายที่สุด ช่วงไหล่จะไม่ไม่ยก เพราะเบาะจม
GT270 สำหรับผม มีจุดติงนิดนึง คือ ช่วงแฮนด์เขา วงเลี้ยวดูแคบไปหน่อย คือ ถ้าใครช่วงขายาวๆ
และติดนั่งแบบเหยียดขาขันไปด้านหน้า เวลาหักสุดแบบ Full lock อาจจะติดช่วงเข่าหน่อย ต้องระวัง
ซึ่งผมไม่ได้มีโอกาสทดสอบตัว Extreme แต่ ตัวนั้น ให้เป็น Fatbar และองศา ระยะยกช่วงแฮนด์ อะไรต่างๆ จะดูให้การคอนโทรลดีขึ้น เหมือน Scooter ADV 150
ณ จุดนี้ ถ้าใครซีเรียสก็ไปเปลี่ยนแฮนด์เอาได้ หรือ จะเลือกเป็นตัวท็อป Extreme เลยก็ยังได้
โดยภาพรวมในเรื่องของการคอนโทรลผมว่ามันดูดีในระดับหนึ่งเลย คือ อย่างที่บอกทั้งเรื่อง ความสูงเบาะ นน.ตัว และ Sizing ทำให้เราขี่ได้มั่นใจกว่า Big Scooter ในคลาสเดียวกัน คันอื่นๆ
ความคล่องใกล้เคียง AT150 คันอื่นๆ เรียกว่าอยู๋ระหว่าง AT150 กับ Big Scooter ทั้งหลาย
ตำแหน่งผู้ซ้อน แม้เบาะจะไม่ใหญ่มาก แต่สำหรับผมเองยังนั่งได้เต็มก้น
แต่จุดที่ไม่ชอบเลยคือ เส้นสายแฟริ่งท้ายที่ขึ้นมาเป็นสันคม ทำให้นั่งแล้วเจ็บช่วงน่องมาก ซึ่งการแก้ปัญหามี 2 ทาง คือ 1 วางเท้าให้ เขยิบไปข้างหน้าให้มากเพื่อหลบมุมสันดังกล่าว แต่ปัญหา คือ พักเท้าเราจะเหยียบได้ไม่เต็มเท้า วางได้เพียงแค่ส้นเท้า
หรืออีกวิธีคือต้องนั่งแบะขาออก ซึ่งก็มีความเสี่ยงหากผู้ขี่เปิดคันเร่ง อย่างรุนแรง อาจทำให้เหวอหงายหลังได้
ขณะที่มือจับกันตกยังรู้สึุกจับได้ไม่กระชับกับมือนัก
ขุมพลังเครื่องยนต์ สูบเดียว หม้อน้ำ พิกัด 278.2cc มีกำลัง 21.45 แรงม้า@7,250rpm แรงบิดสูงสุด 23 Nm@6,000rpm
และใช้น้ำมันเครื่องเพียง 0.8 ลิตร เท่านั้น
โดยภาพรวมต้องบอกว่าสไตล์เครื่องบล็อกนี้ดูจะคล้ายๆ กับตระกูล Vespa GTS300 แต่ด้วยการที่มันอยู่บนบอดี้ที่เล็กไม่หนักมาก และไซส์ล้อ 13″ ทั้งด้านหน้า-หลัง
ทำให้ นั่นจึงทำให้การออกตัวอัตราเร่งตีนต้น ดีในระดับหนึ่งเลย
แต่ต้องเข้าใจฟีลลิ่งก่อนว่า มันอาจจะไม่ได้รู้สึกดิบ เปิดกระชากเหมือน พวกพิกัดเกือบ 300 หรือ 350cc
แต่ขี่ออกตัวในเมืองก็นับว่าอัตราเร่งดีใช้ได้ ช่วงกลาง-ปลาย ก็มาแบบไหลๆ ไม่ได้หวือหวา แต่ก็เรียกว่ามาให้ใช้ขี่เดินทางได้
ส่วนความเร็วกลาง – ปลาย นั้น ไม่ได้ทดสอบเลย เพราะอย่างที่บอกครับ เร่งออกตัวประมาณ 20-30 ม. ต้องกำเบรกแล้ว
ทีมงาน Keeway บอกเราว่าจากที่พวกเขาได้ทดสอบจะได้ประมาณ 140 กม./ชม. แต่จากที่ทีมงาน MotoRival เราได้หน้าไมล์ถึง 154 กม./ชม. ส่วนค่า GPS จริงได้เท่าไร
ดูในคลิปทดสอบอัตราเร่ง-TopSpeed ได้เลยครับ
ขณะที่อัตราสิ้นเปลืองเคลม 31 กม./ลิตร
จากการใช้งานจริงพบว่าได้ช่วง 25 กม./ลิตร ขี่แบบไม่ประหยัด แต่ถ้าขี่แบบเรื่อยๆ ก็จะมีให้เห็นช่วง 27-28 กม./ลิตร
ระบบกันสะเทือน
ด้านหน้าโช้กหัวตั้งขนาดแกน 34 มม.
ด้านหลังโช้กคู่ OKD พร้อมกระปุกซับแทงค์ ปรับ Preload ได้
ภาพรวมการใช้งานต้องบอกว่า ทำได้ดี ทางด้านหน้า รู้สึกแม้แกนโช้กจะเล็ก แต่ความหนืดเหมาะสม ไม่รู้สึกนิ่มย้วยจนต้องไปเซ็ทน้ำมันโช้กแบบรถ BigScooter 300 คันอื่นๆ
ด้านหลัง ฟีลลิ่งเฟิร์ม ออกแข็งๆหน่อย แต่ก็อย่างว่าเป็นสไตล์ของโช้กแต่ง อย่างไรก็ดีถ้ารู้สึกแข็งไปก็สามารถขันปรับ Preload ที่เกลียวสตรัทได้อย่างละเอียด ต้องบอกว่าช่วงล่าง ถือว่าเพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วไป ไม่ต้องไปปรับแต่งอะไรเพิ่มแล้ว
แต่ถ้าใครอยากได้หล่อ ตัว Extreme ให้ โช้กหลัง Ohlins มาเลย ซึ่งจะสามารถปรับตัว Rebound เพิ่มได้
ระบบเบรก ABS จานดิสก์ทั้งหน้า-หลัง ให้ดีไซน์มาเป็นแบบใบหยัก มอบลุคสปอร์ต
ด้านหน้าขนาดจาน 240 มม. ทำงานร่วมกับ คาลิปเปอร์เรเดียล 4 Pot จาก J.JUAN
ด้านหลังขนาด 220 มม. คาลิปเปอร์
นอกจากนี้สายถักก็เป็นของ J-JUAN เช่นกัน ซึ่งต้องบอกว่า สายถักแบรนด์สเปนนี้ มันถูกใช้ในรถ Naked Roadster อย่าง StreetTriple RS ด้วย
โดยภาพรวมจานด้านหน้าขนาดอาจจะดูเล็ก แต่ก็ต้องเข้าใจว่าเนื่องจากล้อหน้าของเขาไซส์เพียงแค่ 13″ จึงทำให้ไม่สามารถใส่จานขนาดใหญ่ได้
แต่ก็ไม่ต้องห่วงครับ อย่างที่บอกไป ปั๊มหน้า 4 pot สายให้มาสายถัก สเป็กไม่กั๊ก และประสิทธิภาพ ถือว่าเอาอยู่
ขณะที่ระบบ ABS ผมว่าทำงานไวไป รวมไปถึงเรื่องของการลงน้ำหนัก รู้สึกว่าเบรกซ้ายจะออกแข็งๆกว่า กดนิดเดียวทำงานมากกว่า ทางฝั่งขวาที่จะออกนิ่มๆ ไล่น้ำหนักได้ ซึ่งต้องกดลงน้ำหนักเข้าไปลึกถึงจะมีแรงเบรกมากขึ้น เรียกได้ว่าด้านหลังจะดูแข็ง และ Sensitive กว่า
แต่อย่างไรก็ดีในจังหวะที่ ABS ทำงาน ผมว่า มันจับละเอียดเนียนดีใช้ได้
เอาเป็นว่าภาพรวมเบรกประทับใจ เบรกเดิมเอาอยู่ไม่ต้องไปทำต่อแล้ว แค่เบรกฝั่งซ้าย มันไวและออกแข็งไปหน่อยเท่านั้น
สรุป รีวิว GT270 รถสปอร์ต AT ในช่วงพิกัด 300cc ถือว่าเป็นรถที่ขี่สนุกทีเดียว ดีทั้งต้น-ย่านกลาง ปลายพอได้ ส่วนความคล่องตัวใช้งานในเมือง รวมถึงไซส์ตัวที่ไล่ๆ กับ AT 150cc จึงเอื้อต่อสรีระคนเอเชียอย่างเราๆ ทำให้ขี่ได้อย่างมั่นใจยิ่งขึ้น
ขณะที่ออปชั่น กับราคาก็ถือว่าคุ้มค่าใช้ได้เลยทีเดียว แม้จะไม่มี TCS มาให้ก็ตาม
สำหรับค่าตัว
ราคา Keeway GT270 อยู่ที่ 1.199 แสนบาท มี 2 สี คือ ขาว และดำด้าน (โลโก้ทอง)
ราคา Keeway GT270 Extreme ราคา 1.349 แสนบาท มีเพียงสีน้ำเงินด้าน ซึ่งจะมาพร้อมกับของแต่ง (โช้กหลัง Ohlins, การ์ดไฟหน้า, แครชบาร์, อลูมีเนียมแต่ง Floorboard)
หากเพื่อนๆ ที่สนใจจอง GT270 ทาง Keeway ยังมอบ Keeway Assist 24 ชม. ให้ 1 ปีเต็ม และการรับประกันรถนาน 5 ปีเต็ม หรือ 50,000 กม.
ไม่เพียงเท่านั้นผู้ที่จองออนไลน์ 300 คันแรก จะได้รับเบาะแต่งฟรีอีก มูลค่า 4,500 บาท
ปิดท้ายกันที่ใครหลายคนอาจจะกังวลเรื่องของศูนย์บริการซึ่งผมก็ต้องขอบอกก่อนว่าปัจจุบัน Keeway มีตัวแทนจำหน่ายในประเทศไทย ราวๆ 50 แห่ง
ซึ่งถ้าใครสนใจสามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ตามลิงค์ด้านล่างนี้ครับ
https://thailand.keeway.com/dealers
อ่านรีวิว เพิ่มเติมได้ที่นี่
อ่านข่าว Keeway เพิ่มเติมได้ที่นี่
