สวัสดีครับ เพื่อนๆ กลับมาพบกันอีกครั้งกับทีมงาน MotoRival เรา โดยในวันนี้ เราจะขอมา รีวิว MICHELIN ROAD 5 ยางรุ่นใหม่ ที่เพิ่งเปิดตัวกันสดๆ ร้อนจากทางมิชลิน
ROAD 5 ถือเป็นยางบิ๊กไบค์ สายสปอร์ตทัวเร่อ ประสิทธิภาพสูง จิตวิญญาณเดียวกับ POWER RS แต่เพิ่มประสิทธิภาพในพื้นผิวที่เปียก ทำให้ยางใหม่รุ่นนี้ มีความโดดเด่นในเรื่องการยึดเกาะทั้งผิวแห้งและผิวเปียก
สำหรับการรีวิวในครั้งนี้ เราได้รถ Yamaha MT-07 มาเป็นรถนายแบบ
สวมยางไซส์ 120/70/ZR17 ด้านหน้า และ 180/55/ZR17 ด้านหลัง ว่าแต่ยาง MICHELIN ROAD 5 ตัวนี้จะมีดีแค่ไหน เรามาดูกันเลยครับ
สำหรับยาง MICHELIN ROAD 5 นี้ เราจะเห็นได้ว่า เมื่อมองด้วยตาเปล่า มันมีความคล้ายคลึงกับยาง Michelin POWER RS ซึ่งเป็นยางสปอร์ต สมรรถนะสูง ซึ่งก่อนหน้านี้ทางทีมงานเราได้เคยรีวิวไปแล้ว (อ่านได้ที่นี่)
ตัว ROAD 5 นั้นได้หยิบยกเทคโนโลยี และรายละเอียดหลายอย่างมาจาก POWER RS ไม่ว่าจะเป็นลักษณะของร่องดอกยาง และสเกลภายในร่องดอกยาง
รวมถึงโครงสร้างยางแบบ 2CT+ แต่ ROAD 5 จะถูกปรับเปลี่ยนมาเน้นใช้กับการยึดเกาะบนพื้นผิวที่เปียกได้ดียิ่งขึ้น
มาเริ่มกันที่ลายดอกยาง
สำหรับ MICHELIN ROAD 5 ตามที่ได้บอกไป ถือเป็นยางตระกูลสปอร์ตทัวเร่อสมรรถนะสูง ซึ่งเน้นการใช้ที่ดีทั้งพื้นผิวที่แห้งและเปียก
เมื่อมองดูร่องดอกยางจะดูคล้ายกับ POWER RS คือ มีสเกลภายในร่องดอกยาง บ่งบอกว่าเหลือดอกยางให้ใช้งานอีกมากน้อยเพียงใด
สำหรับยาง Michelin ROAD 5 นี้ นำข้าจากยุโรป Made in Spain เช่นเดียวกับ POWER RS
ขณะที่แก้มยางด้านข้าง จะมีขีดสเกลบ่งบอกองศาในการใช้งานด้วยเช่นกัน
จุดที่มีเพิ่มเข้ามา ก็คือ ร่องรีดน้ำขนาดเล็ก ซึ่งมีชื่อเรียกว่า XST EVO (ซึ่งไว้เราจะมาพูดกันถึงส่วนนี้อีกที)
โดยล้อหน้า จะมีร่องรีดน้ำขนาดเล็กวางขวางระหว่างร่องดอกยางใหญ่
แต่ในส่วนของล้อหลัง ร่องดอกยางเล็กนี้จะเชื่อมต่อออกมาจากร่องดอกยางใหญ่
เทคโนโลยีโครงสร้างยาง MICHELIN ROAD 5
ในส่วนของเทคโนโลยีตัวยาง ACT+ ถือเป็นสิทธิบัตรของ มิชลิน เป็นการใช้ชั้นโครงสร้างยางเพียงชั้นเดียว แต่จะทำให้โครงสร้างยางมีความต่างกัน ระหว่าง หน้ายาง แก้มยาง และไหล่ยาง ด้วยการพับชั้นผ้าใบซ้อนทับพื่อเสริมความแกร่ง ให้เสถียรภาพในการเข้าโค้งที่ความเร็วสูง
ยางหน้าใช้เทคโนโลยี 2CT (2 Compound Technology)
ตรงกลางเป็น Medium Compound เน้นใช้งานยาวนาน ในการขี่ทางตรง รวมถึงเสถียรภาพที่มั่นคงในความเร็วสูง
ส่วนแก้มยางจะเป็น Soft Compound เน้นการยึดเกาะเข้าโค้ง
ยางหลังใช้ 2CT+ (2 Compound Technology Plus)
ซึ่งจะคล้ายกับ 2CT แต่จะเพิ่มเติมในส่วนของไหล่ยางล้อหลังจะมี Medium Compound อยู่ด้านในอีก 1 ชั้น เพื่อเสริมความแกร่งในการเข้าโค้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งจังหวะเดินคันเร่งออกจากโค้งหนักๆ
เทคโนโลยีร่องรีดน้ำ XST Evo
เทคโนโลยีนี้ ถือเป็นไฮไลท์สำคัญของ MICHELIN ROAD 5 เพราะเป็นเทคโนโลยีใหม่ ที่พึ่งใช้กับยางตัวนี้ ทำให้ยาง ROAD 5 มีความโดดเด่นในเรื่องของสมรรถนะในการใช้งานระยะยาว
MICHELIN ได้เคลมว่าแม้ยาง ROAD 5 จะใข้งานไปแล้วกว่า 3,000 ไมล์ (กว่า 4,800 กม.) มันยังมีระยะการเบรกบนพื้นผิวที่เปียกสั้นเท่ากับยาง PILOT ROAD 4 ใหม่
ซึ่งเทคโนโลยีร่องรีดน้ำ XST Evo ใหม่ นี้ คือ ร่องดอกยางขนาดเล็กที่มีการเพิ่มความลึกของโป่งด้านในร่องรีดน้ำ หมายความว่า ถ้าร่องยางที่ไม่มีพื้นที่ความลึกในร่องรีดน้ำตรงนี้นั้น เมื่อยางถูกใช้ไปเรื่อยๆ จนดอกสึก จะทำให้น้ำเริ่มขังในร่องเล็กๆ นี้ จนไม่สามารถรีดน้ำออกไปได้ แต่ XST Evo ซึ่งถือเป็นเทคโนโลยีใหม่ จะช่วยเข้ามาแก้ปัญหาน้ำขัง แม้ว่ายางจะใช้ไป จนดอกสึกก็ตาม เพราะการขยายเพิ่มความลึกของโป่งด้านในร่องรีดน้ำ จะช่วยเพิ่มพื้นที่ให้สามารถรองรับน้ำได้มากขึ้น น้ำจึงไม่ขัง จึงทำให้มีประสิทธิภาพในการรีดน้ำได้ดี
สำหรับการใช้งานจริง เบื้องต้น ทางเราต้องเรียนก่อนว่า ก่อนที่จะได้มารับยาง ROAD 5 คู่นี้ ใส่บน Yamaha MT-07 คันนี้ นั้น
เราได้เคยสัมผัสเจ้า ROAD 5 นี้มาแล้วครั้งหนึ่ง ในการทดสอบการตัดสินให้คะแนน Bike of the year 2019 by GPI (ทางทีมงาน MotoRival เราได้รับเกียรติให้เป็นคณะกรรมการให้คะแนน)
จังหวะที่ทางทีมเราได้ทดสอบรถ Naked Bike ในคลาสตั้งแต่ 300 ไปจนถึง 650 ผม พบว่า มีรถรุ่นหนึ่งที่ ขี่แล้วรู้สึกเลยว่าให้ Grip การยึดเกาะที่ดีกว่าเพื่อน จนทำให้เราแปลกใจ และต้องก้มลงไปดูยางบนรถ Naked คลาส 500 คันหนึ่ง ซึ่งพอเราก้มไปมองพบว่ามันคือยาง MICHELIN ROAD 5 ที่ให้ฟีลลิ่งการยึดเกาะที่ดีมาก ให้ความรู้สึกที่ดีกว่า Sport คลาส 500 ที่ได้ไปทดสอบมาในสนามช้างฯ ไปแล้ว อย่างเห็นได้ชัด
เริ่มที่ ฟีลลิ่งสัมผัสแรกในการทดสอบ Bike of the year ที่เราทดสอบแล้วประทับใจในยางนี้ตั้งแต่ครั้งแรก แม้ยังไม่ทราบเลยว่ามัน คือ ยาง ROAD 5
ตามที่กล่าวไป เนื่องจาก ROAD 5 เป็นยาง 2 Compound จิตวิญญาณเดียวกับตัว POWER RS มันจึงให้การควบคุมคอนโทรลรถ ที่ดี เพราะมีแก้มยางเป็น Soft Compound
ยิ่งมีรถหลายรุ่น สวมยางตัวอื่นๆ ด้วยแล้ว ยิ่งทำให้รับรู้ได้ถึงการยึดเกาะที่ดีกว่ารุ่นอื่นในคลาสเดียวกันอย่างชัดเจน
ตัวยางแม้เป็น 2 Compound ก็ จริง แต่ไม่รู้สึกถึงความหนืดที่แตกต่างกัน ทำให้การเลี้ยวโค้งตัวรถดูดโค้งดี ในแบบรถสปอร์ต ไหลลื่นเป็นจังหวะเดียว
ซึ่งตัวแก้มยางนั้นจะไม่มีดอกยางอยู่เลย เป็นผิวเรียบ จึงทำให้ได้ Grip การยึดเกาะในช่วงการเข้าโค้งแบบเต็มๆ คือ ฟีลลิ่งการเข้าโค้งนั้นเป็นแบบยางสปอร์ตแท้ๆ อย่าง POWER RS
ขณะที่จังหวะกระแทกคันเร่งหนักๆ แบบหมดปลอกก็ไม่มีอาการลื่นไถลออกมาให้เราเห็น โดยเฉพาะกับ MT-07 ที่มีทอร์คหนักแต่ต้น ยังรู้สึกถึงการยึดเกาะที่ดี และเมื่อทำความเร็วในทางตรงยังคงให้เสถียรภาพความมั่นคงที่ดีด้วย
และด้วยความบังเอิญ หรือไม่ก็ตาม เจ้า MT-07 ที่เราได้ทดสอบนี้ ก่อนหน้าที่เราจะเปลี่ยนมาสวมยาง ROAD 5 นี้ มันสวมยาง MICHELIN PILOT ROAD 4 พอดิบพอดี ทำให้เราสัมผัสได้ถึงความแตกต่างของ 2 ตัวนี้ ได้อย่างชัดเจน ว่า ROAD 5 ยึดเกาะ ได้ดีกว่าทันทีที่สัมผัส แม้ยางจะเป็น Soft Compound เหมือนกัน แต่ ROAD 5 ควบคุมได้ดีกว่า ขี่สนุกดูดโค้งกว่า และรู้สึกมั่นคงเมื่อเปิดคันเร่งออกหนักๆ
สำหรับร่องรีดน้ำ XST Evo น่าเสียดายที่ในช่วงการทดสอบของเราไม่มีช่วงที่ฝนตก แต่อย่างไรก็ดี เราได้ทดลองเบรกหลายครั้งบนพื้นผิวที่เปียก
พบว่าหากไม่เบรกหนักจนถึงขั้น ABS ทำงาน หน้ายางนั้นไม่มีอาการไถลออกมาให้เห็นเลย
มีจุดหนึ่งที่แอบติงเบาๆ คือ มันอาจจะมีดีดเศษหินใส่คันหลังได้ ในช่วงที่เราขี่ประกอบถ่ายภาพ เพราะร่องดอกยางใหญ่ ในสไตล์ยางสปอร์ต แบบเดียวกับ POWER RS นั้นมันดูจะค่อนข้างดีดเศษหิน ถ้าต้องขี่ผ่านทางลูกรัง เพื่อนๆ ที่ขี่ตามหลังอาจจะต้องระวังสักหน่อย
สรุปแล้ว รีวิว MICHELIN ROAD 5 ยางรถ BigBike ที่ได้รับการถ่ายทอด DNA มาจากยางตระกูล Supersport และ Superbike อย่าง POWER RS แต่ถูกทำให้มีสมรรถนะในการยึดเกาะบนพื้นผิวเปียกได้ดีขึ้น จากการเพิ่ม เรียกได้ว่ายึดเกาะดีทั้งแห้งและเปียก แถมยังมั่นใจได้เมื่อยางใกล้หมดดอก
ไม่ว่าจะคุณจะขี่รถแนวไหน Sport, Naked, และ Touring ก็สามารถใส่ยาง MICHELIN ROAD 5 ได้เพราะ มีขนาดไซส์ยางหลังหน้ากว้างตั้งแต่ 150 – 190
เรียกได้ว่าครอบคลุมรถพิกัด 300 – 1,000cc เลยก็ว่าได้
โดยราคานั้น เริ่มต้นที่คู่ละไม่เกิน 12,000 บาท และแพงสุดคู่ละไม่เกิน 14,000 บาท
สำหรับเพื่อนๆ ที่สนใจ สามารถติดต่อ และหารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.moto.michelin.co.th เบอร์ติดต่อ 02 700 3993
ขอขอบคุณ Yamaha Rider’s Club (YRC) สำหรับรถ Yamaha MT-07 ครับ
อ่านรีวิว อื่นๆเพิ่มเติมได้ที่นี่
เพื่อนๆ Bikers สามารถติดตามข่าวสารวงการล้อ ได้ทางแฟนเพจ MotoRival ของเราครับ