รีวิว Royal Enfield Guerrilla 450 ขี่ดี สนุก เป็นรถ RE ที่ขี่คอนโทรลดีเยี่ยมที่สุด
หลังจากที่ MotoRival เราได้รับเกียรติไปร่วมทริป เปิดตัวพร้อมทดสอบรถใหม่ Royal Enfield Guerrilla 450 ครั้งแรกในโลกที่ บาร์เซโล่า ประเทศสเปน ซึ่งเราได้พา พรีวิว รับชมคันจริง ตอนเปิดตัวใหม่กันไปแล้ว (รับชมได้ที่นี่) ในวันนี้ก็ถึงวัน Embargo ปล่อยรีวิวการขับขี่ให้ได้รับชมกันแล้ว เอาเป็นว่าพร้อมแล้วมารับชมกันเลย
อย่างที่บอกว่า ผม พรีวิว พาชมคันจริง ดีเทลรายละเอียดไปแล้ว ในคอนเท้นต์นี้ จึงจะขอมาเข้าที่ฟีลลิ่งสมรรถนะการขับขี่เป็นหลักกันเลยเท่านั้น ถ้าอยากดูดีเทลสเป็ก สามารถย้อนกับไปดูได้ในลิงค์พรีวิว
มาเริ่มกันที่ท่านั่ง
เบาะ Guerrilla 450 สูง 780 มม. ก็ถือว่าเป็นมาตรฐานของรถ Sport Entry ช่วงพิกัด 300-400cc ทั่วๆไป ผมสูง 175 ซม. ก็รู้สึกว่านั่งเหยียบลงได้เต็มเท้าเพราะช่วงปลายเบาะมันไม่ได้กว้าง
ในส่วนของช่วงแฮนด์นั้น ดูมีความเป็น Naked Street ทั่วๆไป ไม่ค่อยเหมือนแฮนด์ Scrambler เพราะแม้จะเป็น Fatbar แต่ก็ไม่ได้กว้าง และยาวมาก แฮนด์เป็นทรงกลาง องศากำลังพอดี เหมาะกับการขี่คอนโทรลได้อย่างคล่องตัว เน้นความสะดวกขี่สบาย
ขณะที่ถังน้ำมันออกแบบใหม่ ไม่ได้ยกมาจาก Himalayan 450 เพราะ ความจุถังเหลือเพียง 11 ลิตร หลายคนอาจมองว่ามันไม่ค่อยสวย ชอบถังทรงคลาสสิคอย่างตัว Hunter 350 มากกว่า แต่ส่วนตัวผม ชอบถังทรงนี้ แม้จะดูแบน แต่มันออกแบบมาเข่าหนีบถังได้กระชับดีกว่า Grip Tank เวลาขี่เข้าโค้งอะไรทำได้เหมาะสมมากกว่า
โดยรวมทั้งตำแหน่งวางเท้า ตำแหน่งแฮนด์ต่างๆ ผมถือว่านั่งได้สบาย เพราะอย่างที่เรามาขี่ทดสอบแม้จะไม่ได้ไกลมาก แต่ก็ถือว่าขี่นานมากพอสมควร ทั้งจากที่ขี่ได้ไม่เร็ว แถมจอดแวะพักถ่าย Rolling Shot หลาย Location ด้วยกัน ก็ยังพบว่าไม่เมื่อยเลย ต่างจาก Naked Roadster หลายรุ่น ที่จะพบอาการเมื่อยขา หรือ ปวดมือ บางครั้งอาจจะมีปวดสะบักหลังกันแล้ว
เครื่องยนต์ Sherpa 450 หม้อน้ำ ยกมาจาก Himalayan 450 แรงม้า แรงบิด เท่าเดิม 40hp 40Nm
แต่มีการปรับจูนคาแรกเตอร์การตอบสนองเล็กน้อยให้มันเหมาะสมกับการเป็นสไตล์ Roadster และ มีการปรับสเตอร์หลังให้ลดลง 2T
จากการขับขี่ ก็ต้องถือว่ามันเป็นรถที่มีคาแรกเตอร์เครื่องขี่สนุก เหมาะสมกับไซส์ขนาดรถ แรงพอประมาณ กำลังดี ขี่ในเมืองอัตราเร่งถือว่าใช้ได้
อย่างไรก็ดี มีบางจังหวะ ที่เรารีบออกตัวเร็วๆ ในเมือง และเผลอกระแทกคันเร่งล้นไปหน่อย ล้อเลยมีอาการ Slip อยู่บ้างซึ่งก็ต้องเข้าใจว่ามันไม่มีระบบ TCS และยางเป็น Dual Purspose ซึ่ง Grip ไม่ได้ดีมาก จึงมีอาการออกมาให้เห็น
เอาจริงๆ เคสนี้ หรือ มือใหม่ ยังไม่ชินคันเร่ง ก็สามารถปรับเป็น Eco Mode ใช้งานได้ แต่ก็อย่างที่บอก ว่าถ้าขี่ซิ่ง หรือ ขี่ช่วงทริปที่เราหวดกันขึ้นลงเขาในบาร์เซโลน่า แบบนี้ไม่ค่อยเหมาะ แน่นอน เพราะไล่ตามขบวนไม่ทัน
กับอีกจุด ที่ยังแอบเป็นข้อสังเกต คือ อาการของคันเร่งไฟฟ้ามัน ยังดูไม่ค่อย Linear แม่นยำนัก ยังตอบสนองแบบมีจังหวะหน่วง Lag อยู่ ทำให้บางจังหวะยังเดินคันเร่งได้ไม่ทันใจเท่าที่ควร
ในส่วน TopSpeed เป็นที่น่าเสียดายที่ MotoRival เราไม่มีโอกาส ได้ทดสอบกัน เพราะเป็นการขี่ Group Test รูปแบบขบวนซึ่ง Marshall คนนำ ล็อกความเร็วช่วง 100kmph ตามหน้าปัด เอาเป็นว่ารอไว้ตอนเปิดตัวในไทย เราจะมาลอง TopSpeed Test ให้ได้ชมกันอีกที
ระบบกันสะเทือน
ด้านหน้าโช้กหัวตั้ง
ด้านหลัง Monoshock ปรับสปริงพรีโหลดได้ โดยจะมาพร้อมกระเดื่องทดแรง
จุดนี้ ถือได้ว่าเป็น Keypoint สำคัญของ Guerrilla 450 คันนี้เลย มันทำให้การขี่คอนโทรลทำได้ดีเยี่ยมมาก
ด้วยถ้านั้งตำแหน่งแฮนด์อะไรต่างๆ แม้สเป็กช่วงล่างหน้าจะแพ้คู่แข่งอย่าง Speed400 แต่ การคอนโทรลนั้นมันทำได้ดีกว่า เรียกได้ว่าเป็นรถ RE ที่แฮนด์ลิ่งการคอนโทรลดีที่สุด ตั้งแต่ที่ผมเคยขี่มาเลย แต่ติดนิดเดียว คือ ซีรีย์ยางที่ให้มาเป็น Dual Purpose เพราะนิยามที่ทาง RE เรียกมันว่า Modern Roadster รวมถึงภาพลักษณ์ที่ออกมาจาก Teaser รวมถึงเส้นทางที่ให้สื่อได้ขับขี่ น่าจะให้ยางสปอร์ตมาเลยดูจะเหมาะสมกว่า
ระบบเบรก ดิสก์เดียวหน้าหลังมาพร้อม ABS
ทางด้านหน้า ทำงานร่วมกับปั๊ม Bybre 2 pots ด้านหลัง 1 pot
จากภาพรวมการใช้งานก็ถือว่าเพียงพอกับพละกำลังตัวรถ แบบใช้งานทั่วๆไป แต่อย่างไรก็ดี การขี่เล่นโค้งในเขาที่บาร์เซโลน่า เรายังต้องใช้จังหวะ Shift Down เกียร์ช่วยด้วย เพื่อให้เข้าโค้งได้ปลอดภัย เพราะเนื่องจากจังหวะที่ซัดมาเร็วๆ ก็ยังต้องเผื่อระยะเบรกกันอยู่สักหน่อย
สรุป รีวิว Royal Enfield Guerrilla 450 ถือได้ว่ามันเป็นรถที่มีความสวยงาม และเป็นรถ RE ที่แฮนด์ลิ่ง การคอนโทรลควบคุมได้ดีที่สุด ขี่สนุกสุด ตั้งแต่ที่ผมได้เคยขี่รถ RE มาเลย แถมขี่ได้สบายๆ ไม่เมื่อยเมื่อขี่ทางยาว
ที่เหลือ ก็รอแค่เข้าไทย ทางผู้บริหารบอกว่าปลายปีนี้ กับราคาเท่าไร เพราะนี่ถือเป็นงานหินของค่ายเลย เนื่องจากไทยเรามีราคา Triumph Speed400 ค้ำ อยู่ในช่วง 1.6 แสน กับ ออปชั่นที่ให้มาดีกว่า
อ่านรีวิว เพิ่มเติมได้ที่นี่
อ่านข่าว Royal Enfield เพิ่มเติมได้ที่นี่