รีวิว Triumph Trident 660 รถเน็คเก็ทมิดไซส์ ที่พร้อมมาแย่งชิงส่วนแบ่งการตลาดจาก CB650R, SV650A, MT-07, Z650
รีวิว Triumph Trident 660 โดยพวกเราทีมงาน MotoRival หลังจากที่ได้เปิดเมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมา สร้างความฮือฮา ให้กับรถ BigBike คลาสมิดไซส์ ในประเทศไทย ด้วยการทำราคาชนกับกลุ่ม 650cc ญี่ปุ่น รวมถึงเรื่อง Service Maintainance ในวันนี้เราได้มีโอกาสมารีวิวกันเสียที จะเป็นเช่นไร ขี่ดีไหม มาว่ากันเลยครับ
เริ่มกันที่ดีไซน์ของ Trident 660 ถือเป็นรถ Naked Roadster ที่แฝงสไตล์โมเดิร์นคลาสสิค เอาไว้
ยังคงความโดดเด่นด้วยโคมไฟหน้าทรงกลม Full LED โลโก้ Triumph อยู่ด้านใน
ไฟเลี้ยว LED ขนาบข้างอยู่บริเวณแกนโช้ก
ไฟท้าย LED ขนาดกระทัดรัด โดยดีไซน์เป็นแบบท้ายโล่ง
เนื่องจากขายึดทะเบียนลงไปอยู่ด้านล่าง โดยไฟเลี้ยวอยู่ตรงขายึดทะเบียน
ชุดครอบถัง มีโลโก้ Triumph ขนาดใหญ่อยู่ มีมุมเว้า เอาไว้หนีบถัง ซึ่งมีโลโก้ Trident
เบาะนั่งชิ้นเดียว แบ่ง 2 Step ซึ่งพื้นที่เบาะคนซ้อน จะกระทัดรัดเสียหน่อย
ดีไซน์ ท่อไอเสียออกใต้ท้อง Triumph เคลมว่ามีซุ่มเสียงที่โดดเด่นสุดในคลาส
ชุดล้ออัลลอย ลาย 5 ก้าน ขอบ 17″ ด้านหลังสวมยางไซส์ 180 มม.
ชุดมาตรวัดทรงกลมด้านบนเป็นจอ LCD ขาว-ดำ บอกความเร็วเป็นตัวเลข และ แถบรอบเครื่อง
ด้านล่างเป็นสี TFT รองรับการเชื่อมต่อ My Triumph Connectivity ซึ่งตรงนี้ต้องเสียเงินเพิ่ม
โดยหน้าจอนี้ เราสามารถปรับ
Riding Mode ได้ 2 แบบ Road, Rain
และ Traction Control เปิด-ปิด ได้ แต่ปรับระดับไม่ได้
ไฟเลี้ยวมาพร้อมระบบ Auto Cancel แบบเดียวกับ Street Triple
มิติรถ Trident 660
ยาวxกว้างxสูง = 2,020x795x1,089 มม.
ระยะฐานล้อ = 1,401 มม.
ระยะเทรล = 107.3 มม.
ความสูงเบาะ 805 มม.
น้ำหนักตัว 189 กก. (Wet)
ท่านั่ง
เริ่มกันที่ความสูงเบาะ 805 มม. ผมเองสูง 175 ซม. สวมรองเท้าผ้าใบยังเหยียบได้เต็มเท้า ซึ่งต้องบอกว่าเหยียบเต็มกว่า Street Triple 765 เพราะออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์สรีระคนเอเชีย อย่างเราๆ ดีขึ้น ถังน้ำมัน 14 ลิตร ครอบถังขนาด Compact กำลังดี มีมุมเว้ารองรับช่วงเข่า ซึ่งสำหรับผมเองถือว่าหนีบได้กระชับเลย คอนโทรลได้มั่นใจ ในจังหวะพลิกเลี้ยว
แฮนด์บาร์ ลักษณะใกล้เคียงกับ Street Triple RS แต่ กระจกไม่ใช่ปลายแฮนด์ รวมถึงวงเลี้ยวแคบ ไม่กว้างนัก ทำให้บิดลัดเลาะการจราจรง่ายกว่า แต่โดยรวมแล้ว ตำแหน่งแฮนด์ไม่ถือว่าเตี้ยเกินไป เพราะไม่ได้เน้นหมอบต่ำ แบบสปอร์ต เหมือนอย่าง 765 RS ซึ่งก็ยังถือว่าขี่เดินทางได้สบาย
ส่วนตำแหน่งวางเท้าก็กำลังดีไม่ต้องงอมาก เพราะไม่ได้ร่นขึ้นสูง หรือ เขยิบไปด้านหลังมากนัก ซึ่งทำให้การขี่เดินทางสบาย และไม่เมื่อย
เบาะนั่งคนซ้อน ดูเหมือนจะเล็ก แต่เท่าที่ได้ลองนั่งก็พบว่าผมเอง ยังนั่งได้เต็มก้น และเจลค่อนข้างนิ่มนั่งสบายไม่แข็ง แต่ทว่าน่าเสียดายที่ด้วยสไตล์ท้ายโล่ง จึงทำให้ไม่มีมือจบกันตก
เครื่องยนต์ 3 สูบ พิกัด 660cc ระบายความร้อนด้วยน้ำ DOHC ได้รับการพัฒนาต่อยอดมาจาก Triumph Street Triple S ซึ่งเป็นเวอร์ชั่นตัวเครื่องเล็กกว่า 765 ไม่วางขายในไทย
มันถูกปรับเซ็ทให้ใช้งานในเมือง ได้สบายยิ่งขึ้น
กำลังสูงสุด 81 แรงม้า @10,250rpm แรงบิดสูงสุด 64 นิวตันเมตร @6,250rpm
โดยที่แรงบิดกว่า 90% (กว่า 57Nm มาให้ใช้ตั้งแต่ 3,600-9,750rpm)
มาพร้อม Slip & Assist Clutch
นอกจากนี้ยังโดดเด่นด้วยการให้โซ่ X-Ring
จุดเสียดาย คือ Quick Shifter 2 Way เป็น Accessories เสริม
อย่างไรก็ดี เราต้องเข้าใจว่า Trident 660 มันไม่ได้ มีพละกำลังสูงสุดในคลาส แต่ ก็ได้เปรียบใครจากการที่มันมีแรงบิดที่มาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ต้น-ปลาย
รวมไปถึง นน. ที่เบา จึงช่วยให้ มันมีอัตราเร่งที่ดี และสมรรถนะที่ยอดเยี่ยมสุดในคลาส
ออกตัวอาจจะไม่ได้ดีดเหมือน 2 สูบ แต่ ย่านกลางสัก 4,000rpm+ รู้สึกดึงไปยาวๆ จนเริ่มตื้อๆ ดึงน้อยลงหน่อยช่วง 7,000rpm แต่จริงๆ ก็ไหลได้ยาวไปถึง 9-10,000rpm สบายๆ หากทางยังเหลือ
อัตราเร่ง – TopSpeed ไม่มีโอกาสได้ทดสอบ แต่จากที่ขี่มา ผมยังสามารถทำความเร็วได้ถึง 160 กม./ชม. แบบสบายๆ ไม่ต้องเค้นไล่เกียร์ จุดสังเกตุเพิ่มนิด คือ ช่วงความเร็ว
ความร้อน ที่มีถือว่าพอสมควร บริเวณฝั่งเท้าซ้าย ช่วงที่คลานรถติดๆ รู้สึกร้อนกว่ารถญี่ปุ่นในคลาสเดียวกัน
อัตราสิ้นเปลืองยังไม่ได้ลองจับจริง เนื่องจากขี่ระยะสั้นๆ ซึ่งถ้ามีโอกาส เราจะมาอัพเดทหาคำตอบให้อีกทีครับ
ระบบกันสะเทือนจาก Showa หน้า-หลัง
โช้กหน้า USD Showa SFF (Separate Function Fork) ขนาดแกน 41 มม. มีระยะยุบ 120 มม.
โช้กหลัง Monoshock Showa RSU ปรับได้เพียงพรีโหลด มีระยะยุบตัว 133.5 มม.
ประสิทธิภาพการโดยภาพรวม ถือว่าน่าประทับใจ ทั้งการซับแรงและการยึดเกาะ โดยโช้ก USD ด้านหน้า ก็ถือว่าได้เปรียบญี่ป่นหลายแบรนด์แล้ว และด้วยความที่มันเป็นรถ Street Bike ด้านหน้านั้นไม่จำเป็นที่จะต้องปรับเซ็ทอะไรมากนัก ด้านหลังปรับพรีโหลด ให้พอเหมาะกับน้ำหนักผู้ขี่ก็ถือว่าเพียงพอ
แต่ก็จะมีอยู่นิดหน่อยที่เป็นข้อสังเกตุ ก็คือ ถ้าขี่ที่รอบสูงๆ หรือ ช่วงความเร็วสูงๆ ระดับ 140-150 กม./ชม. ขึ้นไปด้วยความที่มันเป็นรถหน้าค่อนข้างเบาและไม่มีกันสะบัด ผมพบช่วงแฮนด์ส่ายนิดหน่อย แต่ที่จริงก็ถือเป็นปกติ
ระบบเบรก ABS ใช้คาลิปเปอร์จาก Nissin หน้า-หลัง
ด้านหน้าทวินดิสก์ ขนาด 310 มม. (Fix Disc) คาลิปเปอร์เบรก 2 pot
ด้านหลัง จานเดี่ยวขนาด 255 มม. คาลิปเปอร์ 1 pot
หากดูจากสเป็ก จะพบว่า ด้อยกว่าคู่แข่งในคลาสพอสมควร ทั้งจานที่เป็นแบบ Fix คู่แข่งส่วนใหญ่เป็น Semi Floating
แต่จากการใช้งาน ก็ถือว่าเบรกหยุดชะลอ ได้ดีในระดับหนึ่ง ไม่ได้เบรกจับจิก จึกเดียวอยู่ ถ้านับขี่ทั่วๆไปตามแบบ Street Bike ไม่ได้เน้นซัดหนักๆ ก็ ok แต่ถ้าซัดๆ ก็ ควรที่จะต้องลงน้ำหนักเบรกให้มาก หรือ เผื่อระยะ และ Shift Down เกียร์ช่วยด้วยจะดีกว่า
อีกจุดที่ดีเยี่ยมก็คือ การควบคุม ด้วยการเลือกใช้ยาง Michelin Road 5 ที่เกาะถนนดีทั้งพื้นแห้ง และ เปียก
ซึ่งผมเองได้เคยทำ รีวิว ยาง MICHELIN ROAD 5 ไปแล้ว รับชมได้ที่นี่
สรุป รีวิว Triumph Trident 660 กับการทดสอบในครั้งนี้ แม้จะสั้นๆ ไม่นานมาก แต่ก็ทำให้เราพอรับรู้ได้ถึงสมรรถนะ ของมัน ว่าดีเยี่ยม ในเรื่องของการคอนโทรล ขี่ซอกแซกในเมืองทำได้ดี คล่องแคล่ว ควบคุมง่ายกว่า 765 อย่างชัดเจน เพราะมันถูกดีไซน์มาให้เป็นรถ Street Bike ใช้งาน แต่ในเรื่องความแรงคงเทียบ 765 RS ไม่ได้ ซึ่งถ้านับเป็นรถใช้งาน ก็ต้องถือว่า Torque Band ของมันค่อนข้างกว้าง และเรียกใช้ได้ตั้งแต่รอบต่ำๆ ก็นับว่าสนุกในระดับหนึ่งแล้ว แม้จะไม่ดิบมากก็ตาม
เสียนิดหน่อย เรื่อง ออปชั่น บางอย่างที่เป็น Accessories ต้องจ่ายเงินเพิ่มอย่าง Quick Shifter 2Way กับ ระบบ My Triumph Connectivity ที่ต้องเสียเงินเพิ่มอยู่ 12,560 และ 10,700 บาท ตามลำดับ
Triumph Trident 660 ราคา 309,000 บาท
มี 4 โทนสีให้เลือก
สีเงิน SILVER ICE & DIABLO RED
สีดำด้าน MATT JET BLACK & MATT SILVER ICE
สีขาว CRYSTAL WHITE
สีดำเงา SAPPHIRE BLACK
อ่านรีวิว Triumph Street Triple 765 RS ได้ที่นี่
อ่านข่าว Triumph เพิ่มเติมได้ที่นี่
