Royal Enfield เปิด Exclusive Store แห่งแรก (Ducati ทองหล่อเดิม) พร้อมปรับราคาใหม่ ถูกลงกว่าเดิม

Royal Enfield แบรนด์รถจักรยานยนต์ที่เติบโตเร็วที่สุดในโลกได้เปิดตัว Exclusive Store แห่งแรกของแบรนด์ในประเทศไทย พร้อมเผยราคาอย่างเป็นทางการครบครันสำหรับผลิตภัณฑ์ทุกชิ้นในประเทศไทย อาทิ รถจักรยานยนต์ทุกรุ่นทุกแบบ เครื่องแต่งกาย และอุปกรณ์ตกแต่งเสริม ร้านหรูอยู่ในย่านทองหล่อแห่งนี้ถือเป็นร้านค้าปลีกแห่งแรกในประเทศไทยของรอยัล เอ็นฟิลด์ และได้รับการก่อตั้งโดยบริษัท เจเนอร์รัล ออโต้ ซัพพลาย ผู้มีชื่อเสียงโด่งดังในด้านยานยนต์

สำหรับในกรุงเทพฯ รถจักรยานยนต์รุ่นบุลเล็ต (Bullet) ซึ่งเป็นรุ่นเอกลักษณ์ที่เก่าแก่ที่สุดในโลกของรอยัล เอ็นฟิลด์ และได้รับการผลิตมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ พ.ศ. 2475 นั้น ราคาอยู่ที่ 179,800 บาท สำหรับรุ่น 500 ซีซี รุ่นคลาสสิค (Classic) 500 ซึ่งเป็นรถจักรยานยนต์แนวสตรีทเรโทร โด่งดังด้วยรูปลักษณ์ยุคหลังสงคราม ที่มีความงามเป็นอมตะ ราคาอยู่ที่ 189,800 บาท และรุ่นคลาสสิค โครม (Classic Chrome) ราคา 198,800 บาท นอกจากนี้ ยังมีรอยัล เอ็นฟิลด์แนวคาเฟ่เรเซอร์ รุ่นคอนติเนนตัล จีที (Continental GT) ขนาด 535 ซีซี เปิดโอกาสให้ผู้สนใจสามารถจับจองเป็นเจ้าของกันได้แล้ววันนี้ในราคา 219,800 บาท

ราคาปรับใหม่ของ Royal Enfield มีดังนี้
Bullet 179,800 บาท, Classic 189,800 บาท, Classic Chrome 198,800 บาท, Continental GT 219,800 บาท

“ปัจจุบัน รอยัล เอ็นฟิลด์เป็นหนึ่งในแบรนด์ยานยนต์ที่ทำกำไรได้มากที่สุดในโลก และเราเชื่อว่าการเติบโตในอนาคตของเรา จะมาจากตลาดในประเทศไทย ซึ่งมีการใช้รถจักรยานยนต์เพื่อใช้ในการเดินทางที่ได้รับความนิยมอย่างมาก ความสำเร็จอย่างมากของเราในอินเดีย ทำให้เรามั่นใจเป็นอย่างยิ่งว่าเราจะทำได้ดีในตลาดที่มีลักษณะเดียวกันอย่างประเทศไทย และอินโดนีเซีย ที่จะมีบทบาทสำคัญในการเติมเชื้อไฟให้การเติบโตในภูมิภาคเอเชียของเรา เราเห็นว่ารถจักรยานยนต์ขนาดกลาง (250-750 ซีซี) ที่ปรับใช้งานได้หลายรูปแบบ และมีรูปโฉมที่น่าหลงใหลของเรานั้นมีศักยภาพที่จะเติบโตได้อย่างมหาศาล เพราะเป็นรุ่นที่เอาใจผู้ใช้งานให้สามารถอัพเกรดได้ตามใจชอบมากที่สุดเท่าที่ต้องการ” นายอรุณ โกปาล หัวหน้าฝ่ายธุรกิจสากลแห่งรอยัล เอ็นฟิลด์กล่าว

“นอกจากนั้น ประเทศไทยยังเป็นที่รวมของชุมชนสิงห์นักบิดที่ทำกิจกรรมและมีประสบการณ์มากที่สุดแห่งหนึ่งในโลก มีสโมสรนักบิดหลายพันแห่ง และมีวัฒนธรรมการขี่รถจักรยานยนต์เพื่อความผ่อนคลายที่พบได้ทุกแห่งหน ดังนั้นการที่รอยัล เอ็นฟิลด์เข้ามาในตลาดไทย จะเปิดโอกาสให้ผู้ที่หลงใหลการขับขี่รถจักรยานยนต์ได้สัมผัสกับประสบการณ์ใหม่จากผลิตภัณฑ์ที่เป็นเอกลักษณ์ และโด่งดังในเรื่องการกินลมชมวิวโดยเฉพาะ” นายอรุณ กล่าวเสริม

ด้วยวิสัยทัศน์ที่จะเป็นผู้นำในตลาดโลกจักรยานยนต์ขนาดกลาง รอยัล เอ็นฟิลด์จึงได้ขยายตัวแทนจำหน่ายอย่างต่อเนื่องทั่วทุกมุมโลก ทั้งสหราชอาณาจักร ยุโรป ลาตินอเมริกา ตะวันออกกลาง และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ด้วยการเปิดตัวแทนจำหน่ายล่าสุดในประเทศไทย ซึ่งเป็นตลาดรถจักรยานยนต์ที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับห้าของโลก ในงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 32 หรือ งาน Thailand International Motor Expo เมื่อเดือนธันวาคมปี 2558 ที่ผ่านมา ทั้งนี้ รอยัล เอ็นฟิลด์ รถจักรยานยนต์ที่มีอายุยืนนานถึง 115 ปี มุ่งหวังที่จะปฏิวัติและปลุกความมีชีวิตชีวาให้กับตลาดรถจักรยานยนต์ขนาดกลางในประเทศไทย ด้วยรถจักรยานยนต์ที่มีสมรรถนะแต่ราคาไม่ไกลเกินเอื้อม ตอบโจทย์ความต้องการ ทั้งสำหรับการขับขี่ในเมือง หรือการขับขี่ระยะยาวเพื่อการพักผ่อนในช่วงวันหยุด

“ส่วนหนึ่งของแผนกลยุทธ์ในระดับสากลของเราก็คือ เราจะมุ่งเน้นไปที่การสร้างแบรนด์และกระตุ้นความต้องการของตลาดในเมืองสำคัญๆ ทั่วโลก อย่างลอนดอน โบโกตา เมเดลลิน ดูไบ แมดริด ปารีส จาการ์ต้า และในวันนี้ ที่กรุงเทพฯ เรากำลังสร้างรากฐาน โดยการสร้างประสบการณ์ที่แตกต่าง ณ จุดตัวแทนจำหน่าย รวมถึงการบริการหลังการขาย นอกจากนี้ ยังมีการจัดงานขี่รถจักรยานยนต์ หรืองานพบปะสังสรรค์ในกลุ่มคนที่ชื่นชอบรถจักรยานยนต์ขนาดกลาง รวมไปถึงกิจกรรมอื่นๆ ที่จะสะท้อนภาพลักษณ์ของแบรนด์รอยัล เอ็นฟิลด์ เราเชื่อมั่นว่า ความสำเร็จในจากการเปิดศูนย์ตัวแทนจำหน่ายที่กรุงเทพฯ จะเป็นส่วนสำคัญของการพัฒนาและขยายศูนย์ในจังหวัดอื่นๆ ในประเทศไทย” นายอรุณ แสดงความเห็นเพิ่มเติม

ศูนย์ตัวแทน Royal Enfield รอยัล เอ็นฟิลด์อย่างเป็นทางการหนึ่งเดียวแห่งแรกในไทยนี้ จะมอบประสบการณ์แบบ “Pure Motorcycling” หรือ “มอเตอร์ไซค์บริสุทธ์” ตามปรัชญาของแบรนด์ให้กับผู้เป็นเจ้าของ พื้นที่ขนาด 1,190 ตารางฟุตแห่งนี้จะมอบบรรยากาศเสมือนห้องรับรองสำหรับผู้ที่หลงไหลในการขี่จักรยานยนต์ ด้วยรูปแบบการจัดวางสินค้าที่น่าสนใจ จุดนั่งผ่อนคลายในหลากหลายมุม และการจัดแสดงผลิตภัณฑ์ในแนวคิดใหม่ ซึ่งรวมถึงการจัดแสดงรถรุ่นคอนติเนนตัล จีที เปลือย บนผนัง ที่ทำให้เห็นโครงสร้างทั้งภายนอกและภายในอย่างเด่นชัด ร้านนี้ไม่เพียงแต่จะมีเฉพาะรถจักรยานยนต์ของรอยัล เอ็นฟิลด์เท่านั้น แต่ยังจะมีชุดเครื่องแต่งกาย และอุปกรณ์เสริมครบครัน ทั้งอุปกรณ์ชุดป้องกันเพื่อการขับขี่ที่ปลอดภัย รวมถึงเสื้อผ้าในแนวแฟชั่นอีกด้วย พื้นที่ภายในร้านไม่ได้รับการออกแบบให้เป็นสถานที่เพื่อขายสินค้าเท่านั้น แต่ยังให้เป็นแหล่งรวมพลของคนที่ชอบในสิ่งเดียวกัน เพื่อให้สามารถพบปะพูดคุย แลกเปลี่ยนทัศนะในเรื่องรถจักรยานยนต์ด้วย

ร้านค้าขนาด 3,685 ตารางฟุตแห่งนี้ตั้งอยู่เลขที่ 842 ซอยสุขุมวิท 55 (ซอยทองหล่อ ตรงข้ามทองหล่อ 23) ถนนสุขุมวิท แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ (Ducati ทองหล่อเดิม) เป็นร้านดีลเลอร์แบบ Full-service ของบริษัท เจเนอร์รัล ออโต้ ซัพพลาย จำกัด สามารถให้บริการได้เต็มรูปแบบ รวมไปจนถึงบริการชิ้นส่วนอะไหล่ ซึ่งรอยัล เอ็นฟิลด์จะทำงานร่วมกับเจเนอร์รัล ออโต้ ซัพพลาย อย่างใกล้ชิดเพื่อมอบความสุขและประสบการณ์ที่แตกต่างให้กับผู้ที่ชื่นชอบรถจักรยานยนต์ในภูมิภาคนี้

ในปีปฏิทินที่ผ่านมา (พ.ศ. 2558) ทางบริษัทฯได้จำหน่ายรถจักรยานยนต์ไปแล้วกว่า 450,000 คันทั่วโลก ซึ่งเป็นไปตามแนวทาง กลยุทธ์การเติบโตในระดับสากลของบริษัทฯ โดยมีแผนที่จะผลิตรถจักรยานยนต์สูงถึง 900,000 คันภายในสิ้นปี 2561 จากโรงงานผลิตสองแห่งที่มีอยู่ในปัจจุบันของบริษัทฯ และแห่งที่สามที่กำลังจะเกิดขึ้นในรัฐทมิฬนาฑูของอินเดีย ด้วยเป้าหมายที่จะเป็นที่หนึ่งในอุตสาหกรรมรถจักรยานยนต์ขนาดกลางของโลก รอยัล เอ็นฟิลด์ ยังได้สร้างศูนย์เทคโนโลยีใหม่ขึ้นสองแห่ง ตั้งอยู่ในอินเดียหนึ่งแห่ง และในสหราชอาณาจักรอีกหนึ่งแห่ง เพื่อให้เสริมความสามารถและคิดค้นกลยุทธ์ผลิตภัณฑ์ในระยะยาว ล่าสุด รอยัล เอ็นฟิลด์ได้ประกาศเปิดตัวอย่างเป็นทางการในประเทศบราซิล ควบคู่ไปกับการเปิดสาขาบริษัทฯนอกประเทศอินเดียเป็นแห่งแรกขึ้นในทวีปอเมริกาเหนือ