Stark Varg ตัวแข่งเอนดูไรพลังงานไฟฟ้า ขุมกำลัง 80 แรงม้า แต่น้ำหนักเพียง 110 กิโลฯ

0

โดยปกติ รถมอเตอร์ไซค์ตัวแข่งแนวเอนดูโร่ไบค์ที่มาพร้อมเครื่องยนต์ราวๆ 40 กว่าแรงม้า แต่มีน้ำหนักตัวเพียง 100 กว่ากิโลกรัมนิดๆ ก็แทบจะขี่กันยากอยู่แล้วหากมือไม่ถึงพอ แต่สำหรับเจ้า Stark Varg คันนี้กลับเหนือขึ้นไปอีกขั้น เพราะแม้มันจะมีน้ำหนักที่ไม่หนีตัวแข่งสายฝุ่นขุมกำลังสันดาปภายในคือราวๆ 110 กิโลกรัม แต่มอเตอร์ไฟฟ้าที่มันใช้กลับสามารถให้แรงม้าได้สูงถึง 80 ตัว

stark-varg-ev-enduro-003
ใช่ครับ สำหรับเจ้า Stark Varg ที่เพื่อนๆเห็นกันอยู่ในขณะนี้ คือผลิตภัณฑ์ของ Stark Future ผู้ผลิตรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าน้องใหม่ล่าสุดสัญชาติอเมริกา ที่พึ่งก่อตั้งได้ไม่นาน ซึ่งข้อมูลของรถมอเตอร์ไซค์คันแรกของค่ายคันนี้ ก็แน่นอนว่าเราคงต้องเริ่มจากขุมกำลังมอเตอร์ไฟฟ้าลูกเดียวของมัน ที่จะมีให้ลูกค้าได้เลือกซื้อกันสองสเป็ค ได้แก่รุ่น 80 แรงม้า ซึ่งเท่ากับว่ามันเป็นตรถเอนดูโร่ไบค์ที่แรงที่สุดในโลก และรุ่นรองลงมา กำลัง 60 แรงม้า ซึ่งก็ยังถือว่าแรงอยู่ดี เพราะนั่นคือแรงม้าที่พอๆกับตัวแข่งเอนดูโร่ไบค์ที่ใช้เครื่องยนต์สูบเดียว 450cc

stark-varg-ev-enduro-004
นอกจากนี้ ด้วยความเป็นรถมอเตอร์ไซค์พลังงานไฟฟ้า ดังนั้นทาง Stark จึงสามารถออกแบบลักษณะนิสัยของตัวมอเตอร์ไฟฟ้าที่อยู่ในเจ้า Varg ได้หลากหลายรูปแบบมากๆ จนขนาดที่พวกเขาบอกว่ามอเตอร์ของมันมีรูปแบบการตอบสนองต่อคันเร่งถึง 100 รูปแบบ สามารถจำลองลักษณะการตอบสนองของอัตราเร่งให้เหมือนกับรถเอนดูโร่ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปภายในความจุตั้งแต่ 125-450cc ได้สบายๆ แล้วแต่ความต้องการ หรือความเก๋าของผู้ขี่

stark-varg-ev-enduro-006
ส่วนรายละเอียดทางเทคนิคอื่นๆที่น่าสนใจของเจ้า Varg ก็มีทั้งการที่มันได้รับการติดตั้งชุดแบตเตอรี่ขนาด 6 kWh ซึ่งคาดว่าจะเพียงพอสำหรับการใช้งานในสนามสักราวๆ 20-30 นาที ต่อการชาร์จประจุไฟฟ้าเต็มแบตฯหนึ่งครั้ง, ระบบเบรกที่ใช้เป็นของ Brembo, และชุดระบบกันสะเทือนก็เป็นของ KYB ซึ่งทาง Stark จะกำหนดสเป็คความแข็งของสปริงให้ตามน้ำหนักของตัวลูกค้าที่เป็นคนขี่รถ, สามารถเลือกได้ว่าจะใช้ล้อหลังซี่ลวดขนาด 18 หรือ 19 นิ้ว (แต่ล้อหน้าจะล็อคสเป็คไว้ 21 นิ้ว), และเลือกได้ว่าตัวคุมเบรกหลังจะให้เป็นแบบสั่งการด้วยเท้า หรือสั่งการด้วยมือ

stark-varg-ev-enduro-007
โดยตัวรถ Stark Varg จะสนนราคาวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในประเทศสหรัฐอเมริกาเริ่มต้นที่ 11,900 ดอลล่าร์ หรือราวๆ 401,200 บาท สำหรับรุ่นที่ใช้มอเตอร์ 60 แรงม้า และจะขยับขึ้นเป็น 12,900 ดอลล่าร์ หรือราวๆ 435,000 บาท สำหรับรุ่นที่ใช้มอเตอร์ 80 แรงม้า ซึ่งแน่นอนว่ามันอาจจะแพงไปบ้าง แต่มันก็ยังจัดว่าคุ้มอยู่ดี ถ้าเทียบกับราคาของตัวรถ KTM 450 SX-F ซึ่งเป็นตัวแข่งที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปภายในและให้กำลังแรงม้าน้อยกว่า เพราะมันสนนราคาถูกกว่าประมาณ 50,000 บาท เท่านั้น

อ่านข่าวมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า เพิ่มเติมได้ที่นี่

Share.

About Author

error: Content is protected !!