Tips Trick : 5 ข้อควรรู้ง่ายๆ กับการขี่รถมอเตอร์ไซค์ในช่วงฝนตก

0

แม้ว่าจะเป็นเดือนที่ 5 แต่ในหลายพื้นที่ของประเทศไทยก็เริ่มเจอกับเหตุการณ์ฝนตกกันไปพอสมควรแล้ว ดังนั้นในบทความ Tips Trick ครั้งนี้ เราจึงจะมาพูดถึงเกร็ดควรรู้ง่ายๆที่ใครๆก็ทำได้ เกี่ยวกับการขี่รถมอเตอร์ไซค์คู่ใจบนถนนเปียกกันหน่อยดีกว่าครับ เพื่อที่ว่าเพื่อนๆจะได้ปลอดภัยในทุกการเดินทางบนถนนเปียกกันไม่มากก็น้อย ซึ่งเราก็คงไม่รอช้า มาเข้าเรื่องกันเลยครับ

motorcycle-rain-suit-02
1. เลือกชุดให้ถูก

แน่นอนว่าเมื่อเราต้องขี่รถในช่วงหน้าฝน สิ่งที่เราต้องเตรียมติดรถติดตัวไว้ตั้งแต่เนิ่นๆก็คือ ชุดกันฝนแบบบาง ราคาย่อมเยาว์ที่หาซื้อได้ตามร้านสะดวกซื้อทั่วไป หรือถ้าจะให้ดีก็ควรใส่เสื้อแจ็คเก็ต กางเกง ถุงมือ กันฝนแต่แรกถ้าหากรู้ว่าในอีกไม่กี่นาทีนับจากนี้ฝนจะต้องเทลงมาหาเราแน่นอน เพราะถ้าไม่เช่นนั้นแล้ว หากเราต้องขี่ฝ่าฝนไป แล้วไม่สบายในภายหลัง มันคงไม่ใช่เรื่องที่สนุกเท่าไหร่นัก

ขณะเดียวกันตัวหมวกกันน็อคเอง ถ้าหากเป็นรุ่นแพงๆก็จะมีตัวกันยึดแผ่นกันฝ้ามาให้ ซึ่งเพื่อนๆก็ควรหามาใส่ไว้เช่นกัน เพระาถ้าทัศนวิสัยแย่มากๆ เพราะฝ้าขึ้นวินชิลด์หนักๆขึ้นมา งานนี้ก็ไปไม่เป็นเช่นกัน

royal-enfield-rain-ride-safe-tips-01
2. ขี่ให้นิ่มและติ๋มที่สุดเท่าที่ได้

“ความนุ่มนวล” ถือเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างมากในการขี่รถช่วงหน้าฝน เพราะโอกาสที่จะเกิดอุบัติเหตุนั้นมีมากกว่าตอนขี่ในสภาวะปกติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับผิวถนนที่ลื่นมากกว่าปกติเนื่องจากมีชั้นน้ำเป็นฟิล์มเคลือบผิวถนนไว้อยู่ ดังนั้นเราจึงควรระมัดระวังในการใช้คันเร่ง ซึ่งถ้าเพื่อนๆคนไหนใช้รถที่มีแทร็คชันคอนโทรลก็เปิด Level สูงสุด กับปรับเอนจิ้นโหมดให้ติ๋มที่สุดไว้ก่อนดีกว่าครับ จะได้ไม่เจออาการไฮไสด์ หรือรถดีด ท้ายแถ จนล้มลงไปนอนกองกับพื้น แน่นอนว่าการเบรกเองก็ต้องระวังเป็นพิเศษ อย่ากระชากคันเร่งหรือกระแทกเบรกแรงๆเด็ดขาด ให้ไล่แรงเบรกอย่างมีสติ เพราะล้อจะล็อคง่ายกว่าปกติมาก

Me-Honda-CBR-650f
3. ระวังทางแยกให้ดี

การระวังทางแยกตรงนี้มีหลายจุดที่ต้องใส่ใจไม่แพ้ตอนขี่ทางตรงปกติ หรืออาจะมากกว่าด้วยซ้ำครับ เพราะแน่นอนว่าเมื่อถึงทางแยก สิ่งที่เราควรทำก็คือการชะลอตัวรถเพื่อสังเกตว่าจะมียานพาหนะคันอื่นพุ่งมาจากฝั่งซ้าย,ขวา, และสวนมาด้านหน้า หรือไม่ ซึ่งอย่างที่เราได้กล่าวไปในข้างต้นเมื่อหัวข้อที่แล้วว่าในสภาวะฝนตกนั้น ทางจะลื่นเป็นพิเศษ ดังนั้นเราจึงต้องเผื่อระยะเบรก/ชลอให้มากขึ้น และอย่าเร่งความเร็วเพื่อชิงไฟตอนไฟเหลืองขึ้นเด็ดขาด เพราะถ้าเกิดเราไปไม่ทันไฟแดงขึ้นมา แล้วต้องเบรกหนักๆ งานนี้ก็เตรียมตัวล้มพับเอาง่ายๆได้เช่นกัน

ไม่เพียงเท่านั้น หากฝนตกหนักมากๆ ทัศนวิสัยในการมองเห็นทั้งของเราและเพื่อนร่วมทางอาจจะแย่จนสังเกตผู้ใช้ถนนร่วมกันได้ยาก ดังนั้นสายตาของเราจึงต้องมองให้กว้าง, ไกล, และไวเป็นพิเศษ

potholes-wet-road-02
4. ระวังหลุมบ่อ ฝาท่อ หรือช่วงปะผิวถนนให้ดี

นอกจากยานพาหนะของเพื่อนร่วมทางที่ต้องระวังกว่าปกติ เพราะไม่รู้ว่าพวกเขาจะพลาดมาโดนเราเมื่อไหร่แล้ว อีกสิ่งที่เรามักจะเจอเสมอๆ โดยเฉพาะย่างยิ่งบนถนนประเทศไทยของเราก็คือ หลุม, บ่อ, ฝาท่อ, ตะแกรง, เส้นสี, หลอดไฟที่ฝังอยู่ผิวถนน, รอยปะยางมะตอยอันสุดแสนจะ…(ละไว้ในฐานที่เข้าใจ), ไปจนถึงคราบสีรุ้งจางๆบนผิวถนน ซึ่งก็คือคราบน้ำมัน ที่ปกติเมื่อเราเจออยู่ข้างหน้าบนผิวถนนแห้งๆก็เกร็งตัวจะแย่กันอยู่แล้ว แต่เมื่อฝนตกขึ้นมา มันก็มีโอกาสที่น้ำจะขังบดบังร่องรอยเหล่านี้ไว้อยู่ (เว้นคราบน้ำมันใหม่ๆ) ต่างก็เป็นสิ่งที่ต้องระวังเป็นพิเศษเช่นกัน

ดังนั้นสำหรับเพื่อนๆคนไหนที่จำได้ว่ามีรอบเหล่านี้บนถนนข้างหน้าก็อย่าไปเหยียบจะดีกว่าครับ เพราะถ้าเผลแล้วล้อพลิกขึ้นมาจะแก้อาการยาก ส่วนถ้าใครไปขี่บนถนนที่ไม่ได้ใช้เป็นประจำก็ให้สังเกตุเพื่อนร่วมทางคันข้างหน้าหลายๆคันว่าส่วนใหญ่แล้วพวกเขาวิ่งทางไหน เราก็ตามรอยการขี่พวกเขาเอาก็ได้ครับ จะช่วยได้ประมาณหนึ่ง

wet-riding-trick
5. หาไลน์พื้นแห้งให้เจอ

โดยปกติหากฝนตกลงมาไม่มากนัก หรือฝนอาจะเริ่มซาลงไปจนถนนสามารถระบายน้ำได้บ้างแล้ว ด้วยความที่ยังไงผิวถนนต้องมีจุดที่นูน หรือจุดที่ถูกรถยนต์เหยียบซ้ำๆอยู่ เราจึงมักจะเห็นว่าจุดต่างๆที่เรายกตัวอย่างขึ้นมา จะกลายเป็นพื้นที่บนถนนที่แห้งเร็วที่สุด ซึ่งจุดนี้นี่แหล่ะครับ คือจุดที่เราแนะนำอย่างมากว่า เพื่อนๆควรใช้เป็นทางในการวิ่งหรือการขี่ เพราะยังไงพื้นแห้งก็ย่อมมีแรงยึดเกาะกับหน้ายางรถของเรามากกว่าพื้นเปียกอยู่แล้วนั่นเอง

ขอบคุณข้อมูลจาก Cycleworld

อ่าน Tips Trick เพิ่มเติมได้ที่นี่

เพื่อนๆ Bikers สามารถติดตามข่าวสารวงการล้อ ได้ทางแฟนเพจ MotoRival ของเราครับ

Share.

About Author

error: Content is protected !!